ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง

ในการฝึกพูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษนั้น มีหลายวิธีให้เราเลือกใช้ฝึกกันมากมาย และ การดูกนัง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เพื่อนๆ นั้นเลือกใช้กัน มันทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการดูหนังรวมถึงเรายังไม่ความรู้จากการดูหนังเรืองนั้นๆ อีกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น คำศัพท์, วลี, คำย่อ หรือคำเฉพาะที่ต่างประเทศเขาใช้กัน ยิ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบการดูหนังเป็นพิเศษอยู่แล้ว และอยากจะฝึกภาษาอังกฤษไปด้วย ก็ทำให้เราสนุกกับการเรียนรู้อีกด้วยนะ วันนี้ทีนเอ็มไทยมี 5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง มาฝากเพื่อนๆ กันคะ ลองไปดูกันซิว่าเราควรจะเริ่มต้นฝึกยังไง ^^

5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง

5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง

1. อย่าดูรวดเดียวจบ

ในการดูหนังเพื่อฝึกภาษานั้น ไม่ควรดูรวดเดียวจบโดยไม่พักเลย ควรปล่อยให้สมองได้มีช่วงเวลาพักบ้าง เพราะเวลาดูหนังเพื่อฝึกภาษาเราต้องเพ่งสมาธิและคิดตามมากกว่าการดูปกติ หากตะบี้ตะบันฝืนดูไปเรื่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลงโดยใช้เหตุ

กรณีที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกภาษา ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญทักษะการฟังมากนัก ควรเลือกหนังที่เคยดูมาแล้วรอบนึงจะดีกว่าค่ะ เพราะคุณจะได้โฟกัสกับการฝึกภาษาได้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงเนื้อเรื่องมากนัก และควรค่อยๆ ไต่ระดับโดยเริ่มจากเลือกหนังที่เข้าใจง่าย ใช้ภาษาไม่ซับซ้อน แล้วค่อยทยอยเพิ่มระดับความยากมากขึ้นตามความชำนาญ

2. ปิดซับไตเติ้ลซะ

การดูหนังพร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทย จะทำให้คุณสับสนมากกับศัพท์บางคำมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางทีซับไตเติ้ลภาษาไทยก็อาจจะแปลไม่ตรงกับภาษาอังกฤษเป๊ะๆ อีกอย่างหนึ่งคือ พอเปิดซับไตเติ้ลแล้วคนดูส่วนใหญ่ก็จะเผลอตั้งใจอ่านแต่ซับไปโดยอัตโนมัติ ทำให้ประสิทธิภาพในการฟังลดลง แต่สำหรับมือใหม่หัดฟังที่ดูแบบไม่มีซับไตเติ้ลแล้วมึนตึ้บไม่ไหวจะเคลียร์ อนุญาตเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยได้บ้าง แต่นั่นก็อาจจะทำให้คุณได้ฝึกทักษะการอ่านมากกว่าการฟัง

5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง

5 เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง

3. ดูเรื่องหนึ่งหลายๆ ครั้ง

ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การทำซ้ำหลายๆ ครั้ง เป็นสิ่งที่สมองคนเราโปรดปรานมาก เพราะยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมเข้าไปเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งจดจำได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น หากเลือกหนังที่มีบทสนทนาเป็นธรรมชาติ สามารถจดจำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็จะดีไม่น้อย และควรเลือกหนังที่ตรงกับความสนใจของเรา จะช่วยให้มีแรงจูงใจในการฝึกมากขึ้น

4. ไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจทุกคำทุกประโยค

หากต้องการฟังให้เข้าใจทุกคำทุกประโยคแบบเพอร์เฟ็คท์ คุณจะไม่มีวันดูหนังเรื่องนั้นจบ เพราะบางทีแม้แต่เจ้าของภาษาเองเขาก็ไม่ได้เข้าใจทุกคำเป๊ะๆ ขนาดนั้น แค่พอใจจับความให้รู้เรื่องว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไรก็พอแล้ว และลองพูดตามสิ่งที่ได้ยินไปด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟังและยังได้ฝึกออกเสียงให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษาอีกด้วย ซึ่งในขณะที่พูดตามนั้น คุณไม่จำเป็นต้องพยายามแปลความหมายของศัพท์ทุกคำ ลองฝึกเดาศัพท์จากบริบทดูบ้าง และถ้าเจอคำศัพท์ที่น่าสนใจก็ค่อยจดเก็บไว้ แล้วนำมาหาความหมายทีหลัง

5. ฟังอย่างตั้งใจไม่วอกแวก

สมัยนี้เรามักชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน นั่งทำงานไปเช็คโทรศัพท์มือถือ เล่นเฟซบุ๊ค เล่นไลน์ไปด้วย แต่ในชั่วโมงของการฝึกภาษา ควรเอาสมาร์ทโฟนไปวางไว้ให้ห่างมือ และตั้งใจโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แต่เน้นการฝึกต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมออย่าให้ขาด

ขอบคุณข้อมูล hotcourses.in.th




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 8:37:26 น. 0 comments
Counter : 1215 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]