All Blog
____" ฮวงกั๊วเปี้ย " หรือ " เซาปิ่ง " (烧饼) สูตรโบราณมาแล้วค่ะ...____




ช่วงที่ผ่านมาที่คนมาตามหาสูตร" ฮวงกั๊วเปี้ย " หรือ " เซาปิ่ง " ในบอร์ดพอดีไปบอกไว้ว่าจะจัดให้ ก็เลยไปถามสูตรจากแม่มาให้ค่ะ เซาปิ่งเป็นขนมโบราณของคนจีนค่ะ จำได้ว่าตอนที่ไปเที่ยวที่ ลี่เจียง เคยไปมุงแย่งซื้อกับเค้าเหมือนกัน แต่ของเค้าเป็นไส้เค็ม ทานร้อนๆ ประกอบกับอากาศหนาวๆ โฮ้ ...อร่อยอย่าบอกใครเชียว..แค่หยวนเดียวเองค่ะ
เมือก่อนที่ท่าน้ำท่าดินแดง ก็มีขายอยู่เจ้าหนึ่งอร่อยมาก เดี๋ยวนี้ไม่มีขายแล้ว ...หน้าปากซอยสายน้ำทิพย์..เมื่อก่อนก็มีอาแปะแก่ๆขายอยู่ร้าน...แต่ตอนนี้ก็ไม่มีแล้วค่ะ..

เห็นที่มีอยู่ตอนนี้ก็แถววัดเล่งเน่ยยี่ค่ะ แล้วก็มีคนบอกว่าที่พารากอน (ของโบราณขึ้นห้างซะแล้ว)
หลังจากถาม..แม่..ลองทำดูแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ^_____^




ส่วนผสมมีไม่กี่อย่างค่ะ

มีแป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
มันเทศต้มแล้วบดให้ละเอียด 100 กรัม
น้ำนิดหน่อย
ยีสต์ ½ ชช
เกลือ นิดหน่อย
น้ำตาลนิดหน่อย (ถ้ามันเทศ)ไม่หวาน
น้ำมันหมู นิดหน่อย

วิธีทำ
ก็ไม่มีอะไรยากค่ะ ผสมทุกอย่างให้เข้ากันเลยค่ะ.แล้วนวดให้เนียน แล้วพักแป้งทิ้งให้ขึ้น ประมาณ 45-60 นาที



จากนั้นก็นำมาตัดแบ่ง ดิฉันแบ่งแป้งก้อนละ 20 กรัม แล้วก็ห่อไส้เลยค่ะ วันนี้ใช้ไส้เผือกกวนค่ะ แบ่งมาจากที่ทำขนมปัง



โรยหน้าด้วยงาขาว งาดำ ที่คั่วแล้วนิดหน่อยค่ะแล้วเอาลงทอดได้เลย




เคล็ดไม่ลับสำหรับการทอด.** ให้หาฝาปิดลงไปด้วย*** ขนมจะได้สุกทั่วกันค่ะ..ใช้ไฟอ่อน




















Create Date : 11 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 29 มีนาคม 2552 16:40:00 น.
Counter : 15292 Pageviews.

28 comment
ขนมไหว้พระจันทร์หิมะ (Snow Skin Mooncake)


ไส้ถั่วอบเทียน..กับงาดำเพื่อสุขภาพคั่วเองหอมมากๆๆ






อันนี้แป้งเป็นชาเนสที..ไส้เป็นครีม...





