บรรยากาศงานเสวนา : สานฝันนักเขียนไทย ทางเลือกใหม่ จาก Blog สู่ Book ครั้งที่ 1
งานนี้ yokekung ในนามของ Blogger ขออาสาเป็นกระจอกข่าว ไปเกาะติดการเสวนา "สานฝันนักเขียนไทย ทางเลือกใหม่ จาก Blog สู่ Book ครั้งที่ 1" ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคาร 29 (Do IT) ชั้น 8 ห้อง 2981 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เริ่มแรกได้รับอีเมล์จากพี่โอม MacDD ที่สมัครเป็น Mailing List ไว้ ก็เลยได้มีโอกาสคุยกับคุณนิ่ม เห็นโครงการดีๆแบบนี้ คนที่อยากเป็นนักเขียนอย่างเรา ก็ต้องอยากรู้และอยากทำตามความฝันของตนเอง ในงานเสวนาในครั้งนี้เกิดจากไอเดียของคนที่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน โดยปกติแล้วเวลาเราเขียนเรื่องต่างๆ ลงใน Blog หรือเว็บไซต์ส่วนตัว หรือ ไดอารี่ออนไลน์ เวลาเราไปเสนอเรื่องสั้นให้สำนักพิมพ์ต่างๆนั้น เราจะต้องพิมพ์ขั้นต่ำจำนวน 3 พันเล่ม ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูง แถมการที่ต้นฉบับของเราจะถูกพิจารณาจากบรรณาธิการสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ซึ่งมีต้นฉบับมาให้พิจารณาร่วมๆพันเรื่องต่อเดือน แต่กลับได้รับการตีพิมพ์เป็นเล่มเพียง 37 เล่มต่อเดือนเท่านั้น ในกรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่าหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์จะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะหนังสือเข้าร้านหนังสือวันหนึ่งๆ ร่วมสามสิบเล่ม ตกเดือนหนึ่งๆร่วมห้าร้อยเล่ม ดังนั้นจึงมีโอกาสที่หนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์จะถูกเก็บไว้หลังร้าน พูดง่ายๆก็คือขายไม่ได้ ก็ต้องเก็บไว้ รอโละงานหนังสือต่างๆ นั่นเอง เนื่องจากร้านมีพื้นที่จำกัดในการจัดเก็บ ที่นี้สำนักพิมพ์ ThaiBookCafe ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยคุณให้ได้แจ้งเกิด อย่างน้อยก็เป็นสนามซ้อมเล็กๆ ในการตีพิมพ์ เช็คเรตติ้ง เพราะมีรูปแบบของการตีพิมพ์แบบ On-Demand คล้ายๆกับของ Amazon ก็คือไม่ต้องพิมพ์ทีเดียว 3 พันเล่มให้เป็นสต็อคล้นร้านหนังสือ แต่คนอ่านอยากอ่านก็สั่งพิมพ์ขั้นต่ำเพียง 1 เล่มเท่านั้นเอง หมายความว่า ใครที่สนใจอ่านเรื่องย่อ อยากจะติดตามอ่านเรื่องสั้น นิยาย ก็ซื้อจากเว็บไซต์ จากนั้นก็พิมพ์แค่เล่มเดียว ตามสั่งได้ เรียกเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ สำนักพิมพ์ตามสั่งนั่นเอง ทำให้ไม่เปลืองกระดาษ คนอ่านก็อยากอ่าน คนเขียนก็ปลื้มที่มีคนอ่าน ไม่ใช่พิมพ์ทิ้งๆขว้างๆโดยร้านหนังสือเห็นขายไม่ได้ ไม่มีคนสนใจก็เก็บไว้หลังร้านเลหลังขาย สิ้นเปลืองกระดาษและบั่นทอนกำลังใจของคนเขียนเป็นอย่างยิ่งที่โต๊ะลงทะเบียน คุณวายุ สราญ เขียนเรื่อง Devacurse: Darkness War สงคราวแห่งความมืด ภาคนักรบเทวะ ซึ่งนำตัวละครจะ Card Game เดวาเคิร์สมาแต่งแนวจินตนาการแฟนตาซี ไม่น่าเชื่อว่าเบื้องหลังเป็นคนเขียนตำราคอมพิวเตอร์นั่นเองหนังสือที่แสดงหน้างาน ก็คือหนังสือที่นักเขียนได้รับการตีพิมพ์ผ่าน ThaiBookCafe แบบ on-demand หรือหนังสือที่พิมพ์ตามสั่งนั่นเองเริ่มการเสวนาโดยมีผู้ดำเนินรายการคือคุณอารี แท่นคำ (พายุหินกูรู)เริ่มที่คุณนิรันดร์ศักดิ์ บุญจันทร์ บรรณาธิการจุดประกายวรรณกรรม หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ //www.oknation.net/blog/nirunsakบรรยากาศขณะนั่งฟังบรรยาย มีนักเขียนที่ได้รับการตีพิมพ์จาก Thaibookcafe และนักศึกษา ม.ราชภัฏจันทรเกษมให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก วิทยากร คุณปู ผจก thaibookcafe, คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด แห่งมูลนิธิกระจกเงา) และอาจารย์จักษุ ตะกรุดแก้ว อาจารย์ประจำสาขาวิชาวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม มาต่อที่คุณเอก อัคคี ในนามของ บก.นิตยสารอักษรสารคุณปู ผู้บริหารสำนักพิมพ์ thaibookcafeคุณโอม พูดถึงวัตถุประสงค์ของ thaibookcafeสำหรับจุดเด่นของ thaibookcafe คือเป็นทางเลือก เป็นสนามซ้อมให้นักเขียนหน้าใหม่ได้มีหนังสือ pocket book ตีพิมพ์กับเขาบ้าง เพราะโอกาสจากสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ หากไม่ได้รับการตีพิมพ์ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะเรื่องประสบการณ์ ชื่อเสียง แต่ฝันของคุณจะเป็นจริงได้ก็จากการพิมพ์แบบ on-demand ที่ผู้อ่านสนใจอ่านเรื่องย่อ แล้วสั่งซื้อหนังสือ รอพิมพ์ไม่กี่วันก็ส่งถึงบ้านแล้ว เรื่องการดูแลเนื้อหา การใช้คำ จะมี บรรณาธิการพี่เลี้ยงเป็นผู้ช่วยตรวจสอบและดูแลในเรื่องลิขสิทธิ์ ไปลอกใครมาหรือเปล่า แบบนี้จะมีคนอ่านคอยตรวจสอบเป็นบรรณาธิกาอีกขั้นนึงด้วย ข้อดีของการสั่งพิมพ์ on-demand คือมีจำนวนคนสนใจซื้อกี่เล่มก็พิมพ์ตามนั้น ไม่ต้องพิมพ์ขั้นต่ำ 3 พันเล่มแบบอ็อฟเซ็ตปกติ แต่ข้อเสียคือราคาแพงกว่าหนังสือปกติ เพราะจำนวนพิมพ์น้อยนั่นเอง แต่คุณค่าอยู่ที่คนอ่าน ไม่ได้ซื้อมาทิ้งๆขว้างๆว่าตัวเองก็อ่านหนังสือรางวัลรีไรท์ ไม่ต้องมีสต็อคหนังสือที่พิมพ์ไว้ ไม่ต้องเปลืองกระดาษ มี บก.ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ให้ หากมีการคัดลอก ทำซ้ำ ก็จะฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์แถมเรื่องของการดูแลงานเขียนให้ออกมาอย่างสมบูรณ์และทรงคุณค่าก็เป็นเรื่องของบรรณาธิการด้วย thaibookcafe เหมือนกับเคเฟ่ของนักเขียนที่อยากจะมีพ็อคเก็ตบุ๊คส์ของตัวเอง มี community ของนักเขียนและนักอ่าน มีแฟนคลับติดตามแนวๆ social network คล้ายๆกับ Hi5แต่สิ่งสำคัญคือคุณภาพของผลงาน ที่ต้องผ่านการคัดกรองและเห็นว่าเป็นงานเขียนที่ดีที่น่าประทับใจคือ คนเขียนหนังสือเล่มนึง ไม่ใช่ "นักเขียน" แต่เป็น "คนที่เขียนหนังสือ" หรือ "คนชอบเขียนหนังสือ" ไม่ใช่นักเขียนที่่ทรงคุณค่า บก.