Group Blog
 
All blogs
 

หนังสือดี อยากบอกต่อ "เก่งภาษา50ล้าน"

แนะนำหนังสือดีๆ สำหรับผู้รักการเรียนภาษาด้วยตนเอง เทคนิคเพียบปรับใช้ได้กับทุกภาษาเลยค่ะ


"เก่งภาษา50ล้าน" ผู้เขียนคุณบัณฑิต & คุณแมรี่ อึ้งรังสี

เมื่อ 3-4ปีก่อนหน้าจะมาอ่านหนังสือเล่มนี้ เจ้าของบลอกได้ค่อยๆคลำทาง ค่อยๆค้นพบเทคนิค ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง และได้เขียนไว้ในบลอกก่อนหน้านี้แล้ว ใครสนใจย้อนกลับไปอ่านได้นะคะ ^^ 

พอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ก็พบว่า บางเทคนิคก็ตรงกับที่เราทำอยู่ บางแนวคิดก็เหมือนเจ้าของบลอก โดนใจ และชอบหนังสือเล่มนี้มาก ใครกำลังคิดจะพัฒนาภาษาอังกฤษ เรียนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน  จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอื่นๆ ด้วยตนเอง ต้องซื้อมาอ่านกันให้ได้นะคะ บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่ามาก

สอนเทคนิคการเรียนด้วยตนเอง :
   สร้างแวดล้อมรอบตัว ให้เราได้เข้าไปอยู่ในธรรมชาติของภาษานั้นๆ
   ทำเรื่องเรียนให้เป็นเรื่องสนุก
   การเลียนแบบเจ้าของภาษา และการหมั่นฝึกซ้อม
   เคล็ดลับพัฒนาทักษะการฟัง และพูด และการหาแหล่งข้อมูล 
   และอื่นๆ

สร้างพลังทางด้านความคิด :
   รู้จักประเมิณความสามารถปัจจุบันของตัวเอง และตั้งเป้าหมาย
   ถ้าคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ก็จะไม่เก่งจริงๆ ถ้าคิดว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ ก็จะประสบความสำเร็จจริงๆ คุณอยากคิดแบบไหน? เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือความคิดของตัวเราเอง
   รู้จักชมตัวเองบ้าง โดยไม่ต้องรอคำชมจากผู้อื่น
   และอื่นๆ

ผลลัพธ์และความสำเร็จ :
   แนวทางการใช้ภาษาประกอบอาชีพ หรือธุรกิจ 
   ภาษาอะไรเป็นที่ต้องการของตลาด
   และฟรี ลิสต์คำศัพท์ 1250 คำ ที่เป็น 90% ของบทสนทนาในทุกภาษา





 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2556 17:20:24 น.
Counter : 5629 Pageviews.  

เรียนเองที่ไทย3ปีครึ่ง สอบผ่านN2 ได้โดยไม่เคยไปญี่ปุ่น >>>

 


เพิ่งได้ผลสอบค่ะ ก็เลยอยากมาReview ออกแนวอวดนิดๆ^^Smiley
ใครเพิ่งเคยเข้ามาอ่านบลอกนี้ ยังไม่ค่อยรู้ที่มาที่ไป ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเองของจขบ.นี้
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าบลอก ต่อไปนี้ได้นะคะ^^
Smiley 
เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง
Smiley เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง2 เรียนแบบนี้หรือแบบไหน
Smiley อารมณ์ยังค้าง เล่าประสบการณ์สอบภาษาญี่ปุ่นJLPTอีกครั้ง
Smiley วีดีโอแนะนำตัวเองภาษาญี่ปุ่น เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง..ได้แค่นี้^^
Smiley ผลสอบญี่ปุ่นออกมาตอกย้ำความล้มเหลวในการเรียนด้วยตนเองของเรางั้นหรือ
Smiley ภาษาญี่ปุ่นทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น


