ความสุขของคุณ (ผู้อ่าน) คือความสุขของเรา
Group Blog
 
All Blogs
 

พาไปดูสมรภูมิทดสอบโนเกีย ...มิน่าหละ ทำไมถึงทนสุดๆ

เบื้องหลังแบรนด์ดัง บทพิสูจน์คุณภาพก่อนถึงมือผู้ใช้งาน

พาไปดูเบื้องหลังการทำงานของโนเกีย เพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ไปสู่มือผู้บริโภค

ปฏิบัติการทดสอบความทนทานของโนเกีย

Nokia Damage Test Labs

บทพิสูจน์คุณภาพ การทำงานอย่างมีระบบและละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ก่อนถึงมือผู้บริโภค



ทดสอบมาตรฐานของแป้นกด รูปด้านล่างแสดงการเช็คการทำงานของแป้นกด ว่าได้คุณภาพและมาตรฐานหรือไม่

ทดสอบเรื่องความชื้น เพื่อให้มั่นใจประสิทธิภาพในโทรศัพท์ในทุกสภาพอากาศของทุกประเทศ ทดสอบด้วยการ

หยดน้ำลงบนเครื่อง กรณีตกน้ำ หรือโดนน้ำฝน



ทดสอบเรื่องความทนทานต่อสารต่างๆ ในชีวิตประจำวัน อาทิ ของเหลว ครีม เจล และฝุ่น เพราะมือของคนสัมผัส

สิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา จึงเท่ากับโทรศัพท์มือถือต้องทนทานต่อสารต่างๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน

ภาพนี้ เป็นการนำโทรศัพท์ลงในกล่องฝุ่น



ทดสอบความแข็งแกร่ง อึดทนในทุกสภาวะ อาทิ ทดสอบด้วยอุปกรณ์บิดงอและแรงกดทับ เพราะหลายคนชอบนำมือถือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง



ทดสอบการทนทานต่อรอยขีดข่วน โดยนำโทรศัพท์ใส่ลงไปเขย่าในกล่องของมีคมพลาสติก



ทดสอบการตกหล่น ความแข็งแกร่งที่กลายเป็น DNA หนึ่งของโนเกีย เพราะในชีวิตประจำวัน เราทำมือถือตกหล่นได้

หลาย ครั้งหลายครา นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบโดยนำโทรศัพท์เข้าไปในตู้ควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 40 ถึง 185 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อให้แน่ใจว่าโทรศัพท์โนเกียสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนจัดอย่างประเทศไทย

หรืออากาศหนาวจัดในประเทศแถบยุโรป

คลิก //www.nokia.com/press/media_resources/audio-and-video/video หรือ

https://www.youtube.com/watch?v=LqB4UdpUoGM เพื่อดูวิดีโอทดสอบเรื่องความทนทานของโนเกีย

การทดสอบที่ดูประหนึ่งสมรภูมิรบดังกล่าว เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น ของกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่มีคุณภาพ

และเป็นที่มาของการเป็นแบรนด์ยอดนิยมของโลก




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 15:59:19 น.
Counter : 1360 Pageviews.  

LG BL40 ช็อกโกแลตเผยโฉมหน้าจอ 4 นิ้วแล้ว

ก่อนหน้านี้มือถือที่จัดว่าจอมหึมาที่สุดแห่งยุค ต้องยกให้กับ โตชิบา TG01 ที่เราได้นำสเปค และวิดีโอแกะกล่องให้ชมไปหลายครา แต่วันนี้ “แอลจี” ได้จับเอาซีรียส์ช็อกโกแลตมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมจุดเด่นหน้าจอใหญ่ถึง 4 นิ้วด้วย

หลายคนที่กำลังแอบลุ้นว่าภาพมืดๆ ดำๆ ของ แอลจีช็อกโกแลต รุ่น 2 ที่เราเคยโพสไปก่อนหน้านี้ จะเป็นเพียงแค่ข่าวลือหรือไม่ วันนี้ภาพชัดๆ พร้อมโลโก้แอลจี ก็มาการันตีแล้วว่า “มันมาแน่!”



