Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
5 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 

พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๒๗ สู้

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
ตอนที่ ๒๗ สู้

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ หลังจากที่ขุนแผนกับนางวันทอง หนีพ้นเงื้อมมือของขุนช้างและพรรคพวกไปอาศัยอยู่ที่ บ้านละว้า แล้วนายขุนช้างก็รีบเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา เพื่อทูลฟ้องใส่ความขุนแผนต่อสมเด็จพระพันวษาให้ทรงทราบทันที

เดิมทีข้าพเจ้ากับวันทอง
หลับอยู่ในห้องเมื่อยามสาม
ผู้ร้ายสะกดโกนหัวเลือดไหลทราม
เอามินหม้อเขียนปามจนตัวลาย

ม่านงามงามสามชั้นหั่นลงกอง
ข้าวของเงินตราก็สูญหาย
รอยสายสิญจน์วงเรือนไว้รอบราย
บัตรพลีมากมายศาลเพียงตา

วันทองภรรยาก็หายไป
ข้าพเจ้าบ่าวไพร่ออกตามหา
ไปพบขุนแผนกับอาชา
พาวันทองภรรยาอยู่ร่มไทร

ขุนแผนคุมโจรไว้หลายร้อย
ซุ่มคอยกระโจมโถมไล่
ฟันพวกไพร่ตายกระจายไป
จับได้ข้าพเจ้าเอาตัวตี

เฆี่ยนด้วยหนามหวายลายจนคอ
แล้วพูดจาท้าต่อไปอึงมี่
ว่าฆ่าเสียลับไปไม่สู้ดี
ถ้าปล่อยไปกรุงศรีจะยืดยาว

มาตรแม้นพระองค์เสด็จไป
จะชนช้างชิงชัยให้ลือฉาว
ชิงเอากรุงไกรได้เป็นจ้าว
ว่ากล่าวหยาบช้าสามานย์

มันปลูกตำหนักป่าพลับพลาแรม
ค่ายป้อมล้อมแหลมเป็นหน้าฉาน
ตั้งที่ลงบังคน ชอบกลการ
นานไปจะเกิดกลีเมือง ฯ


น่าดูไหมขอรับ พ่อแม่พี่น้อง อย่างนี้เขาเรียกว่า ความสลึง เล่าบาท นะขอรับ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่ง ในคำใส่ความของขุนช้างนะขอรับที่ว่าเป็นกบฎ ตั้งค่าย ท้ารบ หรืออะไรนั่นก็ยังพอสมเหตุสมผลที่ยกมาอ้าง โดยหวังจะให้สมเด็จพระพันวษาทรงพระพิโรธ แต่ที่อ้างว่าขุนแผน ตั้งที่ลงบังคน หรือ สร้างส้วมโดย พลการนี่สิขอรับ คือในธรรมเนียมสมัยโบราณนั้น มันผู้ใด สร้างห้องส้วม เทียมเจ้าเทียมนาย ให้ถือว่าเป็นกบฎเชียวหรือ ก็นับว่าเป็นธรรมเนียมที่น่าแปลกดีนะขอรับ

แต่สมเด็จพระพันวษาก็มิได้ทรงเชื่อถือในถ้อยคำของขุนช้างเสียทั้งหมดหรอกขอรับ

ครานั้นสมเด็จพระพันวษา
ทรงตรึกตรานึกความไปตามเรื่อง
เหม่เหม่อ้ายขุนแผนทำแค้นเคือง
แต่ยักเยื้องอยู่กระไรอ้ายขุนช้าง

เท็จจริงอย่างไรมิได้เห็น
จะเป็นเหมือนมันว่าก็ผิดอย่าง
เกิดรบพุ่งกันที่กลางทาง
จริงบ้างเท็จบ้างกูคิดดู

อ้ายขุนแผนพาเมียไปจากข้าง
อ้ายขุนช้างตามไปมันต่อสู้
อ้ายขุนแผนกล้าดีมีความรู้
อ้ายขุนช้างเหมือนปูจึงย่อยยับ

ต่อจะวิ่งกระเจิงเข้าเซิงหวาย
ใส่ร้ายเอาว่ามันเฆี่ยนขับ
ฟังความข้างเดียวเห็นเลี้ยวลับ
จึงตรัสกับจมื่นศรีจมื่นไวย ฯ


ตรัสแล้ว ก็ทรงโปรดให้ จมื่นศรีเสาวรักษ์ราช และ จมื่นไวยวรนาถ เกณฑ์คนไปถึงห้าพันคน มี ขุนเพชรอินทรา และ ขุนรามอินทรา (ไม่ใช่แถววัดลาดปลาเค้านะขอรับ) เป็นปีกซ้ายขวา ไปดูให้รู้แจ้ง และบอกมันให้รู้ด้วยว่า กูให้มันกลับเข้ามาดี ๆ ดีกว่า แล้วจะตัดสินชำระความให้ทั้งสองจมื่นก็รับพระราชโองการ

กองทัพห้าพันสำหรับจับกบฎที่มีคนสองคนกับม้าหนึ่งตัว ก็ไชโยโห่ฮิ้ว เคลื่อนพลออกจากกรุงศรีอยุธยามาจนถึง สามโก้ ท่าโพธิ์ และ ท่าต้นไทร ที่ขุนแผนเคยปะทะกับทัพละว้าของขุนช้างก็เห็นร่องรอยและศพไพร่พลของขุนช้างเกลื่อนทุ่งไปหมด

แต่พอเห็นรอยม้าเข้าดงไปท่านจมื่นศรีก็ให้ยกทัพตามไปจนถึง จระเข้สามพัน ตานี้ผีพรายของขุนแผนเห็นกองทัพมามากมายก็รีบเข้าไปบอกให้นายรู้ แม่วันทองก็กลัวอีกตามเคย ส่วนขุนแผนนั้นมิได้หวาดกลัวเลยจะกลับขำเสียด้วยซ้ำไป ที่เห็นกองทัพแห่กันมาจับตนคนเดียวมืดฟ้ามัวดินขนาดนั้น
กลับสาธยายมนตร์ นะจังงัง แล้วขึ้นม้าพาวันทองออกกรายเล่นราวกับเป็นประธานในพิธีตรวจพลสวนสนามฉะนั้น

รับนางขึ้นนั่งบนหลังม้า
ขับสี่หมอกออกมาจากไพรสณฑ์
แกล้งชักม้าผ่านหน้าบรรดาพล
สองคนขี่ม้าสง่างาม

ภูตพรายรายล้อมมาพร้อมหน้า
อ่านคาถาเป่าไปให้คนขาม
สีหมอกเดินออกด้านขุนราม
เป่าจังงังให้คร้ามขยาดฤทธิ์

พลปืนพลหอกออกเกลื่อนกลาด
ยืนนิ่งพิงพาดเป็นอกนิษฐ์
ครั้นออกมานอกที่ล้อมชิด
ขุนแผนสะกิดให้นางดู

โน่นแน่ะผัวนางอยู่ช้างกูบ
อวดรูปงามเกลี้ยงจนเพียงหู
ศรพระยาขี่คอรำขอชู
ช่างกรูกันมาตามทั้งสามล้าน ฯ


ตกลงว่า ห้าพันคน แต่ สามล้าน นะขอรับ และก็นับว่าพ่อขุนแผนเรานี้แน่จริง ๆ นะ ขอรับ และถ้าเป็นหลักจิตวิทยาในสมัยใหม่นี้ ก็คงต้องเรียกว่าสะกดจิตฝูงชน นั่นแหละขอรับ เพราะในระหว่างที่กรายม้าอยู่นั้นทุกคนในกองทัพพากันนิ่งสงบเป็น อกนิษฐ์ หรือพรหมลูกฟัก ที่อยู่นิ่ง ๆ กันหมดเลย

จากนั้นก็ซ่อนแม่วันทองไว้ในป่าอีกครั้งหนึ่ง จัดการเสกหุ่นพยนต์ซุ่มไว้ แล้วตัวเองก็ออกมายืนม้าอยู่หน้ากองทัพอย่างอาจหาญ

