นิดหนึ่งนี้อุทิศแด่ชาวนา ผู้ต่ำต้อยน้อยหน้าเหลือแสน ลำบากยากจนข้นแค้น ไป่แม้นชาวฟ้ามหานคร โดย อ. ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ

ข้อสงสัยในเรื่องการตัดแต่งกิ่ง

มีเกษตรกรที่เพาะปลูกมะนาวได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของการตัดแต่งกิ่งดูแลทรงพุ่มของมะนาวว่าจะกระทำได้ในช่วงใดถึงจะดี มีความเหมาะสมไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อต้นมะนาวและการติดดอกออกผลในช่วงฤดูกาลที่ต้องการ เพราะเกรงว่าตัดแต่งกิ่งไปแล้วต้นมะนาวจะบอบช้ำหยุดหรือชะลอการเจริญเติบโตทำให้พลาดโอกาสที่จะได้ผลผลิตมะนาวออกขายในห้วงช่วงที่มีราคาแพงๆ

ความจริงวัตถุประสงค์ของการตัดแต่งกิ่งไม่ว่าจะเป็นมะนาวหรือพืชผักผลไม้อื่นๆ นั้น ก็เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการทำงานลดกิ่งก้านใบที่ระเกะระกะไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มะนาวหรือพืชให้สามารถผลิดดอกออกผลได้โดยปราศจากสิ่งกีดขวางในกรณีที่มีกิ่งก้านที่เกาะเกี่ยวเลี้ยวลดพันกันลดการมีกิ่งก้านใบที่อาศัยกินฟรีแต่เพียงอย่างเดียวเพราะกิ่งก้านใบที่อาศัยอยู่ในร่มเงาตลอดทั้งวัน ไม่ได้รับแสงแดดก็จะไม่ทำการปรุงอาหารหรือสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) มีแต่ดูดกินแร่ธาตุและสารอาหารที่รากและใบดูดรับซับมาจากทั้งทางธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์ที่สูญเสียเงินตราไปซื้อหามาใส่ให้ถ้าปล่อยให้มีกิ่งก้านใบที่อาศัยกินฟรีอยู่ในร่มเงาเป็นจำนวนมากก็ยิ่งเท่ากับว่าเราปล่อยให้เงินตราสูญเสียไปกับค่าปุ๋ยค่ายาโดยเปล่าประโยชน์

การตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งทรงพุ่มนั้น บางทีก็สามารถมองไปในเชิงศิลปะได้ตัดให้มีรูปทรงต่างๆ ทั้งฝาชีคว่ำ ฝาชีหงาย ฯลฯซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพียงเพื่อทำอย่างไรก็ได้ให้รูปทรงของทรงพุ่มได้รับแสงแดดได้อย่างถ้วนทั่วได้ตลอดทั้งวันปรุงอาหารได้มากทั้งทรงพุ่มและที่สำคัญยังเป็นการช่วยลดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืชเพราะการที่ทรงพุ่มมีแสงแดดส่องสาดกราดลงไปได้อย่างทั่วถึง เชื้อแบคทีเรียเชื้อราโรคพืชทั้งหลายก็อาศัยหลบซ่อนอยู่ได้ยากอีกทั้งการที่ไม่มีกิ่งใบสอดไขว้พันกันเหมือนกับเป็นกระท่อมทองกวาว เพลี้ย หนอนแมลง ศัตรูพืช ก็ไม่เข้ามาหลบแดด หลบฝน พักอาศัยต้นมะนาวหรือต้นพืชต่างก็ได้รับอานิสงส์ส่งผลให้เกิดโรคแมลงศัตรูพืชระบาดได้รับอาหารที่ใบสังเคราะห์ส่งมาให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ดังนั้นการตัดแต่งกิ่งมะนาวหรือพืชผักผลไม้โดยทั่วไปสามารถตัดแต่งกิ่งได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่จำเป็นต้องไปรอตัดแต่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อใดก็ตามถ้ามีเวลาว่างเยี่ยมชมสวนก็หมั่นนำกรรไกรตัดแต่ง หรือมีเหน็บ มีดอีโต้ ติดต่อตัวเข้าไปด้วยก็จะช่วยให้สะดวกสบายเมื่อเราประสบพบเจอกับกิ่งก้านใบที่อาศัยอยู่ในร่มเงาหรือร่มไม้ใบบัง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับพืชที่เราปลูก ตัดกิ่งกระโดง กิ่งน้ำค้างกิ่งที่สอดไขว้พันกัน กิ่งที่จะก่อให้เกิดการหมักหมมบ่มเพาะเชื้อโรคต้องตัดแต่งออกไปให้หมดแบบสวยงามหรือไม่สวยงามก็ได้เพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะช่วยประหยัดต้นทุนการซื้อปุ๋ยการซื้อยาฆ่าแมลงได้อีกช่องทางหนึ่งนะครับ

