ความสุขของคุณ (ผู้อ่าน) คือความสุขของเรา
Group Blog
 
All Blogs
 

ซื้อโฟนวันวันนี้ ได้เม้าท์ฟรีสูงสุด 500 บาท



โฟนวัน มือถือคุณภาพจากเอไอเอส มอบค่าโทรฟรี สูงสุดถึง 500 บาท เมื่อซื้อโฟนวัน 4 รุ่น ทั้งมัลติมีเดียและเบสิคโฟน โดยรุ่น M304 รับซิม วัน-ทู-คอล! พร้อมค่าโทรฟรี 500 บาท , รุ่น B105, B107 และ B108 รับซิมแม่ยกจากสวัสดี พร้อมค่าโทรฟรี 240 บาท หาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่เอไอเอสช็อป, เซเรเนดคลับ, ร้านเทเลวิซ และตัวแทนจำหน่าย MFA ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1175 กด 8 หรือ
//www.phoneonemobile.com




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2552 8:05:15 น.
Counter : 1047 Pageviews.  

รู้จักกับระบบเสียงบนมือถือ Dobly Mobile



การฟังเพลงบนมือถือนั้น ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะความคล่องตัวในการพกพา การบรรจุเพลงลงบนหน่วยความจำขนาดต่ำๆก็ 1GB ก็ถือว่าสะดวกและคล่องตัว แรกๆนั้นทุกคนฟังเพลงผ่านหูฟัง ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่พอจะเอามาฟังเพลงผ่านลำโพง ทำไมเสียงแตก ทำไมเสียงอู้อี้ ไม่สดใส ก็เพราะ
ชิปประมวลผลเสียงนั้นยังไม่ได้รับการพัฒนา ลำโพงยังรองรับการขับเสียงสนทนาและเสียงริงโทนที่มีความละเอียดแค่ไม่ 92Kbps การที่เราเอาเพลง 128Kbps จนถึง 320Kbps มาเปิดบนลำโพงมือถือ เสียงก็เลยออกมาไม่ดี ทำให้บางคนเข้าใจผิดไปโทษมือถือไม่ดี ลำโพงห่วย แต่เอาเข้าจริงแล้ว ถ้าเราเทียบกับคอมพิวเตอร์ ทุกคนจะรู้ว่า sound card ต้องดี เพลงที่เปิดต้องมีการบีบอัดคุณภาพสูง ลำโพงต้องดี แต่กับมือถือ ชิปก็ไม่ได้รับการออกแบบเพื่อฟังเพลงโดยตรง ลำโพงก็ใช้เล่นเสียงริงโทน หรือเสียงสนทนาผ่าน Speaker Phone เท่านั้นเอง ล่าสุดมือถือใหม่ๆอย่าง LG KM900 Arena สนับสนุนระบบเสียง Dolby Mobile เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Dolby Mobile กัน

อ่านเรื่องราวของ Dolby Mobile เต็มๆได้จาก //www.i3.in.th/news/view/665




 

Create Date : 26 เมษายน 2552    
Last Update : 26 เมษายน 2552 10:18:13 น.
Counter : 1242 Pageviews.  

ระวังอย่ามองข้ามความปลอดภัย หมั่นตรวจสอบความผิดปกติของแบตเตอรี่กล้องเป็นประจำ



ส่วนตัวผมใช้กล้องดิจิตอล เจอปัญหาเรื่องแบตบวมค่อนข้างบ่อย แม้ว่าแบตเตอรี่กล้องจะไม่ค่อยระเบิด แต่แบตเตอรี่้มือถือระเบิดบ่อยครั้งเนื่องจากด้อยคุณภาพ แต่ส่วนใหญแล้วแบตเตอรี่กล้องของแท้มักจะมีคุณภาพดี แต่ก็ด้วยความที่ Made in China เรื่องคุณภาพก็อาจจะถูกละเลยไปบ้าง นี่คือคำตอบครับว่าทำไมแบตกล้องของแท้จึงมีราคาแพงร่วมพัน