มาดูพัฒนาการในการเรียนภาษาญี่ปุ่นของจขบ.คร่าวๆก่อนนะคะ


Smiley กรกฎาคม 2551 เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นวันแรก อายุปาไป 20 แล้ว

Smiley ธันวาคม 2552 = รวมเวลาเรียน 1 ปี 5 เดือน =
ผ่าน JLPT L.4

Smiley กรกฎาคม 2553 (ระบบใหม่ครั้งแรก) = รวมเวลาเรียน 2 ปี
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/27  การอ่าน 60/18  การฟัง 60/30 รวม 180/75 = ตก

Smiley ธันวาคม 2553 = รวมเวลาเรียน 2 ปี 5 เดือน
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/29  การอ่าน 60/24  การฟัง 60/26 รวม 180/79 = ตก

Smiley กรกฎาคม 2554 = รวมเวลาเรียน 3 ปี
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/29  การอ่าน 60/24  การฟัง 60/36 รวม 180/89 = ตก


Smiley ธันวาคม 2554 = รวมเวลาเรียน 3 ปี 5 เดือน
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/38  การอ่าน 60/27  การฟัง 60/29 รวม 180/94 ผ่าน JLPT N2


และนี่ ...
N2Cer2-1.jpg



วินาทีแรกที่รู้ว่าผ่านก็กรีดร้องเหมือนคนทั่วๆไปนั่นแหละค่ะ พอเพื่อนๆรู้ก็พอกันตั้งคำถามว่า
"เรียนเองที่ไทย3ปีครึ่ง สอบผ่านN2 ได้โดยไม่เคยไปญี่ปุ่น ทำได้ไงอ่ะ"


อาจเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบแบบจริงจังอะไรมาก
"จริงๆแล้ว เราไม่ได้เก่ง ไม่ได้หัวดีอะไรเลยนะ สอบผ่านเพราะความอึด ความถึก ความควาย มากกว่า"
อยากจะอธิบายอะไรๆ ให้ชัดเจนกว่านี้ แต่ดูเหมือนเพื่อนๆร่วมยินดีกับเราได้แป๊บเดียว ก็หันไปสนใจอย่างอื่นซะแล้ว


ก็เลยนึกถึงแฟนบลอก แฟนเพจค่ะ มาเขียนลงในบลอก อาจจะได้ประโยชน์กับคนที่ตั้งใจ และพยายามจริงๆ ดีกว่าพูดเพียงลมปาก แล้วกระจายหายไป ณ นาทีนั้น


ขณะที่หลายคนมีโอกาส มีเงินทองบินไปเรียนที่ญี่ปุ่น ฟัง-อ่านภาษาญี่ปุ่นทุกวัน พูดทุกวัน จนได้N1-N2 กลับมา แต่เราเองไม่ได้รวยเลิศถึงขนาดไปเรียนญี่ปุ่นได้


แล้วจะมัวนั่งน้อยเนื้อต่ำใจทำไม เปลี่ยนรอบตัวเองให้เป็นญี่ปุ่นซะเลยซิ...


 


 


ติดตาม
How To: เรียนเองที่ไทย3ปีครึ่ง สอบผ่านN2 ได้โดยไม่เคยไปญี่ปุ่น ได้ในบลอกหน้านะคะ
วันนี้ขอตัวเตรียมงานที่จะลุยต่อพรุ่งนี้ก่อนนะคะ


お休みなさい Smiley





 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 21:08:10 น.
Counter : 18176 Pageviews.  