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2558   
Last Update : 29 กันยายน 2558 18:29:59 น.   
Counter : 709 Pageviews.  

มะนาวใบเหลืองเพราะรากไม่กินปุ๋ย

เมื่อพูดถึงอาการใบเหลืองของพืชก็มักจะมีนานาทัศนคติที่กูรูผู้หลายท่านมักจะออกมาแสดงความคิดเห็นตามกระทู้หรือเว็บบอร์ดต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเป็นโรคนั้น โรคนี้ มีเชื้อรา ปัญหามาจากการเป็นโรคใบไหม้ใบด่าง ใบดำ ใบห่อ ใบเหี่ยว ใบเฉา (Plant Diseases) คละเคล้ากันไปในหลายสาเหตุจนทำให้ผู้ที่สอบถามอาจจะเข้าใจผิดคิดไปเองว่า ใบเหลืองที่เกิดกับพืชของตนเองนั้นคงจะมีแต่เพียงปัญหาเรื่องของเชื้อราโรคพืชแต่เพียงอย่างเดี่ยวเท่านั้น จึงมุ่งไปแต่เรื่องการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อราฆ่าเชื้อโรค (Fungicide) เสียเป็นส่วนใหญ่ถ้าบังเอิญรักษาได้ตรงโรคก็โชคดีไปแต่ถ้าฉีดไปแล้วสักรอบสองรอบแล้วอาการไม่ดีขึ้น พี่น้องเกษตรกรคงจะเริ่มปวดหัวกันขึ้นมาบ้างล่ะไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกเป็นจำนวนมาก

อาการและพฤติกรรมในลักษณะนี้ ใช่ว่าจะเกิดแต่พืชทั่วไปนะครับแม้แต่พืชยอดฮิตอยู่ในขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน มีอาการแบบนี้ได้เหมือนกันแต่ก็อยากจะให้ท่านผู้อ่านและพี่น้องเกษตรกรพึงตระหนักอาการหรือสาเหตุอย่างอื่นเข้ามาวิเคราะห์ด้วยเช่นเดียวกันนั่นก็คือเรื่องของการขาดแร่ธาตุและสารอาหาร (Symptom) ซึ่งก็เกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการขาดความรู้ความเข้าใจในการให้แร่ธาตุและสารอาหารเกษตรกรบางท่านอาจจะให้แต่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15, บ้างก็ให้แต่พืชเชิงเดี่ยว46-0-0, 21-0-0, 15-0-0 ฯลฯ ซึ่งมะนาวก็จะได้รับแต่ธาตุอาหารหลัก (N P K) ประกอบกับดินที่ผ่านการเพาะปลูกมาเป็นระยะเวลายาวนานจึงทำให้ธาตุรอง ธาตุเสริม และธาตุพิเศษนั้นไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ของพืชแต่ละชนิดรวมทั้งมะนาวจึงทำให้ใบแสดงอาการขาดธาตุได้

