หลักการ 5G คืออะไร
1.) หลักการ 3G + หลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์
หลักการ 3G เป็นคำศัพท์ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายสาขาของอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมบริหารการผลิตหลักการ 3G นี้ มาจากศัพท์ 3 คำในภาษาญี่ปุ่น โดยมีความหมายว่า จงไปที่พื้นที่จริง (GENBA) ไปดูของจริง( GENBUTSU ) และ สถานการณ์จริง (GENJITSU) ความหมายแฝงของหลักการ 3G คือ การที่เรานั่งทำงานอยู่บนโต๊ะเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นหรือทราบถึงความเป็นจริงได้ ดังนั้น เราควรจะเข้าไปในพื้นที่ที่เกิดปัญหา ใช้สายตาของตนมองปัญหาที่เกิดขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลจากสภาพแวดล้อมและความเป็นจริงที่ได้รับทราบ แล้วจึงค่อยตัดสินใจแก้ไขปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
จากการนำเอาหลักการ 3G ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งประกอบไปด้วย พื้นที่จริง ของจริง และประสบการณ์จริง มารวมกับ สิ่งที่ควรเป็นมาตรฐานในการตัดสินใจอีก 2 ประการ มาเพิ่มเติมเข้าไป นั่นคือ หลักการทางทฤษฎี( GENRI ) และ ระเบียบกฎเกณฑ์ (GENSOKU) ทำให้เกิดหลังการ 5G ขึ้นมา
คงจะต้องอธิบายว่า ทำไมจึงนำเอา หลักการทางทฤษฎี และ ระเบียบกฎเกณฑ์ มารวมกับ พื้นที่จริง ของจริง
และ สถานการณ์จริงในการปฏิบัติงาน ทำให้เป็นหลักการ 5G ขึ้นมา เหตุผลก็คือ มีคนจำนวนมากที่นำเอาหลักการ 3G ไปใช้ปฏิบัติจริง หากแต่ยังขาดหลักการและทฤษฎีอยู่ เป็นเพราะหลักการ 3G นี้ มิได้รวมเอาสิ่งที่ควรเป็นมาตรฐานในการตัดสินใจเข้าไปด้วย ตามปรกติแล้วคนที่มีความคิด จะมีการตัดสินใจจากประสบการณ์ที่ตงเองเคยผ่านมา หากแต่มันขาดหลักการทางกฤษฎีและระเบียบเกณฑ์ ทำให้การตัดสินใจนั้นเกิดความเคยชิน และรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นคนที่มีการตัดสินใจดีและรวดเร็วเพียงใดก็ตามแต่หากสิ่งนั้นไม่ได้เป็นไปตามหลักการทางทฤษฎ
ีและระเบียบเกณฑ์แล้ว การตัดสินใจนั้นก็ไม่อาจจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมได้
สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องการปฏิบัติงาน ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามหลักการ 3G แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการสังเกต พิจารณาถึงตัวปัญหาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน หมายความว่า การปฏิบัติตามหลักการ 3G ให้ได้ประโยชน์สมบูรณ์นั้น จำเป็นต้องมีหลักการทางทฤษฎี และระเบียบเกณฑ์สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย
3G = พื้นที่จริง (GENBA) ของจริง( GENGUTSU )
สถานการณ์จริง( GENJITSU )
2G = หลักการทางทฤษฎี( GENRI ) ระเบียบกฎเกณฑ์( GENSOKU )
หลักการ 5G = ( พื้นที่จริง + ของจริง + สถานการณ์จริง )
( หลักการทางทฤษฎี + ระเบียบเกณฑ์ )
หลักการ 3G : จะต้องไปที่พื้นที่จริงที่เกิดปัญหา
ดูของจริงและคิดถึงสถานการณ์ จริง ณ จุดปฏิบัตินั้นๆ
หลักการทางทฤษฎี : หลักการ หรือ ทฤษฎีพื้นฐานที่สามารถอธิบายเหตุการณ์ต่างๆได้
ระเบียบกฎเกณฑ์ : ระเบียบข้อบังคับพื้นฐาน หรือ หลักเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง
ตามกาลเวลา
2.) การเปลี่ยนแปลง = พัฒนาการ
การบริหารธุรกิจ เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดงานที่มี “ การเพิ่มมูลค่า ” ( Value Added ) ซึ่งเป็นผลมาจากการทำให้เกิด “ การเปลี่ยนแปลง ” ของแหล่งทรัพยากรทางธุรกิจ คือ “ บุคลากร สิ่งของ เงินทุน ข่าวสาร เวลา ” ดังนั้นในการบริหารธุรกิจควรวางเป้าหมาย โดยหวังว่าจะทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าให้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใด “ การเปลี่ยนแปลง ” จะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในการประกอบธุรกิจ จะต้องมีการดำเนินการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
