โปรตีนในอาหารกุ้งสูงมาก กุ้งย่อยไม่หมดเกิดแก๊สของเสีย
การเลี้ยงกุ้งในบ้านเรานั้นดูเงียบเหงาซบเซามาหลายปีตั้งแต่หลังจากเหตการณ์ ไนท์วันวัน (911) ที่สมุนของบิลลาเดนกลุ่มอัลกออิดะห์ได้บังคับให้เครื่องบินโดยสารมุ่งหน้าไปชนตึกเวิลด์เทรดของประเทศอเมริกาทำให้ตึกแฝดที่เป็นเอกลักษณ์ของอเมริกานั้นสูญสลายหายไปจากประวัติศาสตร์ทันที หลังจากวันนั้น 11 กันยายน 2544จนถึงวันนี้สถานการณ์กุ้งในบ้านเราก็ยังไม่ถือว่ารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลย์เหมือนกับห้วงช่วงปี2537 2542 ซึ่งขณะนั้นไม่ว่าจะพื้นที่ภูมิภาคไหนที่เป็นเขตเลี้ยงกุ้งจะมีใบพัดตีน้ำพัดตีละออกน้ำออกมากระเซ็นเส้นสายกระทบกับประกายแดดไปทั่วทั้งพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น อ. แหลมสิงห์ จังหวัดตราด อ.แกลง จ. ระยอง อ. บางน้ำเปรี้ยวและอีกหลายอำเภอใน จ. ฉะเชิงเทรา อ. พาน จ. ชลบรี อ. สามร้อยยอด อ. กุยบุรีประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช อ. ปากพนัง สิชล อ. ระโนดสงขลา จ. พังงา จ. กระบี่ ย้อนขึ้นมาแม้แต่โซนภาคกลางที่ในขณะนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะมีกุ้งกุลาดำซึ่งถือว่าเป็นกุ้งน้ำเค็มจะมีการเลี้ยงได้ ทั้ง อ. บ้านแพ้ว จ. สมุทรสาคร อ. บางเลน จ. นครปฐม อ. สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรีในพื้นที่นี้จะเรียกว่า กุ้ง บูมหรือไม่บูมก็มีข่าวให้ นายบรรหาร ศิลปะอาชา นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นต้องออกมาหย่าศึกระหว่างนากุ้ง กับนาข้าวของพี่น้องเกษตรกรที่มีปัญหาเรื่องของน้ำเค็มจากบ่อกุ้งปล่อยออกมารบกวนการปลูกข้าวทำนาของเกษตรกรท้องถิ่นกันเลยเชียวแหละ ที่ตลาดกุ้งเงียบเหงาตั้งแต่เหตุการณ์ ไนท์วันวันนั้นก็เพราะว่าตลาดใหญ่ของบ้านเราที่นำเข้ากุ้งกุลาดำเป็นอันดับต้นๆของโลกนั้นก็คือยุโรป อเมริกา และก็ญี่ปุ่น เมื่อเหตุการณ์ก่อการร้ายเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดจึงทำให้ฝรั่งตาน้ำข้าวไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกาก็หวาดผวาไม่กล้าให้ผู้คนชนทั่วโลกเดินทางเข้าออกหรือแม้แต่การนำเข้าสินค้าเกือบทุกชนิดก็ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดเพราะยังมีปัญหาในเรื่องของเชื้อโรค แอนแทรกซ์ ที่แอบใส่ในซองจดหมายเมื่อใครเปิดอ่านก็จะได้รับเชื้อเจ็บป่วยตายโดยไร้ยารักษา ยิ่งทำให้โลกๆทั้งโลกตกอยู่ในความหวาดกลัวมาตลอด เพิ่งจะคลี่คลายก็ไม่นานมานี่เอง หลังจากนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในบ้านเราก็เริ่มมาให้ความสนใจในเรื่องของการเลี้ยงกุ้งขาวแวนาไม ที่สร้างรายได้ดี โตเร็ว เลี้ยงง่าย แต่อย่างว่าพอเลี้ยงมาได้สักระยะก็มีปัญหาในเรื่องของโรคตายด่วน (EMS [Early Mortality Syndrome]) โรคนี้สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่ผู้เลี้ยงกุ้งทั่วโลกนะครับไม่ใช่ว่ามีแต่ในบ้านเราบ้านเดียว