BlogGang.com : : chocomania

AZURE

Group Blog

All Blogs

ล่องแก่งแม่น้ำกลองใหญ่ - หนุกมากๆ

สนุกมากเลย เพิ่งกลับมาถึงเช้านี้เองค่ะ

หนนี้ เป็นการเที่ยวทีลอซู รอบ 2 ค่ะ หลังจากที่ไปมาเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว

รอบนี้ เราไปกับ บุญล่ำทัวร์ ค่ะ ขอโปรโมต หน่อย เพราะติดใจการบริการ

ของไกด์ทัวร์ทุกคน มากๆ เลยค่ะ แถมรู้มาว่า คุณบุญล่ำเป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกการเที่ยวทีลอซูเลยค่ะ แถมยังบุกเบิกการท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ บริเวณป่าเขาทีลอซู หลายแห่งค่ะ ที่สำคัญ ล่องแก่งแม่น้ำกลองใหญ่ ต้องติดต่อทางบุญล่ำทัวร์ อย่างเดียวค่ะ ถ้าไปของที่อื่น เค้าก็ต้องมาหาทางบุญล่ำทัวร์อยู่ดีค่ะ

เราเริ่มต้นทริป ที่ หมอชิตค่ะ ขึ้นรถกรุงเทพฯ แม่สอด รอบ 22.40 น. ค่ะ

ดึกมากเลย ถึงแม่สอดก็ประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ

หลังจากนั้นคนขับรถของทัวร์ก็มารับเราที่ขนส่งแม่สอดค่ะ

นั่งรถไปที่รีสอร์ตก่อนค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง พอดีเลยค่ะ

3 โอ้ก เลย เพื่อนเราเอง เพราะเค้ามีตั้ง 1,200 กว่าโค้งอะ

ทำเอาเพื่อนเราอ๊อก หมดเลยค่ะ

ระหว่างทางค่ะ คนขับรถให้เราแวะถ่ายรูปถนนลอยฟ้า

แต่ว่าหมอกลงจัดมากเลย ทำให้ไม่เห็นวิวด้านล่างเลยค่ะ

อ้อ ทริปนี้เราไป join กะ อีก 2 คนค่ะ รวมกลุ่มเราด้วยเป็น 3 คน
โชคดีมากๆ เลย เพราะช่างเข้าขากันได้ดีมาก (เค้าจะคิดเหมือนเราป่าวไม่รู้ )

หลังจากถึงที่พัก เราก็จัดแจงย้ายของออกไว้เก็บที่รีสอร์ทค่ะ
เอาไปเฉพาะที่จำเป็นต้องขึ้นเขาค่ะ เพราะเด๋วจะหนัก จะฝากพี่ไกด์ถือไปให้ด้วยก็เกรงใจค่ะ เพราะพี่เค้าก็ต้องถือเสบียงขึ้นไปอีกมากค่ะ

ดอกไม้ริมทางค่ะ ระหว่างเดินขึ้นเขา

ก่อนขึ้นเขา เราต้องนั่งเรือยางไปก่อนค่ะ ลำนึงก็รวมสมาชิกทุกคนค่ะ
ใช้เวลานั่งประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ เราเป็นกรุ๊ปสุดท้ายเลยค่ะ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกคนที่ล่องเรือยางขึ้นข้างบนค่ะ

ทางเดินเขายังคงเหมือนเดิมอย่างที่เคยมาค่ะ 11 กม. แต่บางคนก็ว่า 10 กม.
เราเดินไปตามทางเรื่อยๆค่ะ ไม่ค่อยเหนี่อยเท่าไหร่ สงสัยเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว เลยสบายๆ แต่ว่าอากาศดีด้วยงัย เดินๆ ไป ฝนก็ตกพรำๆ แต่ไม่ได้ทำให้เราลำบากเลยนา เพราะเราซื้อเสื้อกันฝนก่อนลงเรือยางเรียบร้อยแล้วจ้ะ
20 บาท อะ อยากได้ถูกกว่านี้ แต่ป้าแกไม่ยอมลดให้

ระหว่างเดินป่า พี่ไกด์ได้เก็บของป่ามาผัดผักให้เรากินด้วยค่ะ
อร่อยมากเลย มันๆ เหมือนผักกระเฉดเลย

อ้อ เราใช้เวลาเดินป่าอีก 3 ชั่วโมง ไปถึงที่พักก็ 6 โมงเย็น พอดิบพอดีเด้อ
วันนี้ ต้องขอพักผ่อนเอาแรง เพราะเดินทางมาทั้งวันเลยค่ะ
แล้วพรุ่งนี้ เราจะได้ไปดูน้ำตกทีลอซู อีกรอบแล้ว อิอิ คิดถึงจังเลย

