London
ก้าวแรกที่เหยียบลอนดอน สัมผัสได้ทันทีถึงความเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่และเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจทั้งในทวีปยุโรป และเป็นศูนย์รวมแฟชั่นแบบ chic chic อย่างแท้จริง วันแรกไปถึงก็เดินเงอะๆ ง๊ะๆ ตามประสาคนที่ยังไม่เคยไปลอนดอน (ต้องออกเสียงว่า เลินเดิ๊น ตามสำเนียง british นะคะ) ไปเดินดูโรงเรียนก่อนเข้าเรียนวันแรก โรงเรียนอยู่ที่สถานี oxford circus station ซึ่งเป็นใจกลางเมือง เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นและ แหล่ง shopping ฝนก็ตกโปรยปราย ตามคำบอกเล่าที่ว่า หากมาลอนดอนต้องพกร่มติดตัวตลอด และความจริงก็เป็นอย่างนั้นแหละค่า มาแหล่งชอ๊ปปิ้งแล้วทุกคนก็จะโดนดึงดูดจากป้ายหน้าร้าน brand name ต่างๆ ว่า SALE! SALE! SALE! จะไม่เข้าไปเบิ่งดู ก็จะเสียสันชาตญาณความเป็นลูกผู้หญิงอย่างเรา (แค่ดูเฉยๆ นะคะ ช่วงแรก ยังไม่กล้าซื้อ เพราะเพิ่งมาถึง ลองดูเชิงก่อนแล้วค่อยไปสอยก็ยังไม่สาย เพราะเค้ามีลดกระหน่ำกันทั้งปีค่ะ) พี่เดินทางไปถึงเดือน june เป็นช่วง summer สามารถใส่ชุดสวยๆ สีสันสดใสที่เอาไปจากเมืองไทยได้สบายเลย ช่วงนี้รองเท้า เสื้อ coach ที่ต้องเตรียมไว้ใส่ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูหนาว ออกมาลด มีไว้ให้เตรียมตัวกันตรึมเลย สำหรับคอนักช๊อบตัวจริง แนะนำเลยนะคะห้างใหญ่ ราคาของเกรด A ของเค้าดีจริง มีทุกอย่างที่ต้องการไม่ว่าจะเป็น ห้าง John Lewis (Oxford Circus station) Self fridges (Bond Street station), Liberty (Oxford Circus) หรือจะเป็น Harrod (Night bridge station) ห้างที่สามารถไปขอพรเรื่องความรักกับภาพถ่ายเจ้าหญิงDiana ได้ด้วยค่ะ และยังมีห้างอื่นๆ มากมายทั่วทั้งลอนดอน กระจายไปทุกโซน สมกับเป็ฯเมืองแฟชั่นขนานแท้
เมื่อพูดถึงด้านสถาปัตยกรรมและด้านดนตรี ของเค้าเจ๋งจริงๆ เดินไปไหนในตัวเมืองลอนดอน บ้านเรือน สถานที่ราชการ โรงเรียน โบสถ์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมัน แบบโกธิค ของแท้ นานกว่าร้อยปีทั้งนั้น ทางรัฐเค้ายังคงอนุรักษ์ สถาปัตย์แบบเก่าๆ เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ ห้ามรื้อทุบตึกเก่าทิ้งเด็ดขาด เดินไปทางไหนในแหล่งชุมชน จะได้ยินเสียงดนตรีที่กังวานมาแต่ไกล ทั่งเสียงวงดนตรีไวโอลินในรถไฟใต้ดิน เสียงกีตาร์จากนักดนตรีบริเวณรถไฟใต้ดิน เสียงทรัมเป็ดบริเวณทางเดิน และเสียงวงเพอรืคัดชั่นใกล้สวนสารณะ
การเดินทาง ส่วนใหญ่ลอนดอนเนอร์และชาวอังกฤษจะใช้รถไฟใต้ดิน หรือที่ชาวอังกฤษเรียกว่า Tube นั่นก็คือบริเวณทางเดินสถานีรถไฟที่ลักษณะคล้ายหลอดจึงเรียกว่า Tube นั่นเอง การคมนาคมเรียกว่าง่ายถึงง่ายมาก เพราะมีป้ายบอกทางตลอดไม่ว่าจะเดินทางไปฝั่ง east หรือ west ของลอนดอน ทางออกก็มีป้ายบอก ไม่ต้องเดินหากันให้หลง สายรถไฟทั้งหมดในลอนดอนมีทั้งหมด 14 สายรวมกับ Over ground (สายสีส้มด้วย) ค่าธรรมเนียมการใช้บริการรถไฟใต้ดิน เราต้องใช้บัตร Oyster Card เติมเงินมีแบบ รายวัน ประมาณ 10 GPP แบบเหมา (เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว) รายเดือน หรือรายสัปดาห์ แต่ถ้าเติมหรือเรยกว่า Top Up รายเดือนจะประหยัดกว่าจ้า บัตร oyster ของนักเรียนจะประหยัดมากกว่าแบบสำหรับคนทั่วไปประมาณ 10 ปอนด์เลยทีเดียวค่ะ ต้องบอกก่อนว่า บัตร Oyster นี่เป็นบัตรวิเศษจริงๆ เพราะเราสามารถใช้ได้ทุกพาหนะ ทั้ง รถไฟใต้ดิน , บัส สีแดงสองชั้นเก๋ๆ ซึ่งจะมี lane เฉพาะบัสโดยเฉพาะ ไม่ต้องกลัวว่ารถจะติดในช่วงเวลา prime time และเรือ เราอาจเลือกปั่นจักรยานหรือ ใช้ scooter หรือว่าจะเดินซึ่งคนส่วนใหญ่ในตัวลอนดอนมักจะใช้การเดินฉับๆๆๆ เป็นส่วนมาก