ภาษาญี่ปุ่นทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น


วันนั้น
...บนรถป.2 ร้อนๆ คลุ้งไปด้วยกลิ่นเหงื่อไคล ผู้โดยสารที่เวียนขึ้นลงกันไม่หยุด มุ่งหน้าจากเอกมัย สู่พัทยา ฉันนั่งปิดหูสองข้างด้วยบทเรียนภาษาญี่ปุ่น จากเครื่องเอ็มพีสามคู่ใจ โดยไม่สนใจเสียงเพลงจังหวะแรงๆ แม้ว่ามันจะเสียงดังกว่าบทเรียนที่ฉันเพิ่มโวลุ่มสุดแล้วก็ตาม ฉันเอนเบาะ หลับตา มองเห็นภาพตัวเอง กำลังแบกความฝันอันยิ่งใหญ่ไว้บนบ่าทั้งสอง ท่อนแขนน้อยๆ หอบหิ้วภาระรุงรัง สองมือก็คอยทำมันให้สำเร็จ และสานฝันให้เป็นจริง ในขณะที่ขาทั้งสองข้างต้องแบกรับน้ำหนักมหาศาล แต่ฉันก็ยังก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยสองเท้าของตัวเอง สองตาจับจ้องไปที่ปลายทาง มันเป็นภาพที่สวยงามแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ฉันไม่คิดที่จะวางสิ่งเหล่านั้น และฉันจะก้าวต่อไปไม่ว่าจะหนักและเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม...   วันที่ 18 มิถุนายน 2552


วันนี้
...จำได้ว่าสองเดือนก่อนหน้านี้ ฉันมักจะกำพวงมาลัยแน่นกว่านี้ คงเพราะช่วงมือใหม่หัดขับ อาจจะเกร็งๆ และจดจ่อเกินไป แต่ระหว่างทางกลับบ้านวันนี้ ฉันสามารถขับอย่างสบายๆ คิดอะไรๆหลายอย่างไปพร้อมกับขับรถได้แล้ว คิดถึงวันที่เข้าประชุม ตอบคำถาม และได้รับคำชม คิดถึงวันที่เจ้านายที่กุมขมับ ขอร้องไหว้วอน ไม่อยากให้ฉันลาออก "ที่ใหม่ให้เท่าไหร่ คุณเสนอมาถ้าให้ได้ผมก็จะให้ ไม่อยากให้คุณไป จริงๆ" ฉันอมยิ้มพร้อมปล่อยมือซ้ายจากพวงมาลัยมาลูบตักตัวเองเบาๆ วันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ คิดถึงสมัยเรียนที่เดินตากแดดแบกตำราหน้าดำ วิ่งจับรถเมล์ ต่อวินเข้าซอย เช้าเย็นแทบทุกวัน วันนี้ฉันภูมิใจในตัวเอง ที่ผ่านพ้นช่วงลำบากๆมาได้ ภูมิใจที่ทำงานดีๆ มีคนเคารพนับถือ ฉันยกมือขึ้นจับพวงมาลัยอย่างหลวมๆ แล้วลูบเล่นไปมา จะตรง จะเลี้ยวฉันกำหนดได้เอง ... 17 ธันวาคม 2554


คำเตือน
นี่ยังไม่ใช่สิ่งควรจะเรียกว่าความสำเร็จ นี่เป็นเพียงก้าวหนึ่งที่สำคัญ อย่าหลงระเริงกับความสุขสบาย ที่่แลกมาด้วยความลำบาก อย่าหยิ่งทนง อย่าหยุดกับที่ ก้าวเดินต่อไป 


 








 

Create Date : 17 ธันวาคม 2554    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 20:35:36 น.
Counter : 4371 Pageviews.  

ผลสอบญี่ปุ่นออกมาตอกย้ำความล้มเหลวในการเรียนด้วยตนเองของเรางั้นหรือ

ผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT 2011 ครั้งที่1 ในเดือนกรกฎาคม ส่งถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว บอกตรงๆว่ามีแอบหวังว่าจะผ่าน N2ซักทีเรา เพราะ รู้สึกทำได้มากกว่าครั้งก่อนๆ (ที่ตกมาติดๆกัน2ครั้งแล้วหล่ะ เฮ่อๆ) แต่เมื่อเจอความจริงก็ต้องจ๋อยไป ผลคือไม่ผ่าน งานนี้มีทรุดลงกองกับพื้นเลย


