| พ.ต.ท.ทักษิณได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดราให้ทำหน้าที่ ทูตพิเศษด้านการลงทุน ของรัฐบาลนิการากัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 | | | เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ กระทรวงการต่างประเทศนิการากัวออกระเบียบใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ระบุ พลเมืองต่างชาติซึ่งได้สิทธิ์พิเศษในการถือครอง หนังสือเดินทางนิการากัว จะต้องเร่งทำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อแผ่นดินนิการากัว ภายในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ หากพบพลเมืองกิตติศักดิ์รายใดไม่ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ อาจถูก เพิกถอนพาสปอร์ต รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงมานากัว เมืองหลวงของสาธารณรัฐนิการากัวที่ถูกเผยแพร่ในวันอังคาร ( 30 มิ.ย.) ที่ผ่านมาระบุว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศของนิการากัวได้ออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ ซึ่งมีเนื้อหากำหนดให้ บรรดาพลเมืองชาวต่างชาติที่ได้สิทธิ์ในการถือครอง หนังสือเดินทางนิการากัว ทุกประเภทรวมถึงหนังสือเดินทางทูต หรือได้สถานะเป็น พลเมืองกิตติมศักดิ์ ของนิการากัวไปก่อนหน้านี้ จะต้องเร่ง ทำตัวให้เป็นประโยชน์ กับประเทศและประชาชนชาวนิการากัว โดยต้องมีผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2015 เป็นต้นไป รายงานข่าวระบุว่า ทางการนิการากัวเตรียมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดด้วยการเพิกถอนพาสปอร์ต และยกเลิกสถานะของการเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แก่ชาวต่างชาติทุกรายที่ไม่สร้างประโยชน์ให้กับแผ่นดินนิการากัวภายในกำหนด 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ก.ค. 2016 ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการนิการากัวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนมากมายเกี่ยวกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของบรรดาพลเมืองกิตติมศักดิ์ที่ใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง โดยแทบไม่เคยสร้างประโยชน์ตอบแทนแก่นิการากัวเลย ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชาวต่างชาติที่เป็นผู้ถือครองพาสปอร์ตนิการากัว สามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศต่างๆได้ถึง 110 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอ วีซ่า แต่ที่ผ่านมา พบหลักฐานว่า มีชาวต่างชาติบางราย ที่นำพาสปอร์ตนิการากัวไปใช้เป็นเครื่องมือในการเดินทางไปปลุกปั่นหรือสร้างความวุ่นวายทางการเมืองยังประเทศต่างๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศและชาวนิการากัวโดยรวม ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2012 กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐนิการากัว ตัดชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีทุจริตในต่างแดน ออกจากรายชื่อนักลงทุนในโครงการ เมกะโปรเจ็กต์ ขุด คลองนิการากัว มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 950,395ล้านบาท) ถือเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลนิการากัวไม่ปลื้ม และอาจมีการยกเลิกหนังสือเดินทางที่มอบให้อดีตผู้นำรัฐบาลไทยรายนี้ตั้งแต่ เมื่อช่วงปี 2009 รายงานข่าวจากกรุงมานากัว เมืองหลวงของนิการากัวในเวลานั้นระบุว่า นายมานูเอล โกโรเนล เคาต์ซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐนิการากัวขณะนั้น ออกมาเปิดเผยรายชื่อนักลงทุนต่างประเทศที่เตรียมเข้ามาร่วมลงทุนกับทางรัฐบาลเพื่อสร้างเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศสายใหม่ คือ คลองนิการากัวความยาว 200 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน หวังเป็นคู่แข่งกับ คลองปานามา ที่อยู่ในประเทศปานามา เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอเมริกากลาง โดยทางกระทรวงต่างประเทศนิการากัวไม่ใส่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเข้าไปด้วย ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดราให้ทำหน้าที่ ทูตพิเศษด้านการลงทุน ของรัฐบาลนิการากัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 หลังจากมีการออกหนังสือเดินทางนิการากัวให้ในเดือนมกราคมปีเดียวกัน ท่าทีดังกล่าวของกระทรวงต่างประเทศนิการากัวทำให้หลายฝ่ายรวมถึงเปโดร โฆอากิง ชามอร์โร สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่พ.ต.ท.ทักษิณอาจกระทำการบางอย่างซึ่งสร้างความไม่พอใจ แก่ประธานาธิบดีออร์เตกา เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้เป็น ชาวต่างชาติที่ออร์เตกาไว้วางใจมากที่สุดถึงขั้นมอบตำแหน่งเอกอัครราชทูตด้านการลงทุน ให้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลนิการากัวคาดหวังว่าหากโครงการขุดคลองนิการากัวแล้วเสร็จ และสามารถเปิดใช้บริการได้นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 เป็นต้นไป จะช่วยนำเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าประเทศ และจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนิการากัวกว่า 5.9 ล้านคนทั่วประเทศดีขึ้นกว่าในขณะนี้ ซึ่งราวครึ่งหนึ่งมีฐานะยากจน ขณะที่สมาชิกรัฐสภานิการากัวซึ่งมีกลุ่มการเมือง ซานดินิสตา ของออร์เตกาครองเสียงข้างมาก ก็ได้ให้ความเห็นชอบต่อโครงการขุดคลองดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย |