Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๑๖ เรือนร้อน

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
ตอนที่ ๑๖ เรือนร้อน

จะกล่าวถึงโฉมเจ้าพลายแก้ว
ครั้นผ่องแผ้วแสงสว่างกระจ่างไข
ออกนั่งหน้าโรงพลันทันใด
ขุนนางไทยลาวหมอบนอบน้อมกาย

ปรึกษาเสร็จสงครามตามกระแส
พอนายเวรตำรวจแร่เข้าในค่าย
นั่งลงยิ้มพยักทักทาย
แน่นายมีรับสั่งอย่ารั้งรา

ให้เลิกทัพกลับไปยังกรุงศรี
เจ้าพลายยินดีเป็นหนักหนา
จึงสั่งเพี้ยลาวท้าวพระยา
อยู่รักษาบ้านเมืองให้มั่นคง

พลายแก้วสั่งไพร่ให้ผูกช้าง
แลสล้างกูบดำงามระหง
ข้าวของเงินทองบรรทุกลง
แล้วส่งครัวลาวให้ล่วงมา

ครั้นได้ฤกษ์ให้เลิกโยธี
ฆ้องตีโห่กราวฉาวฉ่า
ยกหมู่พยุบาตรยาตรา
ช้างม้าดาทุ่งเป็นแถวทิว ฯ


พ่อแม่พี่น้องที่เคารพครับ มาแล้วขอรับ..ท่านแม่ทัพใหญ่ชื่อพลายแก้ว..หลังจากเสร็จศึกเมืองเชียงทอง ก็ยาตราทัพกลับกรุงศรีอยุธยาเป็นการเอิกเกริก พร้อมด้วยชัยชนะอย่างงดงาม จนกระทั่งได้เข้าเฝ้าถวายรายงาน ถึงผลของงานพระราชการสงคราม ต่อสมเด็จเจ้าชีวิตพระพันวษา ณ ท้องพระโรงชัย

ทีนี้พอถึงตอนเสด็จออกทีไร กระผมก็อดไม่ได้ซักที ที่จะต้องยกกระบวนกลอนอันงดงามมาเล่าสู่กันฟังทุกทีเลยขอรับ

จะกล่าวถึงพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์
สถิตยังปรางค์มาศปราสาทโถง
ครั้นสุริยาสูรย์ส่องขึ้นสองโมง
เสด็จออกท้องพระโรงรจนา

นางในห้ามแหนแน่นเนื่อง
เชิญเครื่องแห่ห้อมมาพร้อมหน้า
เสด็จประทับพระแท่นแผ่นศิลา
เสนาประนมบังคมคัล

เสียงประโคมครื้นครึกกึกก้อง
พิณพาทย์ระนาดฆ้องกลองสนั่น
เป่าสังข์กระทั่งแตรแจจัน
พระทรงธรรม์ประภาษราชการ

ทุกตำแหน่งแถลงความไปตามเรื่อง
มิให้เคืองบาทมูลที่ทูลสาร
มหาดเล็กอ่านถวายรายงาน
พระสำราญฤทัยไพบูลย์ ฯ


ท่านขุนนางผู้ใหญ่จึงได้กราบบังคมทูลว่า เมื่อเดิมก็ได้มีกองทัพจากเมืองเชียงใหม่มาตีเมืองเชียงทองอันเป็นเมืองในพระราชอาณาเขต แต่เจ้าเมืองสู้ไม่ไหวจึงได้ยอมอ่อนน้อม แต่ก็ได้มีใบบอกขอความช่วยเหลือมายังกรุงศรี ฯ จึงโปรดเกล้า ฯให้นายพลายแก้ว ผู้บุตรขุนไกรพลพ่าย ถืออาญาสิทธิ์ นำทัพกรุงศรีอยุธยาสมทบกับกองทัพจากเมืองกำแพง ระแหง เถิน กระหนาบกับกองทัพเชียงทอง เข้าโจมตีกองทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไปด้วยพระบารมี ได้ครอบครัววัวควายอาวุธเสบียงอาหาร ส่งเข้ามาในกรุงตามบัญชีถวายดังนี้ สมเด็จพระพันวษาก็ทรงพึงพอพระทัยเป็นที่ยิ่ง

ครั้นแล้วก็ทรงสั่งให้มีการสอบสวนทวนพยาน จนเจ้าเมืองเชียงทองร่ำ ๆ จะหัวขาดเพราะข้อหาไปเข้าด้วยเชียงใหม่

