นิดหนึ่งนี้อุทิศแด่ชาวนา ผู้ต่ำต้อยน้อยหน้าเหลือแสน ลำบากยากจนข้นแค้น ไป่แม้นชาวฟ้ามหานคร โดย อ. ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ

สระน้ำประจำไร่นามี ปู ปลา กุ้ง หอย และไรแดง

อากาศหนาวเริ่มขยับเข้ามาใกล้ในทุกขณะเวลาพีน้องเกษตรกรต่างจังหวัดคงจะสัมผัสกันได้ใกล้ชิดความประชาชนคนเมืองซึ่งยังอบอวนไปด้วยมวลหมู่ควันท่อไอเสียรถยนต์ ทำให้อากาศได้แค่เพียงเย็นลงมาบ้างเล็กน้อยเท่านั้นมีเพื่อนสมาชิกชมรมเกษตรปลอดสารพิษตามจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ออก ตก ที่ยกความหนาวเย็นมาเล่าให้ฟังอย่างน่าอิจฉา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำเรื่องท่าว่าจะเพียงพอต่อการเพาปลูกพืชไร่ไม้ผลบนเส้นทางเกษตรกรรมของพวกเขาหรือไม่

จึงได้พยายามแนะนำบวกชักจูงให้พี่ๆสมาชิกทั้งหลายได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการทำสระนำประจำไร่นาของตนเองเป็นเบื้องต้นหรือเป็นพื้นฐานไว้ก่อน(ก่อนที่จะรอต่อความช่วยเหลือจากภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว....) เพราะว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ทั่วทั้งประเทศไทยนั้นประมาณ800,000 ล้านลูกบาทเมตรแต่เราสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ตามห้วยหนองคลองบึงเขื่อนเล็กเขื่อนน้อยหรือจะเป็นเขื่อนใหญ่ๆแบ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ก็ประมาณ 650 แห่ง โครงการเล็กโครงการน้อยก็ 60,00 แห่ง แต่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียง70,800 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 30 เปอร์เซ็นเพียงเท่านั้นและปริมาณน้ำฝนส่วนใหญ่จะตกหน้าเขื่อน ซึ่งเป็นพื้นที่การเพาะปลูกเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ขาดพื้นที่ในการกักเก็บน้ำหรือมีก็ไม่เพียงพอ

การทำสระน้ำประจำไร่นาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเรานั้นจะช่วยทำให้เรามีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคของตนเองสระน้ำส่วนตัว สระน้ำประจำฟาร์มทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และถ้ากลัวเสียพื้นที่เพาะปลูกเนื่องด้วยมีปริมาณจำกัดก็สามารถดัดแปลงสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง กุ้ง หอย ปู ปลา และไรแดง โดยเฉพาะถ้ากุ้ง และปลามีมากแล้วจะลองเปลี่ยนมาเลี้ยงไรแดงส่งตลาดปลาสวยงามก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะราคาดีแต่ต้องหาตลาดให้ได้ก่อนนะครับ หรือจะเพาะไรแดงเพื่อเลี้ยงกุ้งฝอยอันนี้ก็สามารถส่งตามร้านอาหารที่บริการทั้งกลางวันและกลางคืนเช่นผับบาร์ก็มีความนิยมไม่น้อย

