ส่วนในแง่ของกฎหมาย เบื้องต้น ทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเกี่ยวกับมหากาพย์ภาพหลุดตั๊ก บงกช บนเรือยอร์ช โดยระบุว่า

- ในแง่ของตั๊ก บงกช --> กรณีที่มีผู้ถ่ายรูปส่วนตัวของตั๊ก บงกช ในอิริยาบถต่างๆ และนำมาเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ โดยเบื้องต้น ผู้ที่ถ่ายภาพตั๊ก บงกช จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 กล่าวคือ เป็นการก่อความรำคาญให้แก่ตั๊ก บงกช ซึ่งเป็นคดีลหุโทษ

- ในแง่ของทีมงานเรือยอร์ช --> กรณีที่ตั๊ก บงกช โพสต์ข้อความหยาบคาย ในเชิงดูถูกหรือดูหมิ่นนั้น อาจเป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทในการโฆษณาได้ และหากโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตจะผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ด้วย

ทีมข่าวติดต่อไปยัง หญิงสาวผู้หนึ่ง เธอเป็นผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและให้บริการเช่าเรือยอร์ช ภูเก็ต แต่เธอไม่ขอเปิดเผยชื่อสกุล เธอยอมเปิดเผยว่า ค่าเช่าเรือยอร์ชนั้น ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางเดินเรือ จำนวนคน ขนาดเรือ และอาหาร หากเป็นเรือยอร์ชธรรมดา จะมีราคาจะค่าเช่าราวๆ 30,000 บาท ส่วนเรือยอร์ชที่สามารถบรรจุคนได้ถึง 10 คน ตัวเรือมีความสวยงาม ราคาจะอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาท ส่วนในราคาแสนบาทขึ้นไปจะเป็นประเภท มอเตอร์ยอร์ช ที่มีลักษณะคล้ายสปีดโบ๊ต 



"ถึงแม้เรือยอร์ชที่คุณตั๊กใช้บริการจะมีลำใหญ่ แต่ราคาไม่ถึง 8 หมื่นบาทแน่ๆ เพราะไม่ใช่เรือประเภท มอเตอร์ยอร์ช และต่อให้ลูกค้าเช่าลำใหญ่จริงแต่ก็คงไม่เกินจำนวนคนที่จะลงเรือไปด้วยอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีการบวกเงินเพิ่มหรือผ่านนายหน้ามา ราคาก็ไม่ถึง 8 หมื่นบาทตามที่ระบุ ยกเว้นเสียว่า คนที่นำไปขายคุณตั๊กจะบวกเงินเพิ่มเยอะเสียเอง" ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและให้บริการเช่าเรือยอร์ช ภูเก็ต ออกความเห็น

กฎระเบียบการทำงานของเด็กในเรือ หรือพนักงานนั้น ส่วนมากเด็กในเรือจะไม่เข้าไปยุ่งกับลูกค้าอยู่แล้ว เพราะมีหน้าที่ในส่วนของการจัดเตรียมอาหาร ดูความต้องการของลูกค้า และมักจะอยู่ในโซนที่ถูกจัดไว้ โดยพนักงานทุกคนจะทราบกันดีว่า ลูกค้าต้องการพักผ่อน ถึงแม้จะเป็นดารา ก็ไม่รู้สึกตื่นเต้น เพราะมีดารามาใช้บริการค่อนข้างบ่อยอยู่แล้ว

"จากประสบการณ์ให้บริการเช่าเรือยอร์ชที่ผ่านมา จะมีดารามาใช้บริการเรือยอร์ชเป็นจำนวนมาก ซึ่งดาราเหล่านี้ เขาเป็นมิตรกับทีมงานเป็นอย่างดี ให้ถ่ายรูปคู่และภาพหมู่อย่างไม่ถือตัว และไม่เคยมีปัญหาอื่นใดตามมาภายหลัง" วลีเด็ดผู้ประกอบการให้บริการเช่าเรือยอร์ช ภูเก็ต

"สิ่งที่จะทำให้หนังคนละม้วนเรื่องนี้จบบริบูรณ์ได้ ก็คือ ทุกฝ่ายต้องหาตัวผู้กระทำความผิดที่แท้จริงให้ได้เสียก่อน จะคนนอกหรือคนในต้องชัดเจน จึงจะนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีต่อไป แต่เชื่อว่าท้ายที่สุด เรื่องนี้มีแนวโน้มว่าจะจบด้วยต่างฝ่ายต่างการไกล่เกลี่ยกันได้" วลีเด็ดทนายวิรัช