BlogGang.com : : karnoi - รุมวิพากษ์ร่างทรง 'เสด็จเตี่ย' แต่งเครื่องแบบทหาร มีสิทธ์หรือ?

รุมวิพากษ์ร่างทรง 'เสด็จเตี่ย' แต่งเครื่องแบบทหาร มีสิทธ์หรือ?

สำนักทรงเจ้าเหิมหนัก ชาวเน็ตวิพากษ์ยับ ร่างทรง 'เสด็จเตี่ย' ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หยิบเครื่องแบบทหารมาใส่สร้างความงมงาย เข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.เครื่องแบบทหาร มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 5 ปี วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สำนักทรงเจ้าผุดขึ้นมากมาย จริงบ้างหลอกบ้างล่าสุด ร่างทรง 'เสด็จเตี่ย' กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ บอกเล่าได้จาก เพจเฟซบุ๊ก FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย หลังจากตีแผ่ภาพการจัดงานคนทรงเจ้า โดยมีการเข้าทรงเป็น พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย ซึ่งมีการแต่งเครื่องแบบทหารยศนายพลเต็มยศ ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

เป็นเหตุให้เกิดกระแสเรียกร้องบนโลกโซเชียลฯ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว โดยเพจดังกล่าวได้ตั้งคำถามว่า "เหมาะสมหรือไม่ ผิดข้อกฏหมายหรือไม่ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบภาพนี้หน่อย" ส่วนลูกเพจได้ตั้งข้อสังเกตไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการแต่งเครื่องแบบราชการ และการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเปิดดู พ.ร.บ.เครื่องแบบทหาร พ.ศ. 2477 ว่าด้วยสิทธิและโอกาสในการแต่งเครื่องแบบทหาร มีการระบุไว้ชัดเจนว่า "ผู้ใดแต่งเครื่องแบบทหารตามพระราชบัญญัตินี้ หรือแต่งเครื่องแบบทหารที่ทหารยังคงใช้ในราชการอยู่ โดยไม่มีสิทธิจะแต่งได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 5 ปี และถ้าการกระทำเช่นว่ามานี้ได้กระทำภายในเขตซึ่งประกาศใช้กฎอัยการศึกก็ดี ในเวลาสงครามก็ดี ในเวลาบ้านเมืองมีเหตุฉุกเฉินก็ดี หรือเพื่อกระทำผิดทางอาญาก็ดี ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี"

นอกจากความผิดฐานจงใจแต่งเครื่องแบบทหารโดยพลการแล้วใน พ.ร.บ. ดังกล่าวยังระบุถึงความผิดของผู้ที่แต่งกายเลียนแบบทหาร จนสร้างความเสื่อมเสีย และเกิดความเกลียดชังกับทหาร โดยระบุไว้ในมาตรา 6 ทวิ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในปี 2485 ระบุว่า

"ผู้ใดแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหารตามพระราชบัญญัตินี้ หรือคล้ายเครื่องแบบทหารที่ทหารยังคงใช้ในราชการอยู่ อันอาจนำความดูหมิ่นเกลียดชัง หรือความเสื่อมเสียมาสู่ราชการทหารก็ดี อันอาจทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นทหารก็ดี ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท และถ้าการกระทำเช่นว่านี้ได้กระทำภายในเขตซึ่งได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกก็ดี ในเวลาสงครามก็ดี ในเวลาบ้านเมืองมีเหตุฉุกเฉินก็ดี หรือเพื่อกระทำความผิดทางอาญาก็ดี ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10"

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ภาพหญิงอ้างเป็นร่างทรงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระนางเรือล่ม จัดพิธีเทียบชั้นเจ้านาย ก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับตั้งคำถามในลักษณะเดียวกันว่า เหมาะสมหรือไม่ ทั้งการแต่งกาย การใช้คำราชาศัพท์ ทำให้มีคนหลงเชื่อจนหลายคนหวั่นว่าจะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบันฯ และเกรงว่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ เนื่องจากมีการจัดพิธียิ่งใหญ่เสมอเหมือนเป็นเจ้านายในเชื้อพระวงศ์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ประเด็นเดียวกัน หากมองในมุมจิตวิทยา แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ เคยอธิบายอาการทรงเจ้าเข้าทรงในสมัยที่ยังเป็นจิตแพทย์โรงพยาบาลศรีธัญญา (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ) ว่า อยู่ในกลุ่มอาการของโรคทางจิตแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าก้ำกึ่งระหว่างความเชื่อเรื่องของศาสนาและความเจ็บป่วยทางจิต โดยสังเกตดูได้พฤติกรรมของคนๆ นั้น เช่น มีความเชื่อแล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนฉับพลัน มีผลต่อการดำเนินชีวิตตามปกติ หน้าที่ การงาน และการเรียน

สำหรับกลุ่มที่คิดว่าตัวเองมีองค์ ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อดั้งเดิมทางศาสนา มีองค์อินทร์ พระราม ประกอบกับความเชื่อผีปู่ย่า ในทางจิตแพทย์พบว่าสามารถรักษาแนวทางของจิตแพทย์สมัยใหม่ให้หายได้ รักษาให้หายได้ เพราะเคยมีคนไข้บางคนตีลังกาม้วนหน้าบอกว่าเป็นหนุมาน เข้ารับการรักษา 3 เดือนหาย พอหายเล่าว่าตอนนั้นรู้สึกตัวทุกอย่าง แต่ควบคุมไม่ได้ คนไข้หญิงอีกคน ท่าเดินเหมือนผู้ชาย แต่เสียงแก่ๆ บอกว่าเป็นเจ้าพ่อ

ทั้งนี้ หากมองแยกส่วนความเชื่อเรื่องศาสนา และผีตามความเชื่อคนไทยที่ยังมีอยู่ จะบอกว่าคนกลุ่มนี้ผิดปกติเสียทีเดียวไม่ได้

"ต้องสังเกตแยกระหว่างคนป่วยและไม่ป่วย ถ้าทรงจนไม่ทำงาน น้ำท่าไม่อาบ ลูกเมียไม่สนใจ มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน สงสัยว่ามีอาการป่วย รีบปรึกษาจิตแพทย์ แล้วพามารักษาทันท่วงที บางคนเห็นความผิดปกติมานาน แต่คิดว่าไม่ใช่อาการเจ็บป่วย ไม่คิดว่าเสียหาย จนอาการมาก เกิดเหตุน่าสลดตามมา" พญ.อภิสมัยเผย

Create Date : 12 มกราคม 2558

Last Update : 12 มกราคม 2558 20:30:19 น.

0 comments

Counter : 2171 Pageviews.