บัดนั้น ท่านจมื่นศรีเห็นขุนแผนออกมาแสดงตนดังนั้น ก็แจ้งข้อหาตามที่ขุนช้างกล่าวหา แล้วประกาศพระราชโองการให้ขุนแผนทราบดังนี้ขอรับ

บัดนี้พระองค์ผู้ทรงเดช
ทราบเหตุทรงนึกอางขนาง
ข้อที่ทำทุจริตผิดท่าทาง
ยังคลางแคลงพระทัยจึงใช้เรา

ให้มาสืบดูที่อยู่ก่อน
ถ้าเห็นแท้แน่นอนให้จับเจ้า
ถ้าไม่ต้องฟ้องหาก็ทำเนา
ให้รับเจ้ากับตัววันทองไป

เกี่ยวข้องหมองกันด้วยสัตรี
จะปรึกษาคดีตัดสินให้
ซึ่งฆ่าคนขุนช้างเสียกลางไพร
ก็โปรดให้ไม่เอาซึ่งโทษทัณฑ์

คำขุนช้างทูลกับเราดู
ไม่เห็นสิ่งไรอยู่เป็นแม่นมั่น
เจ้าอย่ากลัวภัยไปด้วยกัน
วันทองอยู่ไหนไปเอามา ฯ


ขุนแผนก็บอกว่า คุณพระนายขอรับ เรื่องของกระผมมันเป็นแค่เรื่องส่วนตัว เมียกระผมถูกอ้ายขุนช้างมันมายื้อยุดไป กระผมก็ไปเอาคืนมา แต่อ้ายขุนช้างมันก็ไม่ยอม มันยกผู้คนตั้งห้าร้อยมารายล้อมจับ กระผมก็ต้องป้องกันตัวไปตามเพรง พวกมันสู้กระผมไม่ได้เอง ก็แตกพ่ายไป แล้วยังไปโกหกโกไหว้เพ็ดทูลฟ้องพระเจ้าอยู่หัว กระผมว่าเอายังงี้ก็แล้วกันขอรับ..เชิญคุณพระนายกลับไปก่อน แล้วกระผมจะตามไปมอบตัวทีหลัง ยังไงคุณพระนายก็ช่วยกรุณากราบบังคมทูลล่วงหน้าให้กระผมด้วยก็แล้วกันขอรับ

แต่ท่านจมื่นศรีก็ไม่ยอม บอกว่าทำอย่างไรได้เล่าขุนแผนเอ๋ย ก็ท่านมีพระราชโองการให้แกไปพร้อมกับฉัน ขุนแผนก็บอกว่า ถ้างั้นก็เสียใจด้วยนะขอรับ กระผมสู้ตายละ

พระหมื่นศรีหมื่นไวยครั้นได้ฟัง
โกรธสั่งรี้พลสิ้นทั้งหลาย
เหวยกองทัพจับเป็นอย่าให้ตาย
ไพร่นายปืนหอกออกประดา

ให้ยิงปืนตับสำทับโห่
ขุนแผนโผล่ตีฆ้องร้องเอาหวา
หอกดาบวาบแวบแปลบปลาบตา
ขุนแผนแสนกล้าก็อ่านมนตร์

เสกซ้ำตวาดอำนาจครุฑ
คนหยุดยืนแข็งแสยงขน
ชักสีหมอกไว้ไม่ประจญ
กูทำก่อนจะเป็นคนทรยศ ฯ


นี่แหละครับก็คือ สปิริต หรือ อนุสติที่แท้จริงของข้าทหารที่ยังมีความจงรักภักดีเป็นล้นพ้นต่อพระเจ้าอยู่หัวและน้ำพระพิพัฒน์สัตยา แต่ขุนเพชรขุนรามปีกซ้ายขวาสิขอรับ กลับอยากดีอยากเด่น จึงไสช้างออกมาข้างหน้าทหารทั้งปวง แล้วด่าประจานลำเลิกขุนแผนเสียมากมาย

สาหัสขัดขืนพระโองการ
เอิบเอื้อมจะผ่านไอศวรรย์
เชื่อว่าตัวดีมีฤทธิ์ครัน
ถึงจะได้ขอบขัณฑเสมา

