ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

พันธุ์ไม้หายาก(ราคาแพง)ที่นิยมในไทย

พันธุ์ไม้หายาก(ราคาแพง)ที่นิยมในไทย
พันธุ์ไม้ราคาแพงและเป็นที่นิยมปลูกหลายชนิดในไทย บางครั้งนำมาจากแหล่งหายากเช่นกัน หรือไม่ก็ขยายพันธุ์ยาก แต่มีต้นและดอกที่สวยงาม ยิ่งสร้างความท้าทายแก่นักเลงต้นไม้ นอกจากจะอาศัยกระแสความนิยมเป็นที่ตั้งแล้ว เรื่องของราคาก็ไม่เบาเช่นกัน ผมจึงได้จัด 10อันดับความนิยมไว้ดังนี้



1.ว่านเพชรหึง เป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถสูงได้ถึง 3 เมตร มีดอกสีเหลือง หรือสีเขียวอ่อนและมีจุดสีน้ำตาล ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของต้น ถ้าเป็นต้นไม้ที่มีความสูงเป็นเมตรจะมีราคาแพงเป็นพิเศษ เมื่อเทียบอายุประมาณ 10 ปี มีขนาดสูง 1 เมตร อาจมีราคาถึง 30,000 บาทเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นกอขนาดเล็กประมาณ 300-400 บาท 

นอกจากราคาจะแพงไม่พอ ว่านเพชรหึงยังขยายพันธุ์ยากมาก ซึ่งต้องใช้เวลาเจริญเติบโตและให้ดอกปีละครั้งเท่านั้น สามารถอยู่ได้นานถึง 3 เดือนกว่าดอกจะร่วงโรย ด้วยความที่ดอกมีขนาดใหญ่และสวยงามมากจึงเป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบกล้วยไม้ ว่านเพชรหึงพบมากในพื้นที่ภาคใต้ เช่น จังหวัดชุมพร, ระนอง และในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งล้วนมีสีสันที่แตกต่างกันออกไปตามพื้นที่ที่ปลูก 

“ว่านเพชรหึงที่พิพิธภัณฑ์พืชสิรินธร เราปลูกมาเกือบ 20 ปีแล้ว ขนาดสูงประมาณ 200 ซม. ถือว่าโตช้ากว่าพืชอีกหลายชนิดในตระกูลเดียวกันและขยายพันธุ์ยากมาก ซึ่งแล้วแต่เทคนิคในการขยายพันธุ์ เนื่องจากว่านชนิดนี้ใช้การขยายพันธุ์แบบแยกกออย่างเดียว หรือไม่ก็มีวิธีการเอาเมล็ดไปเพาะพันธุ์เนื้อเยื่อเพื่อให้ได้ต้นขึ้นมา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีผลเป็นอย่างไรบ้างเพราะส่วนใหญ่ทำได้ยาก”

        2.รองเท้านารีเหลืองกาญจน์ เป็นพืชกล้วยไม้ที่หายากในธรรมชาติ มีดอกสีเหลืองสวยงามซึ่งอยู่ในบัญชีพืชการค้าของกรมวิชาการเกษตร ถ้าใครลักลอบเอาออกมาก็จะมีความผิดทางกฎหมาย ยกเว้นกล้วยไม้บางชนิดที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงในสถานที่เพาะเลี้ยง และขึ้นบัญชีสถานเพาะเลี้ยงไว้เพื่อเป็นการรับรองว่าไม่ได้เอาออกมาจากป่าโดยตรง พบมากในจังหวัดกาญจนบุรี และมีคนเคยบอกว่าสามารถพบได้ในภาคเหนืออีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะมีคนลักลอบเอาออกมาขาย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 400 บาท เป็นต้นไป


        3.เอื้องเขาพระวิหาร เป็นกล้วยไม้ให้ดอกสวย ต้องการแสงแดดน้อย ชอบขึ้นอยู่ตามหินหน้าผา ซอกหิน หรือท่อนซุง จะเติบโตอยู่ส่วนล่างๆของต้นไม้ที่เกาะอยู่ ได้รับอาหารจากซากอินทรียวัตถุ เช่นใบไม้ที่ร่วงและที่ทับถม ผุพัง รวมทั้งซากแมลงที่หล่นและน้ำฝนที่ชะล้างมาบริเวณโคนต้นกล้วยไม้ รากกล้วยไม้อากาศชอบการถ่ายเทอากาศและการระบายน้ำที่ดี

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดสภาพแวดล้อมในการปลูกให้ใกล้เคียงกับสิ่งแวดล้อมจากต้นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้ซึ่งมีอยู่ที่เขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ราคาขายอยู่ระหว่าง 200-300 บาท