จะว่าท้อก็ท้อนะ ตกติดกันมา 3 ครั้งแล้ว จะเรียนต่อดีมั๊ยนะ เรียนด้วยตัวเองก็ลำบากมากอยู่แล้ว เร่งตัวเองก็แล้ว ทุ่มเทเวลาไปกับการอ่านหนังสือสุดๆก็แล้ว ยังไงก็ไม่ผ่าน ทิ้งมันไปซะเลยดีมั๊ย ไม่เอาแล้ว ขอเวลาอยู่กับเพื่อน ไปเที่ยวไปเฮฮาสนุกสนานอย่างคนอื่นเค้าบ้างจะดีมั๊ย


แต่พอลองคิดดูใหม่ว่า ถ้าเราล้ม แล้วเราเลิก เราก็จะถูกนับเป็นคนนึงที่ล้มเหลวในการเรียนภาษาญี่ปุ่น ถามตัวเองดูว่า อยากถูกตราหน้าว่าเป็นอย่างนั้นหรอ ...อีนี่ อังกฤษไม่เป็น เลยไปเรียนจีน เรียนจีนไม่รุ่ง ก็เลยหันไปเรียนญี่ปุ่น นึกว่าจะเก่งอะไรได้จริงๆ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดซักอย่าง ฮ่าๆ ฮาๆ... อย่าลืมว่ามีคนคอยหัวเราะเราอยู่...


ดูหนังเรื่อง あしたのジョー แล้วถามตัวเองดูอีกทีว่า
motivationa1.jpg
motivationa2.jpg
motivationa3.jpg
ก่อนที่จะให้ใครมาตัดสินว่าเราแพ้ เราลองลุกขึ้นสู้แล้วหรือยัง
motivation11.jpg
ถึงเราจะต้องแพ้ ก็จะขอแพ้ออย่างผู้ชนะ!!!


ถือว่ามาได้จังหวะพอดีเลยนะพ่อหนุ่มยามะพี ^^ ภาพที่เธอลุกขึ้น ลุกขึ้น และลุกขึ้นเพื่อสู้ต่อไป มันติดตา และเป็นแรงบัลดาลใจให้คนอย่างฉันกล้าที่จะสู้ และกล้าที่จะแพ้ ……


และก่อนที่จะฟิดอ่านหนังสือสอบในรอบต่อไป ลองมาดูกันก่อนว่า เราหัวทื่อจริงๆ หรือเรียนมาไม่พอ (ก็อาจจะใช่ทั้งสองอย่างอะนะ)


(ประจาน) พัฒนาการเรียนภาษาญี่ปุ่นของ จขบ.
หมายเหตุ เป็นการเรียนด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มต้นในประเทศไทย ไม่เคยไปญี่ปุ่น ไม่มีเคยบอสเป็นญี่ปุ่น และไม่เคยมีแฟนญี่ปุ่น
อ่านเพิ่มเติม คลิก

Smiley กรกฎาคม 2551 เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นวันแรก อายุปาไป 20 แล้ว

Smiley ธันวาคม 2552 = รวมเวลาเรียน 1 ปี 5 เดือน =
ผ่าน JLPT L.4

Smiley กรกฎาคม 2553 (ระบบใหม่ครั้งแรก) = รวมเวลาเรียน 2 ปี
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/27 การอ่าน 60/18 การฟัง 60/30 รวม 180/75 = ตก

Smiley ธันวาคม 2553 = รวมเวลาเรียน 2 ปี 5 เดือน
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/29 การอ่าน 60/24 การฟัง 60/26 รวม 180/79 = ตก

Smiley กรกฎาคม 2554 = รวมเวลาเรียน 3 ปี
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/29 การอ่าน 60/24 การฟัง 60/36 รวม 180/89 = ตก


Smiley ธันวาคม 2554 = รวมเวลาเรียน 3 ปี 5 เดือน
สอบ N2 คะแนน ศัพท์&ไวยากรณ์ 60/38 การอ่าน 60/27 การฟัง 60/29 รวม 180/94 = ผ่าน JLPT N2


จะเห็นว่า เราพลาดไปแล้ว เพราะเราตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราจะ "เรียนเอง ติวเอง ให้ผ่าน N2 ภายใน3ปี" สามปีผ่านไปเร็วจริงๆ ผลคือเราทำไม่ได้ แล้วจะต้องใช้เวลาซักกี่ปีกันน้า 3ปีครึ่ง หรือ4ปี หรือ5ปี6ปี ...