ใครเลยเฮ้ยเขาจะไหว้มืง
เขารู้ถึงว่าไม่สมวาสนา
กูรู้จักพ่อแม่แต่ไรมา
พ่อเอ็งชื่อว่าอ้ายขุนไกร

แม่เอ็งอีเฒ่าทองประศรี
ปีนั้นไปล้อมกระบือใหญ่
พระทรงภพฆ่าฟันให้บรรลัย
ตัดหัวเสียบไว้ที่กลางดอน

ริบสิ้นทั้งโคตรญาติกา
ตัวเอ็งแม่พาไปเร้นซ่อน
ซอนซอกออกจากพระนคร
ย้อนไปอยู่บ้านกาญจน์บุรี

เอ็งอยู่กับอีเฒ่าเขาชนไก่
บวชที่วัดส้มใหญ่ไอ้ขี้หนี
ได้ดีมิทันจะถึงปี
หลบหนีมาคิดขบถได้ ฯ


ขุนแผนพอได้ยินกล่าวถึงบิดามารดาเสีย ๆ หาย ๆ เช่นนั้น ก็ฉุนขาด (เป็นใครโดนเข้าอย่างนี้ก็ต้องโมโหแหละขอรับ) จึงขับหุ่นพยนต์เข้าต่อสู้ด้วยฤทธิ์มนตร์

ว่าพลางทางร่ายพระคาถา
เรียกหุ่นหนุนมาเป็นหมู่หมู่
ออกจากดงรังสะพรั่งพรู
โห่ร้องก้องกู่เป็นโกลา

ขุนแผนขับม้าเข้าถาโถม
จู่โจมห้ำหั่นฟันทัพหน้า
พวกหุ่นวิ่งกลมดังลมพา
แซงสองข้างม้ามาทันใด

ฤทธิ์มนตร์บนฟ้าเวหาพยับ
มืดกลุ้มคลุ้มคลับสะท้านไหว
แผ่นดินดังจะคว่ำคะมำไป
เพราะพระมนตร์ดลให้บันดาลเป็น ฯ


จนกระทั่ง...

...จนสิ้นสุดอาวุธแลศาสตรา
พวกอาสาย่นแยกแหลกกระจุย...

และแล้วก็ถึงฆาตของสองขุนปากพล่อยละขอรับ

ขุนรามแทงกรอกด้วยหอกใหญ่
ถูกไหล่ไม่ถนัดสะบัดหัน
ขุนแผนถาโถมเข้าโรมรัน
ฟันขุนรามตกช้างลงกลางดิน

โดดจากหลังม้าฟาดบ่าฉับ
ล้มพับฟันว้ำคะมำดิ้น
ขุนรามสิ้นใจเลือดไหลริน
สิ้นคนหนึ่งแล้วอ้ายตัวการ

ขุนเพชรอินทราเข้ามาช่วย
ชักหอกกรอกกรวยเข้าต่อต้าน
แทงอกขุนแผนแสนสะท้าน
อยู่ยงคงปานกับเหล็กเพชร

ขุนแผนโผนขึ้นช้างง้างคอฟัน
ฉะฉาดขาดสะบั้นดังมือเด็ด
ดาบล้วนเลือดฝาดเหมือนชาดเช็ด
กลับขึ้นม้าระเห็จมากลางทัพ ฯ


ซึ่งก็สมควรอยู่หรอกครับ ที่อยากปากเสีย ไปขุดโคตรเหง้าศักราชเขามาด่าเสียป่นปี้หมด นะขอรับ แล้วกองทัพหลวงของกรุงศรีอยุธยา ก็แตกพ่ายไปตามที่พวกเราคาดคิดกันไว้ไม่มีผิด พอกองทัพกระเจิงไปหมดแล้ว สองคนนั่นก็ยังใจเย็น พักผ่อนกันอยู่ได้ไม่รู้ร้อนรู้หนาว คราวนี้ขอชมสัตว์ป่าบ้างละขอรับ

รวยรื่นสุริยาระยับไม้
ไขสียอแสงลงอ่อนอ่อน
จัตุบาทคลาดคลาพนาดอน
ฝูงกุญชรเข้าชัฏระบัดพง

นำโขลงคลาเคลื่อนมาคล่ำคลาย
ทั้งพังพลายเนียมนิลดูระหง
โคบุตรสังขทันต์คันทรง
อำนวยพงศ์สุประดิษฐ์ตระหง่านงาม

ชาติเชื้อเนื้อเกิดในป่าต้น
เอกทันต์ทอกทนต์พินายหลาม
สีดอเดินเกริ่นโกรกตะโกรงตาม
ค่อนข้ามขอนขัดตะโคงคุ้ย

พยัฆาหมายฉมันเขม้นหมอบ
กระโชกหอบโฮกดินกระจุยฉุย
ฉมันแล่นโลดโดดกระจุย
ตะกุยคุ้ยควบขึ้นบรรพต

เยียงผาโผผกตกชะงัก
น้ำลายเลียถูกหักก็หายหมด
กระบือเถื่อนเขางอนดูอ่อนชด
กระเจิงจดจำกลิ่นสะบัดเกลียง

สกุณามารังระงมร้อง
แซ่ซ้องปักษาประสานเสียง
ปันป้อนผ่อนเหยื่อขยับเคียง
ส่งเสียงลอยลมระงมไป

ชะนีน้อยเหนี่ยวไม้พิไรโหย
วิเวกโวยโยนเล่นเห็นไสว
จังหรีดกรีดกริ่งที่กิ่งไทร
เรไรหริ่งรับดังขับร้อง ฯ


ฟังดูพ่อขุนแผนแกชมไพรกับเมียแล้ว ไม่เหมือนกับว่าแกเพิ่งผ่านศึก และเพิ่ง ฆ่าคน มาหยก ๆ นี่เลยนะขอรับ

ฝ่ายท่านจมื่นศรี พอกลับเข้ากรุง ก็รีบถวายรายงานสมเด็จพระพันวษาไปว่า ขุนแผนมิได้เป็นกบฎตามที่ขุนช้างกล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่มีเรื่องส่วนตัวกับขุนช้างเกี่ยวกับการแย่งเมียกัน ก็เท่านั้นเอง รวมทั้งเรื่องของขุนเพชร ขุนราม ที่ไปด่าพ่อด่าแม่เขาจนขุนแผนเกิดโมโหด้วย

ขุนช้างยกทัพขับพล
ปะกันที่ต้นพระไทรใหญ่
สั่งไพร่ไล่ฟันให้บรรลัย
ขุนแผนขัดใจจึงตอบตี

ฝ่ายว่าขุนเพชรกับขุนราม
หยาบหยามไม่ว่าให้ต้องที่
ลำเลิกเบิกกล่าวยาวรี
ว่าขุนแผนทำกระลีลักวันทอง

มิหนำซ้ำว่าทรยศ
เป็นขบถคดโท่ทำจองหอง
ลำเลิกถึงโคตรปราณเป็นหว่านกอง
ว่าพ่อของเอ็งชื่ออ้ายขุนไกร

แม่เอ็งชื่ออีเฒ่าทองประศรี
เอ็งหนีไปบวชวัดส้มใหญ่
พ่อเอ็งตายโหงเสียแต่ไร
เอ็งบังอาจใจไม่เกรงกลัว

ว่าแล้วขับไพร่ไสช้าง
เข้าลุยล้างขุนแผนจะตัดหัว
ขุนช้างร้องสำทับจะจับตัว
ไพร่พลมุ่งมัวเข้าฟาดฟัน

ขุนแผนหลีกหนีถึงสามครั้ง
กองทัพไม่ยั้งไล่ห้ำหั่น
ขุนแผนจึงขับม้ามาประจัญ
ฟันถูกขุนรามอินทราตาย

ขุนเพชรอินทราก็ตายด้วย
ไพร่พลมอดม้วยเสียมากหลาย
แตกวิ่งกระจัดพลัดพราย
อาวุธหลุดหายไม่ได้มา

เดิมคนยกไปได้ห้าพัน
ตายเสียนั้นสี่พันห้าร้อยกว่า
เหลือพวกกองทัพกลับพารา
แต่สี่ร้อยกับห้าสิบห้าคน ฯ


