นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(19 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีคลิปวิดีโอที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กและเว็บไซต์ต่างๆ ในขณะนี้ พฤติกรรมของผู้หญิงคนหนึ่งต่อว่าและทำร้ายเด็กชาย บริเวณวิหารพระมงคลบพิตร ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเด็กเร่ขายของให้กับนักท่องเที่ยวไม่ได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ติดตามเข้าไปช่วยเหลือแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงฯ ได้เข้าไปตรวจสอบบ้านพักของผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ในคลิปทำร้ายเด็ก พบเป็นบ้านไม้เก่าทรุดโทรม ตั้งอยู่บริเวณวิหารพระมงคลบพิตร แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ใด จึงได้ไปตรวจสอบโดยรอบพื้นที่วิหารพระมงคลบพิตร ก็ยังไม่พบวี่แววของผู้หญิงคนดังกล่าว

จากการสอบสวนเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนอาศัยอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก ผู้เป็นแม่ของเด็กชื่อ นางแก้ว ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ที่โรงงาน แต่เพิ่งตกงาน ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จึงพาลูกชายออกไปเร่ขายพวงกุญแจที่วิหารพระมงคลบพิตร และช่วงกลางคืนจะพาไปเร่ขายของตามร้านอาหารจนมืดค่ำ ลูกชายของนางแก้ว อายุประมาณ 5-6 ขวบ ไปโรงเรียนบ้างบางครั้งแต่ไม่สม่ำเสมอ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่า นางแก้ว ได้พาลูกชายออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะทราบเรื่องเกี่ยวกับกรณีคลิปตัวเองหลุดเผยแพร่ทั่วโลกออนไลน์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้จะมาจับกุมแต่อย่างใด เพียงแต่จะมาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ตรวจสอบว่าแม่ของเด็กมีกำลังพอจะสามารถเลี้ยงดูแลลูกได้หรือไม่ อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายกระทำความรุนแรงต่อเด็ก อาจผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