เมื่อสมัยอังกฤษปกครองพม่า ข้าหลวงอังกฤษได้แวะเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากอง โดยไม่ยอมถอดรองเท้า ด้วยถืออำนาจว่าตนเป็นผู้ปกครอง แต่ชาวพม่าไม่ยอม ทางฝ่ายข้าหลวงก็ยังยืนยันความคิดเดิมของตัว เป็นเหตุให้ชาวพม่าจำนวนหมื่นกว่าคน พากันมานอนคว่ำอยู่ตามบันไดที่จะเดินขึ้นสู่องค์พระเจดีย์ ตลอดจนลานเจดีย์ชเวดากองเต็มไปหมดไม่เห็นพื้นเลยหากข้าหลวงอังกฤษจะขืนสวมรองเท้าขึ้นไปจริงๆ พื้นรองเท้าจะไม่มีโอกาสสัมผัสพื้นได้เลย ต้องเหยียบร่างของชาวพม่าไปก่อน ชาวพม่าถือว่า แม้ว่าประเทศของตนจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
แต่สิ่งที่ชาวพม่ายอมไม่ได้ คือ การถูกย่ำยีพระพุทธศาสนา เพราะนั่นหมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพุทธพม่า เรียกได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของการรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในแผ่นดินพม่า ทำให้ข้าหลวงและทหารอังกฤษยอมถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่า และถือได้ว่า เป็นชัยชนะทางวัฒนธรรม ที่ชาวพม่าภูมิใจบอกเล่าเรื่องราวจากบรรพบุรุษ
ทุกๆ เช้า เริ่มต้นวันสว่างตั้งแต่เวลาตี 4 ทั้งพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และชาวพม่า จะเดินทางออกจากบ้าน มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ บูชาพระเจดีย์ และช่วยกันปัดกวาด ทำความสะอาดพระเจดีย์ ซึ่งคนจะมากันมาก ในช่วงเช้ามืดก่อนไปทำงาน กับช่วงเย็นเวลาหลังเลิกงานตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเวลา 3 ทุ่ม ชาวพม่าจะมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เหมือนช่วงเช้ามืดพอเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จะมีหนุ่มสาวชาวพม่าจำนวนมาก มาช่วยกันกวาดถู ทำความสะอาดพระเจดีย์ กวาดกันเป็นทิวแถว อย่างพร้อมเพรียงกัน เวลาของการทำความสะอาดพระเจดีย์จะเป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน ที่ทุกคนรอคอยจะเก็บบุญสุดท้ายก่อนกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน โดยทุกคนจะเอาไม้กวาดและผ้ามาเอง ทำกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถึงเวลานอน ชาวพม่าจะหันศีรษะไปทางทิศที่เจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่ เพื่อทำความเคารพและบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่มา: