Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
28 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 

พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๓๓ ประลองฤทธิ์

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง ตอนที่ ๓๓ ประลองฤทธิ์

จะกล่าวถึงพลายงามทรามสวาดิ
เฉลียวฉลาดแกล้วกล้าวิชาขยัน
เรืองฤทธิ์ประสิทธิทุกสิ่งอัน
หมายประจันสงครามไม่ขามใคร

อยู่กับพระหมื่นศรีมาปีกว่า
เจ้าอุตส่าห์ฝากตัวให้รักใคร่
จนเธอเลี้ยงเป็นลูกด้วยถูกใจ
สารพัดจัดให้ได้สุขสบาย

วันนั้นรู้คดีว่ามีศึก
คะเนนึกเห็นจะสมอารมณ์หมาย
จะอ้อนวอนพึ่งบุญคุณพระนาย
เบี่ยงบ่ายให้ได้รับอาสาไป

ถ้ากระไรจะได้ทูลขอพ่อ
คิดขึ้นมาน้ำตาคลอสะอื้นไห้
โอ้กรรมพ่อทำมาอย่างไร
จึงต้องไปทนทุกข์ทรมาน ฯ


พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ กระผมว่าแล้วเชียว (ตบเข่าอยู่ฉาดฉาว) ว่าจะต้องเป็นนายพลายงามแน่ ๆ ที่จะต้องไปขอโทษให้บิดา และในที่สุดก็ทำได้สำเร็จคือเมื่อเข้าเฝ้ากราบทูลแถลงความ สมเด็จพระพันวษาก็ทรงโปรด

ครานั้นสมเด็จนเรนทร์สูร
ฟังทูลตบพระหัตถ์อยู่ฉัดฉาน
ทรงพระสรวลร่วนรื่นชื่นบาน
เออเอ็งเอาการมิเสียที

อนิจจาอ้ายขุนแผนแสนอาภัพ
ตกอับเสียคนแทบป่นปี้
ติดคุกทุกข์ยากมาหลายปี
กูนี้ก็ชั่วมัวลืมไป

ให้บังอกบังใจกระไรหนอ
อ้ายพลายงามมาขอจึงนึกได้
ครั้งขออีลาวทองกูหมองใจ
จำไว้ช้านานถึงปานนี้

ดูดู๋ขุนนางทั้งน้อยใหญ่
พากันนิ่งเสียได้ไม่พอที่
ทาระกำมันมาสิบห้าปี
ช่างไม่มีผู้ใดใครชอบพอ

เหตุด้วยอ้ายนี่ไม่มีทรัพย์
เนื้อความมันจึงลับไปเจียวหนอ
ถ้ามั่งมีไม่จนคนก็ปรอ
มึงขอกูขอไม่เว้นวัน

นับประสาหาคนไปสู้ศึก
ก็ไม่มีใครนึกถึงมันนั่น
ด้วยอิจฉาว่าวิชาไม่เท่ามัน
มันไล่ฟันเอาเมื่อตามขุนช้างไป

ความกลัววิ่งหัวเป็นดอกล่อ
รู้จักฝีมือพ่อฤๅหาไม่
พระยายมฟังว่าช้าอยู่ใย
จงสั่งให้ไปถอดอ้ายแผนมา ฯ


พอขุนแผนได้มาเข้าเฝ้า องค์สมเด็จพระพันวษาก็ทรงตรัสประภาษด้วย (หลังจากที่ไม่ได้คุยกันมาสิบห้าปี)

พระองค์ทรงศักดิ์กวักพระหัตถ์
ตรัสเรียกขุนแผนเข้ามาใกล้
หมอบหน้าพลายงามทรามวัย
บังคมไหว้กราบงามลงสามที

พระองค์ทรงตรัสประภาษไป
เอออ้ายขุนแผนไม่พอที่
มึงจำเพาะเคราะห์ร้ายมาหลายปี
วันนี้สิ้นเคราะห์เพราะลูกชาย

