Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๑ ไหว้ครู

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง

พระสุรินทฦาไชย ฯ ชุดที่ ๑ ตอนที่ ๑ ไหว้ครู



     สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย เกล้ากระผม นาย'พจนารถ ขออนุญาตรายงานตัวเพื่อทำตนเป็นวณิพกที่ดีตามรอยท่าน ยาขอบ ในเรื่องการเล่านิทาน วรรณคดีเพื่อหาสตางค์ใช้ เพียงแต่กระผมขอเปลี่ยนจากการปูผ้าแดงและจุดตะเกียง ในบรรยากาศของ สามก๊กเป็น นิทานข้างกองฟาง แบบไทย ๆ เท่านั้นแหละขอรับกระผม

     เมื่อท่านทั้งหลายแลเห็นหน้าจั่วพะหัวเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ทุก ๆ ท่านก็คงจะคุ้นกับวรรณคดี ในพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เรื่องนี้ กันพอสมควรนะครับ แต่พอแหงะลงมาดูหัวเรื่องย่อยซิคราวนี้ ท่านอาจจะงงบ้างว่า ชื่อ พระสุรินทฦาไชย ฯ นี้เป็นใคร นี่แหละครับ เป็นมูลเหตุให้ตัวกระผมอยากที่จะจับรายละเอียดแบบ เส้นผมบังภูเขา บางประการ ของวรรณคดีเรื่องนี้ มาลองอธิบายความนัยให้กระจ่าง ทำนองเล่านิทานสู่กันฟังบ้างแหละครับ

     โดยทั้งนี้กระผมจะขออนุญาตประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า กระผมจะยึดมั่นการเล่าเรื่องครั้งนี้ โดยอาศัยวรรณคดี ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ ซึ่งทรงชำระโดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เพียงฉบับเดียวเท่านั้น และหากผู้ใดจะได้ทราบความอันใด ที่คัดง้างกับฉบับที่กระผมจะได้เล่าต่อไปนี้ ก็โปรดได้ทราบว่า เหตุที่ฉบับที่ท่านถืออยู่กับฉบับของกระผม มิได้เล่าความตรงกัน หรือมีสำนวนที่เพี้ยนแผกไปจากกันแล้วไซร้ก็เพราะเป็นเพียงว่าวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน นั้น เป็นวรรณคดีโบราณซึ่งมาจาก มุขปาฐะหรือเรื่องเล่าสืบกันปากต่อปากมาเป็นเวลานาน และอาจมีผู้รู้ในแต่ละสมัยได้ช่วยกันชำระ มาจนถึงชั้นลูกชั้นหลานกัน หลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ ฉบับนั้นเอง จึงอาจเลือนถ้อยคำหรือข้อความบางประการ ไปตามยุคสมัยที่ผ่านมา แต่มิได้หมายความว่าฉบับที่ถืออยู่ในมือของท่านผู้ใด กลายเป็นผู้ผิดพลาดไปไม่

     อนึ่ง กระผมมีความคิดเห็นที่ใคร่จะเสนออีกประการหนึ่งก็คือ ขุนช้าง-ขุนแผน นั้น กระผมถือเป็นเพียง วรรณคดี คือเรื่องแต่ง อันมีความวิจิตรงดงามเท่านั้น หาใช่ประวัติศาสตร์ หรือ พระราชพงศาวดาร ไม่ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาอย่าได้เทียบเคียง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่เป็นวรรณคดีนี้ กับ จารึก สมุดข่อย ใบลาน เล่มใดเลย โปรดอ่านเป็นเพียงนิทานเถิด และถ้าจะให้ดี ก็โปรดอย่ามองข้าม นิทานข้างกองฟาง ฉบับนี้เสีย จักเป็นพระคุณยิ่ง

     แต่ก่อนจะกระทำการสิ่งใดก็ตาม บูรพาจารย์ท่านก็สอนไว้หนักหนาว่าจะต้องไหว้ครูเสียก่อน และ ณ ที่นี้กระผมก็จะขอไหว้ครูด้วยบทไหว้ครูเสภา ซึ่งเสด็จ ฯ กรมพระยาดำรง ฯ ท่านได้ทรงชำระหนังสือเสภาเก่าต่าง ๆ จนกระทั่งได้บทไหว้ครูนี้มาจากผักไห่ แขวงกรุงเก่า (ปัจจุบันคือ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ที่พระองค์ท่านทรงเห็นว่าหมดจดงดงามดี มาขยับกรับให้ฟังกัน ดังนี้

          ...
          สิบนิ้วจะประนมเหนือเกศา
          ไหว้พระพุทธพระธรรมล้ำโลกา
          พระสงฆ์ทรงศีลาว่าโดยจง