แต่จะมีปัญหาตรงที่ เราควรจะดำเนินการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด จึงก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพในเชิงธุรกิจ
สถานที่ซึ่งจะก่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็คือ พื้นที่ปฏิบัติงานจริง สิ่งของที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ของจริง สภาพแวดล้อมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจริง ดังนั้น หลัก 3G ก็คือการบอกกล่าวเป็นนัยว่า “ จงไปดูเพื่อรับทราบความเป็นจริงที่พื้นที่จริง ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ นั่นเอง ”
ในความเป็นจริงแล้วการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ อีกด้วย เป็นเพราะ การเปลี่ยนแปลงนั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน คือ จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และได้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ก็จะสามารถจัดการปัญหาต่างๆได้ แต่หากเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ประจำ หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้ ก็ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิผล
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นไปในลักษณะใดก็ตาม นอกจากการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆได้อีกด้วย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เกิดขึ้นประจำ มันก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมาเสมอ
การที่จะค้นพบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ประจำได้นั้นก่อนอื่นต้องเข้าใจให้ถ่องแท
้ถึงสภาพปรกติในการปฏิบัติงานประจำให้ได้เสียก่อน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ สภาพเหล่านั้นจะต้องเกิดขึ้นในพื้นที่จริง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบพื้นที่จริง เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลง อาจสรุปได้ว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ควบคุมสายงานจะต้องเรียนรู้ และนำเอาหลัก 5G ไปปฏิบัติและประยุกต์ใช้
3.) หลักการทางทฤษฎี ระเบียบกฎเกณฑ์ และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกับการเปลี่ยนแปลง
หากการเปลี่ยนแปลงใดจะก่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่า หรือก่อนให้เกิดปัญหาต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์ หรือไม่
หลักเบื้องต้นของการทำให้เกิด “ การเพิ่มมูลค่า ” อย่างมีประสิทธิภาพนั้นก่อนอื่นจำเป็นต้องพิจารณาว่า การเปลี่ยนแปลงที่กระทำลงไปนั้น สอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎี และระเบียบตามธรรมชาติหรือไม่ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่สอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์แล้ว ก็จะก่อนให้เกิดปัญหาได้ การที่มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้านั้น หมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎี และระเบียบกฎเกณฑ์อยู่เป็นจำนวนมากนั่งเอง
กล่าวคือ ควรจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเฉพาะที่สอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎี และระเบียบกฎเกณฑ์เท่านั้น และยังควรปฏิบัติให้สอดคล้องกับพื้นที่จริง ของจริง และสถานการณ์ความเป็นจริงในการปฏิบัติงานด้วย หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ระบบงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้ หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ความพยายามที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีและมีคุณภาพนั้นอาจไร้ค่า