ผมเคยใช้ Panasonic FX-7 นานแล้ว พอใช้ไปสัก 3 - 4 ปี แบตเตอรี่บวม ทำเอาไม่กล้าใช้ ต้องซื้อแบตเทียบเท่ามาใช้แทน เนื่องด้วยของแท้แพงเหลือเกิน แต่เจ้านี่ขายเพื่อนไปแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าแบตเทียบเท่ามันใช้งานได้ดีแค่ไหน

ล่า สุดหลังจะจับ Ricoh R10 มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน (อ้อ ลืมบอกไปว่าแบตเตอรี่ของ Panasonic และ Ricoh ที่ผมใช้ จะต้องถอดแบตออกมาชาร์จบนแท่นชาร์จ) ช่วงเดือนก่อนก็เริ่่มๆเห็นความผิดปกติ ว่าทำไมแบจมันรู้สึกบวมๆแปลกๆ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร

ช่วงสงกรานต์ไปวัดเล่งเนยยี่ ก็เลยชาร์จแบต สังเกตว่าแบตมันบวมๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันไม่ร้อน

เมื่อ วานก็เอามาชาร์จ พอชาร์จเสร็จ เอ ทำไมแบตมันบวมๆ โป่งๆ ลองส่องสังเกตอย่างพินิจพิเคราะห์ จะเห็นรอยแยกร้าวบนแบต DB-70 ของ Ricoh ตายล่ะสิ แบตบวมไม่พอ สงสัยมันจะเริ่มๆบวมข้างในจะใกล้ระเบิดซะแล้ว

ก็ เลยลองสอบถามทาง East Enterprise ดู ตอนแรกคิดว่าแบตประกัน 6 เดือน แต่ศูนย์บอกว่าไม่มีประกันแบต เอ มันยังไง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ถ้ามันชาร์จไม่เข้าในเดือนแรก หรือภายใน 7 วันเขาเปลี่ยนให้เลย แต่นี่มันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นับเวลาพกริโก้ทุกวันก็รวมๆร้อยกว่าวันแล้ว

เอาล่ะสิ แบตบวม ไม่กล้าใช้แล้ว ถามอีสฯก็บอกว่าราคา 1200 โอ้วววพระเจ้า

ล่อซะปลายเดือนเลย

มองๆหา oska กับ commy ลองโทรไป oska แจ้งว่าใช้แบตของ Fuji MP-60 ได้ ใช้ร่วมกันได้ไม่มีปัญหา

ก็เลยติดต่อร้านกล้องที่รู้จักกับพี่ที่ออฟฟิศ เดี๋ยวคงจะได้สอยมาใช้แทนแบตที่บวม

อยาก จะฝากไว้ว่า หมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติกับแบตของเรา ถ้าชาร์จแล้วร้อนจัดเกินไป หรือแบตบวมแปลกๆ ผิดรูป อย่าชาร์จนะครับ อาจจะเกิดอันตรายได้ ผมพกกล้องทุกวัน ใช้งานตลอด ไปงานไหนก็เอาไปด้วยตลอด

เห็นแบตบวมแล้ว น่ากลัวครับ อยากจะฝากไว้ว่า ถ้าจะซื้อแบต ก็ควรจจะหาของแท้ ซึ่งของแท้ก็ยังบวมเลย ของเทียบเท่าก็พิจารณาดีๆครับ

แต่ที่สำคัญ แบตสองพัน ผมว่ากลไกลมันน่าจะดีกว่าสี่ห้าร้อยนะครับ

อย่าบ่นเลยว่าแบตแพง เอาคุณภาพกับความปลอดภัยดีกว่าครับ ไม่งั้นถ้าแบตระเบิด เราเสียโฉมไม่พอ กล้องเสีย เมมพัง ก็จะแย่เอานะครับ

ภาพประกอบโดย
yokekung




 

Create Date : 21 เมษายน 2552    
Last Update : 21 เมษายน 2552 22:11:23 น.
Counter : 1601 Pageviews.  