การตัดหญ้าริมสระแล้วเหวี่ยงลงไปที่ริมบ่อทำให้เกิดการบูดเน่าพอประมาณไม่ปล่อยให้น้ำเป็นสีดำเอาแค่พอออกเป็นสีน้ำตาลแดงๆ พอถ้าไรแดงธรรมชาติไม่เกิดก็หาพ่อแม่พันธุ์ไรแดงตามตลาดเลี้ยงปลาสวยงามหรือจะเดินไปหาตามห้วยหนองคลองบึงก็ไม่น่าจะยากนำมาปล่อยเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สักเล็กน้อยก็เพียงพอ แล้วนำปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกห่อผ้ามุ้งเขียวปักไว้ตามจุดต่างๆ พอน้ำเริ่มเขียวหรือแดงออกน้ำตาลก็นำทั้งหญ้าสดและมูลสัตว์ยกออก ไรแดงก็สามารถเป็นอาหารได้ทั้ง กุ้ง ปลา และสัตว์น้ำต่างๆในบ่อหรือสระน้ำประจำฟาร์มของเรา พยายามเลือกปลาที่เหมาะสมให้อยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นปลากินพืช อย่าง ตะเพียง เฉาฮื้อ ปลาสลิก ปลากระดี่ กินน้ำเขียวกินแพลงตอน กินหญ้าริมบ่อ ปลายสวายปลาดุกที่กินโปรตีนที่พื้นบ่อ ทำให้ในบ่อของเรามีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสามารถคัดเลือกขายได้ตามสภาวะราคาตลาดที่จูงใจ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เรามีทั้งน้ำ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาไว้บริโภคและจำหน่ายได้อย่างพอเพียง และที่สำคัญคือมีน้ำไว้เพาะปลูกได้ตลอดทั้งปีครับ

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557   
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 18:42:28 น.   
Counter : 468 Pageviews.  

จำเป็นไหมที่ต้องปลูกพืชให้อยู่ห่างๆกัน

การปลูกพืชเชิงเดี่ยวในอดีตที่มุ่งเน้นปริมาณเน้นการให้ผลผลิตออกมามากๆเน้นความพิถีพิถันในการดูแลป้องกันรักษาโรคแมลงอย่างจดจ่อ เรียกว่าไม่ปล่อยให้สิ่งแปลกปลอมที่ดูแล้วอาจจะเป็นอันตรายต่อพืชหลักที่เราปลูกเล็ดลอดเข้ามาได้เพราะกลัวจะมาทำให้ผลผลิตเสียหายลดน้อยถอยลงหรือสูญหายไปอย่างเปล่าประโยชน์จึงทำให้ต้องซื้อปุ๋ยยาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาบำรุงฉีดพ่นป้องกันแบบที่เรียกว่าแทบจะนำมาอาบชะโลมให้พืชสำลักปุ๋ยสำลักยาตายกันเลยทีเดียว


รูปแบบการปลูกก็จะเน้นปลูกห่างๆ และไม่มีพืชอื่นแซมเหมือนสวนส้ม สวนมะยงชิด สวนน้อยหน่าสวนมะม่วงเพราะกลัวจะมาแย่งแบ่งสารอาหารจากพืชหลักซึ่งเมื่อประสบปัญหาผลผลิตที่ออกมาล้นตลาดในคราวเดียวกันก็ขาดทุนล่มจมกันไม่เป็นท่าซึ่งแตกต่างจากสวนผสมผสานที่มีพืชหลากหลายชนิดอยู่กันแบบพึ่งพิงอิงอาศัยซึ่งกันและกันมีทั้งพืชใต้ดิน ผิวดิน บนดิน ระดับ ต่ำ กลางสูง ไม้เลื้อยพันเกาะอย่างเช่นพริกไท ดีปลีก็ทำให้เราสามารถสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปจำหน่ายได้วันใดพืชบางชนิดราคาตกต่ำเราก็เลือกไปจำหน่ายพืชชนิดอื่นๆแทนแต่ถ้าเป็นพืชเชิงเดียวเมื่อผลผลิตแก่แล้วจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวเมื่อราคาตกต่ำก็จำเป็นต้องจำหน่ายถ้าไม่จำหน่ายผลผลิตก็จะเน่าเสียหายไปต่อหน้าต่อตาเหตุการณ์ที่ขายแล้วขาดทุนนั้นพี่น้องเกษตรกรเราเจอกันมานักต่อนักครับ แต่สุดท้ายทุกคนก็จะใช้คำสุภาษิตที่ว่า"กำขี้ดีกว่ากำตด" เสมอ