          คงคายมนามาเป็นเกณฑ์
          พระสุเมรุหลักโลกสูงระหง
          ดินน้ำลมไฟอันมั่นคง
          จึงดำรงได้รอดมาเป็นกาย

          ไหว้คุณบิดาและมารดร
          ครูพักอักษรสิ้นทั้งหลาย
          อนึ่งจะบังคมองค์นารายณ์
          อันสถิตย์แทบสายสมุทไทย

          เอาพระยานาคราชเป็นอาสน์แก้ว
                    หามีเหตุไม่แล้วหาตื่นไม่
          ทรงสังข์จักรคทาเกรียงไกร
          ไวยกูณฐ์มาเป็นพระรามา

          อนึ่งจะบังคมบรมพงศ์
          ทรงหงศ์เหินระเห็จพระเวหา
          ไหว้องค์พระอิศวรเจ้าโลกา
          พระนารายณ์รามาธิบดี

          ไหว้พระฤาษีสิทธิ์และคนธรรพ์
          พระวิศณุกรรม์อันเรืองศรี
          สาปสรรเครื่องเล่นในธรณี
          จึงได้มีปรากฎแต่ก่อนมา ฯ


     ครั้นว่าไหว้ครูแล้วก็จับบท...ตัวละครตัวแรก ที่กระผมจะจับชีวประวัติ จาก ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ (ซึ่งต่อไปกระผมจะขออนุญาตใช้คำว่า ฉบับหลวง) มาเล่าให้ท่านฟังก็คือ พระสุรินทฦาไชยมไหสูรย์ภักดี เจ้าเมืองกาญจนบุรีในสมัยนั้น หรือที่รู้จักกันดีในนามของ ขุนแผน นั่นเอง

     ที่กระผมยกประวัติของขุนแผนมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง เป็นอันดับแรก ของนิทานข้างกองฟางนี้ ก็เพราะขุนแผนนั้นเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งเรื่อง ราวกับวรรณคดีเรื่องนี้เป็นพวงมาลัย และขุนแผนเป็นด้ายหรือเชือกกล้วย ร้อยเรียงจากความเป็นพลายแก้ว ผ่านขุนแผน จนนั่งอยู่ในตำแหน่งพระสุรินทภาไชย ฯ ผ่านดอกไม้แต่ละดอก หรือตัวละครแต่ละตัว จนกลายเป็นมาลัยวรรณคดีงามเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ฉะนั้น

     ขุนแผนนั้นมีนามเดิมโดยกำเนิดว่า พลายแก้ว เป็นบุตรของ ขุนไกรพลพ่าย กับ นางทองประศรี ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่โดยพระบรมราชานุญาตของ สมเด็จพระพันวษา พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ว่า " โปรดปรานเป็นทหารอยุธยา มีสง่าอยู่ในเมืองสุพรรณ " เราจะเริ่มมาดูกำเนิดของพลายแก้วกันเสียเลย ณ บัดนี้

     ในพระราชนิพนธ์ฉบับหลวงนั้นงาม เกินกว่าที่กระผมจะถอดความมาเล่าให้ฟัง ท่านว่ามาตั้งแต่แม่ทองประศรีตั้งครรภ์แล้วฝันดี ดังนี้ครับ

          มาจะกล่าวถึงนางทองประศรี
          นอนด้วยสามีในเรือนใหญ่
          นิมิตฝันนั้นว่าท้าวสหัสนัยน์
          ถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่เหาะดั้นมา

          ครั้นถึงจึงยื่นแหวนนั้นให้
          นางรับแหวนไว้ด้วยหรรษา
          แสงเพชรส่องวาบปลาบเข้าตา
          ตื่นผวาคว้าทั่วปลุกผัวพลัน

          ขุนไกรลืมตาว่าอะไรเจ้า
          นางจึงเล่าเนื้อความนิมิตฝัน
          ทั้งสองลุกมาล้างหน้าพลัน
          หาหมากพลูสู่กันแล้วทำนาย

          ฝันว่าได้ธำมรงค์วงวิเศษ
          ของโกสีย์ตรีเนตรอันเฉิดฉาย
          เพชรรัตน์อร่ามงามเพริศพราย
          บรรยายว่าเป็นสิ่งมิ่งมงคล

          จะมีครรภ์ลูกนั้นจะเป็นชาย
          ดังทหารพระนารายณ์มาปฏิสนธิ์
          กล้าหาญการณรงค์คงทน
          ฤทธิรณปราบทั่วทั้งแดนไตร

          ซึ่งว่าเพชรรัศมีสีกล้า
          ภายหน้าจะได้เป็นทหารใหญ่
          มียศศักดิ์เป็นพระยาข้าใช้
          ร่วมพระทัยทรงธรรม์พระพันปี