เช้าตรู่วันอาทิตย์ค่ะ พี่ไกด์มาปลุกถึงเต้นท์ค่ะ
เรารู้สึกเสียดายมากเลย เพราะทางเดินถูกปูทางด้วยปูนแล้วค่ะ
เดินง่ายมากเลย ไม่เหมือนตะก่อนเลย เสียดายจัง ความสนุกของการเดินทางอยู่ตรงนี้แหล่ะค่ะ ตรงที่มันลำบากๆ นี่แหล่ะ ถึงจะมันดีแท้ เสียดายจัง

น้ำตกทีลอซู ยามเช้าค่ะ น่าเสียดายวันที่ไป ฝนตกพรำๆ ค่ะ แล้วก็สายน้ำตกกระเด็นเยอะมาก แถมหมอกยังลงจัดค่ะ ทำให้มองไม่เห็นชัดเจนค่ะ ไกด์บอกว่า ต้องรอประมาณ 9-10 โมงเช้า จะเห็นชัดขึ้นค่ะ

ไกด์น่ารักมากค่ะ เห็นพวก เราเดินไปไหนก็เดินตามตลอดค่ะ คอยดูทางให้ตลอด แล้วก็อาสาถ่ายรูปให้ตลอดค่ะ เราลงไปเล่นน้ำไม่ได้เหมือนตะก่อนแล้ว เพราะเค้ามีรั้วกั้นไว้ แต่ว่า เราก็ได้เล่นน้ำตกอีกจุดนึง ใกล้ๆ ค่ะ น้ำแรงดี ไม่อันตรายเท่าด้วยค่ะ เพราะงวดนี้ น้ำแรงจิงๆ ค่ะ อย่างว่า หน้าฝนเต็มๆ

ยามสายค่ะ แต่ยังเห็นน้ำตกไม่ชัดอยู่ดีค่ะ

หลังจากหนุกหนานมาเต็มที่แล้ว เราก็เดินกลับที่พักค่ะ มาเปลี่ยนเสื้อผ้า
จัดของลงกระเป๋าอีกครั้งค่ะ เพื่อเดินทางกลับเส้นทางเดิมเหมือนขามาจ๊ะ
ก่อนกลับก็แวะกินข้าวก่อนลงเขาค่ะ มีไข่เจียวอีกแล้วครับท่าน อร่อยดี

ไกด์บอกเราว่า ไม่ต้องรีบค่ะ เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ยังไง วันนี้ก็ถึง 55
ขาไปมีไกด์ดูแลเรา 3 คนค่ะ ขากลับมี 2 คนค่ะ เพราะอีกคนต้องอยู่ต้อนรับอีกกลุ่มค่ะ

ขากลับขอบอกว่า วิวระหว่างล่องเรือสวยมาก นั่งเก็บบรรยากาศอย่างเดียวค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูป ขี้เกียจหยิบกล้องอะ งานนี้ อีกอย่าง ฝนตกพรำๆ ด้วย ชอบมาก รู้สึกถึงความเขียวขจีสุดๆ ของป่าเขา แถมไกด์มีการขอแวะเก็บหน่อไม้ข้างทางด้วยค่ะ จะเอาไปทำกับข้าวกิน แหม ดีจิงๆ ชีวิตพอเพียง

ถึงที่พัก เราเปลี่ยนใจค่ะ จากที่เช้าอีกวันต้องไปเที่ยวตลาดริมเมย ไม่อยากไปอะ ไม่เห็นมีไรเลย เลยเปลี่ยนเป็นขอไปทริปล่องแก่งแม่น้ำแม่กลองค่ะ
คุณลุงขับรถ เจ้าเดิมดูแลเราตลอดงานค่ะ เตือนเราว่า อันตรายนะ ให้ระวัง แล้วก็บอกเคล็ดลับเวลาเรือคว่ำ ว่าต้องทำยังไงมั่ง น่ารักมากค่ะ

ขอบอกว่า มันมาก มีแก่งทั้งหมดกว่า 160 แก่ง ค่ะ ทั้งน่ากัว ทั้งหนุก
เราไม่เคยล่องมาก่อนค่ะ เจอหนนี้ครั้งแรกเลย เพื่อนบอกว่า น่ากัวกว่าแก่งหินเพิงอีก ส่วนมือพายก็บอกว่า ที่นี่ยากกว่าลำน้ำเข็กด้วยค่ะ ว้าว
ขอบคุณพระเจ้าที่นู๋ รอดมาได้ เพื่อนบอกว่า รู้แล้วว่าเอาชีวิตมาทิ้งเป็นยังไง ไม่ลองต้องลองค่ะ ที่นี่แหล่ะ ลองเลย