แต่พลายแก้วก็ช่วยแก้แทนให้ว่าครั้นเมื่อทัพศรีอยุธยา รุกเข้าไปยันทัพเชียงใหม่ซึ่งล้อมเมืองเชียงทองอยู่นั้น ทางฝ่ายในเมืองก็ได้มีการประสานงานด้วยเป็นอย่างดียิ่ง และเมื่อนัดแนะกันกระหนาบโจมตีทั้งสองด้าน กองทัพเชียงทองก็ได้เข้ารบพุ่งอย่างเข้มแข็งเต็มกำลังทั้งนายไพร่ สมควรจะหักลบกลบโทษกันไปได้

สมเด็จพระพันวษาก็ทรงเห็นชอบด้วย แล้วจึงพระราชทานยศและรางวัล แก่ทั้งนายไพร่ที่ไปทัพจนถ้วนทั่วทุกตัวคน

ส่วนพ่อพลายแก้วของเราก็ได้รับพระราชทานบำเหน็จดังนี้ขอรับ

ครานั้นพระองค์ได้ทรงฟัง
จึงดำรัสตรัสสั่งพระหมื่นศรี
ประทานของต้องตามความชอบมี
เจียดกระบี่เสื้อใส่ได้ประทาน

ตัวอ้ายพลายให้ตั้งเป็นขุนแผน
อยู่รักษาเขตแดนที่ปลายด่าน
คุมไพร่ห้าร้อยคอยเหตุการณ์
แล้วประทานเรือยาวเก้าวา ฯ


กระผมก็เพิ่งทราบเหมือนกันนะขอรับว่า เครื่องยศตำแหน่งขุนแผน นี้ มี เรือยาวเก้าวา ด้วย ?

ขุนแผน (ต่อไปนี้กระผมจะเรียกตามยศของพ่อพลายแก้วนะขอรับ) ก็พาลาวทองกับสองพี่เลี้ยงนั่งเรือยาวพระราชทาน กลับบ้านที่สุพรรณ ฯ

ตรงนี้มีความแสบของพ่อขุนแผน ที่อยากจะบันทึกไว้ ให้พ่อแม่พี่น้องหมั่นไส้เล่นดังนี้ขอรับ

คือ...

พาเจ้าลาวทองสองพี่เลี้ยง
นั่งเรียงมาในเรือที่นอนนั่น
ออกเรือจากท่ามาด้วยกัน
โยนยาวฉาวลั่นสนั่นมา

พระจันทร์ทรงกลดหมดเมฆ
ดูวิเวกในระหว่างกลางเวหา
ดาวดาษกลาดพร่างสว่างตา
ต้องหน้าลาวทอง ละอองนวล…


แต่......


พระพายชายมาเวลาดึก
รำลึกถึง พิมน้อย ละห้อยหวน
ป่านฉะนี้แก้วพี่จะคอยครวญ
ฤารัญจวณเจ็บไข้ก็ไม่รู้...


ดู๊...ดูมัน..ดูพ่อเจ้าประคุณขุนแผนเขาสิขอรับ พ่อแม่พี่น้อง...กระผมยังงี้ ……… อื๊อย์ย์ย์...พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริง ๆ ขอรับ...

พอบรรลุถึงบ้านที่สุพรรณก็จอดเรือไว้ที่หน้าบ้าน แม่สายทองเห็นเข้าก็ดีใจรีบไปบอกแม่วันทอง ว่าแม่วันทองจ๋าาาา...พ่อแก้วมาแล้ว มาเรือกัญญาโอ่อ่าเชียวสงสัยจะได้เป็นขุนนาง

แม่วันทองก็ดีใจเป็นอันมากรีบถลาออกไป พอพบกันก็ร้องไห้เสียมากมาย ขุนแผนก็ถามว่าเป็นอะไรหรือ แม่วันทองก็เล่าความให้ฟัง คือฟ้องเสียจนหมดไส้สิ้นพุงว่าอยู่ทางนี้ก็เปลี่ยวเหงาเหลือเกินแล้วอยู่มาวันหนึ่ง อ้ายช้างก็เอา กระดูก ห่อผ้าขาว มาให้แม่ดูว่า พ่อแก้วไปแตกทัพถูกลาวแทงตายที่เชียงทอง น้องก็ยังไม่เชื่อยังรบเร้าให้แม่พากันไปดูต้นโพธิ์อธิษฐานที่ปลูกไว้ พอไปเห็นเข้าก็แทบเป็นลม....ไม่ทราบว่าเกิดอาเพศอะไร ทั้งต้นทั้งใบเหี่ยวเฉา น้องก็ยิ่งใจฝ่อ แต่ก็ยังไปหาหลวงตาจูให้ช่วยทำนาย ท่านก็ยังบอกว่า พ่อแก้วยังรอด แต่น้องก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงกังวลเสียจนเจ็บไข้ หลวงตาก็บอกให้เปลี่ยนชื่อเป็น วันทอง ก็เลยค่อยยังชั่วขึ้น