 

Create Date : 21 กันยายน 2554    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 17:47:40 น.
Counter : 4980 Pageviews.  

ข้อคิดในการเรียน: คิดใหม่ไวยากรณ์ญี่ปุ่น โดยอันหนิงเหล่าซือ

รีบมาอับบลอกอย่างไว เสร็จแล้วจะรีบอาบน้ำออกไปสอนค่ะ

หลังจากที่เราได้หยิบเอาคลิป ที่"อันหนิงเหล่าซือ"ได้พูดเรื่องคำช่วยมาทำเป็นคลิปภาษาไทยเป็นของตัวเองซัก7-8คลิปแล้ว ตามแผนเราก็จะพูดเรื่องไวยากรณ์ระดับต้น ไปเรื่อยๆ จนถึงระดับกลาง-สูง

ยอมรับว่าทำคลิปไวยากรณ์ระดับต้นตอนที่1 เรื่องกลุ่มและประเภทของคำกริยาเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้อับโหลด เพราะแอบท้อ คลิปนึงใช้เวลานานเหลือเกิน เพราะเราตั้งใจใส่ภาพ ใส่คำอธิบาย ให้มันดูน่ารักขึ้น น่าสนใจขึ้นหน่อย แต่พอมานั่งฟังเอง อยู่ดีๆก็ไม่เข้าใจที่ตัวเองพูดซะงั้น คงเป็นเพราะเราดึงเอาภาษาจีนเข้ามาเกี่ยวมากไปหรือเปล่า แล้วคนที่ไม่รู้จีนมาฟังจะเข้าใจได้ยังไง แต่หนังสือคิดใหม่ไวยากรณ์ญี่ปุ่นมันก็คือคอนเซปคนจีนนี่นา ไม่โยงกับภาษาจีน มันก็เดิมๆ คิดแบบเดิมๆ เรียนกันแบบเดิมๆ อยู่ดี ไม่รู้จะทำไง ก็เลยรู้สึกเหนื่อยๆ ขอพักซักนิด ขอเวลาคิดอะไรๆ ให้มากกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า...


อีกหนึ่งข้ออ้างในการพักทำวีดีโอต่อก็คือ อยากมีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบJLPT ครั้งต่อไป ผลสอบN2ครั้งที่แล้วยังส่งไม่ถึงบ้าน จะผ่านไม่ผ่านยังไม่รู้ แต่ปณิธาณสูงสุดของเราคือ สอบN1ให้ผ่านภายในอีก2ปีข้างหน้าไม่ใช่หรอ ถ้าไม่ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ มัวแต่ย่ำอยู่กับที่ อีกกี่ปีกันเล่าถึงจะผ่าน


นับจากวันนี้ ถึงการสอบครั้งต่อไป ก็เหลือเวลาอีกประมาณ3เดือน จะเป็นห้วงเวลาแห่งการฝึกรบของเราอีกครั้ง สำหรับเพื่อนๆที่ชอบใจวีดีโอที่เราทำกรุณาอดใจรอ จะกลับมาทำวีดีโอให้ชมอีกแน่นอนค่ะ


วันนี้เป็นวันฤกษ์ดี ถือเป็นวันแรกของการอ่านหนังสือติวตัวเอง เราเริ่มจากเอาคลิปของอันหนิงเหล่าซือ มาฟังซ้ำอีกรอบ ไปจนจบแล้วต่อด้วยหนังสือต่างๆ (เดี๋ยวจะทำแยกหัวข้อการเตรียมสอบไว้อีกบลอกค่ะ) พอแค่เริ่มก็เจอประโยคเด็ดจึงอยากมาแปลแบ่งปันให้เพื่อนๆ ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ค่ะ