เรือยางก่อนล่องแก่งค่ะ

ใช้เวลาล่องแก่ง 5 ชั่วโมงค่ะ มีแวะพักทานข้าวกลางวันด้วย
เพื่อนเราทุกคนได้แผลกลับมาถ้วนหน้าเลยค่ะ รวมถึงเราด้วย เรานี่แย่หน่อย เหมือนจะแพ้น้ำ เพราะขึ้นผื่นแดงเต็มขาเลยค่ะ กำจิงๆ
ที่สุดยอดเลยคือ อิชั้น ตกน้ำ 2 รอบเลยค่ะ นั่งเรือลำแรกก็คว่ำ พอย้ายไปนั่งลำที่ 2 ก็คว่ำอีกค่ะ เลยได้ประสบการณ์มากกว่าชาวบ้านเค้าเลย

น่ากัวมากตอนตกน้ำ เพราะเราอยู่ใต้ท้องเรือใช่มั๊ยคะ เราก็พยายามหาทางออกจากเรือให้ได้ ว่ายน้ำก็ว่ายไม่เป็นนะนั่นน่ะ แถมตอนแรก จำได้ว่าเค้าให้จับเชือกที่เรือไว้ เราก็จับสิคะ แต่ว่าระหว่างจับมันก็อยู่ใต้ท้องเรือนี่หว่า ตรูอยู่งี้นานๆ ไม่ได้นะ เด๋วหายใจไม่ออก พอคิดได้ เลยออกมาดีก่า ดีนะคิดได้ทัน แถมยังจำได้ว่าลุงขับรถบอกให้เอาเท้าชี้ออกมา ไว้ดันหิน ดันอะไรที่จะชนเรา ดีมากค่ะ พอเรารู้สึกจะชนหิน ก็รีบเอาเท้าแตะออกมาเลยค่ะ

รอบ 2 น่ากัวกว่า เพราะพอออกจากท้องเรือได้ น้ำแรงมากอะ มันผลักเรือมาคว่ำเราต่ออีกรอบอะดิ รอบสองเลยกลืนน้ำไปเต็มๆ เลย เพราะตอนออกจากท้องเรือได้ รีบอ้าปากหายใจ เป็นจังหวะเดียวกะที่เรือพุ่งเข้ามาทับเราอีกรอบอะดิ กำจิงๆ รอบสอง เราเลยอยู่ใต้ท้องเรือนานจน เหลือลมหายใจไม่พอแล้ว ต้องรีบตะเกียกตะกายหาทางออกให้เจอ เฮ้อ เหนื่อยสุดๆ แต่มันมากค่ะ พอรอดมาได้ 55

แก่งอีก 1 แก่งค่ะ

เพื่อนอีกลำบอกว่า ไกด์ดีมากเลย พอเห็นลำหน้าคว่ำ รีบตะโกนบอกว่า ช่วยคนก่อนๆ มือพายอีกลำ ก็กระโดดไปช่วยด้วย เพื่อนบอกว่า เห็นหน้ารู้เลยว่า เค้าเป็นห่วงพวกเรามาก คอยตะโกน แล้วก็ถามหาว่าครบกันมั๊ย alert ดีค่ะ

