All Blog
ขนมไหว้พระจันทร์ ( Moon Cake 月饼)







ช่วงนี้ก็จะเข้าสู่เทศกาลไหว้พระจันทร์อีกแล้ว วันไหว้พระจันทร์ปีนี้ ตรงกันวันที่ 14 กันยายน 2551เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีจีนไม่ให้สูญหายไป ก็เลยคิดอยากจะลองทำขนมไหว้พระจันทร์ (中秋月饼)ดูบ้าง พอดีว่าที่บ้านมีพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ ที่เพื่อนซื้อมาให้จากเวียดนามหนึ่งอัน แล้วอีกสองอันพ่อซื้อมาฝากจากเมืองจีน..เก็บไว้อยู่นานแสนนาน โดยไม่มีใครสนใจใยดีก็เลยหยิบมาใช้สักหน่อย.

โชว์พิมพ์ก่อน. ^ ^










เทศกาลไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน คนจีนจะเรียกว่า " จงชิวเจี๋ย " (中秋节 Zhong Qiu Jie) เป็นช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง จึงถูกเรียกว่า "จงชิว" (Zhong Qiu) แปลว่า "กลางฤดูใบไม้ร่วง" มีความเชื่อกันโดยทั่วไปว่า ในวันดังกล่าว เราจะสามารถมองเห็นพระจันทร์ได้เต็มดวงใหญ่ที่สุดกลมที่สุดและสว่างที่สุด

ประเพณีการไหว้พระจันทร์ว่า เป็นเรื่องจริงที่มีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ชาติจีนที่คนสร้างเทศกาลนี้ขึ้นมา เป็นอุบายในการปฏิวัติและปลดแอกชาติจีนออกจากการปกครองของพวกมองโกล ว่ากันว่า ในสมัยหนึ่งเป็นยุคที่มองโกลเรืองอำนาจและยึดครองจีนได้ ในการปกครองคนจีน พวกมองโกลได้ออกกฎว่าคนจีน 3 ครอบครัวต้องเลี้ยงดูคนมองโกลอย่างดี 1 คน มีการริบอาวุธของคนจีน อนุญาตให้มีได้เพียงมีดหั่นผัก 1 เล่ม แต่ใช้ร่วมกัน 3 ครอบครัว ความคิดที่จะกู้ชาติของชาวจีนที่รักความเป็นอิสระ ได้ออกมาในรูปของการแอบตั้งขบวนการใต้ดิน มีผู้คิดให้จัดงานไหว้ พระจันทร์ขึ้นมา

มีการทำขนมไหว้พระจันทร์ที่จงใจออกแบบให้เป็นขนมเปี๊ยะก้อนใหญ่ไส้หนาเป็นพิเศษ เพื่อใช้เป็นที่ซ่อนเอกสารในการติดต่อแล้วให้มีธรรมเนียมแลกขนมเปี๊ยะกันระหว่างญาติมิตร เป็นการตบตาพวกมองโกลได้อย่างแนบเนียน ภายในสาร ระบุเวลากำจัดคนมองโกล ว่าเที่ยงคืนของวันเพ็ญเดือน 8 ซึ่งเป็นคืนที่กำหนดให้มีงานไหว้พระจันทร์ ในคืนนั้น ทุกบ้านพร้อมใจกันจัดงานไหว้พระจันทร์ ประดับโต๊ะไหว้ให้สวยงาม เพราะเป็นการไหว้เจ้าแม่กวนอิม อาหารที่ไหว้ ใช้อาหารเจ มีผลไม้ และขนมไหว้พระจันทร์ พอเที่ยงคืนก็มีการตีเกราะเคาะไม้ส่งสัญญาณแก่กันว่าได้เวลาแล้ว ทุกครอบครัวก็พร้อมใจกันรุมฆ่าคนมองโกลด้วยมีดหั่นผักที่มีอยู่เล่มเดียวนั่นเอง เมื่อได้เอกราชคืนมา ชาวจีนจึงยึดถือเอาวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์สืบต่อมา เพื่อรำลึกถึงการกู้ชาติจากพวกมองโกล


** ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ “ตึ่งหนั่งเกี้ย” โดยจิตรา ก่อนันทเกียรติ**


ส่วนผสมดังนี้ค่ะ

แป้งสาลี 600 กรัม

น้ำเชี่อม 450 กรัม

น้ำมันพืช 75 กรัม

น้ำด่าง 1 ชช

ไส้ทุเรียนกวน

ไข่เค็ม เอาเฉพาะไข่แดง






ส่วนผสมน้ำเชื่อม

น้ำตาลทราย 1 กก
น้ำเปล่า 800 ก
น้ำมะนาว 25


วิธีทำน้ำเชื่อม นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือดหรี่ไฟอ่อน ต้มนาน 2-3 ชม. จนน้ำเชื่อมข้น วิธีเช็คให้หยดลงในน้ำเปล่า ให้น้ำเชื่อมเกาะเป็นเม็ดไม่ละลายแสดงว่าใช้ได้..วัดอุณหภูมิประมาณ 115 องศา


วิธีทำ
ผสมน้ำเชื่อม น้ำมันพืช และน้ำด่าง คนเข้ากัน แล้วค่อยๆเติมแป้งลงไปทีละน้อย ผสมให้เข้ากัน พักแป้งไว้อย่างน้อย 2 ชม





ตัดแป้งก้อนละ 40 ก ต่อไส้ 100 กรัม แล้วแต่ขนาดของพิมพ์ที่ใช้นะค่ะ ของที่ใช้อยู่ จะประมาณนี้ค่ะ





นำแป้งห่อหุ้มไส้ให้มิด โรยแป้งที่พิมพ์นิดหน่อย แล้วนำขนมใส่พิมพ์กดให้แน่น แล้วเคาะออกจากพิมพ์

อันนี้พิมพ์เหลื่ยมจากเมืองจีน ตัวหนังสือที่แกะสลักเขียนว่า 纯正莲蓉 chun zheng lian rong หมายความว่า ไส้ขนมคือไส้ลูกบัวล้วนๆ.. แต่วันนี้เป็นไส้ทุเรียนหมอนทองล้วนๆค่ะ ^ ^








นำเข้าอบอุณหภูมิ 210 ประมาณ 8 นาที แล้วนำออกมาทาผิวด้วยไข่แดงอบต่ออีก 8-10 นาที จนขนมเหลือง นำออกจากเตา






ขนมที่อบได้จะต้องทิ้งไว้ให้เย็นค้างคืนก่อนรับประทาน ..








อันนี้เป็นพิมพ์ของเวียดนาม ตัวหนังจีน 中秋 (zhong qiu ) ฤดูใบไม้ร่วง..




















จบแล้วค่ะ..เทศกาลไหว้พระจันทร์...ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ..

พอดีมีคนหลังไมค์มาขอสูตรไส้เม็ดบัว เอาเพิ่มเติมให้นะค่ะ

ส่วนผสม

เม็ดบัวนึ่งสุก 1000 ก
น้ำตาล 600 ก
น้ำมันพืช 250 ก
ถั่วกวน 300 ก
เม็ดแตงโม 100 ก
แป้งสาลี 80 ก
น้ำเปล่า 1 ½ ถ
เกลือ 1 ชช
วิธีทำ บดเม็ดบัวให้ละเอียด ผสมน้ำตาลทราย น้ำเปล่า เม็ดบัว น้ำมันพืช เกลือ นำไปตั้งไฟกวนพอเข้ากัน เติมถั่วกวน
และแป้งสาลี กวนจนส่วนผสมแห้งล่อนออกจากกะทะ ทิ้งไว้ให้เย็นจึงเติมเม็ดแตงโม นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม หุ้มไข่แดงเค็ม ..















Create Date : 22 สิงหาคม 2551
Last Update : 30 สิงหาคม 2555 18:54:13 น.
Counter : 7899 Pageviews.

13 comments
  
เหมือนที่เค้าทำขายมากเลยค่ะ เก่งมากกกก

บัวชอบกินแต่ไม่เคยลองทำซะทีเลย
โดย: Tiny Bakery วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:20:56:18 น.
  
