ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกล้องโทรศัพท์มือถือ กลายเป็นอาวุธสำคัญของผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะหากเกิดปัญหาเรื่องเหตุการณ์ระทึกขวัญอะไร ก็สามารถหยิบขึ้นมาบันทึกภาพและคลิปได้ทันที
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย หัวหมอนำเทคโนโลยี มาจับผิดการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผิดวินัย โดยเฉพาะการรับสินบน ดังที่เคยเห็นคลิปแชร์ให้ว่อนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแล้ว
แต่มาวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรับตัวเข้ากับยุคสมัย พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้เกิดกรณีที่ ด.ต.นรินทร์ ฟักบำรุง ผบ.หมู่งานจร.สน.วัดวังพระยาไกร ซึ่งได้จับกุม นายบันเทิง ทองปาน อายุ 36 ปี อาชีพช่างจิวรี่ ที่พยายามติดสินบน 100 บาท เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ออกใบสั่ง ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน โดยใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือ บันทึกภาพกระทำผิดเป็นหลักฐานการจับกุม จนกลายเป็นข่าวดัง ขณะที่ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้มอบเงิน 10,000 บาท เป็นรางวัล ส่วนผู้ต้องหา ญาติต้องหาเงินมาประกันตัวจำนวน 70,000 บาท
"ไม่อยากให้เพื่อนตำรวจรับสินบน มันทำให้คนดูหมิ่นดูแคลน และถือเป็นการใช้เครื่องแบบหากิน ทำอะไรที่ถูกต้องดีกว่า สบายใจกว่า" ด.ต.นรินทร์ ฝากบอกเพื่อนร่วมอาชีพ
ขณะเดียวกันในแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02" เปิดเผยว่าในโลกออนไลน์กำลังมีการแชร์ข้อความเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าติดสินบนเจ้าหน้าที่ ให้รับใบสั่งมาเพราะอาจจะต้องเสียเงินมากกว่าที่คิด ระบุข้อความดังนี้ "ต่อไปนี้ห้ามจ่ายตังค์ให้ตำรวจเป็นสินบน ให้รับใบสั่งมาดีกว่านะ เพราะเขามีนโยบายว่าถ้าใครเอาตังค์ให้ตำรวจ ตำรวจมีกล้องปากกาติดตัวทุกคนถ่ายไว้แบล็คเมล์ ถ้าตำรวจคนไหนจับคนให้สินบนเรื่องใบสั่งได้ ตำรวจคนนั้นจะได้เงินรางวัล 10,000 บาททันที ระหว่าง 100-200 บาท ตำรวจเลือก10,000 จ้าาา ที่สำคัญเป็นคดียอมความไม่ได้"
สำหรับความผิดในข้อหา ให้สินบนเจ้าพนักงาน มีความผิดอาญาตามมาตรา144 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ถ้าประชาชนพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสินบน สามารถโทรร้องเรียนได้ที่สายด่วนบก.จร.1197 โดยทางผู้บังคับบัญชา จะดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งถือเป็นความผิดอาญามาตรา149 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [
