|
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๑๙ ราชทัณฑ์
ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง ตอนที่ ๑๙ ราชทัณฑ์
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ ด้วยความซื่อ(บื้อ)ของขุนแผนเอง ที่มองโลกในแง่ดีเกินไป เมื่อทราบข่าวว่าแม่ลาวทองป่วย จึงไม่เฉลียวใจที่จะต้องฝากเวรไว้กับขุนช้าง ผู้ซึ่งตัวเองก็คงจะเลือน ๆ ไปว่า ความจริงแล้วมันมีความอาฆาตแค้น ฝังลึกอยู่ราวกับคราบสกปรก ในโฆษณาผงซักฟอกนั่นเทียว
จะว่าเวรกรรมบังตา หรือคราวซวยอะไรของพ่อขุนแผน ก็ว่ากันไปเถิดขอรับ แต่ในที่สุดความไม่รอบคอบของขุนแผนในครั้งนี้ก็ส่งวิบากกรรมอย่างแย่..! พอสมควรให้แก่ขุนแผนเหมือนกันขอรับ
นั่นคือเมื่อสมเด็จพระพันวษาเสด็จออก และทรงตรัสถามหาขุนแผน นายขุนช้างก็ได้ทีที่จะกล่าวหาเพื่อน อย่างเหี้ยมโหดและเลือดเย็นในทันที...
ครานั้นขุนช้างฟังรับสั่ง คิดถึงความหลังดังไฟจี้ ขุนแผนความแค้นของมันมี ถ้าได้ทีนานไปคงใส่กู
เอาวันทองของมันมาจากข้าง มันก็หมายจะล้างทำลายอยู่ กูจะผลาญชีวิตดังพิษงู ครู่เดียวให้ยับดังสับปลา
คิดแล้วยกข้อขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าไม่มุสา เข้าเวรร่วมกันหลายวันมา เห็นบ่นถึงภรรยาอยู่ทุกวัน
วานนี้บอกว่าจะไปบ้าน เกล้ากระหม่อมทัดทานก็หุนหัน ขู่รู่ด่าว่าสาระพัน ครั้นดึกได้สักยามสามปลาย
ขุนแผนปีนข้ามกำแพงวัง โอหังหยาบช้าเป็นเหลือหลาย หม่อมฉันว่าก็จะฆ่าเสียให้ตาย เห็นจะป่ายไปบ้านภรรยา ฯ
ดูมันสิขอรับ อย่างนี้ไม่เรียกว่า เพื่อนทรยศ (อีกครั้งหนึ่ง) ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว แต่งานนี้กระผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องโทษขุนแผน ที่อารามเป็นห่วงเมียเสียจนไม่ดูตาม้าตาเรือเหมือนกันนะขอรับ
สมเด็จพระพันวษาก็ทรงพระพิโรธขุนแผน ในความที่ขุนช้างใส่ไคล้ให้ความเท็จนั้นเป็นอันมาก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ท่านราชามาตย์ไปกุมตัวมาดังนี้ขอรับ
ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบก็กริ้วเป็นหนักหนา กระทืบพระบาทตวาดมา อ้ายนี่ตกว่าไม่เกรงใคร
อ้ายขุนช้างว่ากล่าวกลับห้าวหาญ บังอาจปีนปราการออกไปได้ โทษถึงฆ่าฟันให้บรรลัย เสียบหัวอย่าให้ดูเยี่ยงกัน
หากคิดนิดหนึ่งความชอบมี หาไม่ชีวีจะอาสัญ อีเมียอย่างไรไม่จากกัน ฤาลอยมาแต่สวรรค์จึงลืมกลัว เหวยราชามาตย์ไปบัดนี้
พาอีลาวทองมาจากผัว อ้ายขุนแผนกูไม่ขอเห็นตัว มันทำชั่วให้อยู่กาญจน์บุรี ให้คุมไพร่ไปเที่ยวตระเวนด่าน
ต่อราชการเกิดศึกในกรุงศรี จึงจะเกณฑ์มันให้ไปต่อตี แต่ในราตรีจงรีบไป ฝ่ายราชามาตย์ก็รับสั่ง
ออกมาจากวังไม่ช้าได้ ขึ้นม้าพาพวกตำรวจใน ออกจากเวียงชัยในราตรี ฯ
ข้างฝ่ายแม่ลาวทอง พอค่อยยังชั่วหายไข้แล้ว ก็ได้นอนหลับฝันเป็นลางดังนี้ ขอรับ
จะกล่าวถึงลาวทองผ่องโสภา ค่อยคลายโรคาที่หมองศรี กลางคืนนอนแนบแอบสามี เปรมปรีดิ์จนหลับกับที่นอน
นางฝันว่ายักษ์ใหญ่เข้าในห้อง จับลาวทองมัดลากไปจากหมอน ไปใส่กรงเหล็กไว้ให้อาวรณ์ เดือดร้อนทุกข์ทนทั้งตาปี
ในฝันนั้นว่าผัวตัวตามไป ก็ตกในเหวห้องคิรีศรี ได้ความยากแค้นแสนทวี แล้วมีชายหนึ่งเรืองฤทธิไกร
มาอุ้มเจ้าลาวทองกับขุนแผน ออกจากแดนยักษ์ตรงมาส่งให้ สิ้นฝันพลันฟื้นตื่นตกใจ ปลุกปลอบผัวให้ทายพลัน ฯ
ขุนแผนพอถูกภรรยาปลุกขึ้นให้ทำนายฝัน ก็ลุกขึ้นดูฤกษ์ยามสูรย์จันทร์ แล้วก็รู้ด้วยวิชาในทันทีว่า จะต้องมีเหตุพลัดพรากจากลาวทอง แต่ก็ยังแข็งใจปลอบเมียให้คลายโศก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็นอนไม่หลับ ไปจนเช้าที่ท่านราชามาตย์ นำพวกพระตำรวจมาบุกถึงบ้าน
ฝ่ายราชามาตย์ได้ฟังถาม บอกความขุนแผนเป็นถ้วนถี่ ขุนช้างกราบทูลพระพันปี ว่านายหนีปีนข้ามกำแพงมา