ทีนี้อ้ายขุนช้างก็ยังตามรังควานไม่เลิก มันมายุแม่ว่าหากหญิงใดผัวตายกลางศึก ต้องให้ยกเป็นหม้ายหลวง นอกเสียจากว่าจะแต่งงานใหม่ แม่ศรีประจันก็เลยจะจับน้องแต่งงานกับอ้ายช้าง แถมยังรื้อเอาเรือนหอของเราไปถวายวัดเสียอีก แต่นี่น้องก็ถ่วงเวลามาถึงเจ็ดวันแล้ว ก็ยังไม่ยอมเข้าหอกับมัน ผลก็คือ โดนแม่เฆี่ยนเสียยับไปทั้งตัว ว่าแล้วก็ปลดสไบให้ดูหลังไหล่ซึ่ง
"ยับย่อยเป็นรอยทั่วอินทรีย์" ให้สามีดู

ขุนแผนได้ฟังดังนั้นก็แน่ละขอรับ แม้ว่าจะซึ้งน้ำใจเมียที่อุตส่าห์อดทนรอผัว แต่ก็ต้องโมโหเสียจนแทบจะแล่นไปฆ่าขุนช้างเสียใน ณ บัดนั้นเอง รวมทั้งโมโหกราดไปจนถึงแม่ยาย มหาภัยด้วย ก็ปึงปังจะพาบ่าวไพร่ไปล้อมบ้านขุนช้างในทันทีนี้

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ ถ้าเพียงแต่เป็นแม่วันทอง เป็นคนห้ามผัว ก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกขอรับ แต่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ที่นั่งอยู่ในกัญญาเรือ ได้ยินเสียง ซะมี ตัวเองกำลังอาละวาด ทำท่าหุนหันพลันแล่นจะไปฆ่าใครเขาก็ยังไม่รู้ ก็เลยหวังดีแหวกโผล่ออกมา กะจะห้ามทัพ

เธอคนนั้นคือ ลาวทอง ผู้แหวกม่านออกมา ประจันหน้ากับแม่วันทองพอดี ขอรับ...!

พอแม่วันทองแลเห็นสาวแปลกหน้า แหวกม่านกัญญาเรือออกมาครั้งแรก ก็คงจะ รู้สึกงง ๆ อยู่เหมือนกันนะขอรับ แต่พอได้ยินแม่ลาวทองมาเจ้ากี้เจ้าการ ห้ามขุนแผนไม่ให้ วิ่งไปฆ่าขุนช้าง แถมระบุตัวเองเสียด้วยว่าเป็น เมีย เท่านั้นแล...ความหึงก็ค่อย ๆ แล่นปราดขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ ทีเดียวเจียวแหละขอรับ.....

จึงถามซึ่ง ๆ หน้า เป็นการประกาศสงคราม ไปเลยว่า...

นี่เมียหม่อมฤาเจ้าจอมผู้หญิงไหน
จึงตามไต้กระทั่งตอจนคอหัก
ฤาพี่น้องของหม่อมสะพร้อมพรัก
ฤาลักลูกลาวตกได้กลางทาง ฯ


ขุนแผนก็รีบออกตัวว่า น้องเอ๋ย ใจเย็น ๆ นี่เมียพี่อยู่ทีบ้านจอมทอง พ่อแม่เขาสำนึกในบุญคุณของกองทัพไทย ที่ไปช่วยบ้านเขาให้รอดพ้นอันตราย เขาก็เลยยกให้มาเลี้ยงดู นี่ก็ตั้งใจว่าจะให้มาไหว้แม่พิมก่อน แม่ก็อย่าได้โมโหโทโสไปเลย