บัดนี้มีศึกข้างเชียงใหม่
อ้ายลูกมันจะไปตีถวาย
มันจะขอพ่อไปเป็นเพื่อนตาย
ปรึกษากับลูกชายก็เป็นไร

ตัวมึงกูเคยได้เชื่อถือ
ไม้มือไม่มีใครหักได้
กูนี้ชั่วมัวเอามึงจำไว้
ลืมไปใช่ว่าจะแค้นเคือง

มึงจะเอาผู้คนสักกี่หมื่น
ให้เร่งกะวันคืนอย่าร่ำเรื่อง
จะเอาไพร่ในกรุงฤๅหัวเมือง
วัวต่างช้างเครื่องให้หมายไป ฯ


ปรากฏว่าขุนแผนกลับทำ เซอร์ไพร้ส์ สมเด็จพระพันวษาอย่างที่เรียกได้ว่า พระเนตรเหลือก เลยทีเดียว แล้วก็ทรงถามว่า จะเอายังงั้นจริง ๆ หรืออ้ายแผน ขุนแผนก็สนองว่า จริงพระเจ้าข้า

กระหม่อมฉันพ่อลูกขออาสา
ตีเชียงใหม่มาทูลถวาย
มิต้องให้ไพร่ยากไปมากมาย
ครั้นกะเกณฑ์วุ่นวายจะช้าการ

ขอพระราชทานแต่ไพร่ราบ
พอหามหาบหาเสบียงเลี้ยงอาหาร
อันพวกพลจะประจญประจัญบาน
ขอประทานคนโทษที่ในคุก

มี สามสิบห้าคน ล้วนทนคง
ยืนยงสามารถอาจอุก
ได้ร่ำเรียนรู้ครบเชิงรบรุก
เห็นมีทุกความรู้ครูต่างกัน ฯ


สมเด็จพระพันวษาก็ถึงกับออกพระโอษฐ์ว่า มึงจะบ้ารึยังไงวะอ้ายแผน เมืองเชียงใหม่เขาออกใหญ่โตผู้คนไพร่พลมากมาย กองทัพบ้าบออะไรยกกันไปแค่สามสิบห้าคน กูว่าจะไปแพ้เขากลับมานา

ขุนแผนก็ทูลสนองว่า แต่ละคนที่จะขอพระราชทานยกโทษโปรดให้ไปศึกเมืองเชียงใหม่ด้วยกันนั้น ล้วนแต่เป็นคนดีมีวิชาด้วยกันทั้งนั้นแล้วข้าพระพุทธเจ้าจะทำการ เทสต์ ให้พระองค์ทอดพระเนตร พระเจ้าข้า

แล้วก็ว่ามาว่า ยังมีอีกคนหนึ่งที่พ่อแม่พี่น้องอาจจะลืมไปแล้ว นั่นก็คือ แม่ลาวทอง อย่างไรเล่าขอรับ ซึ่งได้พ้นโทษจากในวังพร้อมกับขุนแผนนั่นเอง

จะกล่าวถึงสมเด็จพระพันวษา
ตรัสเรียกลาวทองมาขมีขมัน
อ้ายพลายงามอาสามันกล้าครัน
แล้วทูลขอพ่อมันพ้นจากคุก

มึงทรมานมากว่าสิบปี
กูเห็นมึงนี้ไม่มีสุข
จะโปรดยกโทษให้พ้นทุกข์
อย่าปักสะดึงกรึงกรุกเร่งออกไป

ลาวทองได้ฟังรับสั่งโปรด
ปราโมทย์ยินดีจะมีไหน
ถวายบังคมลาในทันใด
ออกไปกราบลาหม่อมป้าโต

เพื่อนฝูงร้องไปจะได้ลาภ
ค่อยกระซิบกระซาบนางมีโหว่
นางสีนางพรมแม่ส้มโอ
เพื่อนฝูงอักโขจะลาไป ฯ


