BlogGang.com : : karnoi - DSIมัด“ธัมมชโย” หลักฐานชัดฟอกเงิน-รับของโจร

DSIมัด“ธัมมชโย” หลักฐานชัดฟอกเงิน-รับของโจร

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดีเอสไอ” แถลงผ่านไลน์ยันออกหมายเรียก “ธัมมชโย” ในฐานะผู้ต้องหา รับทราบข้อหาฟอกเงิน-รับของโจร “สหกรณ์คลองจั่น” รวมมูลค่า 1.6 หมื่นล้าน เผยทำตาม “อัยการ” แนะนำ จ.ราชบุรี สั่งระงับ "ธรรมกาย" จัดตักบาตรสามเณรหมื่นรูป หวั่นมีกลุ่มต้าน ด้าน “ธัมมชโย” บ่นเสียดายถูกเบรก เล็งย้ายไปจัดสนามกีฬา-สนามบอล “สุวพันธ์” ยังเชื่อไม่เกิดศึกสงฆ์ในประเทศ หลังมีคณะสงฆ์ล่ารายชื่อปลด “พุทธอิสระ”

       วานนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แถลงผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มผู้สื่อข่าว กระทรวงยุติธรรม เพื่อยืนยันว่า ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียก พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหา ฐานความผิด สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร คดีรับเงินที่ได้จากการยักยอก และฉ้อโกงทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น

** DSIออกหมายเรียก “ธัมมชโย” จริง

       โดยข้อความระบุว่า ตามที่ ดีเอสไอ มีการสอบสวนดำเนินคดีกับ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในความผิดเรื่องยักยอกทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ต่อมาพนักงานอัยการมีคำแนะนำให้ ดีเอสไอ พิจารณาดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินที่ถูกยักยอกไปจากสหกรณ์ฯ ซึ่งกรณีนี้ ดีเอสไอ ได้แถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบไปแล้ว ต่อมามีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่รับเช็คสหกรณ์ฯ โดยไม่มีมูลหนี้และได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีมาระยะหนึ่ง จนเมื่อวันที่ 29 มี.ค.59 ได้มีการประชุมกับพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน ในที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าทางคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอจะแจ้งข้อหา นายศุภชัย พระเทพญาณมหามุนี และ น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร

       “จึงได้มีมติร่วมกันให้ออกหมายเรียก พระเทพญาณมหามุนี และ น.ส.ศศิธร ในฐานะผู้ต้องหา พร้อมกำหนดวันให้มารับทราบข้อกล่าวหาและให้ถ้อยคำ ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 8 เม.ย.59 เวลา 09.00 น.” ทีมโฆษกดีเอสไอ ระบุ

** “ราชบุรี” เบรกงานตักบาตร “ธรรมกาย”

       อีกด้าน ที่ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ สำนักผาสุกวณิช ต.คุ้งน้ำวน อ.เมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสำนักที่มีความเกี่ยวข้องกับ วัดพระธรรมกาย จะจัดโครงการตักบาตรสามเณร 10,000 รูปในวันที่ 9 เม.ย.59 นี้ที่บริเวณถนนคฑาธร หน้าโรงเรียนดรุณาราชบุรี จนมีกลุ่มคนออกมาคัดค้านเนื่องเกรงว่าจะเกิดเหตุความวุ่นวาย ทางจังหวัด โดย นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าฯ ปฎิบัติราชการแทนผู้ว่าฯราชบุรี จึงได้มีหนังสือถึงหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาครัฐ และเอกชน พร้อมทั้งสื่อมวลชนให้ทราบ โดยอ้างถึงพระธรรมปัญญาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ได้พิจารณาแล้ว เห็นควรระงับการจัดกิจกรรมพิธีตักบาตรสามเณร 1 หมื่นรูป ในวันที่ 9 เม.ย.ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมืองเนื่องจากประชาชนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับวัดพระธรรมกาย ประกอบกับสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ

** “ธัมมชโย” เล็งจัดตักบาตรในสนามบอล

       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้ชื่อ INNER MIND ได้เผยแพร่คลิป ชื่อ "สกัดไม่ให้จัดตักบาตร สามเณร, 26 มี.ค.2559, พระเทพญาณมหามุนี,ไชยบูลย์ ธมฺมชโย,หลวงพ่อธัมมชโย," ในเว็บไซต์ยูทิวป์ ความยาว 4:57 นาที ซึ่งเป็นภาพระหว่างที่ พระเทพญาณมหามุนี เทศน์กับศิษยานุศิษย์ โดยระบุถึงกรณีที่ จ.ราชบุรี ช่วงหนึ่งว่า เสียที่เขามาสกัดไม่ให้จัด ไม่รู้ว่ากลัวอะไร คงกลัวเด็กๆ สามเณรไม่เห็นมีพิษมีภัย มาแบบเนื้อนาบุญ เดินสงบเสงี่ยมสง่างาม ไม่น่าจะมีอุปสรรคขัดขวางเลย มีแต่จะช่วยเสริมให้ดีๆ กระแสทานแห่งบุญจะเกิดขึ้น ติดตามตัวไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งไปสู่นิพพาน