สเปคคร่าวๆ มีดังนี้

หน้าจอสัมผัสพร้อมระบบมัลติทัชขนาดบิ๊กเบ้ม 4 นิ้ว (ขนาด 345×800 พิกเซล) เป็นหน้าจอแบบ 21:9 หาเกมลงยากหน่อยล่ะ
แต่เวลาอ่านเมล พิมพ์แชตก็คล่องมือ
ตัวจอป้องกันรอยขีดข่วนด้วย
กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์จากแบรนด์ Schneider-Kreuznach เปลี่ยนสีภาพได้ตามต้องการ
เชื่อมต่อเน็ตความเร็วสูงระบบ 3G (UMTS/HSDPA) เร็วสูงสุด 7.2Mbps
รองรับไว-ไฟ, GPS,
เมนู 3 มิติ แบบ S-Class

ดูรายละเอียดได้จาก //www.lgmobilelover.com/club/viewtopic.php?f=1&t=22372




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 14:04:25 น.
Counter : 1655 Pageviews.  

: : : >>> First Touch: สัมผัสแห่งดวงดาวจาก Samsung StAR <<< : : :

เคยรีวิวไว้ในกระทู้ ก็เลยเอาลงบล็อคไว้เพื่อเป็น Review Stock

เผื่อวันหน้ากระทู้โดนลบไปก็เลยเก็บไว้ดีกว่า

Samsung Star Review by Yokekung

ให้คุณคว้าดาวบนความเจิดจรัสกับมือถือทัชโฟนจาก Samsung ภายใต้โค้ดเนมน่ารักๆว่า Star จากดวงดาวอันใกลโพ้นที่ทุกคนเอื้อมถึง

กับราคาไม่ถึง 9 พัน คำถามแรกหล่นลงมาในหัวว่า ข้อดีของมันคืออะไร

อินเตอร์เฟซการสั่งงานด้วยนิ้วมือสัมผัส

ย้ำอีกครั้งว่า "นิ้วมือ" สัมผัส

แถมมีปากกาสไตลัสให้ด้วย จากการใช้งานจริงแทบไม่ได้หยิบขึ้นมาจิ้มเลยด้วยซ้ำ

ข้อดีของมันอยู่ที่ Widget ที่จะว่าไปก็เอาความยืดหยุ่นของ Widget มาจาก Windows Vista นั่นเอง

ต้องตีความก่อนว่า Widget ของ Star นั้นมีหน้าต่าง 3 หน้า คือการรวมเอา Shortcut เวลาเราใช้งานบ่อยๆ

เช่นของผมก็เป็น วิทยุ เครื่องคิดเลข แล้วก็ปรับโปรไฟล์ เวลาเราเข้าประชุมก็เปลี่ยนง่ายขึ้น (แนะนำคีย์ลัดเวลาจะปิดเสียงก็กดปุ่ม # ค้างไว้

ใครๆก็อยากได้มือถือหน้าตาสวย อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย แถมคล่องตัวในการสั่งงานในทุกๆเมนูก็ตามมาเลย



แรกเห็นราคาในระดับ 9 พัน หลายๆคนนึกไปถึุง LG KP500 Cookie รุ่นพี่โต๋นั่นเอง

แรกเห็นที่ผมอยากสัมผัส คือยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอาไปเทียบกันตรงๆกับรุ่นพี่โต๋

ทั้งๆที่ฟาก Samsung เอง หลายๆคนก็นึกไปถึง F480 และ Pixon โดยเน้นการสั่งงานบนอินเตอร์เฟซ TouchWiz



เห็นการออกแบบปุ่ม การวางตำแหน่ง อดคิดไม่ได้ว่าจะเทียบกับ LG Arena ดีไหม

แต่ช้าก่อน...

กับราคาที่ต่างกันร่วมครึ่ง

จุดขายของ Arena คือมัลติมีเดีย กล้อง 5 ล้าน กับระบบเสียง Dolby Mobile ต่างหาก!!!