       4.ปรงทะเล เป็นไม้กอพุ่ม มีใบเรียงยาวถี่ๆ สีเขียวเข้ม ใบอ่อนสีแดงสวยงาม ปลูกเป็นไม้ประดับ ขนาดใหญ่ สามารถสูงได้ถึง 2 เมตร ต้นคล้ายพวกปาล์ม ถิ่นกำเนิด ริมทะเลแปซิฟิก เจริญเติบโตช้า ชอบแดด ต้องการน้ำปานกลาง ชอบขึ้นที่ดินที่เป็นทรายหรือตามซอกหิน พบมากในบริเวณเกาะหรือทางภาคใต้ที่ไม่ใช่พื้นที่ของเกาะก็จะกระจายพันธุ์อยู่แถวนั้นเช่นกัน คนมักจะเอามาปลูกเพราะกอสวย แต่โตช้า ขนาดหัวเล็กมีราคาอยู่ระหว่าง 100-500 บาท ถ้าขนาดสูง 1 เมตร จะมีราคา6,000 บาท (ประมาณ 10 ปี)


       5.เฟิร์นต้น เป็นพืชที่มีขนาดใหญ่อีกชนิดหนึ่ง อาจสูงเท่าตึก 2-3 ชั้น จึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่โรงเรือนส่วนตัวหรือมีบริเวณบ้านที่สามารถปลูกได้ พบหลากหลายสายพันธุ์ในประเทศไทย ซึ่งลำต้นขนาดใหญ่มีราคาแพงกว่า 3,000 บาทขึ้นไป

       6.ปาล์มบังสูรย์ เป็นพืชปาล์มที่มีคนชอบและนิยมปลูกกันมาก เพราะตัวใบมีลักษณะสวยงามแตกต่างจากปาล์มชนิดอื่น มีรอยจีบของใบที่มีขนาดใหญ่สีเขียวสด จึงนิยมนำมาเป็นไม้ประดับ โดยปลูกไว้ในกระถางขนาดใหญ่หรือปลูกประดับลงสวนตามที่ร่มรำไร พบทางภาคใต้ของไทย เช่น จังหวัดนราธิวาส, ยะลา เป็นปาล์มที่คนไทยเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้ จึงเป็นปาล์มประดับชนิดหนึ่งที่มีราคาสูงมาก ตั้งแต่ 2,500-10,000บาท (300 บาท/นิ้ว วัดความกว้างสุดของใบ)

      7.เฟิร์นเขากวางตั้ง เป็นเฟิร์นที่สวยงามแปลกตา มีลักษณะคล้ายเขากวาง อีกทั้งเป็นเฟิร์นหายากในป่าธรรมชาติ ในไทยพบทางภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นราธิวาส และยะลา เลี้ยงไม่ง่ายเท่าไหร่นัก ไม่ชอบน้ำชุ่มแฉะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 500-600 บาท

8.จันทน์ผา เป็นไม้ประดับที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย โดยเฉพาะตามป่าเขาหรือภูเขาหินปูน สูงประมาณ 5 - 7 ฟุต ลำต้นมีความแข็งแกร่งมาก การแตกใบจะแตกออกบริเวณยอด ใบสีเขียวเข้ม เป็นรูปหอก ใบเรียวและยาว นิยมปลูกประดับไว้ตามสนามหญ้าหรือใช้ตกแต่งร่วมกับสวนหิน ราคาต้นเล็ก 300 บาท ถ้าสูง 5-6 เมตร มีราคาถึง 30,000 บาท

        9.พลับพลึงธาร เป็นพืชถิ่นเดียวในประเทศไทยที่เอามาปลูกเป็นพันธุ์ไม้น้ำ มีทั้งพันธุ์ทั่วไปและพันธุ์ป่า มีดอกสีขาว กลิ่นหอมซึ่งถือว่าเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ สามารถพบเฉพาะที่จังหวัดพังงาตอนบน และระนองตอนล่างของประทศไทยเท่านั้น ราคาขายหัวเล็กไม่แพงมากนัก ประมาณ 100 บาทขึ้นไป

        10.ช้างกระ เป็นกล้วยไม้พันธุ์ป่าดอกเล็กๆ สีขาว มีจุดม่วงอมชมพูแซมประปราย ดอกบานรวมกันเป็นช่อใหญ่แข็งแรง ห้อยระย้าลงมาเป็นพวงสวยงาม ส่งกลิ่นหอมไกล ขนาดใบค่อนข้างใหญ่และหนา ซ้อนกันสลับซ้ายขวา ต้นที่สมบูรณ์จะมีช่อดอกยาวประมาณ 20-40 ซ.ม. ดอกจะเรียงกันแน่น ใช้เวลาออกดอกปีละครั้ง แต่อยู่ทนนานประมาณ 3-4 เดือน ถือว่าเป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง กล้วยไม้พันธุ์ช้างกระที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบมากที่อำเภอมัญจาคีรี มีราคาขายขนาดต้นเล็กอยู่ที่ 400-500 บาท 

       ทั้งหมดถือเป็นพันธุ์ไม้ราคาแพงที่คนนิยมปลูกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้นั้นด้วย ซึ่งจะเห็นว่าต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีราคาแพงถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว




Create Date : 21 สิงหาคม 2557
Last Update : 21 สิงหาคม 2557 22:29:35 น. 0 comments
Counter : 8813 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]