นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วังงะแงะ หรือ เรือนเจ้าเมืองระแงะ อาคารโบราณทรงคุณค่าของนราธิวาส พังถล่มลงมาช่วงเช้าตรู่วันที่ 1 กันยายน บริเวณหลังคาและตัวเรือน เนื่องจากถูกปล่อยทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ไม้ ผุพัง หมดสภาพ
ทางจังหวัดได้เข้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วพร้อมหารือเบื้องต้นโดยกำหนดแนวทางดำเนินการไว้2ทาง1.ทำการเคลียรพื้นที่วัสดุหลังคาโครงสร้างไม้ต่างๆ ที่ถล่มพังลงไม่ไห้เกิดอันตราย พร้อมเจ้าของกรรมสิทธ ได้รับรู้และอนุญาตด้วย
2. รวมข้อมูลเพื่อเสนอไห้กรมศิลปากร ที่ 13 สงขลา เข้ามาตรวจสอบโดยละเอียด เพื่อประเมินสภาพ และเชิญผู้มีความรู้ความสามารถและ ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เข้ามาจัดการซ่อมแซม หรือบูรณาการต่อไป แต่ก่อนจะดำเนินได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของเสียก่อน
สำหรับวังระแงะ เป็นอาคารเรือนไม้โบราณ ในอดีตเป็นวังของต่วนตือเงาะห์ ซำซุดดีน หรือ พระยาภูผาภักดี ศรีสุวรรณประเทศวิเศษวังสา เจ้าเมืองนราธิวาส คนสุดท้าย สมัยเป็นมณฑลรัฐปัตตานีถูกใช้เป็นที่ว่าราชการของเจ้าเมืองตรงกับสมัยรัชการที่ 5
เดือนกรกฎาคม ปี 2555 ภาคีสถาปัตย์ปาตานี ออกเรียกร้องไห้ผู้คนในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลรักษาและเห็นถึงความสำคัญเพราะไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมเรือนไม้โบราณที่ทรงคุณค่าหากเต็มไปด้วยข้อมูลที่ควรค่าแก่การศึกษาอย่างมากทั้งการวางแผนผังตัวเรือนศิลปลวดลายประดับตกแต่งต่างๆที่ติดอยู่โดยรอบตัวเรือนไม่ว่าจะเป็นชายคาช่องลมกรอบประตูระเบียง ล้วนสวยงามแปลกตา มีคุณค่าไห้ควรรักษาอย่างยิ่ง หลังจากถูกลืมเลือน ทิ้งไว้ ไม่ได้รับการสนใจ มาเป็นเวลากว่า 30 ปี
เนื่องจากเจ้าของที่เป็นลูกหลาน ต่างย้ายกันออกไป ไม่ได้พักอาศัย อีกทั้งลูกหลานรุ่นต่อๆมา ยังไม่สามารถหางบประมาณไม่ได้เพียงพอเพื่อบูรณะได้จนเวลาเนิ่นนานไป ผ่านไปนานหลายปี จึงวอนขอไห้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่ ช่วยเหลือดำเนินการโดยด่วนในการเก็บรักษาไว้กับลูกหลานชาวนราธิวาสได้ศึกษากันต่อไป
ภาคีสถาปัตย์ปาตานีทราบมาโดยตลอดว่าวังงะแงะมีแนวโน้มจะพังในอีกไม่นานจึงได้เข้าไปสำรวจเก็บข้อมูลรวบรวมไว้ก่อน อีกทั้งได้เข้าไปศึกษาสำรวจโครงสร้างต่างๆไว้รวมทั้งพยายามหาแนวทางขอสนับสนุนและแจ้งกับหน่วยงานต่างๆตลอดมา
วันที่ 14 มิถุนายน 2556 ภาคีสถาปัตย์ปาตานี ได้เข้าไปทำการยึดโครงไม้ ในส่วนผนังด้านทิศตะวันออก ที่เอนเอียง เพราะไม้ผุพัง และยึดไว้ได้ ป้องกันการพังของตัวเรือนไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการพังถล่มลงได้ ตรงส่วนของโถงทางเดิน จึงถล่มลงไปในที่สุด