ทำได้สวยงามเหมือนที่เค้าขายเลยอ่ะ ดูดีมาก ๆ คะ
โดย: Sweet Forever วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:7:20:13 น.
  
เก่งจังเลยค่ะ ลูกสนอยากทำมั่งจัง
ชอบตอนเอาขนมเข้าพิมพ์นี่ล่ะค่ะ
กดๆเคาะๆ น่าสนุกจังเลย
โดย: ลูกสน วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:18:44:26 น.
  
สวัสดีค่ะ

คุณ Tiny Bakery ขอบคุณค่ะที่แวะมาชม

คุณ Sweet Forever ขอบคุณค่ะ

คุน ลูกสน ใช่แล้วค่ะ ลุ้นว่าออกมาจะสวยไม๊ ลายจะคมไม๊ แต่ฝีมือระดับคุณลูกสน..สบายมากค่ะ..
โดย: never the last วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:8:13:33 น.
  
อยาก เอาไปกิน แกล้มชาอูหลง จังเลย
โดย: น้ำค้างหยกเก้าบุปผา วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:23:54:29 น.
  
อาย่อย...มัก มาก...ขอบอก...ชิมมาแล้ว...อิ อิ...

โดย: jswor ค่ะ IP: 58.9.96.146 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:46:05 น.
  
น้ำด่างทำอย่างไรคะสงสัยมานานแล้วค่ะ
โดย: ป้าแม้น IP: 202.28.103.12 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:15:00:59 น.
  
น้ำค้างหยกเก้าบุปผา ด้วยแวะไปเสริฟ์ให้ถึงบล็อกเลยค่ะ

jswor ขอบใจนะ..แล้วเมื่อไหร่จะมาชิมอีกล่ะ ^ ^

ป้าแม้น ในหนังสือเขาบอกว่าใช้เปลือกทุกเรียนตากแห้งเอาไปเผาไฟ แล้วเอาขี้เถ่ามาผสมกับน้ำแช่ค้างคืนไว้ให้ตกตะกอน แล้วกรองเอาส่วนที่ใสมาใช้ แต่ปุ้ยไม่ได้ทำเอง เพราะว่าใช้แค่นิดเดียว ก็ซื้อเอาที่ร้านขายอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ค่ะ.. ดูในบล็อกของ เจ๊หลีก็ได้นะค่ะ เห็นมีสอนทำอยู่ค่ะ หรือหาใน google ก็มีค่ะ ถ้าอยากลองทำ..



โดย: never the last วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:16:16:28 น.
  
ทำให้นึกถึงวันไหว้พระจันทร์เลยคร่ะ

ชอบรูปถ่ายกับตุ๊กตาจีนรูปสวยสีสันสดใส น่ารัก ม๊ากๆ...

คร่ะ ทำเก่งจังนะคร้า รสชาดก้อเหมือน เบรนเนมเลย...

ขอบคุณนะคร่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย...

แถมได้ทานของอาหร่อยด้วย....

ขอบคุณ จิง ๆ คร้า....

โดย: miae_jang mamma IP: 203.156.26.153 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:17:24:24 น.
  
เก่งจังเลย บอลยังทำม่ะเปงเลยอ่ะ
โดย: เถ้าแก่น้อย (bb_bon ) วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:17:12:45 น.
  
สวัสดีค่ะ
หน้าตาสวยงาม น่าทานมาก ๆเลยค่ะ
โดย: girlroom13 วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:21:43:29 น.
  
สวัสดีค่ะ

ตามมาจากในก้นครัวนะคะ
เห็นมีทำสูตรคัสตาร์ดด้วย อยากจะทราบวิธีการทำได้มั๊ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ
โดย: Viva IP: 58.8.96.237 วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:16:35:30 น.
  
สุดยอด ฝีมืออย่างงี้ทำขาย รวย รวย รวย ค่ะ
โดย: เง็ก (Nong-Ngek ) วันที่: 25 กันยายน 2555 เวลา:10:38:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

never the last
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]