ไม่ได้เอามาเทียบกันระหว่างอินเตอร์เฟซ S-class กับ TouchWiz เพราะด้วยระดับราคาที่ต่างกันร่วมครึ่งระหว่าง Arena และ Star หรือแม้แต่จะเทียบกับรุ่นพี่โต๋ก็ตาม

ตามมาดูกันว่า Samsung Star มีดีอย่างไร

เหมาะกับคุณหรือไม่

รีวิวนี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ กับการใช้งานเครื่องที่วางขายจริงและใช้งานจริง

อยู่ภายใ้ต้พื้นฐานของการทดสอบจริงเพื่อให้รู้ว่าคุณสมบัติตรงกับใจเราต้องการหรือคาดหวังหรือไม่



แกะกล่อง ค้นฟ้า คว้าดาว

ดาวดวงนี้ น่าลิ้มลอง ชวนให้หลงใหลกับอินเตอร์เฟซสวยงาม

ลองมาดูกันว่ามีจุดเด่นอะไรให้เราค้นฟ้า คว้าดาว กันบ้าง



จุดเด่นหลักๆ ข้างกล่องก็คือ

> รองรับ EDGE
> กล้อง 3.2MP ไม่มี Auto Focus ประลองฝีมือให้นิ่งกันหน่อย
> จอสัมผัสขนาด 3 นิ้วแบบ WQVGA TFT LCD
> ระบบการสั่งงานบนอินเตอร์เฟซ TouchWiz 1.0 จะเห็นว่ามีเลขรุ่นด้วย แสดงว่า Samsung จะต้องพัฒนาเจ้าอินเตอร์เฟซนี้ต่อไปแน่ๆ แหม ... ทำเหมือนกับ เลขรหัส Symbian ไปได้

>>> สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ Widget แต่เอาเข้าจริงได้ใช้งานบ่อยหรือเปล่า อันนี้ขึ้นอยู่กัีบผู้ใช้เอง

มัลติมีเดีย

MP3 Player อันนี้เห็นว่าอาศัยระบบเสียง DnSE แบบเดียวกับ MP3 ของ Samsung ที่เลื่องชื่อ

วิทยุ FM เท่าที่ฟังดูชอบเพราะชัดเจอดี ทศนิยมสองตำแหน่ง ใครฟังวิทยุชุมชนก็คงชอบ

Bluetooth อันนี้ก็ขาดไม่ได้สำหรับมือถือสมัยนี้



อุปกรณ์ในกล่อง นับกันให้ดี ดูให้รอบคอบ ได้ข่าวว่ามีการชักของด้วย

มือถือ
แบตเตอรี่ 1000mAh
หูฟังแบบ ear-bud พร้อมปุ่มรับสาย
ซองผ้ากำมะหยี่
คู่มือ แผ่นซีดี
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
สาย USB
MicroSD 4GB (SDHC)
มีปากกาสไตลัสให้ด้วย



หูฟังแบบนี้ก็สะดวกดี ไม่ชอบแบบ in-ear เลยเจ็บหู

เสียดายไม่ใช่พอร์ต 3.5 แถมตอนใส่ในซองกำมะหยี่ เสียบหูฟังแล้วใส่ซองไม่ได้นะจ๊ะ เพราะมันโผล่ออกมาด้านข้างเยอะอยู่เหมือนกัน



แบตเตอรี่ขนาด 1000 mAH

เท่าที่ใช้งานมาสักระยะ อยู่ได้ประมาณ 3 วัน บางทีก็ 4 วัน กับการใช้งานไม่เยอะ ไม่หนักมาก โทรคุย ถ่ายรูปบ้าง ฟังวิทยุบ้าง

ไม่ได้ใช้หูฟัง Bluetooth



ปากกาสไตลัสจะอยู่ด้านขวาบน

หยิบใช้ง่าย

แต่เท่าที่ลองใช้งานดู

ไม่ได้ใช้ปากกาเลย นับครั้งได้เลยด้วยซ้ำ

การตอบสนองนิ้วมือสบายสุดๆ

(วงเล็บไว้สักนิดว่า ควรจะตั้งค่าก่อนเพื่อการใช้งานที่แม่นยำ)



ด้านบนเป็นลำโพงสนทนา ชัดแจ๋วเลย ตั้งไว้ที่ระดับ 4 - 5 ก็ยังชัดเจนในทุกสถานการณ์



ด้านล่างเป็นปุ่มรับสาย - โทรออก ตรงกลางย้อนกลับ และด้านซ้ายวางสาย (จะเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่องด้วย)