เป็นขนมที่ทำง่ายๆ ถ้าไม่นับไส้นะค่ะ ใช้อุปกรณ์ก็น้อยมากๆ ใครไม่มีเตาอบ ไม่มีเครื่องตีไข่ ตามมาดูเลยค่ะ

ส่วนผสม

แป้งขนมโก๋ 200 ก
น้ำตาลไอซิ่ง 150 ก
เนยขาว 50 ก
น้ำอุ่น
กลิ่น สี ตามชอบ

วิธีทำ

- ผสมสี กลิ่น ลงในน้ำอุ่นไว้
- ร่อนแป้ง กับไอซิ่ง แล้วเอาเนยขาวลงไปผสม จนแป้งเป็นเม็ดเล็กๆ แล้วค่อยๆใส่น้ำอุ่นที่ผสมสีและกลิ่น
ลงไป นวดให้เนียน เข้ากัน ถ้าแห้งไปก็เติมน้ำได้อีก จนเนียนนุ่ม
แล้วนำมาห่อไส้ที่ชอบ ของเราทำ ไส้งาดำ ไส้เม็ดบัว แล้วก็ไส้เผือก ครีม ...
หลังนั้นก็นำไปกดในพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ แต่รู้สึกว่าจะเคาะออกมายากว่า ขนมไหว้พระจันทร์เพราะว่ามันจะนิ่มกว่า ค่อนข้างจะต้องใช้ความระวังหน่อย




ร่อนแป้ง กับไอซิ่ง แล้วเอาเนยขาวลงไปผสม




ใช้ซ่อมยีส่วนผสมจนแป้งเป็นเม็ดเล็กๆ




แล้วค่อยๆใส่น้ำอุ่นที่ผสมสีและกลิ่นลงไป นวดให้เนียน เข้ากัน




หลังนั้นก็นำไปกดในพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ แต่รู้สึกว่าจะเคาะออกมายากว่า ขนมไหว้พระจันทร์เพราะว่ามันจะนิ่มกว่า ค่อนข้างจะต้องใช้ความระวังหน่อย




อันนี้ลองพิมพ์เล็กก่อน ^ ^ สีส้มในน้ำส้มซันควิก ส่วนสีชมพูในน้ำส้มเฮลบูลบอย..



ขนมไหว้พระจันทร์สีหวานๆ..^ ^












ผ่าให้ดูไส้ข้างในค่ะ



อันนี้ไส้ครีม ^ ^


รูปหมดแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมค่ะ..^ ^











Create Date : 31 สิงหาคม 2551
Last Update : 22 สิงหาคม 2555 18:20:18 น.
Counter : 8346 Pageviews.

19 comment
ขนมไหว้พระจันทร์ ( Moon Cake 月饼)







ช่วงนี้ก็จะเข้าสู่เทศกาลไหว้พระจันทร์อีกแล้ว วันไหว้พระจันทร์ปีนี้ ตรงกันวันที่ 14 กันยายน 2551เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีจีนไม่ให้สูญหายไป ก็เลยคิดอยากจะลองทำขนมไหว้พระจันทร์ (中秋月饼)ดูบ้าง พอดีว่าที่บ้านมีพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ ที่เพื่อนซื้อมาให้จากเวียดนามหนึ่งอัน แล้วอีกสองอันพ่อซื้อมาฝากจากเมืองจีน..เก็บไว้อยู่นานแสนนาน โดยไม่มีใครสนใจใยดีก็เลยหยิบมาใช้สักหน่อย.

โชว์พิมพ์ก่อน. ^ ^










เทศกาลไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน คนจีนจะเรียกว่า " จงชิวเจี๋ย " (中秋节 Zhong Qiu Jie) เป็นช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง จึงถูกเรียกว่า "จงชิว" (Zhong Qiu) แปลว่า "กลางฤดูใบไม้ร่วง" มีความเชื่อกันโดยทั่วไปว่า ในวันดังกล่าว เราจะสามารถมองเห็นพระจันทร์ได้เต็มดวงใหญ่ที่สุดกลมที่สุดและสว่างที่สุด