โธ่...พ่อแม่พี่น้องขอรับ อย่างแม่วันทองน่ะหรือขอรับ... ได้ยินอย่างนี้แล้วจะสงบแต่โดยดี..มันก็ไอ้เหมือนกับเอาน้ำมันไปราดกองเพลิงเราดี ๆ นี่เองแหละ รายการเสียทองท่วมหัว ฯลฯ ก็จึงปะทุขึ้นในบัดดล

เถอะคะหม่อมเท่านั้นก็งามหน้า
หาปรารถนาจะเอาไหว้ของใครไม่
ลงมาตั้งหน้ามาเมื่อไร
ซึ่งได้ชู้เมียก็ไม่รู้

มาบอกผัวด้วยตัวนั้นเกิดความ
ฤามาล่วงหยาบหยามให้เคืองหู
วิ่งมาวุ่นวายน้ำลายพรู
ฤาฟังดูเห็นชอบเป็นขอบคัน

ถ้อยคำร่ำห้ามเป็นครามทา
มันงามหน้าอยู่แล้วฤาไรนั่น
เป็นความแคลงแย้งว่าสาระพัน
คมสันเหน็บแนมให้แหลมความ ฯ


ฝ่ายแม่ลาวทองพอโดนเหน็บเข้าไปบ้าง ก็ชักเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาเหมือนกัน เลยลอยหน้าตอบไปว่า

มิห้ามไว้ไหนเธอจะหยุดเล่า
เพราะเห็นเจ้าฮึกใหญ่ไม่ราถอย
เห็นไฟลุกฟืนซุกเสือกตะบอย
ทิ้งฝุ่นฝอยเข้าไปหนุนทั้งดุ้นแดง

ที่ไม่ปรารถนาจะรับไหว้
มิใช่ว่าคนชั่วอีหัวแขง
ผัวสั่งตั้งใจจะจัดแจง
ใช่จะแกล้งว่าไหว้จะเสียมือ

พอวุ่นวายเข้าด้วยกันไม่ทันไหว้
ข้าเป็นลาวชาวไพรประสาซื่อ
ไม่หยั่งรู้ตื้นลึกรึกรื้อ
ชื่อเสียงหม่อมเมียนั้นชื่อใด

แต่ถ้าหลังรู้มั่งว่าเมียมี
จะจัดของดีดีลงมาให้
ตามประสาชาวดงอยู่พงไพร
ทั้งเนื้อไม้กฤษณาแลงาช้าง ฯ


มาแล้วขอรับ ช้าง เชือกแรกแล้ว มาแต่ งา ก่อน ฟังดูดี ๆ นะขอรับทีแรกก็เปรียบเปรยกันเบา ๆ ก่อน ค่อย ๆ คิดลึก ๆ ไว้ขอรับ บทนี้

แม่วันทองก็สวนควันเปรี้ยงเข้าให้

ชิชะถ้อยคำอีลาวดอน
แง่งอนไม่น้อยร้อยภาษา
งาช้างเนื้อไม้เอ็งได้มา
กูจะเกณฑ์ช้างงาออกไปรับ

เจ้าลาวทองก็มิต้องลงเดินดิน
จะให้ขึ้นแคร่บินมาหยับหยับ
ให้เขาชมโฉมนางอยู่กลางทัพ
ผลัดกันรับคานหามมาตามทาง

จึงจะสมสกุลคุณจอมทอง
ด้วยยศศักดิ์บ้านช่องท่านกว้างขวาง
จะจัดแจงข้าวปลาไว้ท่านาง
พอวางแคร่จะได้แร่เข้าทันควัน...

แล้วอ้ายที่แสบก็คือ...

...หน้าเปรี้ยวตละเคี้ยวตะลิงปลิง
มาชักชิงดุ้นไฟไปชุบน้ำ...

และ……

...มิใช่ไม้ปักเลนเอนคลอนแคลน
เจ้าเป็นดินเหนียวแน่นอยู่ยังค่ำ
เสาประโคนโยนลงสักเก้ากำ
เล่นเอาหม่อมพลายพลำลงทั้งยืน

ถ้าหาไม่ที่ไหนจะอาจมา
ทีนี้อยุธยาจะเป็นคลื่น
จะลือเล่าข่าวกันทุกวันคืน
หญิงอื่นไม่เหมือนทั้งแผ่นดิน

ร้อยบ้านพันเมืองไม่เหลือหลอ
จะชมปรออยู่แต่นางคนนี้สิ้น
อย่าว่าแต่มนุษย์ที่เดินดิน
ถึงพระอินทร์ก็คงจะลงมา ฯ


น่าน...ว่ากันถึงขนาดบนฟ้าบนสวรรค์เลยทีเดียวแหละขอรับ
อย่างนี้ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้เขาต้องอุทานออกมาว่า...คิดได้ไง...?!