แนะนำการซื้อมือถือมือสอง

จากประสบการณ์ส่วนตัว

อันดับแรกเลยนะครับ

ให้สอบถามราคาหลายๆร้านก่อน ดูราคากลาง จริงๆเราน่าจะมีราคาที่พอใจในระดับนึงของเราก่อนแล้วล่ะ

แต่ถ้าต่างจากของใหม่พันสองพัน ก็ซื้อของใหม่ชัวร์กว่าเยอะ

ถ้าผมรู้ว่าอยากได้รุ่นไหน ก็จะดูราคากลางที่เขาขายในเวบ เช่น pantipmarket thai2hand ก่อน

จากนั้นตระเวณถามครับ

ประกันเหลือเท่าไหร

ของแถมมีอะไรบ้าง

มีริ้วรอยอะไรไหมก็ลองพิจารณาดู

ถ้ามีอุปกรณ์ยกกล่อง เลขอีมี่ตรงกันทั้งมือถือ (อยู่ด้านหลังแบต) กับกล่อง ก็ลองได้เลย

แต่ก็ไม่แน่เพราะทำเลียนแบบได้ทั้งนั้น

ดูเวลาที่โทร

ปกติแล้วแบตเตอรี่ หากเป็นเครื่องที่ขายมือสอง ก็อาจจะชาร์จไว้ให้เพราะอยากขาย อยากให้ลูกค้าลองเครื่องก่อน

เครื่องที่มีสภาพใหม่ๆ ก็จะดีกว่า คือร้านต้องตรวจเช็คอะไรก่อนรับซื้ออยู่แล้ว ก็อาจจะเช็คก่อน หากแย่จริงๆก็อาจจะไม่รับซื้อ ร้านพวกนี้ดีครับ ถ้ามีโอกาสลองสังเกตป้ายอนุญาตให้ขายสินค้าทอดตลาดได้

อันนี้น่าจะชัวร์ในระดับหนึ่งครับ

ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ซื้อมือถือมือสองนานมากแล้ว หลังจาก V3i ก็ไม่ได้เลือกมือถือมือสองอีกเลย

ย้ำนะครับว่า
หลังจากเลือกซื้อแล้ว ร้านที่ดีจะขอถ่ายสำเนาบัตรประชาชนเราไว้ เผื่อว่ามีปัญหาภายหลัง เช่น รับซื้อของโจร อะไรแบบนี้ เขาจะได้ติดต่อเราไว้

ปกติซื้อมือถือมือสอง อยากให้สังเกตว่าต้องมีที่ชาร์จด้วยนะครับ ถ้าไม่มีอาจจะเป็นได้ว่าโดนขโมยมาขาย

ปกติแล้วเวลาผมขายมือถือให้ร้าน ร้านจะขอถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไว้เพื่อเป็นหลักฐานครับ พร้อมจดเลขอีมี่ไว้ว่าใครเอามาขาย เผื่อเป็นการรับซื้อของโจร

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามักง่ายหรือเปล่า

เรื่องเทสแนะนำว่า

กดปุ่มทุกปุ่ม ปุ่มตัวเลข ลองโทรออก รับสาย ถ้าเรามีมือถือ 2 เครื่องก็ใส่ซิมเราแล้วเอาอีกเบอร์โทรเข้า ฟังเพลงลำโพงแตกหรือไม่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า

เรื่องชาร์จแบต อันนี้ผมอยากให้มองเหมือนเต้นท์รถมือสองครับ เขาต้องทำให้เอี่ยมอ่องเลย ขัดผิว ขัดให้เงาวับน่าซื้อ มือถือแบตเต็มก็ดีครับ ไม่ใช่ว่าแบตหมดเพราะพนักงานเอาไปโทร หรือไม่ก็เล่นจนแบตเกือบหมด หรือไม่ก็เพิ่งรับซื้อจากคนก่อนหน้าเรามาหมาดๆ อันนี้ต้องระวังครับ

แนะนำโดย yokekung

ลิขสิทธิ์เผยแพร่ ห้ามดัดแปลง ให้อ้างอิงแหล่งที่มา
สัญญา Creative Common แบบแสดงที่มา ไม่ใช้เพื่อการค้า ไม่คัดลองเปลี่ยนแปลงใดๆ




 

Create Date : 15 เมษายน 2552    
Last Update : 26 เมษายน 2552 10:19:49 น.
Counter : 1059 Pageviews.  

