| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |  | ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวฮือฮาในโลกออนไลน์เกี่ยวกับปฏิบัติการออรัลเซ็กซ์ชายหญิงคู่หนึ่งกลางผับย่านพัทยา ผลที่ตามมาก็คือ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อยทั้งร้อยประณามการกระทำของสาวไทย และอยากให้กฎหมายเข้าไปจัดการ
วันต่อมา พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.ส.ภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง รีบออกไปตรวจสอบและพบผับต้นเรื่องแล้ว โดยนายณัฐวุฒิ เพชรใสดี อายุ 26 ปี รปภ.ทางร้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนร้านปิดเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. 58 ตนได้รับแจ้งจากพนักงานในร้านว่า มีหญิงไทยรายหนึ่งอายุประมาณ 23 ปี กำลังทำออลัลเซ็กซ์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้อยู่ เมื่อทราบจึงรีบเชิญออกจากร้านทันที
ข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อตำรวจขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าไม่ทำงาน จึงสั่งดำเนินการทางกฎหมายกับผับดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาไม่จัดทำประวัติพนักงาน และสั่งปิดร้านเป็นเวลา 10 วัน รวมทั้งเรียกบรรดาสถานบริการทั้งหมดในพัทยา มารับทราบมาตรการต่างๆ ให้ทำตามอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังสั่งให้ตำรวจสืบสวนติดตามนักท่องเที่ยวและสาวชาวไทย มาดำเนินการต่อไป
ถึงวันนี้ไม่ทราบว่าตำรวจได้เค้า หรือเบาะแสอะไรเกี่ยวกับสาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้คู่นั้นหรือไม่ แน่นอนว่า ที่สุดแล้วอาจจะเหลว ไม่ได้เรื่อง เพราะว่าไปแล้วเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ขึ้นอยู่แต่ละมุมมองแต่ละคน แต่เมื่อเกิดเป็นข่าว เป็นเรื่องราวฉาวโฉ่ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องทำหน้าที่ของเขา ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเรื่องซาลงทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม
พัทยาเคยเป็นสวรรค์ของคนบาปอย่างไรก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป และต่อๆไป เพราะพฤติกรรมอันชวนขายหน้ามิใช่มีแต่กรณีออรัลเซ็กซ์กลางผับกันเท่านั้น ด้านมืดหรือด้านสว่างของเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ ยังขึ้นชื่อทางด้านเซ็กซ์ในทุกรูปแบบ เป็นเมืองสำราญของคนมีสตางค์ เป็นวิมานของเศรษฐีชาวต่างประเทศ ที่ชอบหาความสำราญทางเพศ ทั้งกับหญิงไทยวัยขบเผาะไปจนถึงรสนิยมแบบชายกับชาย ซึ่งมีข่าวปรากฏให้เห็นเสมอๆว่า มีชาวต่างชาติซื้อกับเด็กชายไทย
หลายยุค หลายสมัยมีความพยายามจัดระเบียบพัทยา แต่จนแล้วจนรอดไม่เคยทำสำเร็จ นั่นเพราะผลประโยชน์ หรือเกินกำลังที่จะดูแลทั่วถึง สถานบริการที่แฝงวนเวียนไม่เกินสะดือไล่มาตั้งแต่บาร์โชว์ต่างๆ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ นำเซ็กซ์มาเป็นจุดล่อทั้งนั้น บางแห่งเป็นที่ใหญ่โต ไม่คิดว่าจะมีการแสดงลามก พอเผลอก็เปิดให้นักท่องเที่ยวดูลีลาเป่าลูกดอก ยิงปิงปอง หรือร่วมเพศโชว์กันเลย
ยิ่งไปกว่านั้น บาร์โชว์ที่มีลูกค้ากรุ๊ปทัวร์จีน ถึงขนาดแสดงการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ ทำกันทุกอย่างเพื่อล้วงเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องแบบนี้ตำรวจจะบอกไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวไม่ข้องคงเป็นไปไม่ได้
รวมถึงสถานที่แสดงโชว์มาตรฐานแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา ถ้าเปิดชื่อออกมาอาจจะตกเก้าอี้กันเป็นแถว เพราะไม่น่าเชื่อว่า โชว์ที่คุยว่าระดับโลก ยังมีการแสดงลามกอนาจารเกี่ยวข้องด้วย
ดังนั้นเรื่องราวของสาวไทยใจถึง แสดงโชว์สดต่อหน้าธาระกำนัลอย่างไม่มียางอาย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตท่องราตรีที่นั่น หรือหากินในพัทยาคงคุ้นเคย หรืออาจจะชินชาไปแล้ว แต่เมื่อปรากฏต่อสาธารณะซึ่งไม่เคยรับรู้ว่าสังคมกลางคืนของเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ มันไปไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว จึงเกิดความตระหนก ตื่นเต้นกันยกใหญ่
ความเสื่อมอีกทางหนึ่งที่เห็นว่าเป็นการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในพัทยา ก็คือ วิธีการกดดันชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัย บางคนปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีอยู่กันตามปกติ แต่หลายคนมาเพื่อตั้งฮาเร็ม ใช้เงินฟาดหัวหญิงบริการ แถมยังเชิญชวนผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ชี้ให้เห็นสวรรค์ของบรรดาฝรั่งบ้าเซ็กซ์ ซึ่งในแต่ละละเดือนจะมีการนัดหมายจัดปาร์ตี้ริมสระ มั่วเซ็กซ์มั่วยา กันอย่างเต็มที่
เรื่องแบบนี้ทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง ดูแลกันอย่างไร ไม่มีมาตรการกดดันหรือดูแลอะไรกันหรือ ??