ไกด์น่ารักมากค่ะ รีบไปรออยู่ข้างหน้า ถ่ายรูปเรือยางอีกลำที่ตามมาให้ค่ะ

ดูจิ น้ำแรงนะเนี่ย

ไม่ล่มครั้ง ครั้งนี้ แต่ครั้งหน้า ล่มอะดิ

ที่มันสุดๆ ก็ตอนที่มีต้นตะเคียนล้มกลางลำน้ำค่ะ มือพาย design ได้ดีมาก
ให้พวกเราปีนจากเรือไปยืนบนต้นไม้ที่นอนขวางอยู่ มันไม่ได้ยืนทับน้ำสิคะ
มันอยู่สูงพอสมควร แต่เรือยางลอดไม่ได้จิงๆ พอพวกเราไปยืนบนต้นไม้นี่แล้ว เค้าก็เอาเรือยางมาวางบนต้นไม้ที่นอนขวางนี่แหล่ะค่ะ พยายามให้มัน balance กันแล้วให้พวกเราไปนั่งบนเรือ ที่มันจะหล่นมิหล่นแหล่นี่อะนะ
กัวมากเลย พอ 2 คนแรกนั่งตรงกลางเรือ ซึ่งมันวางอยู่พอดีลำต้นไม้แล้ว ไอ้คนที่ 3 สิ มันต้องนั่งแถวหน้า ซึ่งหมายความว่าเรือจะทรงตัวไม่ได้แน่นอน เราก็ถามมือพายหลายรอบมากเลย ว่าเอาจิงเหรอ พี่ เค้าว่า ครับ น้องคนที่ 3 ลงไปนั่งปุ๊บ พี่จะรีบกะโดดลงไปนั่งด้วย นั่นแหล่ะค่ะ เพื่อนเราที่จะนั่งหน้า ก้นยังไม่ทันจะถึงเรือ เรือมันก็พุ่งลงน้ำเลยค่ะ จากที่สูงเลยนะนั่นน่ะ

มือพายไวมากค่ะ กะโดดอย่างเร็ว นั่งบนเรือแล้วรีบพายอย่างรวดเร็วค่ะ ทำให้เรือไม่คว่ำค่ะ ส่วนมือพายที่สอง กระโดดจากขอนไม้ลงเรือไม่ทันค่ะ ตกน้ำไป 55

โฉมหน้ามือพายค่ะ

งานนี้หนุกมาก adventure สุดๆ ตลอดเที่ยวเลย ตอนแรกไม่อยากมานะเนี่ย เพราะเคยมาแล้ว แต่ว่ามาอีกครั้งก็ประทับใจอีกแล้ว อยากมาอีกรอบช่วงหน้าร้อนหน่อย จะได้ดูกล้วยไม้ขึ้นระหว่างล่องเรือ แต่ว่าล่องเรือหน้าร้อนนี่ กินเวลาเป็นวันเลยค่ะ น่าเบื่อตายเลย แต่ล่องแก่งแม่กลองใหญ่นี่ สุดๆ แล้ว ยกนิ้วให้เลย ยกเว้น ล่องแก่งลำน้ำว้า น่ากัวกว่าคะ มือพายบอกมาค่ะ เค้าว่า แก่งคล้ายๆ กัน เยอะพอกัน แต่ว่า น้ำลึกกว่า แล้วก็มีถ้ำอยู่ข้างใต้ด้วย ทำให้ถ้าโดนดูดไปจะอันตรายมากค่ะ

Create Date : 12 สิงหาคม 2551

Last Update : 12 สิงหาคม 2551 16:40:00 น.

Counter : 881 Pageviews.

2 comment

Share
Tweet

ทีลอซู อีกสักครั้ง เอ จะได้ไปมั๊ยหว่า

เตรียมใจไปทีลอซู ศุกร์หน้านี้ค่ะ แต่ยังไม่ได้เตรียมตัว
เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะได้ไปป่าว

งวดนี้ ฉุกเฉินเล็กน้อย เลยเพิ่งจองทริปไปกะ TK tour ปรากฏว่า รถตู้รอบแรกเต็มค่ะ เลยต้องรอลุ้นคันที่ 2 ว่าจะได้ไปป่าว ถ้าไม่ถึง 7 คนก็ไม่ได้ไปน่ะสิคะ สมาชิกเรามีอยู่ 3 คน รอลุ้นอีก 4 คน ในอาทิตย์นี้ หวังว่าจะได้ไป

เรายังไม่เคยไปกะ TK เลยคะ Trekking thai น่ะค่ะ ไม่รู้เป็นไงมั่ง

ถ้าได้ไปแล้วจะมาเล่าให้ฟัง หลังจากกลับจากทริปจ้า

Create Date : 03 สิงหาคม 2551

Last Update : 3 สิงหาคม 2551 12:03:14 น.

Counter : 355 Pageviews.

3 comment

Share
Tweet

2 วันสุดท้ายที่ฮานอย

ในที่สุดเราก็มาถึงฮานอยค่ะ แต่เช้าตรู่เลย แต่ขอโทษ แดดมันก็มาแต่เช้าด้วยเหมือนกัน หึหึ ทำให้เราเดินหาห้องพักได้ไม่นานมากค่ะ

ที่นี่เราได้ห้องพักราคา 10 USD. ค่ะ สภาพภายนอกโอเค แต่เอาเข้าจริงไม่ work ค่ะ เพราะเตียงเหม็นตุๆ ปกติเวลาเราดูห้องเราก็ไม่ได้ไปดมหมอน ดมเตียงเค้าใช่มั๊ยคระ ฮึ่ม แถมพอเราออกจากห้องปุ๊บ เค้าก็ปิด cut out ไฟ เลยค่ะ ทำให้ตู้เย็นมันก็ไม่เย็นสิคะ และกว่าจะเย็นก็ชาตินึง แถมเหม็นอีกตะหาก แง่มๆ เที่ยวงวดนี้ ไม่ถูกโฉลกกะห้องพักเลย ปกติ เรามักจะโชคดีเรื่องห้องพักนะเนี่ย

