คนร้ายขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารบนขบวนรถไฟ กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ได้โทรศัพท์ไปกว่า 10 เครื่องเงินสด 2,500 บาท ผู้โดยสารคาดโดนรมควันวางยาสลบ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้(5ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ได้รับการประสานจากตำรวจรถไฟทุ่งสงและเจ้าหน้าที่รถไฟว่าเกิดเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสารบนขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณที่37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นขบวนรถที่มีตู้พิเศษเลดี้โบกี้รวมอยู่ด้วย หลังจากขบวนรถไฟดังกล่าวได้เข้าจอดเทียบชานชลาที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ร.ต.อ.พนมน้อย ทิพย์ลาย รองสารวัตรสถานีรถไฟหาดใหญ่ พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธวัช ธรรมโชตัง ทำหน้าที่ร้อยเวรสถานีรถหาดใหญ่ ได้ทำการตรวจพบว่าเหตุเกิดบนตู้ที่10 ซึ่งเป็นตู้นอนปรับอากาศชั้นสองอยู่ห่างจากตู้เลดี้โบกี้ซึ่งเป็นตู้พิเศษสำหรับสุภาพสตรีและเด็กเพียง1 ตู้ มีผู้โดยสารประมาณ30 คน โดยมีผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ไปจำนวน9 คน ได้โทรศัพท์ไปทั้งหมด10 เครื่องและเงินสด2,500 บาท และบางรายคนร้ายได้ถอดซิมการ์ดทิ้งไว้เอาไปเฉพาะตัวเครื่องและที่ชาร์ตโทรศัพท์และแบตเตอรี่สำรอง
จากการสอบถาม อาสาสมัครทหารพรานปฐม พินากัน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่รู้ตัวว่าถูกขโมยโทรศัพท์เป็นคนแรก บอกว่า คนร้ายน่าจะลงมือหลังเวลาตี3 เนื่องจากตนและผู้โดยสารอีกหลายคนเพิ่งนอนและหลับสนิทไม่รู้ตัวคล้ายกับโดนวางยาหรือโดนรมยาซึ่งผิดจากปกติที่โดยสารรถไฟทุกครั้งจะหลับๆตื่นๆเพราะการสั่นสะเทือนของรถไฟขณะวิ่ง มาตื่นอีกทีประมาณ6 โมง ในลักษณะสะดุ้งตื่นและพบว่าโทรศัพท์ได้หายไป จึงได้ปลุกเพื่อนที่เป็นอาสาสมัครทหารพรานอีก3 คนพบว่าโทรศัพท์หายไปเช่นกัน และได้ปลุกและสอบถามผู้โดยสารคนอื่นๆ ปรากฏว่ามีผู้โดยสารอีกหลายคนที่ถูกขโมยโทรศัพท์รวมทั้งหมด9 คนและทุกคนบอกตรงกันว่าหลับสนิทไม่รู้สึกตัวในลักษณะคล้ายๆกันและบางคนมีอาการมึนงงขณะตื่นขึ้นมาซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจถูกวางยาทั้งตู้
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางตำรวจรถไฟหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่รถไฟได้ทำการตรวจค้นขบวนรถไฟดังกล่าวทั้งขบวนทั้งตู้โดยสารตู้เสบียงและตู้ของเจ้าหน้าประจำขบวนเพื่อหาของกลางรวมทั้งผู้ต้องสงสัยแต่ไม่พบ
ร.ต.อ.พนมน้อย ทิพย์ลาย รองสารวัตรสถานีรถไฟหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้โดยสารพบว่าคนร้ายน่าจะลงมือในช่วงเวลาประมาณตี3ถึง6 โมงเช้าขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งมาถึงระหว่างสถานีสุราษฎร์ธานีกับสถานีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยคนร้ายอาจจะแฝงตัวมากับขบวนรถไฟแต่ยังไม่สามารถชี้ชัดหรือยืนยันได้ว่าเป็นการวางยาผู้โดยสารทั้งตู้ ตามที่ผู้โดยสารได้ตั้งข้อสงสัยหรือเป็นการชิงทรัพย์ธรรมดา ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบร่างกายของผู้โดยสารอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไปลงที่สถานีปลายทางใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่าหลังก่อเหตุน่าจะลงที่ระหว่างทางที่สถานีสุราษฎร์ธานีหรือทุ่งสง ซึ่งจะเร่งหาเบาะแสต่อไป