แอบอัดเสียงอันหนิงเหล่าซือมาให้ฟังกันด้วยค่ะ





บทแปล (อาจไม่ได้แปลตรงทุกคำ ย่อๆเอา และอาศัยความรู้สึกค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ ภาษาจีนก็ไม่เก่งเหมือนกัน อิอิ )

...เรามาดูตัวอย่างกัน にในที่นี้ ก็คือคำช่วย ในไวยากรณ์นี้ ข้างหน้าควรจะเป็นคำนาม อันนี้ก็เหมือนกัน บวกคำนาม 私の日本語の語学力は彼の半分には及ばない。เป็นประโยคที่น่าสนใจมาก น่าสนใจที่คำว่า 語学力คำนี้ เราพูดกันมาตลอดว่า レベル ฉันเองก็เหมือนกันมักจะพูดว่า日本語のレベルพูดレベル レベルมาหลายปี หลังจากนั้นถึงได้พบว่า หลังจาเวลา 10 กว่าปีถึงได้พบว่า จริงๆคนญี่ปุ่นเค้าพูดถึงความสามารถทางด้านการเรียนภาษาต่างประเทศ จริงๆไม่ใช่  レベルแต่เป็น ごがくりょく

ฉันน่ะเรียนภาษาญี่ปุ่นมา 20 กว่าปี สอนมา 10กว่าปี วิจัยมาอีก 10 กว่าปีก็ว่าได้ เวลาครึ่งแรก 10 กว่าปีนั้นเหมือนฉันอยู่ในถ้ำในอุโมง ไอ้ไวยากรณ์ที่เราเรียนๆกันฉันก็ไม่รู้ว่าแท้จริงมันคืออะไรกันแน่ บางครั้งฉันอ่านบทความบทนึง เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ มันทุกข์ทรมารมาก จริงๆนั้นเราเรียนภาษาญี่ปุ่นมาด้วยการ ท่องๆๆๆ เพียงแค่คุณท่องคุณก็รู้สึกสบายใจแล้วใช้มั๊ย นั่นมันวิธีปัญญาอ่อน เพราะฉันก็เคยท่อง ท่องแล้วก็พบว่าเวลาพูดกันคนอื่น พอเค้าเปลี่ยนรูปประโยคนิดหน่อยฉันก็ไม่เข้าใจแล้ว

ยังมีอีกประเด็นคือ สมมติฉันอ่านบทความหนึ่งบท ฉันเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจอะไรเลยยังดีกว่า น่ากลัวที่สุดคือไอ้เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจนั่นแหละ ดังนั้นฉันเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา จุดประสงค์หลักๆก็เพื่อบอกทุกคนว่า ภาษาญี่ปุ่นเรียนแบบนี้นะ ภาษาญี่ปุ่นมันเป็นมาแบบนี้นะ เพียงแค่คุณอยากเรียนให้สูงขึ้น ดีขึ้น เพียงแค่คุณอยากพูดกันคนญี่ปุ่นได้ซักวัน เพียงแค่คุณเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่ใช่เพื่อกินข้าวให้มันอิ่มไปเพียงมื้อๆ แต่คุณต้องใช้สารอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายไปทั้งชิวิต คุณก็ควรเปลี่ยนมุมมองภาษาของคุณ เปลี่ยนวิธีเรียนกันซักหน่อย
มาดูประโยคนี้ 私の日本語の語学力 เมื่อกี้ที่พูดมายืดยาว เพื่อที่จะบอกว่าคุณควรเขียนส่อความในประโยคที่คนญี่ปุ่นเค้าใช้ เค้าพูดกันจริงๆ ...





 

Create Date : 29 สิงหาคม 2554    
Last Update : 29 สิงหาคม 2554 22:20:19 น.
Counter : 2045 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  

BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.