       “ที่จริงไม่น่าปฏิเสธตรงนี้ ไปคิดกันแปลกๆ เป็นเรื่องบุญ สมมติว่าถึงเวลาเราไปอยู่ปรโลก อยากได้บุญ แต่ไม่มีใครอุทิศมาให้ ทีนี้ทำยังไง เท่ากับเราไปสกัดเรื่องบุญให้กับมนุษย์และเทวดา รวมถึงบรรพบุรุษของเราด้วย น่าเสียดาย หรือหากเราย้ายไปจัดในสนามกีฬา หรือสนามฟุตบอล จะได้ไหม น่าจะได้นะ ถ้าไม่ให้บนถนนก็น่าจะเปิดโอกาสให้” พระเทพญาณมหามุนี ระบุ

** “สุวพันธ์” ยังเชื่อไม่เกิดศึกสงฆ์

       ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่พระสงฆ์ในนาม เครือข่ายพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ได้ออกประกาศนิมนต์พระสังฆาธิการทั่วประเทศประกาศอุกเขปนียกรรม ขับ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ออกจากสงฆ์ เพื่อนำความเรียบร้อยดีงามคืนสู่พระพุทธศาสนาว่า เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ที่ระบุถึงการกระทำผิดพระธรรมวินัย ซึ่งรัฐบาลจะไปเกี่ยวไม่ได้ ต้องปล่อยให้คณะสงฆ์ดำเนินการ ซึ่ง พศ.เป็นฝ่ายเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) ก็มีหน้าที่ช่วยคณะสงฆ์ทำงานเท่านั้น ส่วนข้อกังวลว่าจะกลายเป็นปัญหาศึกสงฆ์ในประเทศหรือไม่นั้น ตนเองคิดว่าคงไม่เป็นอย่างนั้น

       ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการเดินสายกราบนมัสการ และหารือกับพระผู้ใหญ่ นายสุวพันธ์ เปิดเผยว่า ก็ได้ไปกราบนมัสการอยู่ตลอด คุยเรื่องการปฏิรูป การทำงาน 6 ด้าน ของคณะสงฆ์ เพราะอยู่ในกระบวนการปรับปรุงการทำงานคณะสงฆ์ หวังว่างานส่วนนี้จะทำให้การทำงานของคณะสงฆ์แต่ละเรื่อง ทั้งเรื่องการเผยแพร่ การปกครอง ศาสนสงเคราะห์ และการศึกษาสงเคราะห์ จะเดินไปได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการหารือเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชแต่อย่างใด

** สงฆ์อีสานออกประกาศขับ “พระพุทธะอิสระ”

       วันเดียวกัน คณะสงฆ์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้ออกประกาศเรื่อง ลงอุกเขปนียกรรม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม โดยระบุความตอนหนึ่งว่า พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม เป็นผู้หัวดื้อ ว่ายากสอนยาก เวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก ได้สมคบคฤหัสถ์ ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์ ก่อความบาดหมาง ก่อการทะเลาะ ก่อการวิวาท ทำความอื้อฉาว ก่ออธิกรณ์ในวงฆ์ เป็นภิกษุพาล สันดานหยาบรุกรานพระเถระ ไม่ฉลาดในธรรม มีอาบัติมาก มีมารยาทไม่สมควร มีพฤติกรรมเป็นที่รังเกียจต่อคณะสงฆ์ ขอสงฆ์พึงลงอุกเขปนียกรรม แก่พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม เมื่อลงอุกเขปนียกรรมและ ขอสงฆ์จงจำไว้ว่า พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม นี้ ไม่สามารถร่วมวงสังฆกรรมใดๆในฐานะสงฆ์ได้ ไม่ว่าจะร่วมอุปสมบท รับกฐิน หรือลงอุโบสถสวดพระปาติโมกข์ ถ้า พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม อยู่ในวงแห่งหัตถบาส พึงเป็นสังฆกรรมวิบัติตามพระพุทธญัตติ เพราะอำนาจแห่งอุกเขปนียกรรมนี้ ขอสงฆ์ จ.นครปฐม พึงพิจารณาจริยพระสังฆาธิการ แก่ พระอธิการสิริชับ สิริโสภโณ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เพราะหย่อนยานต่ออำนาจเจ้าอาวาส ปล่อยปละละเลย ไม่ตักเตือนพร่ำสอนพระลูกวัดของตนให้อยู่ในพระธรรมวินัย จารีต ประเพณี อันดังาม ก่อให้เกิดความเสียกายแก่คณะสงฆ์

       เช่นเดียวกับ คณะสงฆ์ จ.อุบลราชธานี ที่ได้ออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันในการประกาศลงอุกเขปนียกรรม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม ฐานไม่เห็นอาบัติ คือ เป็นผู้ก่อความบาดหมางทำความอื้อฉาว ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์ รวมทั้งมีมติให้คณะสงฆ์ในแต่ละอำเภอสวดประกาศญัตติจตุตถกรรมในเขตสีมาเพื่อประกาศลงอุกเขปนียกรรม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม ตามพระวินัยต่อไป ทั้งนี้การอุกเขปนียกรรมเป็นการขับออกชั่วคราว แต่ยังมีเมตตาแบบพระสงฆ์ ให้โอกาสกลับตัวหากยังไม่สำนึกผิดอีก ก็ให้ลงโทษสถานหนัก ประกาศปัพพาชนียกรรมขับไล่ออกจากหมู่สงฆ์ สิ้นสุดความเป็นหมู่คณะ หาอาวาสมิได้.

//manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000033428

Create Date : 01 เมษายน 2559

Last Update : 1 เมษายน 2559 8:31:24 น.

0 comments

Counter : 1012 Pageviews.