หลังจากที่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ใน 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ในตอนนี้ iphone 5 (ไอโฟน5) เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ ได้ทยอยนำมาขายในไทยกันอย่างมากมาย และราคา iPhone 5 (ราคา ไอโฟน 5) เครื่องหิ้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 1,000 - 2,000 บาท ตามความต้องการซื้อ iphone5 (ไอโฟน5) ที่มีอย่างมากมายนั่นเอง โดยในวันที่ 28 กันยายนนี้ iphone 5 (ไอโฟน 5) จะเปิดจำหน่ายในรอบที่ 2 อีก 22 ประเทศด้วย ซึ่งแน่นอนครับว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย
และตามคำสัญญาครับ เมื่อเว็บไซต์ techmoblog ได้มีโอกาส สัมผัส iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) มาให้ได้อ่านกัน โดยจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ iphone5 (ไอโฟน 5) ว่า ดีขึ้นกว่า iPhone 4S จริงหรือไม่ บอดี้แบบใหม่บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น สวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone5 (ไอโฟน 5) เสียที ข้อดีข้อเสีย ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มีอะไรบ้าง บทความนี้ จะเป็นบทความที่ช่วยให้ท่าน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะซื้อ iPhone5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่ ไปชมพร้อมๆ กันครับ
สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)
- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver
แกะกล่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับ กล่องของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือ กล่องของ iphone 5 (ไอโฟน5) จะมีการแยกสี โดยสำหรับรุ่นสีดำ ตัวกล่องจะเป็นสีดำ และรุ่นสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาวนั่นเองครับ โดยขนาดกล่องนั้นถือว่าใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เพื่อรองรับหน้าจอที่มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม และตัวกล่องยังคงใช้วัสดุเดียวกันกับกล่องของ iPhone รุ่นก่อนหน้าครับ
ภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ที่ชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย USB แบบใหม่ Lightning connector ขนาด 8-pin, อุปกรณ์สำหรับถอดถาดซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card รวมไปถึง Apple EarPods และ คู่มือการใช้งาน
สำหรับ iPhone 4S นั้น ชุดหูฟังจะไม่ได้อยู่ในแพคเกจที่เรียบร้อยแบบนี้นะครับ แต่ใน iphone5 (ไอโฟน5) นั้น Apple EarPods จะถูกบรรจุอยู่ในแพคเกจที่สวยงาม ภายในกล่องของ iPhone 5 อีกที ซึ่งสามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งานได้ง่าย และเป็นระเบียบอีกด้วย
และนี่คือ Dock Connector แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Lightning connector บรรจุอยู่ภายในกล่องเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้นำมาทดสอบในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จึงทำให้ Adapter เป็นไปตามประเทศนั้นๆ แต่สำหรับรุ่นที่วางขายในไทย ก็จะเป็น Adapter ที่ใช้งานในประเทศไทย ได้ตามปกติ
รูปลักษณ์ และการออกแบบ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้นำมาทำการทดสอบ ในวันนี้คือรุ่น iPhone 5 (ไอโฟน 5) สีดำ Black & Slate ความจุ 16 GB โดยตัวเครื่องที่อยู่ภายในกล่อง จะมีพลาสติกใส ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ด้านหลังของตัวเครื่อง จะเป็นแบบ ทูโทน (Two-tone) โดยสีดำ ในส่วนขอบบนล่าง จะเป็นกระจก
ส่วนตรงกลางตัวเครื่องจะเป็น Anodized Aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้บน MacBook นั่นเอง
สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแค่เพียงปุ่ม เปิดปิด เครื่อง เท่านั้น
โดยพอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างแทน
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็น พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Build-in Microphone และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จไฟ แบบใหม่ (Lightning connector) และสุดท้ายคือ Build-in Speaker ครับ
สำหรับด้านข้างฝั่งซ้าย ปุ่มที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเรียวๆ อยู่นั้น สามารถทำงานได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยสามารถเป็นได้ทั้ง ปุ่มเปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ (rotate) ส่วน 2 ปุ่มกลมๆ นั้น เป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มลดเสียง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนฝั่งขวานั้นจะมีเพียงช่องสำหรับ ใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะเป็นแบบ Nano-Sim นั่นเองครับ
สำหรับกล้องด้านหน้านั้น ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน FaceTime ความละเอียดที่ 720p มีเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน FaceTime บนเครือข่าย 3G และ 4G ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ส่วนของลำโพงสำหรับสนทนา ยังเป็นระบบแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้สามารถได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดเจนครับ
ในส่วนนี้ก็จะเป็น กล้องดิจิตอล iSight ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ตัวเลนส์ และไฟแฟลชครับ นอกจากนี้ iphone5 (ไอโฟน 5) ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p ครับ
EarPods ชุดหูฟังใหม่ล่าสุดจาก Apple
สำหรับชุดหูฟังจาก Apple นั้นถือว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควร ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนครับว่า ในรุ่นใหม่นี้ ทาง Apple ได้มีการออกแบบ ชุดหูฟังใหม่ทั้งหมด โดยมีการทดสอบ จากรูปแบบใบหู ของผู้ใช้ กว่า 124 แบบ จากผู้ใช้งานกว่า 1,000 คน เพื่อให้ได้รูปทรงที่สามารถเข้ากันได้กับ ผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง
แจ็ค สำหรับเชื่อมต่อกับ พอร์ตหูฟัง ก็เป็นขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ขนาดของ รีโมท มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ จากภาพ ด้านล่างจะเป็นของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) และด้านบน เป็น ชุดหูฟังรุ่นเก่า
ด้านหลังของรีโมท จะเห็นได้ว่าไม่มีช่องที่ถูกเจาะไว้เป็น ไมโครโฟน แบบในรุ่นเก่า โดยในรุ่นใหม่นี้ จะเรียบไปเลยครับ โดยจะมีการสกรีนลายเป็นรูปไมโครโฟนเอาไว้
สำหรับจุดเด่นในเรื่องของเสียง ในการปรับปรุงครั้งนี้ ทาง Apple ได้มีการเน้นให้ได้เสียงที่มีความใส และ มีน้ำหนักของ เสียงเบส มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายๆ ท่านที่เคยใช้ หูฟังจาก Apple อาจจะรู้สึกว่า เสียงเบสนั้นยังน้อยไป และออกไปทางเสียงแหลมซะมากกว่า ซึ่งแน่นอนครับว่า แต่ละคนนั้น มีรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกัน หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบเสียงเบสมากนัก แต่บางท่านก็อาจจะชอบ ซึ่งตรงนี้ ทีมงานก็คงไม่สามารถฟันธงได้นะครับว่า จะถูกใจใครหลายคนหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เสียง นั่นก็คือ ความรู้สึก สบายหลังจากที่ใส่ ที่ทางแอปเปิ้ลได้พยายามออกแบบให้เราได้รู้สึกไม่อึดอัดเวลาใส่นั่นเองครับ
การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
ชิปประมวลผล Apple A6
สำหรับบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถือเป็นครั้งแรก ที่ทาง Apple ได้มีการลงมือ ปรับแต่ง หน่วยประมวลผลด้วยตัวเอง และการที่ทางแอปเปิ้ลลงมือทำเองนั้นจะช่วยให้ ความเข้ากันได้ ระหว่าง หน่วยประมวลผล และความสามารถของตัวเครื่อง รวมไปถึงความเข้ากันได้ระหว่าง หน่วยประมวลผล และ ระบบปฏิบัติการ นั้นดียิ่งขึ้น และถึงแม้ว่า หน่วยประมวลผลของ iphone5 (ไอโฟน5) จะเป็นแบบ Dual-Core processor ความเร็ว 1GHz แต่กลับสามารถทำความเร็วได้มากกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า
หน้าจอแบบ Retina display ขนาด 4 นิ้ว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม Apple จึงเลือกที่จะขยายหน้าจอให้ยาวขึ้น แทนที่จะทำให้ใหญ่ขึ้นเหมือนรุ่นอื่นๆ ในตลาด แต่คำตอบของทีมดีไซน์ของ Apple ก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะยังคงสามารถใช้งาน iPhone ด้วยมือเดียวได้อยู่นั่นเอง ซึ่ง Apple ได้ให้เหตุผลว่า นิ้วโป้งของเรานั้นสามารถเคลื่อนที่ได้บนความยาวที่สูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าได้ แต่หากหน้าจอมีความกว้างขึ้น อาจจะทำให้เราใช้งานด้วยมือเดียวได้ยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนที่ของนิ้วโป้งไปทางด้านกว้าง จะทำได้ลำบากขึ้นนั่นเอง