ลายจุด แห่งมูลนิธิกระจกเงา งานเขียนควรจะมีคุณภาพ เน้นเรื่องคุณภาพ ไม่ใช่ว่าใครอยากพิมพ์ก็พิมพ์ได้เลย แบบนั้นจะเหมือนร้านถ่ายเอกสารซะมากกว่าอาจารย์โป้ง - จักษุ ตะกรุดแก้วช่วงพักเบรค ก็แวะดูการ์ดเกมส์ ไม่เคยเล่นเลย คนไทยไม่รู้จัก หาว่ามัวเมา พนัน แต่เมืองนอกเขาเล่นกันเป็นกีฬา เหมือนๆกับเล่นหมากรุก คล้ายๆกับเล่นไพ่เป็นกีฬานั่นแหล่ะหนังสือเล่มที่บอกไปข้างต้น ไม่ต้องเล่นการ์ดเกมเป็นก็อ่านได้ แต่หากชอบแล้วอยากเล่นการ์ดเกมก็ดี เพราะคนไทยยังไม่รู้จัก ยังมองในแง่ลบอยู่ ทั้งๆที่ฝึกสมอง เล่นได้ตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 60 แถมไม่เป็นอัลไซเมอร์ด้วยเพราะฝึกสมองตลอดเวลาหลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงสรุปเรื่อง thaibookcafe ที่อยากให้มีคนอ่านเป็นบรรณาธิการช่วยๆกัน อยากให้เป็นสนามซ้อมเล็กๆของคนอยากมีหนังสือของตัวเอง อยากให้เป็นกำลังใจไปสนามใหญ่ๆ สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ เมื่อมีชื่อเสียงแล้วจากนั้นมีบทกวีของคุณสิงหา สัตยนนท์ จาก OKnation//www.oknation.net/blog/pinitsatayanonจากนั้นเป็นความรู้สึกที่สุดยอดสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ ที่่มีโอกาได้รับการตีพิมพ์งานเขียนในรูปแบบหนังสือจาก thaibookcafeDarkness War สงคราวแห่งความมืด ภาคนักรบเทวะ โดย คุณวายุสราญ นักเขียนหน้าใหม่ กับงานเขียนแนวแฟนตาซีแนวใหม่Fute the prince of tomorrowโดย คุณหมิง นักเขียนและบรรณาธิการที่มีผลงานผ่านตาแล้วอย่างมากมายเด็กแนว (วัด)โดย คุณวรเชฐ เขียวจันทร์ นักเขียนหน้าใหม่ที่เคยผ่านระบบการทำ Pocket Book มาแล้วรูปถ่ายรวมนักเขียนหน้าใหม่ที่มาร่วมงานเสวนาที่สองจากขวาคุณพิมพิสุธญ์ วรรณรมย์ (พิมพิส) นักเขียนผู้มีความรักและความมุ่งมั่นในงานเขียนมีผลงานผ่าน Blog อย่างต่อเนื่อง ด้วยสไตล์การเขียนที่ไม่เหมือนใครขวาสุดนางสาวไปรเวต นักเขียนที่มีผลงานได้รับรางวัลผ่านตามาแล้วไม่ว่าจะเป็น กระต่ายตายแล้ว" เรื่องสั้นเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี 2550 , ดอยรวก" เรื่องสั้นยอดเยี่ยมรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี 2551 และที่วันนี้ยอมนำผลงานใหม่ล่าสุดมารวมเล่มที่ Thaibookcafeขอขอบคุณคุณโอม คุณนิ่ม ที่จัดโครงการดีๆแบบนี้ ขอบคุณที่ให้โอกาสในการนำเสนอเรื่องราวดีๆครับyokekung