Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๙ ขิงก็ราข่าก็แรง

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง

ตอนที่ ๙ ขิงก็ราข่าก็แรง


    พ่อพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักขอรับ กระผมคิดว่าพวกเราปล่อยให้ พ่อพลายแก้ว นอนอยู่ในห้องแม่สายทอง เป็นเวลานานพอสมควรที่วิบากกรรมของตน จะได้ปรากฏผลชัดเจนขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วนะขอรับ

    คือเมื่อแม่พิมเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้อง ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่คนเดียวเสียแล้ว เธอก็ตกใจฟายน้ำตาว่า ได้เกิดขัดใจอะไรขึ้นมา พลายแก้วจึงลุกไปไม่บอกกล่าว แต่พอพยายามนึกไว้ในแง่ดีก็จึงคิดว่า พลายแก้วอาจมีธุระจำเป็นต้องรีบไป แต่จะได้สั่งความไว้กับพี่สายทองหรือเปล่าหนอ เท้าไวเท่าความคิด แม่พิมก็รีบเดินออกจากห้องของตน ไปที่ห้องแม่สายทองเพื่อจะถามดูให้รู้แจ้ง

    แต่พอเดินมาถึงห้องพี่เลี้ยงคนสนิท ก็กลับพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ดังที่ฉบับหลวงท่านกล่าวไว้ดังนี้

    ก็เยื้องย่องมาถึงห้องสายทองพลัน
    ได้ยินเสียงพูดกันงึมงึมอยู่
    แอบฟังยังทวารบานประตู
    รู้ว่าอยู่ในห้องสายทองนอน ฯ

    พอผลักบานประตูพลัวะเข้าไป ก็บ้านแตกซิขอรับพ่อแม่พี่น้อง ลงจับได้คาหนัง คาเขาอย่างนั้น อะไรจะไปเหลือ เมื่อสอบความกันครั้งแรก แม่สายทองก็เอาแต่ก่นโศกร้องไห้เป็นน้ำหูน้ำตา

    เปิดมุ้งมองเขม้นพอเห็นหน้า
    กอดกันคาคิดแค้นแล้วค้อนค่อน
    สายทองลุกทะลึ่งจากที่นอน
    พ่อแก้วหล่อนรังแกฉันแม่พิม

    จะขับไล่ผลักไสไม่ยักไป
    ว่าเท่าไรมีแต่จะยิ้มกริ่ม
    ครั้นจะอึงกลัวจะผิดถึงแม่พิม
    ป้ำปิ่มเลือดตาจะกระเด็น

    หวานกินขมกินเพราะรักน้อง
    ความสัตย์สายทองใครจะเห็น
    ไม่รู้เลยพ่อแก้วหล่อนจะเป็น
    เช่นนี้คิดมาน่าน้อยใจ ฯ

    แต่แม่พิมในวินาทีนั้นก็หูอื้อนัยน์ตาลายเสียแล้ว พี่ก็พี่เถิดวะ คำพังเพยที่ว่า เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร นั้น ก็เพิ่งจะเข้าใจรู้ซึ้งซึมซาบในเวลานี้เอง ว่าแล้วแม่พิมก็ไม่ฟังเสียง ด่ากราดอีกทั้งประชดประชันเสียจนสายทองเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาบ้าง เหตุการณ์ตอนนี้ก็เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤต ราวกับมหาอำนาจสองฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากันในสงครามเย็น เมื่อก่อนที่ รัสเซียจะล่มนั่นแหละขอรับ

    ครานั้นจึงโฉมเจ้าสายทอง
    ฟังน้องตอบมาหาช้าไม่
    สารพันว่าได้ไม่เกรงใจ
    เป็นไรเป็นไปเถิดตามกรรม

    ปากกล้าดีก็ว่ามาอีกซี
    ตีผางเดี๋ยวนี้ให้ล้มคว่ำ
    มันลึกละใครจะนิ่งให้พี่ทำ
    อย่าเชื่อล่ำถึงข้าเล็กไม่อยากกลัว

    เมื่อกระนั้นถึงจะตีก็ไม่ว่า
    เดี๋ยวนี้ข้าถือว่าเป็นเจ้าผัว
    อีเมียน้อยก้ำเกินไม่เกรงกลัว
    ต้องจิกหัวลงตบด้วยกะลา

    ชิชะถ้อยคำกระไรนี่
    จะต้องตีว่ายากนางปากกล้า
    นางพิมเคืองขุ่นมุ่นขึ้นมา
    กล้าดีตีข้านางสายทอง ฯ

    ถึงตอนนี้พ่อแม่พี่น้องก็คงนึกถึงความรู้สึก ของพ่อพลายเจ้าเสน่ห์ ตัวต้นเหตุได้ นะขอรับ ว่าจะกระอักกระอ่วนเพียงใด ภาวะนี้ก็เปรียบเหมือนกำลังอยู่ระหว่าง เสือตัวเมียสองตัว ที่กำลังจะปะทะกันอื้อฉาวลั่นบ้านไป จะเข้าข้างฝ่ายใดก็ให้อิหลักอิเหลื่อ จะไกล่เกลี่ยเสียก็เหลือกำลังนัก แต่ก็ปรากฏว่ามี "ระฆังช่วย" มาในวินาทีสุดท้าย โดยมีเสียงท้าวมาลีวราช ศรีประจัน ที่ได้แผดเสียงออกมาห้ามทัพไว้ได้ทันการ