ข้างฝ่ายแม่ลาวทองก็ไม่น้อยหน้า แต่ดูเหมือนเธอจะวนเวียนอยู่กับเรื่องแถว ๆ บ้านเธอนั่นแหละขอรับ ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายตรงข้ามเขาไปเชิญเสด็จพระอินทร์มาแล้ว
แต่ก็ไม่เบาทีเดียวแหละขอรับ..

ล้างน้ำตากแดดเสียให้สิ้น
เพราะพืชดินเหลวคว้างเป็นยางหนับ
ข้าขอบใจที่จะให้เอาช้างรับ
ข้ากับหม่อมพลายไม่มีช้าง... ฯ


เออ...อะไรกันหนอ...จึงได้ว่ากล่าวร้ายกันปานฉะนี้...
ไม่ได้มีไมตรีให้แก่กันและกันบ้างเชียวหรือ...ใจร้ายจังเลย...

ตกลงแล้ว กระผมก็ยังงงอยู่เลยว่า ยุทธโอษฐ์ ที่เขากำลังโรมรันพันตูกันอย่าง ถึงพริกถึงขิงนี้ ฝ่ายหนึ่งอยู่ในเรือ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งอยู่บนบ้าน แต่เพราะเหตุใดจึงได้ ขึ้นช้าง ขึ้นม้า กันได้อุตลุดจะปานนั้น

แล้วก็ว่าต่อไปว่า...

นี่วันทอง สำรอง ไว้กล่นเกลื่อน
รื้อเรือน ปลูกใหม่ให้กว้างขวาง
แต่ล้วนซับมันบ้างงากางกาง
ช้างคนช้างจริงทุกสิ่งมี ฯ


พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ กระผมว่า มวยฟรี ในรายการนี้ พวกที่จะเชียร์มันที่สุด ก็น่าจะเป็นพวก ฝีพายเรือยาวเก้าวา พระราชทานของพ่อขุนแผน ที่ได้ชมมหรสพประเภทที่เรียกได้ว่า ปากตลาดเรียกพี่ นั่นแหละขอรับ...

กระผมเองก็จะขออนุญาตเป็นพวกเดียวกับ ฝีพาย บ้างนะขอรับ เชียร์ สงครามนางสิงห์ จนคอแห้งแล้ว......คราวหน้าสนุกกว่าเดิมแน่ เนื่องจากจะมี มวย ระหว่าง วันทอง ลูกเจ้าแม่ศรีประจัน กับ ลาวทอง จอมทองพาหุยุทธ ใครจะต่อจะรองใครก็ตามแต่อัธยาศัยนะขอรับ...

แล้วพบกันขอรับ.

สำหรับคราวนี้ต้องขออภัย ที่แยกออกเป็นหลายท่อน เพราะทางพันทิปเขาว่ามีคำไม่สุภาพ แต่หาไม่เจอ จึงต้องเอามาแปะทีละหน้า กว่าจะสำเร็จก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงเชียว ขอรับ.

##############################

...
...




Create Date : 04 มกราคม 2551
Last Update : 7 มกราคม 2551 2:27:51 น. 5 comments
Counter : 1278 Pageviews.

 
หายหน้าไปพักใหญ่ "พ่อพลาย" หลายเมียซะแล้ว --"


โดย: พจนารถ๓๒๒ วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:16:02:47 น.  

 
อะชู่ว์. . .

พลั้งปาก ซะงั้น ได้ยังไง
แล้วอย่า อึง ไปนะ

ขอรับ.

แฮ่. . .


โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.188.38 วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:17:59:18 น.  

 
สวัสดีปีใหม่เจ้าค่ะ..

ขอให้มีความสุขมากๆนะเจ้าคะ..


โดย: ขอแค่คิดถึง.. IP: 124.120.63.142 วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:20:30:48 น.  

 
คุณ ขอแค่คิดถึง

สวัสดีปีใหม่ เช่นกัน ค่ะ

ขอให้ มีความสุข
ขอให้ มีความหวัง
ขอให้ มีความงาม
แล ขอให้ มี ความรัก

เจ้าค่ะ.


โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.191.118 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:15:53:22 น.  

 


โดย: เเบล IP: 203.113.17.173 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:03:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.