ขุนช้างว่าได้ขัดทัดทาน กลับห้าวหาญหุนหันจะฟันฆ่า โทษนายถึงที่มรณา พระเมตตาว่าตีได้เชียงทอง
ห้ามเฝ้ามิให้เข้าไปวังใน สั่งให้พรากเมียเสียจากห้อง เหตุเพราะว่าผัวตัวลำพอง เมียของท่านเราจะเอาไป ฯ
ฝ่ายสองผัวเมียได้ฟังก็ถึงกับตกตะลึง ด้วยนึกไม่ถึงว่าเพื่อนเรา จะเผาเรือนกันได้ถึงขนาดนี้ แล้วก็ได้แต่คิดเคียดแค้นนายขุนช้าง ยิ่งมากทวีทับถมขึ้นไปกว่าเดิมอีกมากมาย
โอ้กรรมใดหนอมาดลจิต สองคิดเคืองขุ่นไม่สูญหาย ถ้าศึกเสือมาล้างให้วางวาย ถึงจะตายน้ำใจไม่ย่อท้อ
น้อยใจเวรใดมาดลจิต ให้หม่อมพลายวายคิดที่แค้นหนอ มันคนผิดมาแต่หลังยังรั้งรอ ในใจคอพ่อไม่เห็นว่ากริชคด
ทั้งวันทองห้องหอก็หาญหัก ชิงรักริบรวบเอาจนหมด ดังแมงป่องหางงอนช้อนชด บอกพยศกูนี้ไม่มีตรง
พ่อยังไปไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนพ่อเปิดช่องให้สมประสงค์ ทางเตียนฤาไปเวียนเข้าในดง ต่อเดินหลงแล้วจึงรู้ว่าผิดทาง
เข้าตาจนเพราะผลแห่งความสัตย์ เมียจะต้องพรากพลัดไปจากข้าง แสนระทมกรมใจร้องไห้พลาง กลิ้งกลางห้องไห้ไม่สมประดี ฯ
และแล้ว...ในที่สุด ขุนแผนก็ต้องโทษ ออกไปตระเวณด่านห้ามเข้าเฝ้า และลาวทองก็ต้องถูกพรากมาอยู่ในวัง ดังนี้ขอรับ
ฝ่ายราชามาตย์มากลางทาง ลาวทองขี่ช้างสะอื้นอ้อน สองวันคืนหนึ่งถึงพระนคร บ่าวไสช้างย้อนมาบ้านพลัน
ราชามาตย์ก็เข้าไปในวัง ลาวทองตามหลังขมีขมัน พาเข้าเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ผินผันพระพักตร์ชำเลืองมา
เอออีนี่ฤาเมียอ้ายขุนแผน ดูอ้อนแอ้นเอวกลมสมหน้า ผ่องผิวคิ้วคางสำอางตา ติดจะเคียงเข้ามากับเด็กกู
กระนี้ฤาอ้ายขุนแผนจะละเลย ปีนกำแพงแรงเตยไม่หยุดอยู่ เจ้าขรัวนายจงหมายสั่งประตู คอยดูอย่าให้ออกไปนอกวัง
ให้เป็นชาวสะดึงกรึงไหม เจ้าขรัวนายผู้ใหญ่ก็รับสั่ง ให้ลาวทองอยู่ทิมที่ริมคลัง ปักสะดึงกรึงนั่งทุกเวลา
เย็นเช้าเฝ้ารำพึงถึงแต่ผัว ราชการงานตัวก็แน่นหนา ฝากตัวเจ้าขรัวนายทั้งหลายมา อุตส่าห์เจียมตัวกลัวโทษกรณ์ ฯ
และตั้งแต่บัดนั้น ขุนแผนก็ต้องจากบ้านไปผจญภัย ในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลานานพอสมควรทีเดียวแหละขอรับ
แต่ถ้าพ่อแม่พี่น้องจะเคยได้ยินสำนวนคล้องจอง สำหรับเรื่องขุนช้าง-ขุนแผนที่ว่า ตระเวนด่าน - ตีดาบ - ซื้อม้า - หากุมาร แล้วละก้อ พ่อแม่พี่น้องก็จะต้องทราบเป็นอย่างดีว่า ณ ชั่วโมงนี้แล้ว ที่ขุนแผนจะได้งัดเอาวิชาอาถรรพณ์ ที่ได้ร่ำเรียนมาจนหัวแทบผุตั้งแต่บวชเณร มาใช้ได้อย่างคุ้มค่าทีเดียวแหละขอรับ ...
และกระผมขอรับรองว่า...สนุกแน่...
พบกันคราวหน้าขอรับ.
############################## ... ...
|
|
|
Create Date : 17 มกราคม 2551 |
Last Update : 17 มกราคม 2551 19:21:20 น. |
|
7 comments
|
Counter : 794 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มหาสำลี วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:22:14:40 น. |
|
|
|
โดย: ณ กมล วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:0:32:53 น. |
|
|
|
โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.183.231 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:2:24:38 น. |
|
|
|
โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.183.231 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:2:30:17 น. |
|
|
|
โดย: คนสาธารณะ วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:22:59:26 น. |
|
|
|
โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.184.43 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:2:29:25 น. |
|
|
|
โดย: คนสาธารณะ วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:14:49:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ปล. ผมชอบขุนช้างครับ