ด้วยความเบาหวิวของมัน

ทำให้เรามองว่าวัสดุพลาสติกบางๆแน่ๆ

ใช่เลย พลาสติกบางๆ แต่การประกอบก็ไม่ได้โครกเครก กรอบแกบ และอ้าให้เห็น



พลิกข้างซ้ายจะเห็นพอร์ตใช้กับ USB, Adaptor และหูฟัง

และมีปุ่มปรับเสียง



พลิกอีกด้าน

จะมีปุ่มล็อคหน้าจอ

และปุ่มถ่ายภาพเป็นแบบจังหวะเดียว ไม่มี Auto Focus

ข้อเสียก็คือเผลอไปกดโดนปุ่มถ่ายภาพประจำเลย

เวลาใช้งานจริงต้องหมั่นกดเพื่อล็อคปุ่ม เพื่อไม่ให้โทรออกเองให้เปลืองเงิน



กล้อง 3.2 ล้านพิกเซล ปรับได้สูงสุด 2048 x 1536 หรือแบบ Wide ก็คือ 2000 x 1200 pixels



ที่น่ากลัวก็คือความบางเฉียบของฝาหลัง

ตอนแรกหัวใจแทบหยุดเต้น

เฮ้ยยยย ทำไมมันบางอย่างนี้

ฝาหลังจะหนากว่านี้สักนิดก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ

เล่นบางขนาดกลัวหักเลย

ถ้าเครื่องหล่น ผมว่าฝาจะไปก่อน อันส่งผลให้แบตกระจายได้อีกไกล



จะว่าไปฝาหลังก็สวยดี

แ่ต่บางขนาดนี้ไม่ไหวละน๊อ

น่ากลัวมันจะหักคามือเอา

เท่าที่ใช้จริง ฝาไม่หลุดง่ายๆหรอก แต่เคยมีทีนึง ฝาหลุดออกจะเพราะหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงที่แน่นไปสักหน่อย



ด้านหลัง มีช่องใส่ซิม และ MicroSD

นั่นหมายความว่า จะต้องถอดแบตออกก่อน นั่นคือปิดเครื่อง ถอดแบต ถอดการ์ด

พอจะใส่การ์ดก็ปิดเครื่อง ถอดแบต ใส่การ์ด

วุ่นวายสำหรับคนที่ชอบเอามาใส่ Card Reader

แต่ไม่ต้องห่วงเพราะตั้งค่าเป็น Mass Storage ผ่านสาย USB หรือจะส่งภาพผ่าน Email / Bluetooth ก็ได้



MicroSD ลึกลับมาก

จะอยู่ใต้ซิมอีกที

ก็คือถอดแบตออก แล้วกดให้เด้งออกมา

เวลาใส่ก็คว่ำหน้าใส่เข้าไป เอาทองเหลืองไว้ด้านบน



ใส่ซิมเข้าไป



เปิดเครื่องโดยกดปุ่มวางสายค้างไว้

ตอนแรกผมเคยชินกับ Windows Mobile มองหาปุ่มเปิดข้างบนเฉยเลย 555

เปิดมาก็จะมีหน้าจอต้อนรับ



พวกไอค่อนต่างๆบนหน้าจอ เราสามารถเลื่อนนิ้วลากมันไปไว้ตรงไหนก็ได้

อย่างผมชอบเอาเครือข่ายไว้ข้างบน ก็ลากมันไว้ด้านบนได้เลย



การพิมพ์ตัวเลขเพื่อโทรออก จะเป็นคีย์บอร์ดเสมือนให้เรากดแป้นได้จากหน้าจอเลย



ลองมาดูการพิมพ์ภาษาไทยกันบ้าง

พิมพ์ได้เหมือนปุ่มกดปกติ

แต่หากตะแคงเครื่องก็จะเป็นคีย์บอร์ด

แต่ไม่ใช่แบบมาตรฐาน QWERTY จะเป็นแบบ กขคงจช ไปเรื่อยๆ หายากไหม ไม่ยากแต่ต้องอาศัยความคุ้นเคยสักนิด