ที่นี่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ค่ะ

พอดีมาเที่ยวที่นี่แล้วรอบนึงเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ครั้งนี้ ไม่ค่อยเที่ยวมากกว่า

สัญลักษณ์วัดหว่านเหมียวค่ะ

landmark ที่ฮานอยค่ะ แถว 36 street

ที่ฮานอยมีร้านกระเป๋าถูกกว่าไทยค่ะ เราซื้อเป้มาทั้งหมด 4 ใบ อิอิ
หมดตังค์ไปร้าน cha ca grilled fish ชื่อดัง ร้านแรกของถนน cha ca
ราคาแพงนิดๆ หัวละ 180 บาท แหน่ะ

ห้องพักที่ฮานอยค่ะ

grilled fish จ้าวดังค่ะ

เอาหนมจีนใส่ลงไปที่ชามก่อนค่ะ แล้วค่อยเอา grilled fish ใส่ตาม

หน้าสะพานแดงค่ะ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ค่ะ

เฮ้อ หลังจากเหนื่อยกะเวียตนามมาตลอด 6 วัน ในที่สุด เราก็จะได้กลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ
ดีใจมั่กๆ เลย

โฮจิมินท์ คงไม่ไปแล้วค่ะ
ทริปหน้ารู้สึกจะเป็นทีลอซูค่ะ จะไปด้วยกันมั๊ยเอ่ย สมาชิกตอนนี้เหลือแค่ 3 คนเองแฮะ ตอนแรกว่าจะไปแบบล่องแก่งเยอะๆ แต่ถ้าคนไปน้อย อาจจะเปลี่ยนไปกะ TK ค่ะ ดีป่าวเอ่ย

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551

Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 23:29:02 น.

Counter : 487 Pageviews.

1 comment

Share
Tweet

คืนที่ 4 กะ Sleeping bus to hanoi

เช้านี้ตั้งใจตื่นสายค่ะ เพราะอากาศที่ฮอยอัน ร้อนมาก
ตื่นเอาตอนเกือบ 8 โมงค่ะ แล้วก็สโล๋สเล๋ แบบซำบายอารมณ์
ออกมาเผชิญแดดต่ออีกวันค่ะ

เหยียบๆ ร้านโคมไฟ แต่ไม่ลดราคาให้เลย แย่จัง

นั่งต่อรองตั้งนาน ลดให้หน่อยเดียวเองอะ สุดท้ายเลยไม่ได้ซื้อ

แม่ค้าน้ำอ้อยใจดี หน้าทางเข้าสะพานญี่ปุ่นค่ะ เฝ้าจักรยานให้เราด้วย

สองข้างทางเมืองเก่าฮอยอันค่ะ

สีสันตึกเก่าอะ

ปีที่แล้วก็ซื้อหน้ากากนี่แล้วที่ฮานอยค่ะ ปีนี้คงม่ายซื้อหล่ะ

ตู้เก็บมิเตอร์ไฟเค้าอะ แปลกตาดี ใช่บ่อ

เสาไฟฟ้าบ้านเค้าคะ ไฟเก๋เชียว

หลังจากเดินสร้างกระบนหน้าได้หลายจุดแล้ว
เราก็เตรียมตัวกลับห้องไปอาบน้ำรอ ขึ้นรถ sleeping bus ไป ฮานอยค่ะ
ที่ตัดสินใจเลือก sleeping bus แทน sitting bus เพราะว่า แพงกว่า คาดว่าน่าจะมีแต่นักท่องเที่ยวค่ะ ราคาตั้ง 15 USD แต่ถ้าเลือก sitting bus ราคาจะอยู่ที่ 9 USD. ค่ะ

แต่ระหว่างรอรถมารับ เราก็เห็นฝรั่งนั่ง sitting bus เยอะกว่าแหะ
ปรากฏว่า sleeping bus หน่ะ ที่นั่งโหลงเหลงค่ะ

