ญี่ปุ่นส่งดาวเทียมพยากรณ์อากาศดวงใหม่ขึ้นสู่อวกาศแล้วในวันนี้ (7) โดยหวังว่าจะช่วยให้การพยากรณ์พายุไต้ฝุ่นล่วงหน้าและตรวจพบกลุ่มควันแก๊ส ของภูเขาไฟเป็นไปอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

       ความสำเร็จในการปล่อยจรวดครั้งนี้เกิดขึ้น 1 วัน หลังจากมีพายุไต้ฝุ่นซัดกระหน่ำแดนอาทิตย์อุทัย และเพียงสัปดาห์เดียวภายหลังภูเขาไฟลูกหนึ่งเกิดปะทุขึ้นโดยไม่มีลางบอกเหตุ และคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 60 คน

จรวด เอช-2เอ ที่ญี่ปุ่นผลิตเองได้นำดาวเทียมพยากรณ์อากาศฮิมาวาริ-8 ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอันปลอดโปร่งที่ศูนย์อวกาศทาเนกาชิมา ในจังหวัดคาโกชิมาที่อยู่ทางตอนใต้ เมื่อเวลา 14.16 น. ตามเวลาท้องถิ่น (11.16 น. ตามเวลาประเทศไทย)

       โฆษกองค์การสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่นหรือ จาซา ( JAXA) บอกกับเอเอฟพีว่า ดาวเทียมมูลค่า 1.7 หมื่นล้านเยน (ราว 5.1 พันล้านบาท) ดวงนี้แยกตัวออกจากจรวดเป็นผลสำเร็จ และได้เข้าสู่วงโคจรที่กำหนดเอาไว้แล้ว นำมาซึ่งเสียงปรบมือกึกก้องภายในศูนย์อวกาศแห่งนี้

       กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะใช้ดาวเทียมดวงนี้ควบคู่กับดาวเทียมฮิมาวาริ-9 ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปในปี 2016 เพื่อการพยากรณ์อากาศและแทนที่ดาวเทียมฮิมาวาริ-6 และ-7 ที่ใช้มานานมากแล้ว

       เจ้าหน้าที่กรมอุตุฯ บอกกับเอเอฟพีว่า ดาวเทียมดวงใหม่นี้ “สามารถเก็บภาพถ่ายพายุไต้ฝุ่นได้ทุกๆ 2.5 นาที เทียบกับอัตราปัจจุบันที่เก็บภาพได้เพียง 30 นาทีต่อครั้ง”

       “เมื่อผนวกกับการปรับปรุงผลการวิเคราะห์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแล้ว เราคาดหวังว่าการพยากรณ์เส้นทางพายุไต้ฝุ่นล่วงหน้าของเราจะแม่นยำมากขึ้น” เขากล่าว

 เขากล่าวเสริมว่า “เนื่องจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเป็นภาพสีจากที่เคยเป็นภาพขาวดำในปัจจุบัน มันจึงง่ายต่อการเฝ้าสังเกตกลุ่มแก๊สภูเขาไฟมากยิ่งขึ้น” ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการเตือนภัยการปะทุของภูเขาไฟแต่เนิ่นๆ