อีกสาเหตุหนึ่งที่เกษตรกรอาจจะคาดไม่ถึงก็คือ อาการที่รากของพืชหรือมะนาวนั้นมีอาการบาดเจ็บจากการขนย้าย การเพาะปลูก การถูกรบกวนจากศัตรูพืช การถูกทำลายโดยเชื้อโรคการหยุดการเจริญเติบโต ขัดสมาธิ จากภาวะดินที่แน่นแข็ง เป็นดานสภาพดินที่เป็นกรดหรือด่างจัดเกินไป จึงทำให้แม้ตัวเกษตรกรจะหมั่นพยายามรดน้ำใส่ปุ๋ยลงไปมากมายเพียงใดแต่พืชก็ไม่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยเนื่องด้วยค่าความเปิดกรดและด่างจะบล็อกตรึงหรือไล่ปุ๋ยบางตัวทำให้พืชขาดและบางครั้งก็ละลายแร่ธาตุอย่าง เหล็ก ทองแดง แมงกานีสออกมามากจนเกินไปส่งผลให้เป็นพิษต่อใบพืชเกิดอาการเหลืองและไหม้ได้

ดังนั้นถ้าเกษตรกรสามารถวิเคราะห์ (Analysis) หาสาเหตุให้ชัดเจนและแก้ไขได้ตรงตามต้นเหตุของปัญหาก็จะช่วยทำให้การดูแลแก้ไขของพี่น้องเกษตรกรทำได้ง่ายขึ้น เช่นถ้าเป็นรากเน่าโคนเน่าก็ใช้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่า,ถ้ามีปัญหาดินแน่นแข็งก็ใช้สารละลายดินดาน ALS29,ถ้ามีปัญหาดินเป็นกรดก็ใช้กลุ่มวัสดุปูน,ถ้าดินเป็นด่างก็ใช้กลุ่มของภูไมท์ซัลเฟตถุงสีแดงถ้ามีปัญหาขาดธาตุรองธาตุเสริมก็ควรให้อาหารเสริมทางใบช่วยอีกทางหนึ่งหรือจะใส่ทางดินด้วยกลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟ อย่าง พูมิชซัลเฟอร์ หรือ ภูไมท์ซัลเฟตเป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำให้เราไม่หลงทางเสียงเงินเสียทองแบบไม่ตรงประเด็นไปโดยเปล่าประโยชน์เป็นจำนวนมาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสงสัยในเรื่องหนึ่งเรื่องใด อย่าลืมนะครับเรื่องเกษตรปลอดสารพิษ ให้คิดถึงเราครับ โทรมาที่ 02 9861680 – 2

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2558   
Last Update : 29 กันยายน 2558 17:59:54 น.   
Counter : 528 Pageviews.  

ดูแลแก้ปัญหามะนาวแบบปลอดภัยไร้สารพิษ


ถ้าพูดถึงเรื่องมะนาวในห้วงช่วงนี้ก็ยังไม่ถือว่าล้าสมัยตรงกันข้ามกับยังมีผู้ที่ให้ความสนใจใคร่รู้ติดตามถามข่าวกันอยู่ค่อนข้างมาก ทางนิตยสารไม่ลองไม่รู้ ของบริษัทนาคาอินเตอร์มิเดีย ก็มีการจัดพิมพ์ซีรี่ย์เกี่ยวกับมะนาวไปแทบจะเรียกได้ว่าทุกมิติของศาตร์ที่เกี่ยวกับมะนาวและก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่ทางทีมงานบริษัทเขาให้โอกาสชมรมเกษตรปลอดสารพิษได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องเทคนิคการทำให้มะนาวติดดอกออกผลในห้วงที่ต้องการในรูปแบบที่ไม่ใช้สารเคมีบังคับให้เขียนโดยใช้เทคนิคที่ปลอดภัยไร้สารพิษ เป็นรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเนื้อหาก็จะอยู่ในเล่มที่ชื่อว่า“หลากวิธีการบังคับมะนาวนอกฤดู เล่ม 2” และก็มีผู้อ่านที่ให้ความสนใจใคร่รู้เป็นพิเศษอีกค่อนข้างมากได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติมมายังชมรมเกษตรปลอดสารพิษเพื่อสอบถามขอรายละเอียดเพิ่มเติมนำไปเสริมให้การปลูกมะนาวแบบปลอดภัยไร้สารพิษทำได้เป็นรูปธรรมนำมาซึ่งความสำเร็จกันหลายสวนเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็ได้รับความไว้วางใจจากทางนิตยสารเล่มดังกล่าวอีกให้เขียนเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลแก้ปัญหาโรคแมลงศัตรูของมะนาวในรูปแบบที่ไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตราย มีสารพิษตกค้างอันนี้ถ้าท่านผู้อ่านอยากจะไปติดตามถามไถ่ในเนื้อหาเพิ่มเติมก็ต้องลองไปอ่านเล่มที่ชื่อว่า “มะนาวปลอดภัยด้วยเคมี่&ชีวภาพฉบับชาวบ้าน”ซึ่งก็ทำให้พี่น้องเกษตรกรอีกหลากลายที่เคยชินกับวิธีการปลูกพืชแบบเก่าแบบที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเท่านั้น ได้มีทางเลือกได้มีช่องทางที่สามารถรับรู้ได้ว่าการดูแลรักษาโรคแมลงศัตรูพืชของมะนาวนั้นก็สามารถที่จะไม่ต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายแต่เพียงอย่างเดียวได้สามารถที่จะใช้สมุนไพร ใช้จุลินทรีย์ ใช้สารสกัด ใช้หลักการทำให้แข็งแกร่งจากแหล่งของหินแร่ภูเขาไฟ และแนวทางอื่นๆ อีกมากมายที่บริษืท นาคาอินเตอร์มิเดียได้นำมาสรรค์สร้างให้ท่านผู้อ่านโดยเฉพาะแฟนๆที่นิยมชมชอบการปลูกมะนาวได้รับกันอย่างเต็มอิ่ม

การปลูกมะนาวนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปนะครับถ้าเราพร้อมที่จะยอมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆที่ล้วนผ่านไปและผ่านมาให้มนุษย์ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงถ้วนทั่วทุกตัวตนเพราะโลกปัจจุบันนั้นเป็นโลกอินเทอร์เน็ต เป็นโลกแห่งโซเชียลเน็ทเวิร์คเป็นการออนไลน์ เพียงแต่พี่น้องเกษตรกรเปิดใจ ขวนขวายหาความรู้ และนำมาวิเคราะห์สังเคราะห์ แยกแยะให้ชัดเจน ก็สามารถที่จะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้ไม่ยาก และมีโอกาสที่จะถูกหลอกจากข้อมูลข่าวสารที่มีปริมาณมากมายมหาศาลได้ไม่ยากและที่สำคัญจะช่วยทำให้เรามีสติปัญญาที่แหลมคม ได้ประสบพบเจอสิ่งใหม่ๆ นำมาใช้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในภาคการเกษตรได้อย่างอยู่รอดปลอดภัยในสังคมปัจจุบัน

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2558   
Last Update : 29 กันยายน 2558 17:36:38 น.   
Counter : 339 Pageviews.  

มะนาวในกระถาง ระวังเรื่องดินแน่นแข็ง

เกษตรกรที่ปลูกมะนาวโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมือง มีพื้นที่จำกัดไม่ว่าจะเป็นทาวเฮาส์ หมู่บ้านจัดสรร หรือโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆก็ล้วนแล้วแต่มีพื้นที่ต้องจำกัดจำเขี่ย จะเพาะจะปลูกอะไรก็ต้องให้ได้ประสิทธิภาพดังนั้นจึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่หันไปให้ความสนใจในเรื่องการปลูกมะนาวในโอ่ง อ่างกระถางที่ชำรุด หรือไม่ก็กระถางที่ดีมีสีสันลวดลายต่างๆ บางคนก็ใช้วงซีเมนต์ที่มีราคาประหยัดลงมาหน่อย(เมื่อเทียบกับสี่ห้าปีที่ผ่านมาก่อนที่จะมีกระแสการปลูกในวงซิเมนต์ที่มาแรง)ไม่นับรวมพืชไร่ไม้ผลอื่นหรือไม้ดอกไม้ประดับก็เช่นเดียวกัน ต่างก็ถูกออกแบบจัดสรรให้เหมาะสมลงตัว กับพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