ผมว่าดีซะอีก

ทำให้เราท่อง กอ.ไก่ ถึงฺฮอ นกฮูกได้คล่องด้วยซ้ำ



รายชื่อในสมุดโทรศัพท์ก็ปกติ

เวลาเลื่อนก็ใช้เล็บลากเอาคล้ายๆ iPhone

ข้อดีก็คือเราคล่องตัวและเคยชินกับอินเตอร์เฟซของ iPhone กันอยู่แล้ว

การเรียนรู้ก็ไม่ได้ยากอะไร



เพื่อการใช้งานได้คล่องตัว

แนะนำให้ตั้งค่าที่เมนูตั้งค่าก่อน

ถนัดใช้มือไหนสัมผัสก็เชิญเลย

ปกติเราถนัดมือขวากันก็เลือกมือขวา

ใครถนัดมือซ้ายก็เลือกได้เลย

ถือเป็นจุดเล็กจุดน้อยที่ไม่พลาดครับ



หน่วยความจำบันทึกรายชื่อสมุดโทรศัพท์ในตัวเครื่องได้ 2000 รายการ



อินเตอร์เฟซหน้าจอ TouchWiz จะมี 3 หน้าจอ

โดยจะเป็น 3 Wallpaper

เวลาใช้งานปกติก็จะเป็นแบบนี้



เห็นด้านซ้ายไหมครับ

เอานิ้วแตะลูกศรด้านซ้าย

ก็จะมีเมนูโผล่ออกมาให้เราได้ใช้งาน Widget กัน

จะว่าไปก็เหมือน Vista ที่มีนาฬิกา มีบันทึก มีเมนูให้เลือกด้านขวาของจอ



จะเห็นได้ว่าจากหน้าจอ เราสามารถลากนาฬิกา วันที่ ปฏิทิน อะไรต่อมิอะไรออกมาได้เหมือนกับ Windows Desktop ให้มันรกๆหน้าจอก็ยังทำได้

ต่อด้วยเรื่องธีมครับ มี 2 แบบ





อินเตอร์เฟซของ Widget จะเชื่อมโยงกับ Social Network อย่าง Facebook, MySpace





Widget "ลดน้ำหนัก"

อีกอันเป็น Widget "หยุดสูบบุหรี่"

แปลกๆดีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราใช้คุ้มค่าหรือไม่

เอาขนาดมาเทียบให้ดูครับ

เทียบกัีบเม้าส์ไร้สายของผมก็แล้วกัน

ขนาดมือผู้ชายอย่างผมก็ยังถือว่าพอดีมือ

ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปนัก



เท่าที่รีวิวไปก็พอทำให้หลายๆคนเห็นได้ว่า

> เน้นอินเตอร์เฟซ TouchWiz

> บ้า Widget ขนาดหนัก

> เน้นกล้อง รองรับการถ่ายภาพแบบ Wide Screen

> มี MP3, FM ทศนิยม 2 ตำแหน่ง

> การพิมพ์ภาษาไทยง่ายแต่ไม่ใช่แบบ QWERTY

1. แบตทนโคตร (ขออนุญาตใ้ช้คำไม่สุภาพ) แต่เราเล่นทั้งเมนู ทั้งกล้อง เล่นโน่นนี่ ส่งบูลทูธสนุกสนาน วันนี้ (เช้าวันพฤหัส) แบตเหลือขีดเดียว
นับๆก็ชาร์จคืนวันอาทิตย์ เช้าวันจันทร์ก็คือ Fully Charge คุ้มครับ

2. เสียงสนทนาดังมาก ต้องปรับไว้ที่ 3

3. หน้าจอสว่างดีมาก ปรับไว้ระดับ 3 เช่นกัน

4. เสียงเรียกเข้าต้องรอ 2 วิ เพราะมันเ้งียบตามสไตล์ของ Samsung เขา

5. การสัมผัส ผมแทบไม่ได้หยิบปากกามาใช้เลย ยกเว้นตอนส่ง SMS ที่่นิ้วผู้ชายอาจจะใหญ่และกดพลาดเอา ก็ใช้ปากกาสบายกว่าเยอะ

โดยรวมคุ้มครับ ในการใช้งานจริงและใช้ในชีวิตประจำวัน

เรื่องพอร์ตต้องขอบคุณหลายๆท่านครับ ทำให้เรารู้ว่า ยืมที่ชาร์จเพื่อนก็ได้

น้ำหนัก เบามากครับ คุ้มดี การใช้งานยังไม่ได้เล่นอะไรมาก

รูปถ่ายไม่มี Auto Focus แต่ก็ในระดับดีครับ

ไม่มี Wi-Fi, GPS แต่ก็ใช้ EDGE เข้า Google Maps ได้ เบราเซอร์โดยรวมหลายคนบอกว่ามีปัญหาในการแสดงผลภาษาไทย แต่ปกติผมใช้ต่อเป็นโมเด็ม ไม่ได้เล่นบนมือถือก็เลยไม่ซีเรียสครับ