ฉะนั้นพี่น้องเกษตรกรพึงระลึกไว้เสมอนะครับว่าการปลูกพืชหรือทำเกษตรกรรมที่ความหลากหลายโอกาสที่จะขาดทุนนั้นมีน้อยมากแต่โอกาสที่เสมอตัวและได้กำไรมีอยู่สูง การที่ปลูกทั้งกล้วย อ้อย มะละกอ แตงกวา พริกหอม กระเทียม พริกไท สักทอง ยางนา เห็ดเผาะ เห็ดตับเต่า ฯลฯโดยพืชแต่ละชนิดเค้าจะแลกเปลี่ยนแร่ธาตุและสารอาหารระหว่างผลัดเปลี่ยนกันให้อินทรีย์วัตถุลงไปสู่ดินด้วยการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันผลัดใบหรือหัวที่แห้งเหี่ยวเน่าฝ่อในดินซึ่งเป็นไปตามกระบวนการตามธรรมชาติจะจัดสรรค์สิ่งที่มนุษย์เราจะเข้าไปช่วยก็คือการหมั่นดูแลเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินในจุดที่มีปัญหาขาดแคลนแร่ธาตุสารอาหารที่เสื่อมโทรมไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก จุลินทรีย์หน่อกล้วย จุลนทรีย์ขี้ควาย หินแร่ภูเขาไฟ ฯลฯเพื่อให้พืชที่เราปลูกแบบระยะชิดสามารถดูดกินอาหารได้อย่างเพียงพอช่วยให้พืชสร้างผลผลิตออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจะอย่างไรก็ตามรายละเอียดและปัจจัยการปลูกพืชระยะชิดและผสมผสานยังมีรายละเอียดอีกมากถ้าท่านผู้อ่านสนใจก็โทรศัพท์มาพูดคุยกันได้นะครับที่ฝ่ายวิชาการ 0-2986-1680-2

มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557   
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 18:22:09 น.   
Counter : 261 Pageviews.  

ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

คำพังเพยที่ได้นำมาเป็นหัวข้อในการเขียนบทความในวันนี้ก็ตั้งใจหมายมั่นว่าจะให้คุณๆผู้อ่านนั้นได้ตระหนักนึกคิดย้อนกลับไปในวันวานว่าการทำอาชีพเกษตรกรรมหรือการทำนาปลูกข้าวในปัจจุบันนั้น จะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมในการทำนาปลูกข้าวให้สามารถกลับไปสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติไม่ทำลายระบบนิเวศน์ ผืนดินแผ่นน้ำ ไส้เดือน จุลินทรีย์ ตัวห้ำ ตัวเบียนแอคทิโนมัยสิท ม้ยคอร์รัยซ่า ฯลฯ หรือแม้กระทั่ง กุ้ง หอย ปู ปลาให้กับมาสู่ผืนนาผืนไร่ได้อีกหรือไม่

รูปแบบหรือวิธีการนั้นความจริงก็ไม่ได้ลำบากยุ่งยากอะไรเพียงแต่ให้หยุดใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อหยุดพฤติกรรมที่คล้ายๆกับ "การที่อยากฆ่าหนูนาแล้วเผาไร่ทั้งแปลง"คือพฤติกรรมที่ต้องการปราบหนอน เพลี้ย แมลง รา ไร แล้วใช้สารเคมีที่เป็นพิษฉีดพ่นลงไปในแปลงนาผลลัพธ์ที่ได้คือสารพิษทำงานได้เพียงประมาด 20-30 เปอร์เซ็นต์ยอร์ชส่วนที่เหลืออีก70-80 เปอร์เซ็นต์นั้นไปสะสมตกค้างอยู่ในผืนดินแผ่นน้ำทำให้จุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศน์ล้มหายตายจากไปด้วยซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียที่ไม่คุ้มค่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" ว่างั้น