ประเพณีการไหว้พระจันทร์ว่า เป็นเรื่องจริงที่มีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ชาติจีนที่คนสร้างเทศกาลนี้ขึ้นมา เป็นอุบายในการปฏิวัติและปลดแอกชาติจีนออกจากการปกครองของพวกมองโกล ว่ากันว่า ในสมัยหนึ่งเป็นยุคที่มองโกลเรืองอำนาจและยึดครองจีนได้ ในการปกครองคนจีน พวกมองโกลได้ออกกฎว่าคนจีน 3 ครอบครัวต้องเลี้ยงดูคนมองโกลอย่างดี 1 คน มีการริบอาวุธของคนจีน อนุญาตให้มีได้เพียงมีดหั่นผัก 1 เล่ม แต่ใช้ร่วมกัน 3 ครอบครัว ความคิดที่จะกู้ชาติของชาวจีนที่รักความเป็นอิสระ ได้ออกมาในรูปของการแอบตั้งขบวนการใต้ดิน มีผู้คิดให้จัดงานไหว้ พระจันทร์ขึ้นมา

มีการทำขนมไหว้พระจันทร์ที่จงใจออกแบบให้เป็นขนมเปี๊ยะก้อนใหญ่ไส้หนาเป็นพิเศษ เพื่อใช้เป็นที่ซ่อนเอกสารในการติดต่อแล้วให้มีธรรมเนียมแลกขนมเปี๊ยะกันระหว่างญาติมิตร เป็นการตบตาพวกมองโกลได้อย่างแนบเนียน ภายในสาร ระบุเวลากำจัดคนมองโกล ว่าเที่ยงคืนของวันเพ็ญเดือน 8 ซึ่งเป็นคืนที่กำหนดให้มีงานไหว้พระจันทร์ ในคืนนั้น ทุกบ้านพร้อมใจกันจัดงานไหว้พระจันทร์ ประดับโต๊ะไหว้ให้สวยงาม เพราะเป็นการไหว้เจ้าแม่กวนอิม อาหารที่ไหว้ ใช้อาหารเจ มีผลไม้ และขนมไหว้พระจันทร์ พอเที่ยงคืนก็มีการตีเกราะเคาะไม้ส่งสัญญาณแก่กันว่าได้เวลาแล้ว ทุกครอบครัวก็พร้อมใจกันรุมฆ่าคนมองโกลด้วยมีดหั่นผักที่มีอยู่เล่มเดียวนั่นเอง เมื่อได้เอกราชคืนมา ชาวจีนจึงยึดถือเอาวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์สืบต่อมา เพื่อรำลึกถึงการกู้ชาติจากพวกมองโกล


** ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ “ตึ่งหนั่งเกี้ย” โดยจิตรา ก่อนันทเกียรติ**


ส่วนผสมดังนี้ค่ะ

แป้งสาลี 600 กรัม

น้ำเชี่อม 450 กรัม

น้ำมันพืช 75 กรัม

น้ำด่าง 1 ชช

ไส้ทุเรียนกวน

ไข่เค็ม เอาเฉพาะไข่แดง






ส่วนผสมน้ำเชื่อม

น้ำตาลทราย 1 กก
น้ำเปล่า 800 ก
น้ำมะนาว 25


วิธีทำน้ำเชื่อม นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือดหรี่ไฟอ่อน ต้มนาน 2-3 ชม. จนน้ำเชื่อมข้น วิธีเช็คให้หยดลงในน้ำเปล่า ให้น้ำเชื่อมเกาะเป็นเม็ดไม่ละลายแสดงว่าใช้ได้..วัดอุณหภูมิประมาณ 115 องศา


วิธีทำ
ผสมน้ำเชื่อม น้ำมันพืช และน้ำด่าง คนเข้ากัน แล้วค่อยๆเติมแป้งลงไปทีละน้อย ผสมให้เข้ากัน พักแป้งไว้อย่างน้อย 2 ชม





ตัดแป้งก้อนละ 40 ก ต่อไส้ 100 กรัม แล้วแต่ขนาดของพิมพ์ที่ใช้นะค่ะ ของที่ใช้อยู่ จะประมาณนี้ค่ะ





