|
|
สองมาเฟีย ก้องแก้วกับมารดำ
คืนเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (จะเข้าวันอาทิตย์) ประมาณ 5 ทุ่มกว่า หลังจากที่ทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว แจนได้ยินเสียงเด็ก ๆ ในบ้านเห่ากัน แต่เสียงมันแปลกแตกต่างจากทุกครั้ง เลยรีบวิ่งลงมาดู พอเปิดประตูบานพลักออกไป ภาพที่เห็นก็คือ ก้องแก้วกับมารดำ กำลังฟัดกันนัวเนีย ทั้งคู่ต่างไม่เสียเปรียบกัน ในปากต่างงับเนื้อของฝ่ายตรงข้ามคาอยู่ที่ปากอย่างนั้น พอเข้าไปห้ามโดยพยายามเอาเก้าอี้ไปครอบฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไว้ ก็ไม่สำเร็จ เพราะว่าที่บ้าน ถ้าต้องห้ามเด็ก ๆ กัดกัน ก็จะมี 4 ตัวเท่านั้นที่ต้องใช้ 2 คน ช่วยกันห้าม คือ ก้องแก้ว โบ้ใหญ่ โบ้เจ๊ก และมารดำ ที่เป็นมาเฟียของบ้าน คิดดูเถิด 4 ตัวนี้ยังหาลำดับกันไม่ได้ จะเกิดกรณีอย่างนี้บ่อยแค่ไหน...
พอห้ามคนเดียวไม่ไหว และเกิดอาการแย่ เพราะเนื่องจากก้องแก้วเป็นสุนัขที่ฟังคำสั่ง ถ้าเราห้ามเขาจะเชื่อ ดังนั้นเขาจึงยั้งจนเกือบจะหยุด แต่มารดำไม่หยุด เลยทำให้ก้องแก้วเกือบเสียท่า แจนจึงต้องเรียกคุณพ่อลงมาช่วยกันห้าม พอแยกได้แจนจูงแก้วจะไปล่ามไว้ คุณพ่อจับมารดำ แต่เนื่องจากมันมืด (รีบมากจนไม่ทันได้เปิดไฟ) แป๊บเดียวเอง มารดำหลุดมือจากคุณพ่อ กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาที่แจนและแก้ว เกือบแล้ว เกือบได้แผลเลย แต่ก็ยังโชคดี เพราะบังเอิญหันไปเห็นพอดีก่อนมารจะเข้าชาร์ต คุณพ่อตามมาจับมารดำไปล่าม
ตรวจดูอาการเด็ก ๆ เริ่มจากตรวจที่คอหอยก่อนเลย เพราะพวกมาเฟียจะกัดกันเป็นตามธรรมชาติ(อันป่าเถื่อน) พอที่คอเรียบร้อยดี ก็มาค่อย ๆ ตรวจรอบคอ และที่อื่น ๆ ที่ตรวจเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเห็นที่ตัวแก้วเลือดเลอะไปหมดเลยลังเลว่าเลือดมารหรือเลือดแก้ว เพราะปกติแล้วแก้วกัดกับใครจะไม่ค่อยมีแผลใหญ่ อาจเป็นไปได้ว่าแก้วคล่องตัวและขนหนา และก็จริง
แก้วมี 1 รูเขี้ยวตรงขมับใต้หูไม่ลึกมาก และ ลอยถลอกที่ขาหน้าข้างหนึ่ง แต่ขาก็เดี้ยง กระเผลกไป ส่วนมารดำมี 1 เขี้ยวที่กระพุ้งแก้มข้างหนึ่ง และอีก 2 เขี้ยวลึก ๆ ที่ขาหน้าข้างหนึ่ง และก็กระเผลกไป 1 ขาเช่นเดียวกัน...
หลังจากพักไป 1 วันกว่า ค่อยยังชั่วกันนิดเหลือแต่ขาที่กระเผลก เมื่อเวลาประมาณ ตี 5 กว่า ๆ ของเช้าวันอังคาร ก็เปิดศึกกันอีกรอบ แต่รอบนี้มารดำหนัก และคงจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีปาฎิหารย์หรือการสำนึกเกิดขึ้น ครั้งแรกกะว่าเมื่อทะเลาะจะทำโทษโดนการตีตามปกติ แต่เนื่องจากเนว่าเด็ก ๆ ทั้งสอง เดี้ยงขนาดนี้เลยตีไม่ลงเลย เพราะพวกมาเฟียเนี่ย ไม่ตีจะไม่สำนึกว่าทำผิดเลย ต้องเล่นไม้แข็ง ถ้ายังมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดอีกคราวนี้คงตีไม่เลี้ยงเลย แต่ก็ลังเลว่าจะได้ผลหรือไม่ แก้วเนี่ยได้ผลแน่นอนแต่มารดำเนี่ยสิ เวลาตีแล้วเขาจะสู้ เฮ้อ!!! ตอนนี้ก็ต้องระวังตัวกันหนักทั้งคนทั้งหมา เตรียมพร้อมอยู่เสมอ...
หลังจากเหตุการณ์คลาย ๆ ก็เก็บภาพเสียหน่อย ไอ้เรื่องตกใจเพราะหมากัดกันเนี่ยคนที่บ้านไม่เป็นกันแล้ว แต่ที่หวั่นใจกันก็เรื่องที่เด็ก ๆ จะกลับมาดีกันยากเนี่ยสิ และก็มีแนวโน้มจะยากเสียด้วย...ช่วงนี้ก็ต้องเพิ่มเวลาในการพาเดินเล่นมากเป็นพิเศษ เพราะยังอยู่ในช่วงไม่น่าไว้ใจ คือต้องกักเขตกันก่อน 2 ตัวนี้เขาไม่เคยโดนล่ามนาน ๆ ดังนั้นต้องผลัดเวียนกันปล่อยเด็ก ๆ 2 ตัวนี้เดินเล่นกัน ปล่อยเดินตามอิสระแต่เราเองต้องอยู่กับอีกตัวที่ล่ามไว้ หุหุ เวียนหัวดีชะมัดเลย ยังดีที่ปล่อยยายปาดัมพร้อมมารดำได้ ไม่งั้นเราคงตัวหมุนติ้วเลยยยย 5555
ปล... เดี๋ยวขออัพบล๊อกไว้ก่อนนะคะ เพื่อน ๆ แล้วจะตามไปเยี่ยมเพื่อน ๆ ทีหลัง ต้องขอตัวแว๊บออกไปธุระก่อน อย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อเด้ออออ รอนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
เรื่องก่อนหน้านี้ : บทชีวิตที่ 10 : อยู่กับยาย!!! อาการยาย อาการยาย และ อาการยาย
.:: กลับสู่หน้าสารบัญ "เส้นทางของบ้านนี้" ::.
Create Date : 05 สิงหาคม 2549 |
| |
|
Last Update : 5 สิงหาคม 2549 10:49:05 น. |
| |
Counter : 306 Pageviews. |
| |
|
|
|
เป็นเรื่องธรรมดาของบ้านนี้ แต่ก็ไม่อยากให้เกิด เฮ้อ!!!
สด สด ร้อน ๆ ขณะแจนรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้าน หูก็ได้ยินเสียงสงคราม เด็กร้องกันเสียงดัง เลยวิ่งไปดู เหยื่อคราวนี้เป็นน้องนนท์ ส่วนผู้ก่อการร้ายคือโบ้ใหญ่ น้องนนท์ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า แม้จะเดินได้แล้ว แต่ก็ยังอ่อนหัดเมื่อเทียบกับรุ่นพี่
ดูจิ ทำตาเศร้ามากเลยยย โธ่ น่าสงสาร โอ๋ โอ๋ โอ๋... เพี้ยงหาย นะลูกนะ
ตอนคนไม่อยู่บ้านก็มีการกัดตลอด เพื่อนบ้านมาบอกว่าได้ยินเสียงร้องชนิดเจ็บปวดมาก พอเข้าบ้านกันที ก็ต้องสำรวจว่าวันนี้ตัวไหนเป็นเหยื่อ ก็มีสลับกันไปเนี่ยแหละ "แต่น้องนนท์โดนบ่อยที่สุด เพราะเป็นน้องใหม่ ขาไม่แข็งแรง เท่าพี่ ๆ และฉลาดน้อยไปหน่อย สนอกสนใจไปหมดว่าใครทำอะไร เลยโดนลูกหลงจนกลายเป็นลูกเต็ม ๆ ทุกที"
จะว่าไปว่า...จริง ๆ ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ววว บ้านนี้เด็ก ๆ วิ่งชนกันนิดก็เป็นเรื่อง แม้เด็ก ๆ จะแข็งแรง ถึงแข็งแรงมากกกกกก แต่ก็นะ ...ไม่อยากให้เด็ก ๆ เจ็บตัว ที่สำคัญขี้เกียจทำแผล ขี้เกียจโอ๋
ปล. ช่วงนี้ยุ่งเอาการ วันนี้พอมีเวลาเข้า internet รอเวลาก่อนออกไปทำธุระ เลยมาที่ blog ที่เดียว คาดว่าจะมาอัพไว้ก่อน ที่สำคัญเพื่อผ่อนคลายความเครียดเล็กน้อย (ขอระบายเรื่องนนท์สักเรื่องก็ยังดี มีที่หนักใจมากก็เรื่องยายปาดัมเนี่ยแหละ นึกถึงก็กลุ้ม กลุ้ม กลุ้ม)
ช่วงนี้ชีวิตก็กลับมาเข้าข่ายอะไรที่ทำแล้วมีความสุขหรือคลายกังวลได้ ก็ทำหมด เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง (ที่สำคัญกลัวป่วย) เผื่อจะได้คิดหาวิธีช่วยยายแกให้ดีขึ้นหน่อย แต่....ตอนนี้ยังคิดไม่ออก
ถ้าคลาย ๆ ธุระลงแล้วจะรีบไปเยี่ยม blog เพื่อน ๆ รับรอง ๆ คิดถึงจะแย่
.:: กลับสู่หน้าสารบัญ "เส้นทางของบ้านนี้" ::.