แล้วระหว่างทาง ก็มีคนเวียตนามขึ้นมานั่งอีกตะหาก
แล้วก็โดนอีกแล้วค่ะ จู่ๆ ก็มีสาวเวียตนาม ประมาณเป็นพวกกระเป๋ารถ
ที่ขึ้นมากลางทาง ช่วงรถขับถึงเว้ อะน่ะ มาให้เรากะน้องชาย ย้ายที่นั่งสะงั้น
บอกให้ไปนอนที่นั่งหลังรถ ซึ่งแม้จะนั่งยังยืดหัวไม่ได้เลยค่ะ
ท้ายรถเป็นเหมือนส่วนต่อเติมอะนะ
เราก็ไม่ยอมสิคะ มีปากเสียงกันเล็กน้อย เค้าก็ว่าให้ understand me please! แล้วไมไม่ understand กรู มั่งฟระ ให้ผู้หญิงไปนอนรวมเบาะกะผู้ชายเวียตนามนั่นอะนะ

ครือว่า เบาะนอนหลังอะ มานเป็นเบาะรวม สุดท้ายเค้าก็ไม่ยอมท่าเดียว
ยังไงก็ต้องให้เราย้าย เราเห็นว่า หญิงญี่ปุ่น กะฝรั่งก็ยอมย้าย เราก็เลยต้องยอมมั่ง แต่ที่เราที่ถูกย้าย มันไม่น่านอนเลยนิ

ปรากกฏว่าสาวเจ้าก็ลงกลางทางค่ะ ก่อนออกจากเมืองเว้
เราเห็นเช่นนั้นปั๊บ ก็จัดการเลยค่ะ ย้ายที่นอนดีก่า เรื่องไร ต้องอึดอัดด้วย

นี่ครือ sleeping bus ค่ะ เก๋ไก๋ดี เมืองไทยน่ามีมั่ง

เราใช้เวลานอนในรถทั้งหมด 12 ชั่วโมงค่ะ ถึงฮานอยก็ เกือบ 7 โมงค่ะ

แล้วค่อยมาดูกันเด้อ ว่า 2 วันสุดท้ายที่ ฮานอยจะเป็นไงมั่ง
งวดนี้เที่ยวฮานอยแบบสบายๆ ค่ะ เพราะมาแล้วรอบนึง อิอิ

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551

Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 1:36:52 น.

Counter : 600 Pageviews.

4 comment

Share
Tweet

โฮ่ย อัง ร้อนโคตระ

วันที่ 3 แล้วค่ะ ที่เหยียบเวียตนาม
วันนี้ตื่นแต่เช้ามารอฟังข่าวว่าจะมีรถไปฮอยอันป่าว
แต่แล้วก็เป็นอย่างที่คาดค่ะ ว่าไม่มี เหลือแต่รอบ บ่ายสอง
เราเลยตรงดิ่งไปสถานีรถไฟดีก่า เพื่อให้ทันรอบ 10 โมงเช้า
ปรากฏว่าระหว่างเดินไป ผ่าน travel agency เจ้าอื่น เลยลองถามดูเผื่อฟรุ๊ก
มีที่นั่งเหลือไปฮอยอัน รอบเช้า แต่ก็เต็มเช่นกันค่ะ

เค้าแนะนำให้ไปรถบขส.ดีกว่า รถไฟค่ะ
เราเลยเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน จับมอไซค์รับจ้าง ไปสถานีรถบัส
คนละ 15,000 VND. แล้วเราก็เกิดการสู้รบตบมือกันที่นี่ค่ะ
เพราะเค้าไม่ต่อคิวซื้อตั๋วกันเลยค่ะ ต้องแย่งชิงกันน่าดูเชียว
โชคดีที่ทันได้ขึ้นรถตอน 8 โมงกว่าหน่อยๆ ค่ะ ได้นั่งด้วยโชคดีจัง

หลังจากนั้นรถก็สุดสายที่ดานังค่ะ เราก็นั่งรถบขส.ต่อไปฮอยอันค่ะ
ที่นี่เราไปมีเรื่องกะเป๋ารถเมล์เค้าด้วย แย่จัง แต่ดี โดนสะบ้าง 555

เห็นจากช่องขายตั๋ว ราคา 10,000 VND ค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ขายตั๋วให้
แต่พาเราไปที่รถเลยค่ะ ให้ไปนั่งรถได้เลย ก็ไม่ได้คิดอะไรอะนะ
จนกระทั่งรถแล่นไปได้สักพัก ก็มาเก็บตังค์เราค่ะ คนละ 40,000 VND. ค่ะ
อารายกันคระ มันจะเกินไปมั๊ยคะ นั่นน่ะ
สาวไทยใจกล้าขึ้นมาสะงั้น ปร๊ดทันทีค่ะ หันไปถามผู้โดยสารทั้งคันรถเลย
ว่ามีใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เงียบ ไม่มีเสียงตอบ มันฟังตรูพูดรู้เรื่องปะ
ไม่พูดไม่พอ ยังมองหน้ากลับทำยิ้มๆ ส่อแววล้อเลียนปะเนี่ย ไม่ยอมค่ะ ไม่ยอม อดทนไว้ มีโอกาสเมื่อไหร่ต้องขอคืน