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบที่ลดละ เลี่ยง เลิก การใช้สารพิษในการเกษตรในปัจจุบันถือว่าทำได้ไม่ยากเนื่องด้วยข้อมูลข่าวสารจากช่องทางที่หลากหลายในปัจจุบันทำให้สามารถสรรหาความรู้ต่างมาทดแทนสารเคมีและยาฆ่าแมลงได้ไม่ยากไม่ว่าจะเป็นการใช้จุลินทรีย์ขี้ควายจุลินทรีย์หน่อกล้วยทดแทนการซื้อจุลินทรีย์ต่างประเทศธนาคารปุ๋ยหมักทดแทนปุ๋ยเคมี. การหม้กขยายจุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่าและบีเอสพลายแก้วปราบเชื้อราโรคพืช. โรคกุ้งแห้ง โรคหมานอน โรคกล้าเน่ายุบ โรคอีบุบ โรคแคงเกอร์โรคข้าวเมล็ดลีบแบน และโรคใบด่างใบดำใบจุด ฯลฯ การใช้จุลินทรีย์บีทีชีวภาพปราบหนอนการใช้จุลินทรีย์ทริปโตฝาจปราบเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจั๊กจั่นการใช้สมุนไพรทำวัคซีนข้าวระยะกล้า การใช้ฝักคูณแก่ปราบหอยเชอรี่การใช้เมล็ดสะเดากำจัดไข่และตัวอ่อนของศัตรูพืช การใช้หินแร่ภูเขาไฟปรับปรุงบำรุงดินเพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ดินและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผนังเซลล์.ฯลฯ เทคนิคและวิธีการต่างๆเหล่านี้ ช่วยให้ผืนนาผืนไร่ได้ชีวิตกุ้งหอยปูปลากลับคืนมาทำให้พี่น้องเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงสามารถที่จะกู้ภาพลักษณ์เกี่ยวกับการเกษตรให้แก่ประเทศชาติได้ดังในอดีตที่เคยมีคำกล่าวว่า"ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" กลับมาพูดได้เต็มปากอีกครั้งหนึ่ง


มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557   
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 18:10:27 น.   
Counter : 424 Pageviews.  

ไม้ไผ่ใช้กำจัดปลวกแบบปลอดภัยไร้สารพิษ

จากที่ได้เคยได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องของไผ่กับการใช้ในการกำจัดปลวกมาหลายปีดีดักที่ผ่านมา(สารมารถเข้าไปหาอ่านได้ในเว๊บไซด์ www.thaigreenagro.com กันนะครับ)เพื่อมิให้ข้อมูลเกี่ยวเรื่องของวิธีการกำจัดปลวกแบบปลอดภัยไร้สารพิษสูญหายมลายไปก็จะขออนุญาตนำมารื้อฟื้นสร้างฝอยให้เกิดรอยตะเข็บกันอีกสักหน่อยซึ่งก็จะกล่าวถึงไผ่ซึ่งเป็นไม้ที่มีประโยชน์อเนกอนันต์แก่พี่น้องเกษตรกรไทยไม่ว่าจะใช้สานทำภาชนะใส่ของอย่างกระบุง ตะกร้า กระด้ง ชะลอม ตะข้องหรือเครื่องมือจับสัตว์อย่าง ลอบ อีจู้ รันดักปลาไหล คันเบ็ด คันยกยอหรือทำเป็นที่อยู่อาศัย กระท่อม เถียงนา โรงแรมรีสอร์ตอย่างในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่มากพอควร

นอกจากไผ่จะมีประโยชน์หลากหลายแล้วยังเป็นที่โปรดปรานสำหรับปลวก (termite) อีกด้วยใช่ว่าจะมีแต่หมีแพนด้าที่ชอบเท่านั้นเมื่อปลวกก็ยังนิยมชมชอบพืชที่มีอรรถประโยชน์อย่างไผ่ด้วยจึงนับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ใช้ใผ่เป็นไส้ศึกชักนำทำให้ปลวกไปสัมผัสกับจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อโรคสำหรับปลวกได้ไม่ยาก(ไผ่ในปัจจุบันยังถือว่าเป็นไม้ที่มีราคายังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่นๆ)ถ้ายังนึกไม่ออกว่าเชื้อโรคปลวกเป็นอย่างไรก็ให้นึกถึงไวรสที่ทำให้มนุษย์เจ็บป่วยล้มตายได้นั่นก็คือ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัด, ไวรัสเฮชไอวี (human immunodeficiency virus) ที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์, เฮชไฟว์เอ็นวันที่ทำให้เกิดโรคหวัดนก, หรือไวรัส อีโบรา (Ebola virus) ที่ทำให้มนุษย์มีระบบอวัยวะภายในล้มเหลวภายในไม่กี่ชั่วโมงและสุดท้ายเท่าที่จะนึกออกก็คือไวรัส ซาร์ส (corona virus [SARA-CoV]) ซึ่งแต่ละชนิดที่กล่าวมาล้วนแต่เป็นเชื้อร้ายที่สามารถทำให้มนุษย์ล้มหายตายจากหมดโลกไปเลยก็ว่าได้ถ้าไม่ระบบและมาตรการที่ดีพอ