    แต่เอะอะอื้ออึงทั้งสามเสียง
    ศรีประจันหลับบนเตียงตกใจตื่น
    กูหนวกหูกูจริงดังยิงปืน
    จนดึกดื่นนี่มันทำอะไรกัน

    สายทองตัวดีมีความคิด
    บอกติดว่าแม่พิมหล่อนด่าฉัน
    นอนหลับอยู่หมาจู่กินน้ำมัน
    ศรีประจันร้องว่าสาแก่ใจ

    นางพิมยิ้มพลางทางช่วยปด
    ฉันมาไล่หาไม่หมดสิ้นทั้งไห
    ว่าพลางค้อนด้วยขัดใจ
    กลับไปเข้าห้องเสียฉับพลัน ฯ

    ฝ่ายพ่อพลายแก้วนั้นก็รู้ดีว่า แม่พิมนั้นขี้หึงอย่างสุดเดชแต่ก็รู้ดีไปจนถึงที่ว่า ผู้หญิงนั้นยิ่งหึงมากก็หมายความว่ายิ่งรักมาก จึงกล้าถึงขนาดที่เดินตามไปปลอบแม่พิมในห้อง ก็มีการตัดพ้อต่อว่ากันพอสมควรทีเดียว ซึ่งก็น่าเห็นใจแม่พิมเขาอยู่ดอกนะขอรับ หรืออย่างไรขอรับ คุณผู้หญิง ?

    แต่ก็น่าขันที่พ่อจอมกะล่อนของเรา รู้ตัวเสียแล้วว่าเป็นต่อ ฉะนั้นจึงโมเมแก้ตัวไป น้ำขุ่น ๆ ชนิดที่ถ้ากระผมเป็นแม่พิม ก็คงจะถึงกับร้องกรี๊ดเลยทีเดียวละขอรับ ท่านว่าไว้ว่า

    โอ้ว่าอนิจจาเจ้าพิมพี่
    ทุกวันนี้ไม่เชื่อกันหรือเจ้า
    สารพันว่าได้ก็ว่าเอา
    เมื่อทุกข์เข้าทับอกไม่เห็นเลย

    ไปเมื่อหน้าพี่ จะมาสู่ขอน้อง
    เผื่อท่านไม่ปรองดองเล่าน้องเอ๋ย
    ทุกข์เท่านี้จึงไม่มีสบายเลย
    จึงไปเปรยปรับทุกข์กับสายทอง

    ไม่ทันเคี้ยวหมากแหลกเสียอีกเจ้า
    พอแม่พิมขวางเข้าไปในห้อง
    ไม่พอทีวุ่นวายกับสายทอง
    นิจจาเปล่าดอกน้องอย่ารำคาญ ฯ

    ก็คงจะคล้าย ๆ กับ "ทั่น" คนไหนซักทั่นหนึ่ง ที่ตกค่ำกลับบ้านแล้วเนื้อตัวหอมกรุ่น แถมมีแป้งติดสะดืออีกต่างหาก แล้วก็มาแก้ตัวกับศรีภรรยา ว่าลูกน้องเขาจัดพิธีรดน้ำดำหัว เนื่องในโอกาสเลื่อนตำแหน่งใหม่ อย่างนั้นกระมังขอรับ ?

    แต่ก็อย่างว่า คนเรารักกันปานจะกลืนกินเสียอย่าง วิธีปรับความเข้าใจกันมันก็ไม่ยากนัก พอได้ยินเสียงแว่วดุเหว่าร้องแสงเงินแสงทองก็ส่องฟ้า คู่รักทั้งสองก็รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องจากกันแล้ว พลายแก้วจึงบอกแม่พิมว่าจะรีบกลับไปบอกแม่ทองประศรี ที่เมืองกาญจน์ ว่าให้มา สู่ขอโดยเร็วที่สุด ด้วยความรักความเป็นห่วง เมื่อรู้ว่าคนรักจะต้องเดินทางไกล จะพบทุกข์พบร้อนอะไรก็ไม่ทราบ แม่พิมจึงใจอ่อน จนทำเป็นลืม ๆ เรื่องแม่สายทองเมื่อคืนนี้เสียสิ้น แถมยังมีการให้ "ค่ารถ" อีกต่างหาก ดังที่ฉบับหลวงท่านว่าไว้ดังนี้ขอรับ

    ร้องไห้พลางทางลุกไปไขหีบ
    รีบหยิบเงินมาน้ำตาปริ่ม
    ห้าชั่งพลางห่อสีทับทิม
    นี่ของพิมให้พ่อจงเอาไป

    แล้วจ้างช้างขี่ไปให้จนถึง
    จะเอาสักสิบตำลึงจงเสียให้
    เชื่อเมียนะหม่อมอย่าเดินไป
    เจ้าพลายรับเงินไว้น้ำตานอง