ไม่นานมานี้เคยมีฝรั่งสัญชาติออสเตรเลีย ชื่อ Mr.Timothy Ward อายุ 50 ปี รูปร่างใหญ่โต มีรอยสักแปลกๆ ทั่วทั้งตัวบุกเข้าโรงพักพัทยา ด่าทอตำรวจว่าเข้าไปค้นที่พัก แล้วขโมยเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมทองคำหนัก 1 กิโลกรัมไป เป็นข่าวในกระแสอยู่วันสองวันก่อนเลิกราไปโดยไม่ทราบว่า ตำรวจพัทยา ไปค้นห้องพักนายคนนี้ด้วยความผิด หรือต้องสงสัยอะไร และข้อกล่าวหาตำรวจไทยขโมยทรัพย์สินไปนั้น เป็นจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่
เวลาผ่านมานับปี แล้ว Mr.Timothy Ward ยังสุขสำราญในเมืองไทยอย่างเต็มที่ โดยแต่ละคืนจะมีสาวรุ่นชาวไทย สลับสับเปลี่ยนไม่ซ้ำหน้าขึ้นไปให้บริการบนคอนโดฯหรู ที่ฝรั่งนายนี้ซื้อไว้เป็นวิมานส่วนตัว
จริงอยู่ กฎหมายปกติอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่การปล่อยให้ฝรั่งก๊กนี้เข้ามาทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ ย่ามใจ ถึงขนาดประกาศในโลกออนไลน์ให้เพื่อนทีมีรสนิยมเหมือนกัน ประกาศเชิญชวนให้มาหาความสุขใต้สะดือกับสาวๆ คนไทย ทั้งส่วนตัวหรือจัดปาร์ตี้อย่างระเบิดเถิดเทิง ขอถามว่า ข้าราชการทุกคนแห่งเมืองพัทยา ท่านทนกันได้ ท่านยอมรับได้ใช่ไหม
เมื่อปล่อยให้พัทยาโลดแล่นไปตามยถากรรม มองปัญหาไม่ใช่ปัญหา อะไรที่เลยเถิดเกินไปจากเส้นแบ่งจึงตามมา ทั้งโชว์ลามกชายกับหญิง ชายกับชาย คนกับสัตว์ จนไปถึงคลิปออรัลเซ็กซ์บาร์เบียร์ริมถนน แท้จริงก็คือพฤติกรรมปกติของที่นี่ แต่มันล้นจนโผ่ลออกมาประจาน
ในส่วนของ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ท่านจะเข้ามากำกับดูแลเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ด้วยเหตุผลทางการเมือง หรือไรนั้น ไม่ใช่ปัญหาเพราะสังคมตำรวจ ยุคใครยุคมัน เป็นสมบัติผลัดกันชม แต่การเข้ามาทำหน้าที่จะต้องรู้เท่าทัน รู้ปัญหาพัทยาอย่างลึกซึ้ง
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่ากรณีสาวไทยใจถึง จะมองให้เป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็มองได้ แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ทำนองนี้ คนไทยหลายสิบล้านคนจุกหน้าอก เพราะมันเป็นความจริงที่ตกย้ำภาพลักษณ์สยามเมืองยิ้ม มาอย่างช้านาน...
สาวไทยใจง่าย..โสเภณีไทยใจถึง หรือมุกตลกที่ทำให้ขำขื่นว่า ทันทีที่ฝรั่งถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คำแรกที่ถามแท็กซี่คือ กระหรี่อยู่ไหน
ถ้าผู้กำกับ สุขทัศน์ เข้าใจถึงความรู้สึกของคนไทย ท่านไม่ต้องไปตามล่านักท่องเที่ยวชาวเกาหลี กับสาวไทยใจถึงคนนั้นหรอกครับ ช่วยกรุณาจัดระเบียบพัทยาอย่างแท้จริงโดยเฉพาะโชว์ลามก ตั้งแต่รายเล็กยันรายใหญ่ และกรุณาจัดการกับกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามามั่วสุมตั้งฮาเร็มกันในพัทยา ก็จักเป็นพระคุณอย่างสูง | | |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