นำแป้งห่อหุ้มไส้ให้มิด โรยแป้งที่พิมพ์นิดหน่อย แล้วนำขนมใส่พิมพ์กดให้แน่น แล้วเคาะออกจากพิมพ์

อันนี้พิมพ์เหลื่ยมจากเมืองจีน ตัวหนังสือที่แกะสลักเขียนว่า 纯正莲蓉 chun zheng lian rong หมายความว่า ไส้ขนมคือไส้ลูกบัวล้วนๆ.. แต่วันนี้เป็นไส้ทุเรียนหมอนทองล้วนๆค่ะ ^ ^








นำเข้าอบอุณหภูมิ 210 ประมาณ 8 นาที แล้วนำออกมาทาผิวด้วยไข่แดงอบต่ออีก 8-10 นาที จนขนมเหลือง นำออกจากเตา






ขนมที่อบได้จะต้องทิ้งไว้ให้เย็นค้างคืนก่อนรับประทาน ..








อันนี้เป็นพิมพ์ของเวียดนาม ตัวหนังจีน 中秋 (zhong qiu ) ฤดูใบไม้ร่วง..




















จบแล้วค่ะ..เทศกาลไหว้พระจันทร์...ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ..

พอดีมีคนหลังไมค์มาขอสูตรไส้เม็ดบัว เอาเพิ่มเติมให้นะค่ะ

ส่วนผสม

เม็ดบัวนึ่งสุก 1000 ก
น้ำตาล 600 ก
น้ำมันพืช 250 ก
ถั่วกวน 300 ก
เม็ดแตงโม 100 ก
แป้งสาลี 80 ก
น้ำเปล่า 1 ½ ถ
เกลือ 1 ชช
วิธีทำ บดเม็ดบัวให้ละเอียด ผสมน้ำตาลทราย น้ำเปล่า เม็ดบัว น้ำมันพืช เกลือ นำไปตั้งไฟกวนพอเข้ากัน เติมถั่วกวน
และแป้งสาลี กวนจนส่วนผสมแห้งล่อนออกจากกะทะ ทิ้งไว้ให้เย็นจึงเติมเม็ดแตงโม นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม หุ้มไข่แดงเค็ม ..















Create Date : 22 สิงหาคม 2551
Last Update : 30 สิงหาคม 2555 18:54:13 น.
Counter : 7903 Pageviews.

13 comment
"บ๊ะจ่าง" 粽子( สูตรคุณแม่รับประกันความอร่อยสุดๆ )

วันพรุ่งนี้ จะเป็นวันไหว้บ๊ะจ่างหรือภาษาจีนเรียกว่าเทศกาลตวนอู่เจี๋ย (端午节) ในจีน ที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติ

.....วันนี้หลายๆบ้านจะห่อบ๊ะจ่างกัน ที่บ้านดิฉันก็มีการห่อบ๊ะจ่างกันมาทุกปี ตั้งแต่ดิฉันจำความได้..ก่อนหน้านี้ก็จะเป็นลูกมือช่วยม่าม้าห่อทุกปี อยากจะสืบทอดรักษาประเพณีนี้ไม่ให้สูญหายไปค่ะ ..ทุกปีก็จะเป็นลูกมือช่วย ค่ะแต่ปีนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นเชฟใหญ่ในการทำบ๊ะจ่างเต็มตัวเพราะคุณแม่วางมือค่ะ..ซึ่งขอบอกว่าสูตรนี้เป็นสูตรโบราณที่รับประกันความอร่อยค่ะ ตามมาดูสูตรกันเลยค่ะ