ถ้าใครคิดว่าจะมีปัญหาเรื่องภาษาไทย ต้องการเล่นเวบในมือถือเลย แนะนำ WM ครับ เพราะยังไงก็เป็น IE รองรับชัวร์ีที่สุดอยู่แล้ว

ขอบคุณหลายๆท่าน คุณ joker-master, papayatop, pongchay และ Pain in the neck และทุกๆคอมเม้นต์ครับ

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพครับ

นำมาจากกระทู้รีวิว
//www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T7924323/T7924323.html

yokekung [สัญญา Creative Commons อ้างอิงแหล่งที่มา ผู้เขียน]




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 19:31:11 น.
Counter : 2273 Pageviews.  

อวดความเป็นตัวตน ในสไตล์ของคุณด้วย Nokia 6700 Classic

สาวก Nokia คงจะทราบดีว่าตระกูล 6 นั้นเน้นเรื่องการใช้งานในเชิงธุรกิจและตอบสนองความต้องการตามสไตล์ของคุณ

หลังจากความประทับใจส่วนตัวบน Nokia 6233 แล้ว ผมก็ชอบ Nokia 6300 ด้วย มาคราวนี้กับ Nokia 6700 Classic มาพร้อมเซเรบดาหน้าร่วมประชันสไตล์บน Nokia 6700 Classic นำโดย บี-น้ำทิพย์ เน้นเรื่องแฟชั่นและการแต่งกาย บอกความเป็นตัวตนตามสไตล์ของแต่ละคน



Nokia 6700 Classic มีจุดเด่นเน้นเรื่องการถ่ายภาพ การแบ่งปันความประทับใจผ่านอินเตอร์เน็ต การสนทนาและการเข้าชมเว็บไซต์ เรียกว่าได้โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ ไปจนถึงการใช้งานด้านอินเตอร์เน็ตและการเชื่อมต่อ

สเปคที่น่าสนใจ

อันดับแรกสัมผัสด้วยวัสดุสแตนเลสที่หลายๆคนชอบจาก Nokia 6300 เรื่องการเชื่อมต่อ เสียงสนทนาดัง ต้องยกให้ 6233 ปลื้มมาก

หน้าจอ QVGA 16.7 ล้านสี ขนาด 2.2 นิ้ว 320x240 Pixels
รองรับหน่วยความจำ MicroSD ได้สูงสุด 8GB
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 170MB
รองรับ EDGE Bluetooth 2.1 PicBridge
ข้อความ SMS ติดต่อผ่าน Windows Live, E-mail
มีระบบแผนที่นำทาง A-GPS
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus ไฟช่วยถ่าย LED Flash
เสียดายตรงที่ถ่ายวีดีโอ 640x480@15FPS, 352x288@30FPS
หมายความว่าถ่ายลื่นไม่มีกระตุกแต่ขนาดจะเล็กนั่นเอง
เล่น MP3

ในชุดจำหน่าย

โทรศัพท์โนเกีย 6700 classic
แบตเตอรี่มาตรฐาน
การ์ดหน่วยความจำชนิด SD ขนาด 1 กิกะไบต์
ชุดหูฟัง micro USB
สายเชื่อมต่อชนิด USB (CA-101)
อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง (AC-8)
ซองใส่โทรศัพท์
คู่มือการใช้งานอย่างย่อ

สำหรับเรื่องราคา หากมองย้อนกลับไปนึกถึง Nokia 6233 ที่ตอนนั้นออกมาร่วมๆหมื่นสอง แป็บเดียวหล่นลงมาที่ 9xxx จนมาถึง 7900 แล้วหล่นลงมาเรื่อยๆ คิดว่ารุ่นนี้น่าจะจับตลาดผู้หญิงที่มีสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นราคาอยู่ที่ระดับหมื่นด้วยคุณภาพวัสดุและการใช้งานครับ

yokekung




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 14:57:11 น.
Counter : 1803 Pageviews.  