ว่าแล้วโอกาสก็เป็นของเรา เมื่อรถห้อยโหนกันสุดยอด
ผู้โดยสารกลุ่มนึงที่มากันทั้งครอบครัวค่ะ มีเด็กเล็กอยู่ 1 หน่อ
แววตาอำมหิต ก็ข้าเจ้า ก็บังเกิด เมื่อเป๋ารถ หันมาอ้อนวอนว่าขอแบ่งที่นั่งให้เด็กหน่อย (เรานั่งข้างคนขับอะ) ฝันไปเถอะ ทีใครทีมัน

ช่วงนั้น เลวไปนิดนึง หันไปพูดกะเป๋ารถเมล์ว่า Why did you do that! you took my money 80,000 VND. and you will want me to share. No!!!

มาคิดอีกทีนึง เลวมากค่ะ แต่ทำไปแล้ว ช่วยไม่ได้ 555 ไม่สำนึกอีก

สุดท้ายครอบครัวนั้นเลยไม่ได้ขึ้นรถค่ะ ต้องรอรถเที่ยวต่อไป เราก็หันมาหัวเราะกะน้อง ประมาณว่า ข้าคือผู้ชนะ เลวมั๊ยๆ น้องได้แต่ทำตาปริบๆ แล้วบอกว่า อยุ่บ้านเค้า ควรจะทำตัวนิ่งๆ ไม่ต้องเด่น หือๆ ทำไปแล้ว จะให้ทำงัยล่ะคระ ก็คนมันปรี๊ดขึ้นมา

รถคันนี้แหล่ะค่ะ ที่จุดชนวน ปรี๊ด

แล้วเราก็โดนหลอกอีกรอบเมื่อถึงฮอยอันค่ะ
โดนหลอกซ้ำหลอกซ้อนไม่รู้จักเข็ด

พอลงจากรถปุ๊บ ก็มีมอไซค์รับจ้างอาสาจะพาไปแถวที่พักค่ะ
เราก็บ่นว่าเราเพิ่งโดนหลอกมา เค้าถามว่าโดนค่าตั๋วไปเท่าไหร่
เราก็ใส่ไฟเพิ่มจาก 80,000 เป็น 90,000 VND ค่ะ
มอไซค์รับจ้าง ก็หันไปมองหน้าเป๋ารถประมาณว่าแย่มาก แล้วก็บอกว่า
ทำกับเราเกินไปจิงๆ เสร็จแล้วก็บอกว่าค่ารถไปแถวที่พักหน่ะ คนละ 30,000 VND. น้องเราก็งงสิคะ บอกว่า แค่ 6 กม. ไม่น่าจะคิดแพงขนาดนี้ นั่นมันคนละ 60 บาทเลยนะคะ

เราเลยหนีดีก่า เดินไปตามแผนที่เนี่ยแหล่ะ มอไซค์เจ้าเดิมก็ตามมาอีกค่ะ
บอกว่า เราไปผิดทาง ต้องไปอีกทางนึง เด๋วเค้าให้ราคาคนเวียตนามเลย
คนละ 20,000 VND อ้าว ตะกี้ก็เก็บเกินราคาดิ แต่ตอนนั้นตรงท่ารถนี่ มองไม่ออกเลยค่ะ ว่าจะไปทิศไหน เราเลยต้องยอมนั่งมอไซค์ บอกให้เค้าไปส่งตรงแถว Sinh Cafe ค่ะ ปรากฏว่าระยะทางน่าจะใกล้แต่เค้าพาอ้อมเลี้ยวไปเลี้ยวมาค่ะ แง่ม ตรูโดนหลอกอีกแล้ว ก็รู้อยู่ว่าเพิ่งโดนหลอกมา ยังจะทำกันได้นะ

เนื่องด้วยอากาศที่นี่ร้อนมากกว่าเว้ค่ะ ตรงที่ว่าเว้ยังพอมีต้นไม้ตึกรามบ้านช่องใหญ่ พอเป็นร่มเงาให้เราได้บ้าง
แต่ที่นี่ไม่ค่ะ แดดเต็มๆ ทำให้เราเดินหาที่พักได้ไม่นาน ก็รีบตัดสินใจค่ะ
อีกอย่างราคาไม่แตกต่างกันด้วยค่ะ คือ ไม่ง้อลูกค้าค่ะที่นี่ ทำให้ต้องตัดสินใจเอา ค่าห้องที่ ราคา 10 USD. ค่ะ มีครบหมดทุกอย่าง แอร์เย็นเฉียบ ตู้เย็น ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า เตียงมีมุ้งให้ด้วยแหะ