แต่ในโลกความเป็นจริงนั้น ผลของความพยายามที่จะก่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพนั้นอาจเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นในทางลบก็ได้ หมายความว่าอาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้าง แม้จะเป็นส่วนน้อยมากก็ตาม การที่เราตั้งใจทำจริงแล้ว พยายามแล้ว แต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่สามารถพึงพอใจได้นั้น อาจเป็นเพราะแนวทางปฏิบัติไม่สอดคล้องกับพื้นที่จริง ของจริง และสถานการณ์จริงในการปฏิบัติงาน หรือ การเปลี่ยนแปลงที่ถูกก่อให้เกิดขึ้นนั้น อาจไม่สอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์ นั่นเอง
ถ้าหากการเปลี่ยนแปลงของแหล่งทรัพยากรทางธุรกิจ เป็นไปตามหลักการปฏิบัติที่เน้น พื้นที่จริง ของจริง และสถานการณ์จริงในการปฏิบัติงานที่อยู่บนพื้นฐานของหลักการทางทฤษฎีและระเบียบเกณฑ์แล้ว ก็จะก่อให้เกิดผลกำไรซึ่งถือเป็นมูลค่าเพิ่มในด้านบวก เนื่องจากเป้าหมายของการบริหารการจัดการ คือ การเปลี่ยนแปลง ที่ก่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าที่มีปริมาณสูงสุด ดังนั้น จังอาจนับได้ว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามหลักการ 5G อย่างเคร่งครัด
สำหรับหลักการทางทฤษฎีนั้นจัดว่ามีความเป็นสากลอยู่มากไม่มีข้อยกเว้นในประเภทงานธุรกิจ หรือ ประเทศที่ใช้หลักการ 5G นี้ ตามปกติเมื่อมีการค้นพบหลักการทฤษฎีใหม่ขึ้น อาจทำให้ทฤษฎีเก่าที่มีอยู่ถูกลบล้างไปได้ง่ายๆ แต่ในกรณีของหลักการ 5G นี้ มิได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่นำมาใช้ นอกจากจะแตกต่างกันไปตามยุคสมัย หรือขนาดของธุรกิจแล้ว ยังมีความแตกต่างกันทางธรรมเนียมประเพณีและสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นด้วย
การนำแนวคิดทั้ง 2 ประการคือ หลักการทางทฤษฎี และ ระเบียบกฎเกณฑ์มาใช้นี้ จะทำให้สามารถมาองเห็น “ การเปลี่ยนแปลง ” ชนิดใดๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
4.) การควบคุมกับเทคโนโลยี
บริษัทที่ดำเนินการผลิตสินค้านั้น เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีผลต่อการผลิตสินค้า และแน่นอนเทคโนโลยีนั้นจะต้องมีพื้นฐานมาจากส่วนที่เป็นหลักการทางทฤษฎีอยู่แล้ว ดังนั้นคำว่า ทฤษฎีของหลักการ 5G นั้นสมควรที่จะกล่าวว่าเป็นการเน้นถึงเทคโนโลยี หรือในทางกลับกัน หากไม่มีเทคโนโลยีแล้วก็ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ คำว่า เทคโนโลยีที่กล่าวถึงนี้ ยกตัวอย่างเช่น การตัด การแต่งขึ้นรูป การเชื่อมโลหะ การชุบโลหะ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะด้าน
เทคโนโลยีประเภทนี้จำเป็นที่จะต้องมีหลักการทางวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานสนับสนุนอยู่แล้ว และมีหลักการและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและแน่นอน แต่จากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจที่จะยืนยันได้ว่าธุรกิจนั้นจะประสบความสำเร็จ เพราะอีกจุดหนึ่งที่ควรพิจารณาด้วยคือ การควบคุม เมื่อกล่าวถึงการควบคุมในเชิงเทคโนโลยีแล้ว ก็จะต้องนึกถึง การควบคุมคุณภาพ โดยทั่วไปเราเรียกสิ่งนี้ว่า เทคโนโลยีการควบคุม เทคโนโลยีการควบคุมนี้เป็นเทคโนโลยีที่สามารถครอบคลุมได้ทุกสายงาน โดยไม่มีผลกับเทคโนโลยีเฉพาะใดๆ
เทคโนโลยีการควบคุม เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้มองเห็นปัญหาต่างๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น และในการแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้านเข้ามาช่วย ก่อนอื่นจะต้องบอกว่า จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน เนื่องจากไม่มีการผลิตสิ่งของในสถานที่ที่ไม่มีเทคโนโลยีเฉพาะด้าน และหากมีเทคโนโลยีเฉพาะดังกล่าวแล้วก็จะสามารถหาเทคโนโลยีการควบคุมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
เหตุใดจึงมีความจำเป็นต้องใช้ “ หลักการ 5G ”
1. การทำความเข้าใจตัวปัญหาจริงว่าคืออะไร ?
เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างของบริษัท โดยทั่วไปแล้วจะพบว่ามีส่วนที่ผิดปกติอยู่หลายจุด แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่ผิดปกติเหล่านี้ คนส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่า การดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว และมักจะทำงานต่อไปโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ วิธีการทำงานที่ผ่านๆมาซึ่งเราคิดว่าเหมาะสมและถูกต้องที่สุด อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริงในอดีต ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่จะต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าสภาวะแวดล้อมต่างๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอยู่เสมอ ดังนั้นเกือบทุกสิ่งทุกอย่างจะก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาตลอดเวลาว่า สิ่งเหล่านั้น มีความสอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์หรือไม่ อย่างไร และเพราะเหตุใด ? ในการคิดพิจารณาสิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่เสมอ จะทำให้เกิดความคิดริเริ่มตามแบบฉบับของตัวเองขึ้นได้
หากในบริษัทใดมีบุคลากรที่คิดที่จะพิจารณาสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา หรือทำงานด้วยความรู้สึกนึกคิดแบบเจ้าของบริษัท บุคคลเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดถึงความก้าวหน้าของบริษัท แต่ในความเป็นจริงจะมีบุคคลเช่นนี้อยู่ไม่มาก หรืออาจจะมีแต่ไม่ได้นำแนวคิดไปปฏิบัติจริง
2. การคิดพิจารณาก่อนลงมือปฏิบัติ
ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อพนักงานรับคำสั่งมาจากหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชา ก็ปฏิบัติตามโดยปราศจากการตรวจสอบยืนยันให้แน่นอนอีกครั้ง คำสั่งนั้นก็จะหลงเหลือเก็บเป็นแค่ความทรงจำซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็จะถูกลืมเลือนไปในที่สุด สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะ เมื่อมีการมอบหมายงานชิ้นใหม่ หรือนโยบายใหม่แล้ว พนักงานผู้นั้นขาดขั้นตอนการคิดและยอมรับด้วยตนเองนั่นเอง
เมื่อใดที่มีการกำหนดนโยบายใหม่ หรือมีการเริ่มชิ้นงานใหม่ในแต่ละครั้ง จำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดของงานอย่างถ่องแท้ ต้องคำนึงถึงหลักการทางทฤษฎี และระเบียบกฎเกณฑ์ด้วย
การพิจารณาถึงปัญหาในลักษณะนี้อยู่เสมอ จึงเป็นการสั่งสมพอกพูนประสบการณ์ให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจกล่าวได้ว่า การคิดพิจารณาปัญหาต่างๆด้วยหลักการ 5G นี้นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังทำให้มีความชำนาญในวิธีการคิดพิจารณาสิ่งต่างๆ และยังเป็นการก่อให้เกิดความคิดในรูปแบบของตัวเองได้อีกด้วย
3. การคิดพิจารณา กับ การลงมือปฏิบัติ
ผู้ปฏิบัติงานทั้งหลายควรจะดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากสภาพที่ไร้ความคิดแล้วหันมาตั้งข้อสังเกตว่า “ ทำไมสิ่งต่างๆจึงต้องเป็นไปอย่างนั้น ? ” แต่หากจะนั่งคิดพิจารณาอยู่บนโต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียวก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับพื้นที่จริง ของจริง และสถานการณ์ความเป็นจริงในสถานที่ปฏิบัติงานเสียก่อน แนวทางปฏิบัติจริงนั้นอาจใช้ตามหลักการ 3G ก็ได้แต่จะต้องมาพิจารณาถึงความสอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์ด้วยในภายหลัง
หลังจากที่มีการทำความเข้าใจ และยอมรับถึงหลักการทางทฤษฎี และ ระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆอย่างเพียงพอแล้ว จึงควรเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถึงแนวปฏิบัติ เราไม่ควรจะพิจารณาถึงแนวทางปฏิบัติจริงหากยังไม่สามารถเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้เสียก่อน การพิจารณาแนวทางปฏิบัตินั้นควรจะคำนึงถึงความเป็นไปได้จริงอันดับแรก ถ้ามีความมั่นใจในการตัดสินใจแล้วว่า เป็นสิ่งที่สมควรทำจริง จึงค่อยเริ่มขั้นตอนของการลงมือปฏิบัติ
4. การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
โดยทั่วไปในสังคมก็จะมีคนที่มีความรู้ความสามารถ พอมีปัญหาขึ้นก็จะคิดหาแนวทางแก้ไขทันที แต่โดยมากแม้ว่าจะลงมือปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขนั้นแล้ว ก็ยังมีปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักมีให้พบเห็นกันอยู่บ่อยๆ
ตามแนวทางของหลักการ 5G นั้นจะไม่มีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเมื่อมีปัญหาใดเกิดขึ้น เราจะต้องมองปัญหานั้น ให้เป็นรูปธรรมก่อนกล่าวคือ ต้องใช้พื้นที่จริง และของจริงในการพิจารณาก่อนที่จะใช้จินตนาการของตนคิดพิจารณาถึงตัวปัญหา และจะต้องดำเนินการค้นหาสาเหตุของปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง จากพื้นที่จริง และของจริงเสียก่อน เมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาแล้ว ก็จะไม่พิจารณาถึงวิธีการแก้ไขปัญหานั้นๆเลย แต่จะตรวจสอบดูก่อนว่า สาเหตุของปัญหานั้นๆมีความสอดคล้องกับหลักการทางทฤษฎีหรือไม่ อย่างไร แล้วจึงค่อยสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหา และลงมือปฏิบัติตามแนวทางนั้นต่อไป
5. จะปฏิบัติตามในสิ่งที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ ?
สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าระหว่างการตัดสินใจ กับการลงมือปฏิบัติจริงนั้น มักจะมีช่องว่างช่องใหญ่อยู่ตรงกลาง ดังจะเห็นจากตัวอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
• คำพูดที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ไร้การปฏิบัติตาม
• สิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือ ขั้นตอนก่อนการควบคุม
เวลาที่คิดพิจารณาว่า ทำไมสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นได้มักจะมีเหตุผลหลักก็คือ ทุกคนจะมีความคิดว่าถ้าหากกำหนดข้อปฏิบัติ หรือ กฎเกณฑ์ต่างๆ แล้วก็จะสามารถลงมือปฏิบัติจริงได้ ความเข้าใจที่ว่าถ้ากำหนดระเบียบกฎเกณฑ์แล้วจะมีคนปฏิบัติตาม หรือ หากทำตารางรายการตรวจสอบ (Check List) เพื่อตรวจสอบแล้ว ก็จะทำให้ไม่มีส่วนที่ตกหล่น หรือหากจัดการประชุมแล้ว จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่ และจะได้ข้อสรุปที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้เป็นความเข้าใจผิดเพราะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมักจะเป็นไปในทางที่เราไม่คาดคิดเสมอ
ในกรณีที่มีการตัดสินใจกำหนดอะไรลงไปก็ตาม จำเป็นที่จะต้องมีการสร้างระบบที่จำทำให้สิ่งที่ถูกกำหนดลงไปนั้น สามารถลงมือปฏิบัติจริงด้วยเป็นเพราะ มักจะมีการละเลยในจุดนี้ จึงเกิดปัญหาในลักษณะของสิ่งสำคัญอันดับแรกก็คือ ขั้นตอนก่อนการควบคุม
การกำหนดอะไรสักอย่างนั้น อาจเป็นสิ่งที่ง่ายแต่การที่จะกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสามารถนำไปใช้ได้จริง หรือจะถูกลงมือทำได้จริงนั้น กลับเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก ในขั้นตอนของการตัดสินใจกำหนดอะไรลงไปนั้น ควรจะต้องคำนึงว่า สิ่งนั้นๆ จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ และเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็ยังจะต้องคอยสังเกตดูว่า จุดใดที่มีการนำไปปฏิบัติจริงอยู่ตลอด และจุดใดที่ถูกปล่อยปละละเลย และยังจะต้องเอาจุดที่ถูกปล่อยปละละเลยนั้นมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 จุดคือ จุดแข็ง และ จุดอ่อน เพื่อที่จะทำให้ทุกๆ ข้อกำหนดมีการนำไปปฏิบัติจริงอย่างครบถ้วน เราจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติ “ จะต้องรู้ลึกซึ้งถึงวิธีการผลิต และ จะต้องรู้ลึกซึ้งถึงประสิทธิภาพของผลผลิต ” ซ้ำไปซ้ำมาหลายๆครั้ง
พื้นที่ปฏิบัติงาน (GENBA) เป็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีความแตกต่างระหว่างวันนี้กับวันพรุ่งนี้ ถึงจะสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ในวันนี้แต่ไม่มีหลักประกันใดๆ ที่จะบอกว่า พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า เดือนหน้า จะสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้หรือไม่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องคิดพิจารณาหลักประกันในสิ่งเหล่านั้นด้วย
ข้อสรุปจากผลวิจัยที่ว่าลักษณะอุปนิสัยของคนก็คือ การไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้นั้น เป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งในการลงมือปฏิบัติโดยอาศัยหลักการ 5G
The Quoizel Tranquil Bay Bath Fixture With Four Lights draws inspiration from the sleek 20th century styling of the Arts & Crafts era. Requiring four 100-watt medium base bulbs (not included) this fixture features four opal etched glass shades that are gently cradled within a polished-chrome finished steel frame. It measures 34W x 6.5H inches and has a 7-inch wall extension.About Quoizel LightingLocated in Charleston South Carolina Quoizel Lighting has been designing timeless lighting fixtures and home accessories since 1930. They offer a distinctive line of over 1 000 styles including chandeliers lamps and hanging pendants. Quoizel Lighting is the perfect way to add an inviting atmosphere to any area in your home both indoors and out.
WAC Lighting BA-LED10-BB LEDme 30-Inch Light Bar is ideal for kitchen counters, curios, etageres, and cabinets. Long lasting life of 50,000 hours, and is thermally efficient for lighting heat sensitive perishables and UV sensitive apparel, artwork, and collectibles. The BA-LED10-BB is only 1-Inch tall by 30-Inch wide by 2.75-Inch deep, and on center spacing of LED's is maintained when two light bars are joined together. Constructed of Aluminum and finished -Inch Bronze, and offers ANSI compliant Warm/Neutral LED Bins for the finest color consistency available.