ปลวก ก็เช่นเดียวกันครับเป็นสัตว์สังคมที่มีวรรณหรือชนชั้นคล้ายมนุษย์เช่นเดียวกัน มีทั้งวรรณะราชินี,ปลวกทหาร, ปลวกงาน และวัยเจริญพันธุ์ที่เป็นแมลงเม่าโดยที่สมาชิกทั้งหมดจะดูแลเอาใจใส่ให้ราชินีที่เป็นแม่พันธุ์นั้นได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดและจัดวางระบบป้องกันในรูปแบบต่างๆให้ราชินีของเขานั้นรอดพ้นจากอันตรายในทุกๆกรณีจากกรณีนี้นี่เองเมื่อเราทำลายปลวกจึงไม่สามารถกำจัดให้สิ้นซากหมดไปเสียทีเมื่อศัตรูกล้ำกลายใกล้ราชินีปลวกก็จะทำการอพยพเคลื่อนย้ายไปยังถิ่นใหม่และสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่อีกเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จึงทำให้ปลวกยังคงอยู่ร่วมกับมนุษย์มาหลายร้อนล้านปี

แต่ตราบใดที่เราสามารถทำให้เชื้อโรคของปลวกที่ชื่อว่าเมธาไรเซียม(Metarhizium sop.) สายพันธุ์ที่สามารถสร้างสารพิษในการยับยั้งทำลายปลวกโดยเฉพาะนั้นให้อยู่ในพื้นที่อยู่ในแอเรียของบ้านเราได้อย่างสม่ำเสมอตราบนั้นก็จะไม่มีปลวกเข้ามารบกวนที่อยู่อาศัยหรือบ้านพักของเราเพราะปลวกก็จะมีเซนท์สัญชาตญาณในการรีบรู้ถึงมหันตภัยที่จะทำให้เผ่าพันธุ์ของปลวกสูญสิ้นไปการใช้ลำต้นไม้ไผ่นำมาตัดทอนแบ่งออกเป็นท่อนๆ แล้วใช้ขี้เลื่อยหรือขี้กบไสไม้ในอัตรา10กิโลกรัมคลุกผสมกับผงสปอร์ของเชื้อเมธาไรเซียมแล้วนำไปอัดยัดลงในกระบอกไม้ไผนำไปกลบฝังรอบๆบริเวณบ้าน ในระยะ 1-2เมตรก็จะช่วยทำให้บ้านนั้นมีระบบการป้องกันปลวกชั้นดีที่เป็นเชื้อร้ายสำหรับเมื่อผ่านระยะเวลาปีหน้าฟ้าใหม่มีกลุ่มแมลงเม่าต่าวถิ่นบินมาอาศัยสร้างรังตั้งอาณาจักรเมื่อปลวกงานเริ่มออกหาอาหารก็จะสำรวจตรวจตรามาจนเจอกระบอกไม้ไผ่ที่ห่อหุ้มขี้เลื่อยหรือขี้กบไส้ไม้ผสมเชื้อโรคปลวกที่ชื่อว่าเมธาไรเซียมเข้าไปก็จะได้รับเชื้อและตายตั้งเริ่มสร้างอาณาจักรเลยโดยปรกติปลวกจะเป็นสัตว์สังคม จะชอบสัมผัสเลียทำความสะอาดให้แก่กันและกันทำให้การติดเชื้อจากตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่งเป็นไปโดยง่ายง่ายต่อการที่จะทำให้ปลวกตายยกรังในไม่ช้าโดยเฉพาะรังที่สรืางใหม่นั้นจะสูญสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2556   
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 18:36:53 น.   
Counter : 415 Pageviews.  