แล้วเราก็ออกมาเช่าจักรยานขี่ค่ะ ได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ไม่ไหวค่ะ
ร้อนมาก จนต้องกลับที่พัก รอเที่ยวตอนแดดร่มอีกทีดีก่า

ทางเข้าสะพานญี่ปุ่นค่ะ

อาหาร special menu ของเค้าค่ะ มันก็ครือ ไข่เจียวดีๆ นี่เอง

ห้องนอนจ๊ะ ห้องนอน พออยู่ได้ นอนแค่ 2 คนพี่น้อง

ตกเย็นเราตะเวนหาร้าน White rose ค่ะจนเจอจนได้ นึกว่าจะอยู่เขตเมืองเก่าสะอีก ที่แท้ก็ไม่ไกลจากที่พักเราค่ะ
มาฮอยอัน เค้าว่าต้องมากิน White rose ให้ได้ค่ะ เค้ามีเมนูแค่ 2 จานค่ะ
ที่นักท่องเที่ยวมาถึงจะต้องสั่งค่ะ รู้สึกเจ้าของร้านจะพูดอังกฤษบ่อได้เด้อ
2 จานก็ล่อไป 80,000 VND. แล้วค่ะ ก็ไม่แพงมากอะนะ แต่มันไม่อิ่มอะ

หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นยามค่ำคืนค่ะ
เปิดไฟสวยทั้งเมืองค่ะ ในตัวเมืองเก่าอะนะ
น้องบอกว่า ดูๆ ไปก็คล้ายปาย แต่เราว่าที่นี่เป็นเมืองใหญ่กว่าปาย
แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบนี้ ไม่ต้องมาถึงนี่ก็ได้ค่ะ ปายก็ได้
ส่วนหลวงพระบาง ยังเทียบบรรยากาศไม่ได้ค่ะ เพราะหลวงพระบาง แม้จะมี night market แต่ที่นี่ได้บรรยากาศกว่าตรงที่ตึกสวยค่ะ
อ้อ ตกดึกเรากิน Com Ka ด้วยค่ะ มันคือ ข้าวมันไก่ ที่มีข้าวเป็นสีเหลืองค่ะ
ร้านนี้ตั้งข้างถนน แต่ดูแล้วขายดี คนท้องถิ่นมาจ่อคิวกันตรึมเลยค่ะ
เราเลยซื้อกินกะน้อง จานละ 15,000 VND ค่ะ ไม่แพงเลยนะ

หน้าตา white rose จานแรกค่ะ

หน้าตาเต็มๆ ของเค้า จะมีเครื่องเคียงน้ำจิ้มให้จิ้มคู่กันค่ะ

white rose จานที่ 2 ค่ะ เป็นเกี๊ยวทอดกรอบชิ้นโตๆ ค่ะ มีหมู 2 มุมเลยค่ะ

บรรยากาศยามค่ำคืนค่ะ

ถ้าไปตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวงทั้งเมืองจะปิดไฟและใช้จากโคมแทนค่ะ

ตอนดึกๆ ฝนตกด้วยค่ะ หนักด้วย แต่ก็แป๊บเดียวเอง ก็หยุดตก
เราก็เลยเดินต่ออีกหน่อย ก่อนกลับห้องไปนอน
เก็บแรงสำหรับเที่ยวพรุ่งนี้ช่วงบ่าย ก่อนจะนั่งรถ sleeping bus ไปฮานอย

เฮ้อ วันนี้เหนื่อยจิงๆ ตั้งแต่เช้าที่ต้องฟาดฟันกะรถบัสจากเว้มาถึงฮอยอัน

Create Date : 21 กรกฎาคม 2551

Last Update : 21 กรกฎาคม 2551 1:24:27 น.

Counter : 445 Pageviews.

2 comment

Share
Tweet

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13

chocomania

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

ได้เกิดเป็นคนทั้งที ใช้ชีวิตให้เต็มที่หน่อยดีมั๊ย

แต่ถ้ากระเป๋าตุง ก็คงทำได้อย่างใจอยากแล้วอะนะ

Friends' blogs

[Add chocomania's blog to your web]

Links

BlogGang.com

Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.