iPhone 5 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE
สำหรับ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สามารถใช้งาน การเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ได้แล้ว โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 100Mbps กันเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่า 4G นั้นจะยังไม่ได้มีการเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็ตาม แต่การที่ตัวเครื่องนั้นรองรับ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ที่มีไว้เตรียมพร้อมสำหรับ อีกขั้นของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายในไทยครับ
iPhone 5 กับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
ด้วยตัวเครื่องที่มีความยาวมากขึ้น จึงทำให้มีพื้นที่สำหรับ ติดตั้งแบตเตอรี่ที่มากขึ้น จึงทำให้ทาง Apple ได้มีการปรับขนาด แบตเตอรี่ ให้ใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนครับว่า ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ยิ่งต้องการใช้พลังงานของแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น แต่ระยะเวลาการใช้งานเมื่อชาร์จเต็มนั้นพอๆ กับ iPhone 4S นั่นเอง
กล้องด้านหลังแบบ iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ถูกออกแบบใหม่
ถึงแม้ว่ากล้องบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลเท่ากับ iPhone 4S แต่ทาง Apple นั้นได้มีการออกแบบ ตัวกล้องใหม่ทั้งหมด โดยเน้นให้มีความบางที่มากกว่าเดิม และมีการเปลี่ยน Cover ของ เลนส์ด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้วยความสามารถของ ชิปประมวลผล Apple A6 ที่มีการปรับแต่งให้มีการใช้งานร่วมกับการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น ยิ่งช่วยให้ภาพที่ได้จากการถ่ายด้วย iphone 5 นั้นดีขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลนี้ ยังมีฟีเจอร์การทำงานเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ฟิลเตอร์แบบ Hybrid IR เลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้น และ รูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.4 นอกจากนี้ ชิปเซ็ท Apple A6 นั้น ยังช่วยให้การถ่ายภาพเร็วขึ้นอีกด้วยครับ
Hard Anodized Cookware is the best choice for durability, practicality and low maintenance. Emeril Hard Anodized Cookware Collection features a superior nonstick interior for unsurpassed durability and easy clean up. You'll develop a soft spot for how it looks and cooks. A must have in the kitchen, Emeril's Saute Pans are generously sized, making them a perfect choice for cooking one pot meals, browning meats, sauteeing, and stir-frying.
Duxtop Whole Clad Tri ply Stainless Steel Premium Cookware features three layer bounded construction, with one layer of thick aluminum core sandwiched between magnetic stainless steel layers. The whole clad structure eliminates hot spots and ensures even heating across the bottoms of pots and pans and all the way up the sides. The exclusive Whole Clad bonding technology extend cookware lifetime dramatically comparing to encapsulated base construction. This professional cookware is suitable for induction, gas, electric, and halogen cooktops. Other standard features that you can find in this Duxtop premium cookware: drip-free pouring rims; Stay-cool stainless-steel perfect-grip handle riveted to the pan; Stainless-steel lid with loop handle helps keep in heat and moisture. The stainless steel cookware is oven-safe to 550 degrees F; Freezer-safe for food storage; Dishwasher safe although hand washing is suggested. Lifetime limited warranty against manufacture defects.