กำจัดปลวกแบบปลอดภัยใช้ “เมธาไรเซียม”

ปัญหาเรื่องปลวกรบกวนกัดกินสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนล้วนแต่ได้รับผลกระทบเกือบทุกครัวเรือนโดยเฉพาะชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ทราบได้ดังนี้เพราะส่วนใหญ่ที่โทรเข้ามาสอบถามปัญหาเรื่องการกำจัดปลวกนั้นจะมีถิ่นพำนักพักอาศัยดังที่ได้กล่าวไป ส่วนต่างจังหวัดก็มีอยู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มยาง ซึ่งยังไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก

กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนส่วนหนึ่งมักจะหนีจากบริษัทที่ให้บริการกำจัดปลวกโดยวิธีการใช้สารพิษชนิดรุนแรงคือเมื่อเข้ามาบริหารจัดการตามสัญญาค่าจ้างจะปีหรือเดือนละเป็นหมื่นบาทก็ว่ากันไปคือหลังเข้ามาฉีดพ่นอัดสารเคมีเข้าไปในบ้านตามช่องตามหลืบที่คาดว่าเป็นแหล่งอาศัยของปลวกอัดน้ำยากันเข้าไปเต็มที่ผลสุดท้ายเจ้าของบ้านที่มีทั้งสัตว์เลี้ยงเด็กอยู่ไม่ได้เพราะทนเหม็นกลิ่นของสารเคมีที่ระเหยออกมาให้สูดดมไม่ได้

การรักษาวิธีนี้มักจะไม่ค่อยได้ผลสังเกตและสอบถามได้จากผู้ที่เคยทำสัญญากับบริษัทกำจัดปลวกเหล่านี้มาหลายสิบปีเพราะน้ำยาหรือสารเคมีที่กำจัดปลวกนั้นเหมือนเป็นการแก้ที่ปลายเหตุประชากรปลวกจะตายเฉพาะที่โดนหรือสัมผัสตัวยาหรือสารเคมีเท่านั้นส่วนรากเหง้าของปัญหายังอยู่คังรังและราชินีของปลวก ซึ่งมักจะหลบอาศัยอยู่ใต้ดินจึงทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทกำจัดปลวกเป็นเวลาหลายเดือนหลายปีต่อเนื่องกันมา

ถ้าเรายอมรับกับความเป็นไปของธรรมชาติว่าเราไม่สามารถที่จะทำลายหรือฆ่าปลวกที่อยู่ร่วมกับมนุษย์มาเป็นเวลาหลายล้านปีไม่สามารถที่จะฆ่าทำลายให้หมดสิ้นไปได้ โดยสมมุติว่าเรามีตัวยาที่ฆ่าปลวกที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกฆ่าปลวกในอาณาบริเวณได้แด่วดิ้นสิ้นซากหมดจดทุกตารางเมตร แต่หลังจากนั้นไม่นานเข้าสู่ปีหน้าฟ้าใหม่เกิดฤดูฝนก็จะมีแมลงเม่า(วัยเจริญพันธุ์ของปลวก) จากถิ่นอื่นเข้ามาสร้างอาณาจักรใหม่ได้อยู่ดี