ห่างไกลจากไข้หวัด 2009 สำหรับชาวไอที



ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดหนัก พวกเราชาวไอทีมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันตนเองและห่างไกลจากการติดเชื้อไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัด 2009 กัน

หากเป็นสมัยก่อน จำได้ว่าช่วงที่ซื้อ PC ใหม่ จะเห่อคลุมพลาสติกป้องกันฝุ่นบนพีซีเครื่องโปรด รวมทั้งคลุมแป้นพิมพ์ด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ความขี้เกียจเข้ามาเยือนกันทุกคน ความประมาท คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวเข้ามาแทนที่ หลายๆคนใช้คอมพิวเตอร์ เคาะแป้นพิมพ์ คลิกเม้าส์โดยไม่เคยได้ล้างมือ ไม่เคยได้ทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กันเลย งานนี้ไข้หวัดระบาดและแพร่เชื้อได้รวดเร็วมาก เพราะแอร์ก็ไม่สะอาด เม้าส์ คีย์บอร์ดก็ไม่เคยเช็ดล้างทำความสะอาด ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคได้มากขึ้น

โดยเฉพาะการใช้งาน โน้ตบุ๊คนั้น เราสัมผัสกับคีย์บอร์ดและ Touchpad หรือเม้าส์โดยตรง ไอ จาม แม้ว่าจะปิดปาก แต่ก็มีละอองน้ำลาย น้ำมูก กระเด็นมาโดนคอมพิวเตอร์ของเรา ทำให้ยิ่งกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อและแพร่เชื้อเป็นอย่างดี

อย่างที่เป็นข่าวก็คิอการปิดร้านเกม สาเหตุจากคอมพิวเตอร์สาธารณะ เราใช้งานกันหลายคน สถานที่คับแคบ แอร์ไม่สะอาด ไม่มีพัดลมระบายอากาศ หลายบ้าย หลายออฟฟิศติดแอร์ แต่จะมีสักกี่บ้าน กี่สำนักงานที่มีระบบการระบายอากาศที่ดี มีพัดลมดูดอากาศ

ลอง เปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ เรากลัวร้อน กลัวแฮ้งค์ ก็หาพัดลมมาช่วยระบายอากาศ กลัวฝุ่นเข้าไปทำลายเครื่อง แต่กับคนเราไม่ใส่ใจที่จะจัดการระบบระบายอากาศในสถานที่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ ให้ถูกสุขลักษณะ

"ล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง" ถูกต้องครับ กินร้อน เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรค เราห่วงร่างกายเรา ช้อนกลาง ไม่ให้แพร่เชื้อ แต่กับการล้างมือ กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนมองว่า "ขี้เกียจ ช่างมัน"

ลองนับคนดูได้เลย รอบๆตัวคุณ รวม ทั้งคุณด้วย ใช้คอมพิวเตอร์ไปพลางก็ดื่มกาแฟ ทานขนมไปพลาง เอามือจับคีย์บอร์ด พิมพ์งาน แล้วจับเม้าส์ เอามือนั้นมาจับขนมกินเข้าปาก โดยไมไ่ด้ล้างมือ ทำให้เชื้อโรคติดจากคีย์บอร์ด เม้าส์ ไปติดที่ขนม ทำให้เรากินเข้าไปแล้วติดเชื้อโรคได้

เรื่องสุขอนามัยต้องใส่ใจ ให้มาก ยิ่งมีข่าว ผมเองยิ่งล้างมือบ่อยครั้งมากขึ้น แม้จะอยู่ออฟฟิศ แต่เมื่อจะกินขนมก็จะล้างมือ ยอมเสียเวลาเดินไปล้างมือก่อนจับขนม พยายามไม่แคะ แกะ เกา หากมือเราเปื้อนเชื้อโรค

หมั่นทำความสะอาด โต๊ะทำงาน ไม่ให้มีแมงสาบวิ่งเล่น เม้าส์ คีย์บอร์ด หมั่นใช้น้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ หรือแอลกอลฮอลล์เช็คทำความสะอาดเป็นประจำ ทางที่ดีน่าจะทำทุกครั้งก่อนใช้งานด้วยซ้ำไป