Create Date : 23 กรกฎาคม 2549 |
| |
|
Last Update : 23 กรกฎาคม 2549 11:52:00 น. |
| |
Counter : 290 Pageviews. |
| |
|
|
|
คนที่ขับรถแล้วพาสุนัขติดรถไปด้วย
เรื่องนี้เล่าให้ฟังเป็นเรื่องขำและกึ่งอุทาหรณ์ได้เลยของคนเลี้ยงสุนัขและใช้รถใช้ถนน งงใช่ไหมว่ามัจะเกี่ยวกันได้อย่างไร
ประมาณว่าคนที่เลี้ยงสุนัขชนิดแบบว่าพาไปไหนไปด้วย ครือประมาณว่าสุนัขรักเรามาก เรารักสุนัขมาก เอ็นดูคิดว่าสุนัขชอบเที่ยวเลยคว้าเลยเหน็บไปด้วย และยิ่งสุนัขซน ช่างสนอกสนใจ กับสิ่งรอบข้าง ไม่ได้นั่งเรียบร้อย จุ้มปุ๊กอยุ่กับเบาะล่ะก็ ต้องมาลองอ่านดู
ก็เมื่อวันก่อนแจนรีบกลับจากธุระตนเองมาเพื่อรีบที่จะมารับคุณพ่อไปทำธุระต่อแถวถนนรัตนาธิเบศน์ เห็นว่าไปแป๊บเดียวเลยหยิบเจ้าตัวเล็กติดรถไปด้วย พอถึงที่หมายของคุณพ่อ แจนและคุณพ่อเดินลงรถ และเห็นว่าลงรถแป๊บเดียวเลยสตาร์ทรถเปิด+แอร์ไว้ พอคุณพ่อเดินเข้าไปทำธุระแล้ว แจนเดินกลับมาที่รถ ปรากฏว่าแจนเข้ารถไม่ได้?????
"เจ้าตัวเล้กมานกดปุ่มล๊อครถเจ้าค่ะ" ตายหล่ะหว่า ซวยเลยยย
พยายามเคาะตรงที่ประตูเพื่อให้เจ้าตัวเล็กเดินมาเหยียบซ้ำเข้าจาได้ปลดล๊อคได้ สรุปยังไง๊ เหยียบก็ไม่โดนเสียที ทำไงดีหว่า.....เดี๋ยวตายในรถซวยเลยตรู...
สรุปว่า คุณพ่อต้องกลับไปเอากุญแจสำรองที่บ้าน เพราะคุณพ่อไม่มั่นใจเรื่องสะเดาะกุญแจ ยกเว้นเสียแต่ว่ามันเกิดเรื่องที่ต่างจังหวัดจริง ๆ
ผ่านไปได้ประมาณ 20 นาที คุณพ่อยังไม่ถึงบ้าน แดดก็ร้อน ขณะที่แจนก็ยืนกะเหย็งเก้กังอยู่ เพื่อจะให้เจ้าตัวเล็กมาเหยียบถูกที่ถูกทาง ขณะที่แจนกะลังหันซ้ายหันขวา เจ้าตัวเล็กก็เห่าร้องเหมือนจาบอกว่า "ทำไมป้ามะเข้ารถอ๊ะ ทิ้งป๋มอยู่ในรถได้ไง" พร้อมกับย่ำเท้าอยู่ในรถ
จากนั้นแป๊บเดียวเอง สายตาแจนก็หันไปเห็นเจ้าตัวเล็กไปด้านข้างคนขับและมองดูก็เห็นกระจกรถลดลงมาจนสุดหน้าต่าง ดีใจจนไม่รู้จะบอกว่ามากแค่ไหน รีบไปเปิดรถด้านนั้นแล้ว เอามือไปกดล๊อคออก และโทรบอกคุณพ่อ ว่าไม่ต้องมาแร๊ววว ดีที่คุณพ่อยังไม่ถึงบ้านเลย ถ้าถึงแล้วคงย้อนไปย้อนมากันสนุก....
คุณพ่อบอกว่า คราวหลังไม่ให้ทิ้งรถไว้กับเจ้าตัวแสบแล้วนะ อันตราย!!!
เฮ้อออออ เวรกรรม กับวีรกรรมสะเพล่าของเราเจง ๆๆ เกือบซวยด้วยตัวเองซะแร๊วววว
.:: กลับสู่หน้าสารบัญ "เส้นทางของบ้านนี้" ::.
Create Date : 11 กรกฎาคม 2549 |
| |
|
Last Update : 11 กรกฎาคม 2549 17:25:06 น. |
| |
Counter : 347 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|
Jannyfer |
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เป็นผู้หญิง หลายอารมณ์ เปลี่ยนอารมณ์อย่างเร็วชนิดคนรอบข้างไล่ไม่ทัน... เห็นอย่างนี้ ใจกว้างนะจะบอกให้... ใครโดนโกรธจากเราเนี่ย ซวยโคตร ๆๆๆๆ... 5555
|
|
|
|
|
|
|