ตรงนี้ จะสังเกตได้อย่างหนึ่งนะขอรับว่า ท่านจมื่นศรีนั้นถวายรายงานสมเด็จพระพันวษา เพียงครึ่งเดียว คือเรื่องส่วนตัวของขุนแผนที่มิได้เป็นกบฎนั้น...จริง

เรื่องขุนเพชรขุนรามปากเสีย ด่าว่าพ่อแม่จนขุนแผนโมโห ถึงกับต้องฆ่าฟันกันนั้น ..จริง

เรื่องที่ขุนช้างโจมตีขุนแผนก่อนจนขุนแผนไล่ฆ่าจนแทบหมดกองทัพนั้น ..จริง

แต่ท่านจมื่นศรี มิได้เล่าถึง กองทัพหุ่นพยนต์ ของขุนแผนเลย

อันนี้กระผมก็จนด้วยเกล้าเพราะไม่ทราบว่า เหตุอันใดท่านจมื่นศรีจึงจงใจละเลยเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งเสียดังนั้น...?

สมเด็จพระพันวษาครั้นได้ทรงทราบดังนั้น ก็ทรงพระพิโรธเป็นยิ่งนัก แต่ไม่ได้ทรงพระพิโรธขุนแผนมากนักหรอกขอรับ กลับโกรธกองทัพของพระองค์เสียกว่า ค่าที่ยกพลไปตั้งมากมาย กลับสู้คนขี่ม้าเพียงคนเดียวไม่ได้ แต่ก็รับสั่งให้ ว้อนท์เต็ท คือให้ออก ประกาศจับ ขุนแผนให้เข้ามาชำระความในกรุง

...ดูก่อนกลาโหมมหาดไทย

เร่งมีตราอายัดด่านขนอน
แว่นแคว้นแดนนครน้อยใหญ่
ทั่วทั้งจังหวัดสังกัดไป
เมืองใหญ่เอกโทตรีจัตวา

แม้นอ้ายขุนแผนอยู่แห่งไร
จับตัวให้ได้อย่าเข่นฆ่า
จำให้มั่นคงส่งตัวมา
ในท้องตราชื่อเสียงให้บอกไป

รูปร่างสูงต่ำดำขาว
หนุ่มสาวสำคัญให้รู้ได้
สั่งเสร็จพระเสด็จคลาไคล
เข้าในแท่นที่ไสยา ฯ


ก็นับว่าเป็นการผจญภัยที่ใหญ่หลวงครั้งหนึ่ง ในชีวิตของขุนแผนอยู่เหมือนกันนะขอรับ แต่คราวนี้ ความได้ล่วงรู้ถึงพระเนตรพระกรรณเสียแล้ว แถมยังฆ่าทหารหลวงเสียด้วย อีตานี้ขุนแผนของเราจะต้องประสพชะตากรรมอย่างไรต่อไป ก็คงจะต้องไปตามฟังกันในตอนถัดไปได้เลยขอรับ.

##############################

...
...






 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551
5 comments
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 21:01:18 น.
Counter : 732 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ..

มีอะไรขาดตกบกพร่องไหมพี่พจ..

ผิดๆ ถูกๆ หรือเปล่า ช่วยตรวจการบ้านให้ด้วยนะคะ.. ถ้ายังไงจะได้รีบแก้ไข

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 119.42.64.148 5 กุมภาพันธ์ 2551 21:04:22 น.  

 

งาม แล้วค่ะ

ขอบคุณมาก.

 

โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.220.219 6 กุมภาพันธ์ 2551 21:02:21 น.  

 

แวะมาอ่าน

 

โดย: กวินทรากร 8 กุมภาพันธ์ 2551 19:45:25 น.  

 

ขอบพระคุณ ขอรับ.

 

โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.184.125 9 กุมภาพันธ์ 2551 3:16:40 น.  

 

สวัสดีครับ

 

โดย: นริศ ไชยฤกษ์ IP: 203.172.210.114 18 กุมภาพันธ์ 2551 14:36:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.