          นางทองประศรียกมือไหว้
          รับพรผัวให้ประเสริฐศรี
          ทั้งสองนอนไปในราตรี
          สุขเกษมเปรมปรีดิ์ทั้งสองรา ฯ

ถ้าจะว่าไปราวกับที่สำนวนเก่าท่านว่า ยังกะตาเห็น ในอนาคตของขุนแผน ก็ต้องว่าพ่อขุนไกรท่านทายแม่น...ในระดับหนึ่ง เท่านั้น

จนกระทั่งถึงเวลาคลอดจริง ท่านก็ว่าไว้ในฉบับหลวงว่า

          ถึงฤกษ์งามยามปลอดคลอดง่ายดาย
          ลูกนั้นเป็นชายร้องแว้แว้
          พี่ป้าน้าอามาดูแล
          ล้างแช่แล้วก็ส่งให้แม่นม

          ทาขมิ้นแล้วใส่กระด้งร่อน
          ใส่เบาะให้นอนเอาผ้าห่ม
          ปู่ย่าตายายสบายชม
          เรือนผมน่ารักดังฝักบัว

          เอาขึ้นใส่อู่แล้วแกว่งไกว
          แม่เข้านอนไฟให้ร้อนทั่ว
          เดือนหนึ่งออกไฟไม่หมองมัว
          ขมิ้นแป้งแต่งตัวน่าเอ็นดู

          พ่อแม่ปรึกษากับย่ายาย
          จะให้ชื่อหลานชายอย่างไรปู่
          ฝ่ายตาตะแกเป็นหมอดู
          คิดคูณเลขอยู่ให้หลานชาย

          ปีขาลวันอังคารเดือนห้า
          ตกฟากเวลาสามชั้นฉาย
          กรุงจีนเอาแก้วอันแพรวพราย
          มาถวายพระเจ้ากรุงอยุธยา

          ให้ใส่ปลายยอดพระเจดีย์ใหญ่
          สร้างไว้แต่เมื่อครั้งเมืองหงสา
          เรียกวัดเจ้าพระยาไทยแต่ไรมา
          ให้ชื่อว่า พลายแก้วผู้แววไว ฯ

     เป็นกำเนิดที่สง่างามสมกับเป็นพระเอกในวรรณคดีเรื่องนี้ทีเดียว และเป็นเรื่องแปลกที่ไม่ทราบว่าบังเอิญหรือเปล่าที่ปรากฎว่า ปีขาล วันอังคาร อันเป็นวันและปีเกิดของพลายแก้วนั้น ตรงกับวันและปีเกิดของ หนุมาน พระยาวานรทหารเอกของ พระนารายณ์อวตารหรือพระรามพอดี ผิดกันแต่เพียงพลายแก้วเกิดเดือนห้า ส่วนหนุมานนั้นเกิดเดือนสาม

     ในขณะใกล้เคียงกับที่พลายแก้วได้เกิดมานั้น ก็มีลูกของชาวบ้านได้เกิดมาร่วมชะตากรรมอีกสองคน คือบุตรของ ขุนศรีวิชัย และ นางเทพทอง

          เมื่อตกฟากฤกษ์พารของหลานชาย
          ช้างเผือกมาถวายพระพันวษา
          จึงให้นามตามเหตุทั้งปวงมา
          หลานรักของข้าชื่อ ขุนช้าง

และบุตรของ พันศรโยธา กับ นางศรีประจัน

          ทรวดทรงส่งศรีไม่มีแม้น
          อรชรอ้อนแอ้นประหนึ่งเหลา
          ผมสลวยสวยขำงามเงา
          ให้ชื่อเจ้าว่า พิมพิลาไลย

     มาถึงตอนนี้ก็เป็นอันว่า นิทานข้างกองฟางของกระผม ก็ได้เล่าถึงการกำเนิดของ พระสุรินทภาไชย ฯ และผู้เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว ส่วนชีวิตของตะแกจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็คงจะต้องเว้นวรรคไว้เสียในบรรทัดนี้ แล้วค่อยพบกันใหม่ในคราวหน้า ขอรับกระผม.

##############################

วารสารสุรสิงหนาท...............กันยายน ๒๕๓๙
นิตยสารโล่เงิน....................มีนาคม ๒๕๔๔








Create Date : 02 ตุลาคม 2550
Last Update : 2 ตุลาคม 2550 14:09:00 น. 3 comments
Counter : 2203 Pageviews.

 
สาเด่าเสด้าด้


โดย: โน๊ต IP: 125.27.236.220 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:53:00 น.  

 
แปลว่า อะไร ขอรับ.


โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.185.126 วันที่: 21 ธันวาคม 2550 เวลา:5:03:08 น.  

 
ททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททท้าน


โดย: อ๋อม IP: 125.26.247.102 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:7:29:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.