ปัจจุบันโรคตายด่วนนี้ก็ยังสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซียม และอินเดีย ล่าสุดนั้น อเมริกามีการตีกลับกุ้งจากเวียดนาม และอินเดียว เนื่องด้วยมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคจึงทำให้น่าจะเป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งของพีน้องเกษตรกรของไทยเราที่ถ้าสามารถเลี้ยงกุ้งให้ผ่านได้ก็น่าจะทำตัวเลขการส่งออกมากขึ้นแต่เดิมเมื่อปีสองปีที่แล้วมีตัวเลขเพียงห้าถึงหกหมื่นตันแต่มาปีนี้เห็นแว่วๆว่าเขาจะทำกันหื้ได้มากถึง 300,000 ตันทีเดียวเชียวล่ะครับ จากนโยบายของรัฐบาล คสช.ที่ให้งบประมาณให้ทางกรมประมงไปปรับปรุงนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จากต่างประเทศมาเพาะเลี้ยงแล้วจำหน่ายจ่ายแจกพันธุ์ที่ปลอดเชื้อไปสู่พี่น้องเกษตรกรปีละประมาณ100,000 คู่ จึงทำให้สถานการณ์กุ้งบ้านเราดูเหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น ประกอบกับการเลี้ยงแบบเข้าใจในธรรมชาติและเน้นในเรื่องของการทำแบบปลอดสารพิษคือไม่ใช่ยา ไม่ใช้ปูน แต่ใช้หินแร่ภูเขาไฟ (สเม็คโตไทต์ Smectotite, สเม็คไทต์ Smectite ,ไคลน็อพติโลไลท์ Clinoptilolite) ช่วยในการจับแก๊สของเสียที่พื้นบ่อและการใช้กลุ่มของบาซิลลัส MT (Bacillus Subthilis ssp) โดยเฉพาะกลุ่มของสมาชิกชมรมเกษตรปลอดสารพิษซึ่งเป็นแฟนคลับเก่าแก่กันมาเกือบยี่สิบปีที่ยังเลี้ยงอยู่รอดกันอยู่เนื่องด้วยทั้งหินแร่ภูเขาไฟและจุลินทรีย์ที่มีการคัดเลือกอย่างเฉพาะเจาะจงให้มาทำหน้าที่ย่อยกากปลาป่นข้าวโพด ถั่วเหลืองบด โดยเฉพาะ ให้ก๊าซของเสียมีน้อย ออกซิเจนมากขึ้น อีกทั้งเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนในอาหารสัตว์ปัจจุบันมีการแข่งขันกันเพิ่มเปอร์เซ็นให้สูงขึ้นเพื่อโชว์ตัวเลขแข่งขันกันทางด้านตลาด ส่งผลทำให้กุ้ง หอย ปู ปลา เต่า ตะพาบไม่สามารถจะย่อยสลายโปรตีนที่หลงเหลือหลังจากขับถ่ายออกมาให้สะอาดหมดจดได้โปรตีนที่มากเกินความจำเป็นนี้จึงเป็นปัญหาเมื่อตกค้างอยู่ที่พื้นบ่อ บูดเน่าย่อยสลายกลายเป็นก๊าซแอมโมเนีย ไนไตรท์ ไฮโดรเย่นซัลไฟด์ (ก๊าซไข่เน่า) และมีเทน ทำให้กุ้งปลาหายใจไม่ออก เครียดกินอาหารน้อย โตช้า ภูมิคุ้มกันต่ำ เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายมี่รายงานจากคุณประสิทธิ์ ทรทรัพย์สมาชิกชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ที่เลี้ยงกุ้งอยู่ที่ อ. กุยบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ได้แจ้งว่า ถ้าดูแลรัก๋ษาพื้นบ่อให้สะอาด แม้แต่โรคต่ายด่วนอย่าง EMS ก็ไม่สามารถเข้าทำอันตรายใดๆแก่กุ้งของเขาได้ สนอกสนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081 398 3128 มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 29 กันยายน 2558 |
Last Update : 29 กันยายน 2558 17:32:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 723 Pageviews. |
|
|
|