เทคโนโลยี หรือเราเอง . . . ที่เปลี่ยนไป

โดยส่วนตัวผมเริ่มใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนตัวครั้งแรกก็คือ Pentium 150MHz Ram 16MB การ์ดจอแรม 1MB HDD 1.2G จำได้ว่าศึกษาเรื่อยๆ เริ่มที่จะอัพเกรด แรม 32MB ราคา 3500 บาท ในสมัยนั้น เพิ่มแรมการ์ดจอ จำไม่ได้ว่า 300 - 450 บาท (เพิ่มอีก 1MB) เหตุเพราะดูหนัง VCD แล้วกระตุก เปลี่ยนไดร์ฟ CD ยี่ห้อ NEC 24x ราคา 3400 บาท จากนั้นก็เปลี่ยนคอมใหม่เป็น AMD Duron 900MHz อันนี้ยังไม่ถึง 1GHz ด้วยซ้ำ จำได้ว่าแรมแค่ 256MB เท่านั้นเอง ไม่ได้ใช้ 1GB เหมือนสมัยนี้หรอก

เทียบกับสมัยนี้

CPU 2GHz [2000MHz] เมื่อก่อน 150 - 200MHz ก็เร็วแล้ว ถัดมาก็ 800 - 900MHz ก็ถือว่าแรง ไม่คิดว่าจะเลยเถิดมาถึง 2GHz ได้

RAM 2GB สมัยก่อนแรม 128 - 256 มากถึง 512 ก็ถือว่าแรงสุดๆแล้วล่ะ ยิ่ง 2GB ถือว่าเทพมากๆ แต่สมัยนี้ 2 - 4GB

HDD 320 - 500GB สมัยก่อนจะเป็น 20 / 40 / 60 / 80 - 160 GB ถือว่าเยอะแล้ว ไม่คิดว่าจะเลยไปถึง 500GB - 1, 2TB เหมือนสมัยนี้

ถามว่า ถ้าคุณกลับไปใช้ Pentium 150, 200MHz ไหวไหม กลับไปใช้แรม 128MB ไหวไหม บางออฟฟิศแรม 256 ก็ยังถือว่าน้อยมากๆแล้ว 512MB นี่ถือว่ากลางๆ แต่กลับกลายเป็นว่า 1GB มาตรฐานขั้นต่ำตอนนี้แล้ว

ถ้ากลับไปใช้แค่ CD Drive ธรรมดา ไรท์แผ่นไม่ได้จะเอาไหม

หลายๆคนบอกว่า ถ้ากลับไปใช้เม้าส์ลูกกลิ้งก็คงไม่เอา ถ้าใช้ Wireless แล้วก็คงไม่กลับไปใช้มีสาย ถ้าใช้ HDD 160GB เมื่อก่อนใช้ได้ สมัยนี้ต้อง 250 - 320GB ไว้ก่อน กลับไปใช้ 20 / 40 / 80GB ถือว่าน้อยมาก

นี่แหล่ะครับ เทคโนโลยีเปลี่ยนไป Netbook มากับ HDD 30GB น้อยมาก CPU 1.6GHz น้อยมาก ยิ่งของ VIA 900MHz ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ คิดว่าช้าแน่เลย

เคยคิดไหมครับ ใช้คอมเร็วๆ แล้วกลับไปใช้ของเก่า ทำใจไม่ได้ ช้าบ้างล่ะ เต่าบ้างล่ะ

ลองไหมครับ ลองกลับไปใช้ CPU 500MHz, Ram 128MB, HDD 80GB จริงๆมันก็พอจะรัน Windows XP เล่นเน็ตได้บ้างแหล่ะครับ พิมพ์งานก็ยังได้