ภาษาอังกฤษที่สะท้อนเข้าประสาทหูส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ style London ตอนนี้บอกตรงๆ ว่าในลอนดอนเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ ทั่วโลกเยอะมากทั้งชาวยุโรปเอง สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เชค กรีก โปแลนด์ ฯลฯ ชาวเอเชีย ที่เห็นกันเยอะสุด คือญี่ปุ่น มักจะมา ซื้อของแบรนแนมกัน ไทย เกาหลี เยอะจริงๆ คือคนจีนที่มาทำธุรกิจในลอนดอนกันสุดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารที่อยู่ในย่าน china town หากจะฝึกทักษะการฟัง แนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินช่วงเช้าประมาณ 7.30-9.00 หรือ ช่วง บ่าย ๆ เย็นๆ จะได้ฝึกการฟังภาษาอังกฤษแบบอังกฤษของแท้เลยจ้า
สถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนลอนดอนคือ Big ben ซึ่งจริงๆ แล้ว Big Ben คือ the tower of wesminter อยู่ใกล้กับ มหาวิหาร wesminter abby , London eye, สวนสาธารณะ, พิพิธภัณฑ์ การชมละครเวที Musical วึ่งโด่งดังไปทั่วโลก ในเวลาหลังเลิกงาน คนเดินทางส่วนใหญ่ จะมารวมตัว หรือประชุมกันที่ pub เรียกได้ว่าเป็นสถานที่จับเข่าคุยกันเหมือนร้านกาแฟบ้านเรานี่เอง เค้าจะนั่งจิบเบียร์ บ้างก็ชวนกันเล่นเกม Scrabble เพื่อฝึกคำศัพท์ไปในตัว หรือเกมส์ฝึกสมอง
นอกเหนือจากเรื่องแฟชั่นและดนตรีแล้วเรื่องส่วนใหญ่ที่ชาวลอนดอนเนอร์คุยกันก็หนีไม่พ้นสภาพดินฟ้า อากาศ หนึ่งวันมีสี่ฤดูจริงๆ ทั้งฝนตก ทั่งแดดออก ฟ้าร้อง ลดพั สารพัด ดังนั้นต้องเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ กันฝนกันให้พร้อม อีกเรื่องที่เป็นหัวข้อใหญ่คือเรื่องการแข่งขันฟุตบอล เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติอีกเรื่องหนึ่ง
นอกจากจะเที่ยวหาประสบกรพบเพื่อนต่างชาติ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความคิดเห็นในลอนดอนแล้วยังมีโอกาสขอ schengen visa ไปเที่ยวยุโรปด้วยคือประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว เมื่อไปถึงแล้วทุกคนจะต้องร้องว้าวววววว ติดใจความงามของหิมะที่ปกคลุมทิวเขายาว ตัดกับสีต้นไม้ใบเขียวแดง แสงอาทิตย์ที่สาดสะท้อนผืนน้ำ สามารถก็บภาพอันน่าประทับใจได้ทุกมุมของประเทศเลยทีเดียว ประเทศเก่าแก และเป็นประเทศที่มั่นคง ปลอดภัย เปรียบเหมือนได้กำไรเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอนค่า
The Bostitch LHF97125-2 20-gauge laminated hardwood flooring stapler is designed for the installation of 1/4- to 1/2-inch laminated tongue and groove flooring. For speed and accuracy, the LHF97125-2 has a tool-free adjustable-foot that adapts from 1/4- to 1/2-inch engineered flooring. By using 1/2- to 1-inch, 3/16-inch crown 20-gauge staples, it helps prevent damage to the flooring. Its lightweight magnesium design adds durability and its oil-free operation requires no regular maintenance and eliminates the risk of oil stains. Bostitch designed this tool specifically for laminated tongue and groove flooring and backs it with its exclusive 7-year warranty, but always check with flooring manufacturer's fastening recommendations before starting the job.
Bosch's PS10BN 12-volt I-Drive packs power and versatility in a compact package. The total head length is 35-inches, which is up to 3-times shorter than similar products. In addition, the head is articulate and can rotate up to 90-degrees. To increase the versatility of the tool, the head can lock into five different positions, making it more adaptable than ever. This I-Drive packs 80-inches-per-pound of torque and can drive up to 100 3-inch screws per battery charge. he PS10BN includes the 12-volt I-Drive bare tool and Exact-Fit insert tray only and the battery and L-BOXX are sold separately.