เอาตั้งแต่เราออกจากบ้าน ขับรถ มือจับพวงมาลัย เราไอ จาม ถึงจะปิดปาก แต่ก็เอามือนั้นไปจับพวงมาลัยอีกที พอถึงออฟฟิศก็ไม่ได้ล้างมือ หยิบจับขนมทานแล้ว ยังไม่ได้ืทำความสะอาดคอมพิวเตอร์เลย หน้าจอก็สำคัญ บางทีเราไอ จาม หน้าคอมพ์ แม้ว่าจะปิดปาก แต่ฟังจากแพทย์บอกว่าแม้เ้ราจะปิดปาก แต่ช่องว่างระหว่างนิ้วมือเราทำให้ละอองน้ำลายกระัเด็นไปโดนหน้าจอ ทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดี

เคยได้ยินจากสื่อต่างๆด้านไอทีว่า คีย์บอร์ด เม้าส์ ที่เราใช้ สกปรกกว่าห้องน้ำซะอีก ฟังมานาน ได้ยินมาบ่อย แต่ก็ไม่สำนึก คิดว่าไม่เป็นไร จนมาในช่วงไข้หวัดระบาด เราใส่ใจมากขึ้น แม้ว่าเราจะเป็นหวัดธรรมดา หรือหวัด 2009 แต่ยังไงก็อยากให้ทำจนเป็นนิสัย เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเอง

อีกเรื่องก็คือเราคัน แคะจมูก เกา แล้วก็เอามือมาจับคีย์บอร์ด เม้าส์ นี่ขนาดเราใช้เอง ยังไม่รวมตอนที่เครื่องมีปัญหา เราเอาไปให้ช่างซ่อมโน้ตบุ๊ค กลับมาก็อาจจะมีเชื้อโรคติดมาด้วย หรือเพื่อนมาทำคอมพ์ให้ แล้วก็สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน

แม้ว่าไข้หวัดระบาดหนัก เราใช้ผ้าปิดปาก แต่ยังไงก็ควรหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นประจำทุกวันเพื่อสุขอนามัยที่ดี

แม้ ว่าข่าวจะออกมาไม่ดีว่า ปิดร้านเกมไม่ได้ช่วยอะไร แต่ยังไงก็อย่าลืมว่าเม้าส์ คีย์บอร์ดที่ใช้กันประจำ ไม่ต้องถึงขั้นไอ จาม แค่เราพูดกัน ตะโกน น้ำลายก็กระเด็นไปถูกคีย์บอร์ด เม้าส์แล้วล่ะ อย่าประมาท เพื่อห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ครับ

แถมท้าย ฝากคำแนะนำ เรื่องข้อปฏิบัติสำหรับสถาบันกวดวิชา ร้านอินเตอร์เน็ตและร้านเกมส์

โดย กระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2552

หลักๆก็คือคำแนะนำใน การทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะเรียน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได คอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยการใช้น้ำละลายผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง สำหรับเมาส์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ควรทำความสะอาดให้บ่อยที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ นี่เป็นจุดสำคัญที่เห็นได้ชัดว่าเชื้อโรคแพร่กระัจายผ่านการสัมผัสคีย์บอร์ด เม้าส์ครับ

ทิ้งท้ายด้วยการเตือนตัวเองทุกครั้งก่อนเอามือจับหน้า คอ และการหยิบจับอาหารว่า คุณล้างมือหรือยัง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันหวัด

ด้วยความปรารถนาดีจาก Yokekung




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 13:37:48 น.
Counter : 906 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  

yokekung
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ความสุขของคุณ คือความสุขของเรา

Yokekung Blog

เราเชื่อว่า ถ้าคุณได้อ่านบล็อกเรา แล้วมีความสุข เราก็มีความสุขเมื่อเห็นคนอ่านมีความสุข

ความสุขจากการแบ่งปันความรู้ ทิป เทคนิคต่างๆทั้งคอมพิวเตอร์ ไอที กล้องดิจิตอล มือถือ แม่และเด็ก พัฒนาการเด็ก

ติดต่อรับงานเขียน รีวิว ออกงานอีเว้นท์ yokekungworld [at] gmail.com
Creative Commons License
yokekung.bloggang.com โดย yokekung อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ yokekung.bloggang.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ http://yokekung.bloggang.com
Visit M.B.A. for IT-Smart Program
จำนวนคนที่เข้ามาดูพร้อมกับคุณ
Friends' blogs
[Add yokekung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.