    เอาคางพาดบ่าพิมกระซิบสั่ง
    จงระวังตัวไว้อยู่ในห้อง
    ชั้นหน้าต่างก็อย่าย่างไปเยี่ยมมอง
    อย่าเที่ยวท่องลงแล่นไปแผ่นดิน

    จะจากไปแทบใจ เจียนจะขาด
    แสนสวาทห่วงอยู่มิรู้สิ้น
    แบ่งภาคได้จะแบ่งไว้เป็นเพื่อนกิน
    นี่สุดสิ้นมิใช่ฤทธิ์พระนารายณ์ ฯ

    พ่อแม่พี่น้องผู้ฟังนิทานข้างกองฟางขอรับ กระผมเล็งเห็นถึงความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ระหว่างพลายแก้วกับแม่พิมได้อย่างชัดเจน จากฉบับหลวงที่กระผมยกมาให้ท่านทั้งหลายฟังนี่แหละขอรับ แต่ความพิลึกพิสดารในความรักนั้น ยังมีมากกว่านี้อีกขอรับ

    เพราะตอนจะกลับจริง ๆ นั้น พลายแก้วไม่ได้จ้างช้างจ้างม้า อย่างที่แม่พิมเขาอุตส่าห์เป็นห่วงหรอกขอรับ ตะแกเรียกผีหัวหน้าป่าช้าที่รออยู่ในสวน ให้มารับทางหน้าต่างห้องนอน ขึ้นขี่คอพาเหาะไปหาแม่ทองประศรีที่เมืองกาญจน์ ต่อหน้าต่อตาแม่พิมนั้นเอง !

    มิหนำซ้ำฉบับหลวงท่านยังว่าไว้ว่า มีการอาลัยอาวรณ์กันถึงขนาดเชียวขอรับ

    ย่างลงบนบ่าไม่ช้าที
    เอาเงินผูกคอผีหาช้าไม่
    เหลียวหลังสั่งเสียแสนอาลัย
    ดวงใจอยู่เถิดพี่ขอลา

    นางพิมมัวหมองเฝ้าร้องไห้
    ยกมือไหว้น้ำตาลงนองหน้า
    กลุ้มกลัดอัดใจไม่เจรจา
    สะอื้นออกปากว่าจงไปดี

    เจ้าพลายแก้วรับไหว้ใจจะขาด
    น้ำตาหยาดหยดลงตรงบ่าผี
    ผีก็พาผายผันไปทันที
    ต่างก็มีใจวิโยคโศกถึงกัน ฯ

    นี่ถ้ากระผมเป็นแม่พิมละก็ พอพบภาพซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้เข้า ก็คงจะถึงขั้นชักดิ้นชักงอน้ำลายฟูมปาก ตายอยู่ตรงหน้าต่างนั้นแล้วแหละขอรับ แต่ตามที่ท่านว่านั้น แม่พิมกลับมีใจจรดจ่ออยู่กับการจากลาอาลัย เสียจนมิได้หวั่นกลัวต่อภาพมหิทธิฤทธิ์ เหนือธรรมชาติ ที่ปรากฎอยู่ต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกนั้นเลยแม้แต่น้อย อานุภาพแห่งความรักนั้น ช่างยิ่งใหญ่ถึงปานฉะนี้เชียวหนอ !

    ถึงตรงนี้แล้ว กระผมก็เห็นจะต้องขอให้พ่อแม่พี่น้อง อดใจให้เวลา พ่อพลายแก้ว แกเดินทาง ไปหาแม่ที่เมืองกาญจน์หน่อยเถิดขอรับ แล้วก็จะได้ทราบว่างานมงคลสมรส ที่เป็น หัวข่าวสังคมดังระเบิดเปรี้ยงปร้าง ตั้งแต่สุพรรณฯ ยันเมืองกาญจน์ในครั้งนั้น ยิ่งใหญ่มโหฬาร แค่ไหน ซึ่งกระผมจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง ในตอนหน้าขอรับ.



##############################

วารสารสุรสิงหนาท.........มกราคม ๒๕๔๑
นิตยสารโล่เงิน..............พฤศจิกายน ๒๕๔๔






Create Date : 20 ตุลาคม 2550
Last Update : 12 ธันวาคม 2550 8:29:53 น. 1 comments
Counter : 709 Pageviews.

 
ชะแว๊บบ..แอบมาเจิมเจ้าค่ะ..รออ่านอยู่น่ะเจ้าคะ..

สบายดีหรือเปล่าเจ้าคะ..แอบหนีมาอยู่บ้านนี่เอง..ปล่อยให้ถนนฯหงอยเหงาซะอย่างนั้น..

เอ๊..ว่าแต่เมื่อใดพี่ท่านจะย่างก้าวสู่ถนนฯบ้างล่ะเจ้าคะ..

คิดถึงน้องกฤติกาจะแย่แล้วเจ้าค่ะ
............................................




โดย: ณ กมล วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:20:31:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.