วันนี้( 3 ธ.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีปฏิบัติการแบบลับสุดยอด ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่กระทำการยกกำลัง อส. จำนวนมากถึงกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นร้านอาหารลาบอีสานแบบสายฟ้าแลบ จนสามารถเข้าทำการจับกุมยึดของกลางในการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี และเป็นธุระจัดหา ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีหญิงสาวชาวลาวมากถึง 50 คน ทั้งถุงยางอนามัยจำนวนมาก และบัญชีรายชื่อของการขึ้นรอบระหว่างหญิงบริการในร้านกับแขกลูกค้าผู้มาเที่ยว และเงินสดอีกหลายหมื่นบาทเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น จากปฏิบัติการดังกล่าวนี้ ทราบว่าได้มีการเตรียมการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่มีทั้งกระบวนการประสานงานโดยทางฝ่ายปกครองของทางจังหวัดฉะเชิงเทรา นำโดย นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เน้นการใช้กำลังจากนอกพื้นที่ และได้มีการระดมกำลัง อส.มาเป็นจำนวนมาก และยังได้มีการนำตัวเจ้าหน้าที่มาเตรียมกำลังด้วยการกักบริเวณเอาไว้ภายในศาลาประชาคมฯ หลังศาลากลาง รวมถึงมีการตรวจยึด หรือปลดเครื่องมือสื่อสารออกจากกำลังพลระดับปฏิบัติการหมดทุกนาย เพื่อป้องการการข่าวรั่วไหล ตลอดจนการไม่แจ้งประสานให้สื่อมวลชนในพื้นที่ทราบอีกด้วย มีเพียงการจัดเตรียมการประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนจากส่วนกลางเพียงช่องเดียว เข้ามาติดตามทำข่าวแบบถึงพริกถึงขิง ต่อการปฏิบัติการลับสุดยอด ทลายร้านลาบ ในครั้งนี้เท่านั้น หลังจากปฏิบัติการดังกล่าว ผ่านพ้นไป จึงทำให้มีกระแสข่าวในมวลหมู่ของบรรดาชาวบ้าน ที่ลือหึ่งกันมาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จะมีการโยกย้ายนายตำรวจระดับ 5 เสือโรงพัก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และส่วนที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ จึงยิ่งทำให้กระแสข่าวได้แพร่สะพัดออกไปไกลถึงในหมู่ชาวบ้านตามชนบทที่พูดกันแบบปากต่อปากมากยิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามติดต่อประสานงานเข้าไปถึงยัง พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช. ภ.2 แต่ได้รับการปฏิเสธจากนายเวรว่า กำลังติดประชุม ต่อมาจึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช. ภ.2 จึงได้รับคำตอบว่า เรื่องดังกล่าว ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาข้อเท็จจริง ที่กำลังให้ตำรวจในพื้นที่รายงาน เพื่อจะประกอบการพิจารณาในรายละเอียดของคณะกรรมการ ว่า เข้าข้อบกพร่องตาม คำสั่ง ตร.ที่ 234 ในข้อกำหนดในระเบียบ ตร.หรือไม่ เพราะส่วนหนึ่งนั้นร้านค้าที่เกิดเหตุนี้ไม่ใช่สถานบริการ ส่วนที่สองคือสถานที่เกิดเหตุ ไม่ใช่สถานบันเทิง ฉะนั้นจึงต้องดูว่าพฤติการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ไปเข้ากับในข้อบกพร่องตามคำสั่ง ตร.หรือไม่ โดยขณะนี้กำลังประชุมพิจารณากันถึงในเรื่องนี้อยู่ ฉะนั้นหากบทสรุปผลของการประชุมออกมาแล้วถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร หากไม่เข้าในข้อบกพร่อง ก็ต้องสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งก็ต้องว่ากัน ไป ไม่ถึงขนาดที่จะต้องเข้ามาช่วยราชการในภาค 2 ถ้าความผิดเข้าตามที่ระเบียบ ตร.กำหนดไว้ ก็ต้องเอามาช่วยราชการ ถึงตอนนั้น ก็จะต้องเรียกเข้ามาช่วยราชการ ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาของคณะกรรมการอยู่ โดยกำลังมีการประชุมเพื่อดูระเบียบ ดูข้อบังคับ ดูพฤติการณ์ทั้งหมด ดูในรายละเอียดว่าเข้ากับข้อกำหนดอะไรบ้างที่จะต้องดำเนินการ ขณะนี้จึงยังอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ แต่ผลยังไม่สรุป ตอนนี้จึงได้ให้ทางท้องที่รายงานชี้แจงเข้ามาว่า ได้เคยไปจับ เคยไปตรวจสอบว่า มีการทำอะไรมาบ้างหรือไม่ จึงต้องมีการพิจารณาและต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ไม่ใช่อยู่ๆ ใครไปจับอะไรมา ก็ต้องเรียกตำรวจให้ย้ายเข้ามาช่วยราชการ และเวลาที่ตำรวจไปจับอะไรได้ก็ไม่เห็นมีการย้ายนายอำเภอออกไปบ้าง แล้วจะให้ความเป็นธรรมกันได้อย่างไร อย่างนี้ก็ถือว่าตำรวจก็เป็นฝ่ายโดนชกอยู่ฝ่ายเดียว จึงต้องมีการพิจาณาในข้อบกพร่อง ต้องมีการดู ต้องให้ความเป็นธรรมกันทุกๆ ฝ่าย ทั้งที่ฝ่ายปกครองเป็นคนออกใบอนุญาตสถานบริการ สถานบันเทิง ออกอะไรหลายๆ อย่าง เวลาโดนเข้าแล้วก็จะมาโทษตำรวจฝ่ายเดียว และนี่ก็ไม่ใช่สถานบริการ จึงต้องพิจารณาให้รอบครอบ ต้องให้โอกาสเขาชี้แจง ประกอบการพิจารณาดูระหว่างการปฏิบัติที่ผ่านมานั้นบกพร่องแค่ไหนเพียงไร พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
|