ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ภาคต่อดราม่าไปรษณีย์ ปมก้อนหินกับไอโฟน



(7 ก.ค.) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า โทรศัพท์ไอโฟน 4 เอส ที่ถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ ได้สูญหายไป ระหว่างการนำส่งพัสดุโดยไปรษณีย์ไทย เมื่อพัสดุถึงมือผู้รับปรากฏว่าเป็นเพียงก้อนหินอยู่ในซองพัสดุ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของไปรษณีย์ไทยในแง่ลบ แต่ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นไม่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและกล่าวหาว่าสร้างเรื่องสร้างกระแส

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "T'oey Sanamid" ได้โพสต์ข้อความลงในแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Drama-addict ชี้แจงต่อข้อสงสัยในกรณีดังกล่าวต่อชาวสังคมออนไลน์

"สวัสดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆทุกคนเลยน่ะค่ะ เตยจะมาชี้แจงกรณีต่างๆที่พี่ๆได้ตั้งคำถามได้สงสัยในประเด็นต่างในเพจนี้น่ะค่ะ...ก่อนอื่นต้องขอบอกอีกครั้งน่ะค่ะรู้สึกว่าเคยแจ้งไว้แล้ว โทรศัพท์ เตยเป็น iphone4s ไม่ได้เป็นเครื่องใหม่ค่ะ เป็นโทรศัพท์ที่เตยใช้มาประมาณ 6 เดือน เตยได้ทำตกแล้วมันแตกที่ตรงปุ่มกดตรงกลางนิดนึงค่ะ แล้วพอใช้ไปสักพักมันก็พิมพ์ตัวอักษรไม่ค่อยได้ แล้วเตยก็ส่งซ่อมที่ศูนย์ที่กรุงเทพค่ะ พอเค้าซ่อมเสร็จเตยก็ได้ให้พี่สาวไปเอาให้และให้พี่สาวส่งมาให้ค่ะ,,และเตยก็ต้องยอมรับผิดในฝั่งเตยด้วยค่ะว่าพี่สาวเตยมีความสะเพร่าในการส่งของมากเพราะได้ส่งโทรศัพท์มาโดยซองกันกระแทกไม่ได้ส่งมาแบบกล่องอันนี้เตยขอยอมรับความสะเพร่าในส่วนนี้ค่ะ....พี่สาวได้ส่งของแบบemsมาให้ในวันพฤหัสที่3ค่ะ ของได้มาถึงเมื่อวันที่5ประมาณ10โมงครึ่ง และประเด็นที่คนสงสัย

[1] ทำไมแกะของต่อหน้าไปรษณีย์มีการเตรียมการมาก่อนมั้ย? ขอตอบนะคะว่าเตยได้เซ็นรับของก่อนที่จะแกะซองค่ะเตยก็รอโทสับมาหลายวันแล้วด้วยความดีใจที่ได้โทสับ พอพนักงานยื่นซองให้สัมผัสแรกที่เตยจับซองก็เริ่มแปลกใจว่าทำไมมันนูนๆมันผิดกับรูปแบบไอโฟนเตยก็ได้แกะซองตอนนั้นพนักงานก็อยู่ด้วย ถ้าเป็นกล่องโดยปกติแล้วเตยก็เอาเข้ามาเปิดในบ้านแต่นี่มันเป็นซองเตยก็เลยรีบเปิดเลย สรุปว่าเปิดมาเจอก้อนหินไม่เจอโทรศัพท์ก็ตกใจเลยโวยวายไปว่าทำไมมันเป็นก้อนหินไม่เป็นโทรศัพท์ หลังจากนั้นทางเตยก็ได้ไปแจ้งเรื่องไว้ที่สถานีตำรวจฉวาง และได้ให้ไปรษณีย์เป็นพยานให้ด้วยค่ะ.

[2] ที่สำคัญที่สุดเลยที่พิสูจน์ว่าเตยกับพี่สาวไม่ได้หลอกลวงไม่ได้โกหกคือเรื่องของน้ำหนัก จากภาพที่เตยได้ลงให้พี่ดู พี่ๆลองสังเกตที่ใบเสร็จและหน้ากล่องน่ะค่ะ เค้าจะระบุว่าน้ำหนัก162 แต่เตยได้เอาก้อนหินซองกันกระแทกไปชั่งที่ทำการไปรษณีฉวางโดยมีหัวหน้าไปรษณีและพี่นักข่าวได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย น้ำหนักของก้อนหินหนักแค่ 0.138กรัม และก็ได้เอาโทรศัพท์ไปชั่งอีกทีก็เป็น 0.162 ตามที่หน้ากล่องและใบเสร็จได้เขียนไว้ค่ะ ซึ่งน้ำหนักมันก็แตกต่างกันมาก!!

หวังว่าที่เตยชี้แจงพี่ๆและทุกคนคงจะเข้าใจนะคะว่าเตยไม่ได้กุเรื่องไม่ได้สร้างกระแสไม่ได้หลอกลวง ทุกอย่างที่เตยพูดมาคือความจริง เตยก็ไม่โกรธใครนะคะ เพราะเข้าใจว่าโลกออนไลน์มันหลายคนหลายความคิดหลายมุมมอง และอีกอย่างหลักฐานก่อนหน้านี้มันก็ไม่ชัดเจนด้วย ก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ...ส่วนเรื่องของคดีเตยก็ได้เขียนเรื่องร้องเรียนกับทางไปรษณีย์ และเดี๋ยวทางไปรษณีย์จะส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่และพิสูจน์ตรวจสอบเรื่องให้ค่ะ ก็ขอขอบคุณทุกๆคนด้วยนะคะที่ช่วยแชร์กันเรื่องนี้ และขอบคุณหัวหน้าไปรษณีย์ของฉวางด้วยค่ะที่ไม่นิ่งดูดาย รีบดำเนินเรื่องให้เตย และขอบคุณพี่ๆนักข่าวทุกคนและสื่อทุกสื่อที่ช่วยกันในเรื่องนี้ ขอบคุณมากค่ะ!!"

ขอขอบคุณ




Create Date : 08 กรกฎาคม 2557
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 22:45:35 น. 0 comments
Counter : 968 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]