พอขุนแผนได้พบนางลาวทอง ก็เข้ากอดกันร้องไห้ฟายน้ำตา แล้วก็แนะนำแม่แก้วกิริยาให้รู้จักว่านี่คือ อีกเบอร์หนึ่ง ของพี่นะน้อง ออกจะแปลกขอรับว่า พอมาถึงตอนนี้แล้ว แม่ลาวทองกลับไม่รังเกียจเดียดฉันท์อะไรเลย อาจจะเป็นเพราะว่าปลง หรือว่าอ่อนใจเพราะรู้ ๆ กันอยู่ในนิสัยของสามีเสียแล้วก็ได้

ครั้นแล้วก็ถึงเวลาประลองฤทธิ์ของนักโทษทั้งสามสิบห้าอันได้แก่ นายบัว หัวกะโหลก/นายคงเครา/นายมอญ/นายช้างดำ/นายสีอาด/นายอิน/นายทอง/นายจัน/นายบัว/ นายแตงโม/นายจั่ว เอาแค่นี้เป็นตัวอย่างก็แล้วกันนะขอรับ

นายบัวหัวกะโหลกบ้านโคกขาม
ถวายบังคมงามแล้วออกหน้า
นอนหงายร่ายมนตร์ภาวนา
ให้เอาขวานผ่าเป็นหลายซ้ำ

โปกโปกขวานกระดอนนอนพยัก
ไม่แตกหักลุกมาหน้าแดงก่ำ
นายคงเครา เข้านั่งบริกรรม
ให้เอาหอกกรอกตำเข้าจำเพาะ

ถูกตรงยอดอกไม่ฟกช้ำ
แทงซ้ำหลายทีที่เหมาะเหมาะ
เสียงอักอักพยักหน้านั่งหัวเราะ
จนด้ามหอกหักเดาะไม่ทานทน

นายมอญ นอนเปลือยเอาเลื่อยชัก
เลื่อยหักฟันเยินพะเนินย่น
ให้เปลี่ยนหน้ามาเลื่อยก็หลายคน
เป็นหลายหนไม่เข้าเปล่าทั้งนั้น

นายช้างดำ กำลังดังช้างสาร
ถวายบังคมคลานมาไม่ครั่น
กระโดดสูงสามวาตาเป็นมัน
แข็งขันข้อลำดำทมิฬ

นายสีอาด คลาดแคล้วแล้วไม่แตก
หอกซัดเจ็ดแบกพุ่งจนสิ้น
ไม่ถูกเพื่อนเชือนไถลไปปักดิน
นายอิน อึดใจแล้วหายตัว

นายทอง ลองให้เอาปืนยิง
ยืนนิ่งคอยรับจับลูกตะกั่ว
นายจัน นั้นแปลกเข้าแบกวัว
นายบัวทำคล้ายเป็นหลายคน

นายแตงโมทำโตได้เหมือนยักษ์
คึกคักกลอกตาดูหน้าย่น
นายจั่ว หัวหูดูพิกล
เอาไฟลนทนได้ไฟวับวับ

ลองถวายสิ้นทั้งสามสิบห้า
ต่างสำแดงวิชาเป็นลำดับ
แล้วมาหมอบเรียงเคียงคำนับ
รับสั่งให้ประทานรางวัลพลัน ฯ


แล้วคราวนี้ก็มาถึงตาพ่อลูกผู้เป็นแม่ทัพและที่ปรึกษาทัพจะได้ลองกันเองบ้างแล้วแหละขอรับ จะขอยกมาเพียงเล่าสู่กันฟังแต่บางตอนเท่านั้นเถิดนะขอรับ

ครานั้นขุนแผนพลายงาม
ถวายบังคมตามกันทั้งคู่
ที่คนดูลุกยืนตื่นกันกรู
คอยดูพ่อลูกจะลองกัน

เจ้าพลายงามขออภัยพ่อขุนแผน
แล้วจับทวนทอดแขนดูขบขัน
ได้ทีหนีไล่พัลวัน
ท่าทางวางหันเข้าสู้ทวน

กลองแขกติงทั่งตั้งเพลงรำ
ไม่เพลี่ยงพล้ำถ้อยทีถี่ถ้วน
ชั้นเชิงกรีดกรายหลายกระบวน
สับสวนท่าทางสันทัดกัน

ดูข้างพลายงามก็ไวว่อง
ดูทำนองขุนแผนก็แข็งขัน
ได้ทีหนีไล่พัลวัน
กลับแทงแย้งฟันกันคนละที

ถูกฉับไม่เข้าเปล่าทั้งนั้น
เจ้าพลายหันเยื้องย่องทำนองหนี
แต่พอห่างวางทวนกับปัถพี
อัญชลีร่ายเวทเป็นไฟกัลป์ ฯ


พอพลายงามร่ายเวทเป็นไฟลุกวู่วามอยู่ในปริมณฑลพิธี ขุนแผนก็ร่ายเวททำให้เกิดฝนตกลงดับไฟอาคมจนหมดสิ้น

แล้วขุนแผนก็เสกมนตร์ซ้ำ กลายเป็นงูหงอนตัวใหญ่มีบริวารมากมายออกเลื้อยเพ่นพ่านเต็มไปหมด พ่อพลายงามก็เสกตะกรุดเป็นนกกด ไล่โฉบเฉี่ยวงูจนหายไปหมด

คราวนี้เอาใหม่ขอรับ พลายงามเสกก้อนดินซ้ำกลายเป็นช้างตกน้ำมันแปร๋แปร๋น ขุนแผนไม่เสกสู้แต่ควงขอเข้าเหยียยบงาเผ่นขึ้นคอบังคับช้างร้ายนั้น พอช้างหายไป พลายงามก็แปลงกายเป็นควาย ขุนแผนก็แปลงเป็นเสือไล่ล่าต่อสู้กันชุลมุน แล้วก็เปลี่ยนแปลงมาใช้วิชาอ่อนโยนต่อสู้กันบ้าง

ขุนแผนแปลงตัวเป็นนกแก้วส่งเสียงเจื้อยแจ้วจำนรรจา พ่อพลายงามก็ไม่น้อยหน้าแปลงร่างเป็นนกสาลิกาน้อย ส่งเสียงแข่งขันกัน

แล้วบัดดลนกทั้งสองตัว ก็กลายร่างเป็นคนมาหมอบ อยู่ที่หน้าพระที่นั่งตามเดิม สมเด็จพระพันวษาก็ทรงดีพระทัยตบพระหัตถ์อยู่ฉาดฉาน

แล้วจึงตรัสสั่งคลังวิเศษ
ให้จัดเสื้อโหมดเทศอย่างก้านแย่ง
แพรจีนดวงพุดตาลส่านสีแดง
ทั้งสมปักตามตำแหน่งขุนนางใน

ให้คลังมหาสมบัติจัดเงินตรา
ห้าชั่งเอามาประทานให้
มึงทั้งสองใช้ของเหล่านี้ไป
กว่าจะได้บำเหน็จเสร็จสงคราม ฯ


โอย...กระผมรู้สึกเหนื่อยแทนท่านผู้ ประลองฤทธิ์ ทั้งหลายจนเกือบจะแย่อยู่แล้วขอรับ คงต้องขอพักสักนิด แล้วพบกันใหม่คราวหน้าขอรับ.

##############################







 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2551
3 comments
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 22:27:15 น.
Counter : 1130 Pageviews.

 

แจม

เหนื่อย. . .ก๋า. . .พี่ไหมเล่านั่น

แฮ่. . .

ขอบพระคุณ ขอรับ.

 

โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.190.6 1 มีนาคม 2551 1:26:46 น.  

 

ไม่เป็นไรค่ะพี่..พอทำได้
ไม่ต้องใช้เวลามากอะไร.. ดีเสียอีก
แจมจะได้อ่านมั่ง

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 119.42.70.149 2 มีนาคม 2551 16:18:58 น.  

 

อยากรู้รายชื่อนักโทษทั้ง 35 คน ครับช่วยบอกด้วยครับ

 

โดย: สิงห์ IP: 125.25.230.202 29 เมษายน 2552 17:48:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.