ซึ่งถ้าเราใช้อาวุธชีวภาพ ซึ่งเป็นศัตรูหรือเชื้อโรคสำหรับปลวกเมธาไรเซียม (เหมือนกันไข้หวัดนก H5N1, HIV และอีโบรา) ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ที่ติดต่อสามารถทำให้มนุษย์ตายได้ทั้งโลกแต่มนุษย์ก็ยังมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดการติดต่อรุกลามจนสิ้นเผ่าพันธุ์เช่นกันเมธาไรเซียม ก็เป็นเชื้อราที่สามารถสร้างโรคติดต่อให้แก่ปลวกแต่ปลวก็สามารถที่จะดูแลป้องกันเผ่าพันธุ์ตนเองมิให้รับเชื้อนี้เช่นกัน ฉะนั้นถ้าทำให้ผงสปอร์ของเชื้อเมธาไรเซียมมีอยู่ในพื้นที่อาณาบริเวณบ้านอยู่เสมอ กลายเป็นพื้นที่อันตรายสำหรับปลวกปลวกก็จะเข้ามากล้ำกลายได้น้อยลง ส่วนที่อยู่ในพื้นที่ก็จะค่อยๆทยอยตายไปการใช้แนวทางอินทรีย์ชีวภาพกำจัดปลวกช่วยให้สุขภาพร่างกายของสิ่งมีชิวิตที่อาศัยอยู่ในบ้านปลอดภัยแถมยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าบริษัทกำจัดปลวกซึ่งสามารถทดสอบเปรียบเทียบได้ไม่ยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0-2986-1680 –(2)

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2555   
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 20:20:12 น.   
Counter : 928 Pageviews.  

1  2  3  

greenagro
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




เกษตรปลอดสารพิษ ชีวิตจะปลอดภัย อายุขัยยืนนาน ลูกหลานรื่นเริง

สวัสดดีครับ สำหรับผู้ที่สนใจการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ มือสมัครเล่น มือใหม่ มือเก่า ก็เข้าได้ทุกคนครับ ขอเชิญเข้ามาเยี่ยมชมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่นี่เลยนะครับ "ชีวิตจะได้มีสุขกับเกษตร"

ประวัติและผลงาน


ปี ชื่อหนังสือ ผู้แต่ง / เรียบเรียง จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์
ปี 2535 พนักงานชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ปี 2540 ธุรการ/จัดพิมพ์หนังสือ สมุนไพรใช้ในกุ้ง : ลูกใต้ใบ พญายอ ฟ้าทะลายโจร อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2540 ธุรการ/จัดพิมพ์หนังสือ การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2541 กองบรรณาธิการ พืชผักปลอดสารพิษด้วยภูไมท์ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2541 กองบรรณาธิการ การใช้ปูนและซีโอไลท์ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ศิลป์ การใช้ปูนและซีโอไลท์ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2542 กองบรรณาธิการ มะนาวด่านเกวียนปลอดสารพิษ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2542 ผู้จัดการชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ปี 2553 บทความตีพิมพ์ นิตยสารผักเศรษฐกิจ บ. มิเดีย ออฟ กรีน กรุ๊ฟ จก. บ. มิเดีย ออฟ กรีน กรุ๊ฟ จก.
ปี 2554 บทความตีพิมพ์ เทคโนโลยีชาวบ้าน มติชน มติชน
ปี 2554 บทความดีพิมพ์ หลากวิธีการบังคับมะนาวนอกฤดู "เงินล้าน" เล่ม 2 พริ้ม ศรีหานาม บจ. นาคา อินเตอร์มีเดีย นาคา อินเตอร์มิเดีย

ปี 2555 คอลัมน์ประจำ/ไม่ประจำ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ประชาชาติธุรกิจ, ฐานเศรษฐกิจ, ไทยโพสต์ ฯลฯ, นิตยสาร ไม่ลองไม่รู้, ผักเศรษฐกิจ, รักษ์เกษตร, เกษตรวาไรตี้ ฯลฯ

ปี 2556- ปัจจุบัน นักกจัดรายการวิทยุ สถานีวิทยุมก.บางเขน, มก. ขอนแก่น, มก. เชียงใหม่, มก. สงขลา และเครือข่ายสยามชัยเรดิโอ

ปัจจุบัน ประธาน/กรรมการผู้ัจัดการ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ/บริษัท ไทยกรีนอะโกร จำกัด
[Add greenagro's blog to your web]