จำได้ไหมครับว่าสมัยก่อนเราใช้เครื่อง CPU 500MHz ร้องคาราโอเกะใส่แผ่น Midi กัน

เราเปลี่ยนไป หรือว่า เทคโนโลยี เปลี่ยนไป

เอาจริงๆ ถ้าเราใช้มือถือจอสี จะให้กลับไปใช้ 3310 สีขาวดำ หาว่าเชยบ้างล่ะ ใช้มือถือรุ่นล่าง จอขาวดำ หาว่าไม่มีตังบ้าง จนบ้างล่ะ จริงๆถามว่ามันใช้โทรได้ไหม ก็โทรได้ แบตก็อยู่ได้นานกว่า

เอาคอม 500Mhz มาพิมพ์งาน ก็ไม่ได้ถือว่าแย่ครับ แต่อาจจะต้องรัน Office 2003, Windows XP หรือ ME แทนจะเร็วกว่า

ถามว่า Browser เล่นเน็ตได้ไหม เล่นได้ครับ แม้ว่าจะเป็น IE 5.5, IE6 ก็ยังเล่นเน็ตได้ พิมพ์ Blog ได้

มันอยู่ที่ความคิดครับ

ผมเองตอนนี้ใช้ Netbook กับ CPU Atom 1.6GHz, Ram 1GB ใช้ Windows Vista ลิขสิทธิ์แท้ ก็เลยเอาฟังก์ชั่น Readtboost มาใช้

เพิ่มความเร็วด้วย USB 4GB มาใช้กับแรมแค่ 1GB ส่วนฮาร์ดดิสก์ก็ใช้ติดตั้งโปรแกรมเท่าที่จำเป็น เก็บข้อมูลเยอะๆก็ใช้ External HDD ที่มีอยู่แล้ว ส่วน DVD ไม่มีก็ไม่จำเป็น เพราะติดตั้งก็โหลดจากเน็ตติดตั้งได้อยู่แล้ว อยากได้ของแท้ก็ซื้อ Product Key มาใช้ซะ

มันอยู่ที่ว่าเราจะประยุกต์และปรับตัวยังไงกับเทคโนโลยีครับ

เครื่องช้า ทำยังไงให้เร็ว ปรับเครื่อง แต่งระบบ ลบไฟล์ไม่จำเป็น เราก็จะเป็นสุขได้ เครื่องไม่ต้องแรง มือถือไม่ต้องแพงหรูหรา เอาเงินมาเติมตังไว้โทรออกดีกว่า เครื่องไม่ต้องแรง เอาเงินมาสร้างเนื้อหาและงานเพื่อสังคมดีกว่าครับ

ไม่ต้องตอบผมนะครับว่า เทคโนโลยีหรือเราเอง ... ที่เปลี่ยนไป ตอบตัวคุณเองได้เลยครับ

yokekung




 

Create Date : 15 เมษายน 2552    
Last Update : 15 เมษายน 2552 11:27:10 น.
Counter : 980 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  

yokekung
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ความสุขของคุณ คือความสุขของเรา

Yokekung Blog

เราเชื่อว่า ถ้าคุณได้อ่านบล็อกเรา แล้วมีความสุข เราก็มีความสุขเมื่อเห็นคนอ่านมีความสุข

ความสุขจากการแบ่งปันความรู้ ทิป เทคนิคต่างๆทั้งคอมพิวเตอร์ ไอที กล้องดิจิตอล มือถือ แม่และเด็ก พัฒนาการเด็ก

ติดต่อรับงานเขียน รีวิว ออกงานอีเว้นท์ yokekungworld [at] gmail.com
Creative Commons License
yokekung.bloggang.com โดย yokekung อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ yokekung.bloggang.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ http://yokekung.bloggang.com
Visit M.B.A. for IT-Smart Program
จำนวนคนที่เข้ามาดูพร้อมกับคุณ
Friends' blogs
[Add yokekung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.