เฟสบุ๊ก-แอปเปิล จ้างพนักงานหญิง 20,000 ดอลลาร์ ให้แช่แข็งไข่
เอเจนซีส์ - หลังจากซีอีโอไมโครซอฟท์ออกวาทะบรรลือโลกถึงอัตราเงินเดือนที่พนักงานหญิง พึงได้รับ ล่าสุดบริษัทแอปเปิลและบริษัทเฟสบุ๊กมีนโยบายจ่ายเงินสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้พนักงานหญิงระดับสูงลาออกหลังจากมีบุตร โดยการเสนอให้ใช้บริการ ฝากไข่แช่แข็ง เพื่อลดความเครียดของพนักงานหญิงที่ต้องเร่งมีบุตรก่อนอายุ 40ปี เนื่องจากเงื่อนไขตามธรรมชาติ เดอะเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า บริษัทเฟสบุ๊กได้เริ่มออกนโยบายเสนอเงินจำนวนถึง 20,000 ดอลลาร์ ให้พนักงานหญิงของบริษัทรับบริการ ฝากไข่แช่แข็ง ที่กระบวนการนี้เรียกว่า ocyte-cryopreservation เพื่อให้พนักงานหญิงของบริษัทสามารถเลื่อนกำหนดการมีบุตรออกไปจนกระทั่งช่วง หลังของชีวิตการทำงาน ซึ่งกระบวนการฝากไข่แช่แข็งนี้มีสนนราคาระหว่าง 10,000 15,000 ดอลลาร์ รวมถึงค่าเก็บรักษาไข่แช่แข็งต่อปีอีก 1,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้บริษัทเฟสบุ๊กยังเสนอเงินช่วยเหลือให้พนักงานชายของบริษัท ที่ต้องการมีบุตรเพื่อให้สามารถใช้บริการ การวางแผนครอบครัว ที่คล้ายกับพนักงานหญิง สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทแอปเปิลประกาศที่จะเริ่มเสนอเงินช่วยเหลือในการ ฝากไข่แช่แข็ง ให้กับพนักงานหญิงของบริษัทในเดือนมกราคม 2015 ทั้งนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกทั้งสองหวังว่า โครงการจ้างฝากไข่แช่แข็งจะช่วยดึงดูดให้มีพนักงานหญิงเพิ่มจำนวนมากขึ้น และรั้งให้พนักงานหญิงเหล่านั้นยังทำงานอยู่กับบริษัทต่อไปโดยการลดความ เครียดกับการที่ต้องเร่งมีบุตรในช่วงอายุที่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงที่สามารถมีบุตรได้ สมบูรณ์และปลอดภัยนั้นไม่ควรเกิน 35 ปี และความสามารถนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้หญิงเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงคนทำงานกำลังเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน และแทนที่เธอเหล่านั้นจะมุ่งมั่นปีนขึ้นสู่ระดับผู้บริหาร บรรดาพนักงานหญิงที่มีบุตรจำนวนมากเลือกที่จะลาออก และทำให้องค์กรขาดบุคลากรที่มีความสามารถไป ดังนั้นการเสนอให้ผู้บริหารหญิงของบริษัทสามารถเลือกที่จะแช่แข็งไข่ ของตนเองจะทำให้ทั้งแอปเปิลและเฟสบุ๊กโดดเด่นออกมาจากบริษัทชั้นนำอื่นๆที่ ล้วนแล้วแต่มีผู้บริหารเป็นชายทั้งสิ้น โครงการ ฝากไข่แช่แข็ง ของเฟสบุ๊กมีขึ้นเพื่อลบล้างความคิดที่เชื่อว่า ผู้หญิงควรมีบุตรเมื่อมีอายุน้อย มากกว่าที่จะมีบุตรเมื่อมีความพร้อมด้านหน้าที่การงาน ซึ่งเชอริล แซนด์เบิร์ก (Sheryl Sandberg) ผู้บริหารด้านปฎิบัติการของเฟสบุ๊กได้กล่าวในหนังสือของเธอ Lean In ว่า ผู้หญิงควรจะมีอิสรภาพในการเลือกโดยมีศูนย์กลางจากหน้าที่การงานมากกว่าข้อ จำกัดเงื่อนไขของการมีบุตร และเชื่อว่าโครงการนี้จะให้อิสรภาพกับผู้หญิงวัยทำงานของบริษัทมากขึ้นซึ่ง ถือเป็นหนึ่งในการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน เพราะไม่น่า เชื่อว่าสหรัฐฯที่เป็นหนึ้งในประเทศชาติอุตสาหกรรมแต่กลับมีปัญหาด้านความ เท่าเทียมทางเพศเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆในยุโรป อาทิ นักการเมืองสหรัฐฯไม่ต้องการให้บริษัทประกันสุขภาพ หรือนายจ้างซึ่งเป็นผู้จ่ายประกันสุขภาพต้องรับภาระ ค่าใช้จ่ายการคุมกำเนิดให้กับผู้หญิงอเมริกัน หรือปัญหาการเท่าเทียมด้านอัตราเงินเดือน อย่างไรก็ตามโครงการของเฟสบุ๊กนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ เห็นตรงกันข้าม และตั้งข้อสงสัยถึงผลกระทบข้างเคียงจากโคงการนี้ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันให้กับ ผู้บริหารหญิงให้ต้องเลื่อนกำหนดการมีบุตรออกไปจนกระทั่งเกือบเกษียณ NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางบริษัทชั้นนำอื่นๆในซิลิคอนแวลเลย์ เฟสบุ๊กและแอปเปิลต่างแข่งขันเพื่อดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถให้ยังคงทำ งานกับบริษัทต่อไป ซึ่งเฟสบุ๊กจะมอบเงินสด 4,000 ดอลลาร์ ที่เรียกว่า baby cash เพื่อให้พ่อแม่มือใหม่เหล่านั้นสามารถใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการได้ สื่อสหรัฐฯยังรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯมีแนวโน้มที่ต้องการเสนอสวัสดิการ พนักงานที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกจ้าง อาทิ มีการเสนอสวัสดิการเฉพาะให้กับพนักงานเพศที่ 3 และหากโครงการ ฝากไข่แช่แข็ง ประสบความสำเร็จอาจทำให้มีบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆเข้าร่วมเสนอสวัสดิการนี้ให้ พนักงานหญิงของบริษัทเหล่านั้นเช่นกันในอนาคต อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯวิเคราะห์ว่า โครงการ ฝากไข่แช่แข็ง ของเฟสบุ๊กและแอปเปิลดูมีผลดีมากกว่าผลเสียสำหรับตัวบริษัทเอง เพราะจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานยังคงต้องการยืดระยะเวลาการทำงานให้กับบริษัท ต่อไป และตัดค่าใช้จ่ายการว่าจ้างและการฝึกอบรมพนักงานใหม่ให้กับบริษัท และหากพนักงานหญิงเร่งฝากไข่แช่แข็งตั้งแต่แรกเริ่มจะทำให้บริษัทสามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิ์ลาคลอดในระยะยาวอีกด้วย และพนักงานหญิงสามารถเลี่ยงค่าใช้จ่ายมหาศาลโดยการใช้ไข่ฝากแช่แข็งของเธอ เอง หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้มีบุตรเมื่อยามที่เธอต้องการ ลินน์ เวสต์ฟาล (Lynn Westphal ) ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ดสหรัฐฯให้ความเห็นว่า การฝากไข่แช่แข็งเหมือนกับการซื้อประกันรถ ผู้ซื้อหวังที่จะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลมประกัน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงผู้ซื้อกลับรู้สึกดีใจที่มีประกันรับผิดชอบค่าใช้ จ่ายที่เกิดขึ้น แต่กระนั้น การเลื่อนการเป็นมารดาออกไป หรือการต้องใช้บริการด้านการแพทย์เพื่อการมีบุตรอาจจะไม่สามารถทดแทนคุณค่า ทางจิตใจและคุณค่าทางสังคมที่มนุษย์ยังคงให้ความสำคัญอยู่ | | | | ธนาคารแช่แข็งไข่ | | |
Create Date : 15 ตุลาคม 2557 |
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 21:15:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1239 Pageviews. |
|
|
|
|
| |