เครื่องปรุง
ข้าวเหนียวอย่างดี (แช่ข้ามคืน ) 6 กก.
หมูสามชั้น (ถ้าไม่ชอบมันใช้สันในก็ได้ค่ะ) 1.5 กก.
เห็ดหอม 3 ขีด
ถั่วลิสง 1.5 กก.
กุนเชียงอย่างดี 1 กก
แปะก้วย 1 กก
กุ้งแห้ง 1 กก
กระเทียมสับหยาบ 1/2 กก
ไข่เค็มแดงผ่าครึ่ง 60 ลูก
ถ้าชอบเผือกกวนจะใส่ก็ได้
ใบไผ่ 1 กก
เชือกตัดแบ่งแล้วมัดเป็นกำๆละ 10 เส้น
พริกไทย , ซอสปรุงรส, น้ำตาล , ตามชอบ


ขั้นตอนการเตรียม

บ๊ะจ่างทำไม่ยากค่ะ แต่มีขั้นตอนมาเตรียมที่ค่อนข้างยุ่งยากเพราะมีเครื่องปรุงหลายอย่าง บางคนทำแล้วข้าวเหนียวจืดชืดไม่อร่อย แต่ของรับรองสูตรของคุณแม่ ..เพราะว่าใครทานแล้วก็ติดใจทุกคนค่ะ




ข้าวเหนียว ล้างสะอาดแช่น้ำข้ามคืนค่ะ พอตอนเช้าก็เอามาทำพอดีถั่วลิสง ต้องล้างสะอาดแล้วต้ม ให้นิ่มล้างสะเด็ดน้ำแห้ง เตรียมไว้

แปะก้วย ซื้อที่เขาต้มสุกมา ก็มาล้างอีกครั้ง แล้วก็ต้องต้มน้ำทิ้งอีกสองครั้ง(จะได้ไม่ขม) ครั้งที่ 3 ให้ต้มในน้ำ
พอดีแปะก้วย แล้วใส่น้ำตาลเชื่อม (อย่าให้หวานมาก)

กุนเชียง หันแล้วทอด ให้เกรียมหอม
กุ้งแห้ง ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้ง
หมูสามชั้น หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ หมักด้วย พริกไทย ซอสปรุงรส น้ำตาล ผงซุบไก่ เกลือนิดหน่อย
ใบไผ่ ต้องตัดปลายใบทิ้งจะได้ไม่แข็ง นำไปต้มจนเดือด ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาล้างให้สะอาดทีละใบแช่น้ำไว้พอจะห่อก็ค่อยเอามาสะเด็ดน้ำ
เห็ดหอม ล้างให้สะอาด แช่น้ำ จนพอง บีบให้แห้ง แล้วนำไปเจียวให้หอม ก่อนที่จะใส่ซอสปรุงรส นิดหน่อย


















วิธีทำ
เริ่มจากจากผัดข้าวก่อนค่ะ เพื่อจะให้ข้าวหอม มีรสชาติ โดย ตั้งกะทะใส่น้ำมันลงในกระทะ ในกระเทียมลงเจียว ให้หอม ไม่ต้องเหลือง ใส่กุ้งแห้งลงพักเจียวสักพัก ใส่ถั่วสิสงลงผัด ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส พริกไทย (ถ้าชอบเผ็ดก็ใส่ตามชอบ) น้ำตาล เกลือนิดหน่อย ผัดให้หอม จากนั้นนำข้าวเหนียว ที่แช่น้ำสะเด็ดน้ำแล้วใส่ลงไปผัด ให้เข้ากัน พักทิ้งไว้

หลังจากนั้นก็มาถึงการห่อ โดยนำใบไผ่ทีล้างสะอาดแล้ว ห่อเป็นกรวย ใส่ข้าวเหนียว แล้วก็ตามด้วยเครื่องต่าง ไข่แดง, เห็ดหอม ,แปะก้วย, หมู , กุนเชียง ตามด้วยข้าวเหนียวอีกชั้น แล้วห่อมัดด้วยเชือก นำไปนึ่งในน้ำเดือดจนสุก..




































Create Date : 07 มิถุนายน 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2555 22:48:44 น.
Counter : 14681 Pageviews.

26 comment
1  2  3  4  

never the last
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]