การปลูกต้นไม้ในกระถางสิ่งที่ท่านผู้รักต้นไม้ทั้งหลายจะต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องของการเฝ้าระวังดินที่นำมาเพาะปลูก เพราะส่วนใหญ่จะใช้ดินที่ซื้อมาจากข้างทางซึ่งมีการตักหน้าดินขายมาหลายสิบปี จนไม่แน่ใจว่าปัจจุบันพื้นที่ร้อยไร่พันไร่นั้นจะยังมีหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์อยู่หรือเปล่าหรือจะเหลือเพียงดินเหนียวบวกกับขี้เถ้าแกลบและปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกอีกนิดหน่อยเพราะนำมาใส่ในต้นไม้ทีไรเผลอแป๊ปเดียวก็มีแต่ดินเหนียวทุกที (ฮ่าๆ อันนี้ไม่กล้าฟันธงนะครับ)

จะอย่างไรก็ตามครับ ถ้าเรานำมะนาวมาปลูกไว้ในกระถางพฤติกรรมการปลูกที่ต้องรดน้ำลงไปในพื้นที่จำกัดและจะต้องมีน้ำส่วนเกินไหลออกไปนอกกระถางตามรูรั่วด้านล่างของก้นกระถาง อินทรียวัตถุต่างๆก็จะถูกชะล้างนำพาออกไปด้วยทุกครั้ง ทำให้ดินในกระถางที่ปลูกมะนาวจะแน่นแข็งทุกๆสามเดือน หกเดือนหรือหนึ่งปี จึงเป็นพฤติกรรมที่ทำกันบ่อยของชาวสวนผู้ปลูกต้นไม้ในกระถางที่จะต้องมีเทศกาลเปลี่ยนดินหรือวัสดุปลูกความจริงการหมั่นเติมกลุ่มของฮิวมิค แอซิด (ชื่อการค้า โพแทสเซียม ฮิวเมท)เพื่อทดแทนอินทรียวัตถุปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกที่สูญสลายหายไปกับน้ำก็ช่วยทำให้ดินอ่อนนุ่มไม่แน่นแข็งได้เช่นเดียวกันและยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับหินแร่ภูเขาไฟ พูมิชซัลเฟอร์ (Pumish Sulpher) ด้วยแล้วก็จะทำให้แร่ธาตุและสารอาหารในกระถางของมะนาวเกือบครบโภชนาการของพืชหรือครบห้าหมู่ถ้าเรียกแบบชาวบ้านแถมหินแร่ภูเขาไฟยังช่วยทำให้ดินโปร่งร่วนซุยอย่างยั่งยืนได้อีกด้วยนะครับ

บางคนอาจจะมีปัญหาดินแน่นแข็งเป็นดานไปแล้วปล่อยเลยตามเลยจนรากขัดสมาธิไม่อยากจะรื้อขุดเปลี่ยนดิน ด้วยสาเหตุที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือสุดแท้แต่จะหามาอธิบายท่านก็สามารถใช้สารละลายดินดาน ALS 29 (แอมโมเนียมลอเลธ ซัลเฟต) นำมาละลายน้ำในอัตรา 30 – 50 ซี.ซี. ต่อน้ำ20 ลิตร ราดรดหรือฉีดพ่นลงไปบนกระถางทุก 15 วันถึงหนึ่งเดือน ก็ได้ ตัวสารละลายดินดาน ALS29 จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทำให้ดินที่แน่นแข็งนั้นกลับมาอ่อนนุ่ม โปร่งฟู ร่วนซุย ได้อย่างรวดเร็ว หมดปัญหารากขัดสมาธิน้ำท่วมขังผิวหน้า การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดี แต่ข้อเสียของสารละลายดินดาน ALS 29 ก็คือถ้าใช้จนดินโปร่งฟูและร่วนซุยแบบรวดเร็วแล้ว เกษตรกรผู้ปลูกไม่ยอมใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกหรือ ฮิวมิค แอซิดหรือกลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟเข้ามาช่วยเสริมสร้างโครงสร้างดินให้ดีดินก็สามารถที่จะยุบฟุบตัวแน่นแข็งได้อีก ....ต้องการข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องเกษตรปลอดสารพิษ ให้คิดถึงเรานะครับ ...โทร. 02 986 1680 – 2

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2558   
Last Update : 29 กันยายน 2558 16:52:17 น.   
Counter : 452 Pageviews.  

เทคนิคการดูแลบำรุงรักษามะนาวให้ออกดอกติดผลได้ตลอดทั้งปี


พูดถึงมะนาวในยุคนี้ก็ดูจะอยู่ในกระแสที่ผู้คนชนทั่วไปให้ความสนใจไม่น้อยและตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา หลังจากน้ำท่วมกระแสเกี่ยวกับมะนาวแพงในฤดูแล้งหรือจะเป็นทอล์คออฟเดอะทาวที่ท่านผู้นำให้ผู้คนหันมาสนใจให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปลูกมะนาวไว้กินกันเองในครัวเรือนจะได้ไม่เดือดร้อนเกี่ยวเรื่องของมะนาวที่แพงจนเป็นข่าวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ที่ต้องการปลูกมะนาวเท่าที่ทราบคนที่รวยไปก่อนแล้วก็คือผู้ที่ค้าขายกิ่งพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดกิ่งตอน ติดตา เสียบยอด ทั้งต้นตอสมโอ มะขวิด ส้มทรอยเยอร์หรือจะเป็นสารพัดส้มที่ดูแล้วทำให้ต้นพันธุ์ดูแล้วมีลักษณะที่ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยอาจจะเป็นด้วยลักษณะของสภาพแวดล้อม การเจริญเติบโตของรากที่หาอาหารได้เก่งมากขึ้นจึงทำเซียนมะนาวที่ขายกิ่งพันธุ์นำมาจำแนกแยกแบ่งว่าเป็นพันธุ์ใหม่ซึ่งก็มีผู้ที่ให้ความสนใจไช่ว่าจะน้อยเสียเมื่อไร

โดยที่ความจริงแล้วการที่นักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายพันธุ์กว่าจะพัฒนาให้ได้พันธุ์พืชหรือพันธุ์สัตว์นานาชนิดที่ใหม่ๆออกมาล้วนแต่ต้องใช้ระยะเวลาหลายสิบปีทดสอบแล้วทดสอบอีกเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่จริงๆไม่ใช่เอาพันธุ์ไปเสียบยอดมะขวิดแล้วลักษณะการเจริญเติบโตของผลใหญ่กว่าต้นแม่นิดหน่อยก็ตั้งชื่อพันธุ์ใหม่หรือใช้เป็นกิ่งตอนที่เจริญเติบโตเร็วก็ตั้งชื่ออีกพันธุ์หนึ่งแต่ถ้าให้เซียนมะนาวลองนำมาทดสอบเปรียบเที่ยบกันดู เชื่อว่าร้อยละ 90 ไม่สามารถที่จะแยกแยะสายพันธุ์ได้อย่างชัดเจนหรือพูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำเพราะรูปร่างสัณฐานดูละม้ายคล้ายคลึงกันไปหมดแทบไม่มีความแตกต่าง จะแตกต่างอยู่บ้างก็ตรงชื่อของสายพันธุ์ที่เจ้าของเป็นผู้ตั้งเองขึ้นมาใหม่กับราคาที่สูงกว่าหรือเกือบเท่าๆ กับค่าแรงขั้นต่ำของประเทศไทยเรา

ความจริงแล้วมะนาวเกือบทุกสายพันธุ์ในบ้านเรานั้นสามารถที่จะผลิดดอกออกผลได้ตลอดทั้งปีเพราะเป็นพืชที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของพืชที่มีดอกผลหลายรุ่นในต้นเดียวกัน ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมานานแสนนานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดและค่อยๆคิดค่อยๆ นึก ก็จะพอเห็นภาพลางๆ ว่า แท้จริงแล้วมะนาวที่อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนานนั้นก็เป็นมะนาวที่ผลิดอกออกผลได้ตลอดทั้งปีเพียงแต่ว่าเขาปลูกประจำหัวไร่ปลายนา ปลูกไว้หน้าบ้านหลังบ้านเพียงต้นสองต้นอยู่ผสมกลมกลืนกับพืชไร่ไม้ผลชนิดอื่นๆ ที่ปัจจุบันเขาเรียกรวมๆกันว่าไร่นาสวนผสมเวลาจะทำกับข้าวทำน้ำพริก ปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่ก็จะตะโกนให้ลูกหลานไปเก็บพริกมะนาว เอามาโขลกมาแกง แว่บหายไปพักเดียวประเดี๋ยวมาก็ได้สิ่งของทุกอย่างตามต้องการไว้กว่าออกไปซื้อหาซุปเปอร์มาร์เก็ตนอกบ้านอีกเพราะเขาเอาซุปเปอร์มาร์เก็ตมาไว้ในบ้านนั่นเอง

แต่มะนาวที่ผลิดอกออกผลได้ตลอดทั้งปีนั้นมักจะอยู่ในจุดที่เหมาะสมมีน้ำล้างจาน หรือน้ำที่ชำระล้างกับข้าวกับปลาแล้วสาดออกไปจากครัวไทยสมัยก่อนที่เป็นเรือนสูงมีใต้ถุนได้รับน้ำ รับปุ๋ยแบบเจ้าของไม่รู้ตัวตลอดทั้งปี จนเกิดความอุดมสมบูรณ์กับต้นมะนาวพร้อมต่อการติดดอกออกผลอยู่เสมอ มะนาวที่ได้รับแร่ธาตุและสารอาหารที่เพียงพอเหมาะสม และอยู่ในดินที่มีค่าความเป็นกรดและด่างที่พร้อมต่อการละลายแร่ธาตุและสารอาหารไม่บล็อก ไม่ตรึง จับยึด ปุ๋ยหรืออาหารจากสภาพดินที่เป็นกรดหรือด่างจัดเกินไปก็จะช่วยให้ได้มะนาวทะวาย หรือมะนาวที่ผลิดอกออกผลได้ตลอดทั้งปี

การที่จะปลูกมะนาวในลักษณะนี้ได้ถ้าแนะนำก็อยากจะบอกว่าสามารถทำได้นะครับ แต่น่าจะต้องเริ่มต้นจากพื้นที่เล็กๆดูแลได้ทั่วถึง อย่างเช่น หนึ่งงาน หนึ่งไร่ และสูงสุดต่อหนึ่งครอบครัวไม่ควรเกิน 5ไร่ ในเรื่องน้ำถ้าเป็นฤดูแล้งหรือห่างไกลทุรกันดานแหล่งชลประทานนอกจากจะทำสระน้ำประจำไร่นาแล้ว ก็อาจจะใช้สารอุ้มน้ำโพลิเมอร์ในอัตรา 1 กิโลกรัมนำไปแช่น้ำในถัง200 ลิตร ทิ้งไว้ 2 – 3 ชั่วโมง หรือถ้ามีเวลามากๆ ก็หนึ่งคืนรอจนพองขยายตัวได้เต็มที่ คือประมาณ 200 – 300 เท่าแล้วนำมากลบฝังใต้หรือรอบทรงพุ่มก็จะสามารถสร้างความชุ่มชื้นให้แก่มะนาวได้ตลอดทั้งปี

แร่ธาตุและสารอาหารต่างๆที่จะนำมาเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ก็อาจจะใช้หินแร่จากธรรมชาติ (MineralVolcanic Rock) อย่างหินแร่ภูเขาไฟ พูมิชซัลเฟอร์ (Pumish Sulpher) ที่มีคุณสมบัติพร้อมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารทั้งฟอสฟอรัสโพแทสเซียม แคลเซ๊ยม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสี โบรอนโมลิบดินั่ม นิกเกิล ไททาเนียม และซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ จะขาดก็แต่เพียง ไนโตรเจนถ้าใช้ไปพร้อมๆกับปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกก็จะทำให้ดินนั้นมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอต่อการที่จะทำให้มะนาวออกดอกติดผลได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกันการใช้หินแร่ภูเขาไฟไปนานๆ ก็จะเหมือนเป็นการจำแลงแปลงผืนดินของเราให้เป็นหินแร่ภูเขาไฟเหมือนเกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซีย หรือพื้นที่รอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ ของประเทศญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวไปชื่นชมการเกษตรเชิงธรรมชาติปีหนึ่งหลายหมื่นหลายแสนคนเพราะทำการเกษตรแบบปลอดภัยไม่ใช้สารพิษ ในระยะยาวก็ไม่เกิดผลเสียแก่ดินเหมือนกับการใส่กลุ่มวัสดุปูนอย่างเช่นปูนมาร์ล ปูนขาว โดโลไมท์ ฟอสเฟต เพราะจะกลายเป็นการสะสมความเป็นด่างเข้าไปแทนที่จะมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตรงที่ทำให้เงินในกระเป๋าของท่านลดน้อยถอยลง เมื่อลองเปรียบเทียบกับผลผลิตและรายได้จากการจำหน่ายแล้วสามารถนำไปใช้ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าไม่ว่าจะมองในระยะสั้นหรือระยะยาวนะครับเพราะหินแร่ภูเขาไฟนั้นสามารถที่จะย่อยสลายและค่อยๆปลดปล่อยตัวเองมาเป็นปุ๋ยละลายช้าไปทีละน้อย(Slow Release Fertilizer) ทำให้ดินนุ่มโปร่งฟูร่วนซุย เป็นปุ๋ยเป็นตู้เย็นเก็บอาหารให้รากพืชได้ดูดกินได้อย่างต่อเนื่อง.......อย่าลืมนะครับถ้าสนอกสนใจในเรื่องนี้เพิ่มเติมติดต่อสอบถามเข้ามายังสำนักงานส่วนกลางบางเขนกรุงเทพฯ .....เรื่องเกษตรปลอดสารพิษ ให้คิดถึงเราครับ

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2558   
Last Update : 29 กันยายน 2558 16:38:47 น.   
Counter : 739 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

greenagro
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




เกษตรปลอดสารพิษ ชีวิตจะปลอดภัย อายุขัยยืนนาน ลูกหลานรื่นเริง

สวัสดดีครับ สำหรับผู้ที่สนใจการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ มือสมัครเล่น มือใหม่ มือเก่า ก็เข้าได้ทุกคนครับ ขอเชิญเข้ามาเยี่ยมชมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่นี่เลยนะครับ "ชีวิตจะได้มีสุขกับเกษตร"

ประวัติและผลงาน


ปี ชื่อหนังสือ ผู้แต่ง / เรียบเรียง จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์
ปี 2535 พนักงานชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ปี 2540 ธุรการ/จัดพิมพ์หนังสือ สมุนไพรใช้ในกุ้ง : ลูกใต้ใบ พญายอ ฟ้าทะลายโจร อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2540 ธุรการ/จัดพิมพ์หนังสือ การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2541 กองบรรณาธิการ พืชผักปลอดสารพิษด้วยภูไมท์ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2541 กองบรรณาธิการ การใช้ปูนและซีโอไลท์ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ศิลป์ การใช้ปูนและซีโอไลท์ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2542 กองบรรณาธิการ มะนาวด่านเกวียนปลอดสารพิษ อ.ดีพร้อม ไชวงศ์เกียรติ ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร อักษรสยามการพิมพ์
ปี 2542 ผู้จัดการชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ปี 2553 บทความตีพิมพ์ นิตยสารผักเศรษฐกิจ บ. มิเดีย ออฟ กรีน กรุ๊ฟ จก. บ. มิเดีย ออฟ กรีน กรุ๊ฟ จก.
ปี 2554 บทความตีพิมพ์ เทคโนโลยีชาวบ้าน มติชน มติชน
ปี 2554 บทความดีพิมพ์ หลากวิธีการบังคับมะนาวนอกฤดู "เงินล้าน" เล่ม 2 พริ้ม ศรีหานาม บจ. นาคา อินเตอร์มีเดีย นาคา อินเตอร์มิเดีย

ปี 2555 คอลัมน์ประจำ/ไม่ประจำ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ประชาชาติธุรกิจ, ฐานเศรษฐกิจ, ไทยโพสต์ ฯลฯ, นิตยสาร ไม่ลองไม่รู้, ผักเศรษฐกิจ, รักษ์เกษตร, เกษตรวาไรตี้ ฯลฯ

ปี 2556- ปัจจุบัน นักกจัดรายการวิทยุ สถานีวิทยุมก.บางเขน, มก. ขอนแก่น, มก. เชียงใหม่, มก. สงขลา และเครือข่ายสยามชัยเรดิโอ

ปัจจุบัน ประธาน/กรรมการผู้ัจัดการ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ/บริษัท ไทยกรีนอะโกร จำกัด
[Add greenagro's blog to your web]