AZURE
Group Blog
 
All Blogs
 

เชียงราย: กะเชียงแสน เมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวาย

ชอบจังเลยค่ะ เมืองนี้ (อีกแล้ว)

ที่นี่เราพักที่ เชียงแสน โกลเด้นท์ แอนด์รีสอร์ทค่ะ

ไม่แพงเลย ห้องบนตึก คืนละ 800 บาท บ้านเป็นหลังสำหรับ 2 คน หลังละ 1,200-1,500 ถ้าหลังแบบนอนได้ 4 คน หลังละ 2,000 ค่ะ แต่ว่าไม่มีห้องแยกค่ะ ไม่ดีเท่าไหร่ ดูแล้ว เราเลยเอาแบบห้องตึกดีกว่า (จะเหมือนโรงแรม) อ้อ รวมอาหารเช้าให้ด้วยนะ แล้วก็มีจักรยานให้ขับฟรีๆ ชมเมืองด้วยแหล่ะ มีสระว่ายนำให้ใช้บริการฟรีด้วยจ้ะ

มาที่นี่วันเดียวก็น่าจะเที่ยวได้หมดค่ะ

เราไปที่ไกลก่อนเลยคือ สามเหลี่ยมทองคำ หลายคนถามว่าไม่แวะไปแม่สายเหรอ ก็ไปมาแล้วอะ เลยไม่ไปอีกแล้วก็ไม่ค่อยชอบ shopping เท่าไหร่ด้วย ที่สามเหลี่ยมทองคำ ก็ไปง่ายค่ะ ขับตรงอย่างเดียวเลย ที่นี่มีอารายมั่งเหรอ หึหึ

วัดริมน้ำเป็นวัดใหม่ (คาดว่าน่าจะสร้างมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวนา) เป็นวัดที่สร้างเป็นรูปเรือน่ะค่ะ แต่ก็มีจุดให้ถ่ายรูปมากมายเหมือนกัน เห็นคนเค้าถ่ายกัน แต่เราไม่นิยมถ่ายกะพระค่ะ เลยขอผ่าน (ไม่ได้เอารูปมาลงอะ ขี้เกียจ downsize อะ)
อ้อ ที่ไม่ควรพลาดที่นี่มีอีกวัดนึงค่ะ ชื่อ วัดพระธาตุภูเข้า อย่าลืมแวะไปนา ถึงดูภายนอกจะไม่มีไรมาก แต่ขึ้นไปข้างบนก็ดีค่ะ มาครั้งนี้ ได้อ่านประวัติเจ้าเมืองเชียงราย สะสมความรู้เยอะดี

อ้อ ใครจะแวะทานข้าวแถวนี้ก็ดีค่ะ เค้ามีร้านอาหารพรึ่บตั้งอยู่ริมน้ำโขง
อาหารก็มีหลากหลายค่ะ

จากที่นี่ เราย้อนกลับเข้าตัวเมืองเชียงแสนค่ะ ไปไหนบ้างน้อ

วัดป่าสัก- จริงๆ เสียค่าเข้าด้วย แต่ไปถึงเย็นมากแล้ว เลยได้เข้าฟรีค่ะ ไม่มีอะไรมากเป็นเหมือนลักษณะซากเมืองแต่โบราณ ที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ค่ะ ที่นี่ส่วนใหญ่ปลูกต้นสักค่ะ เค้าเลยเรียกว่า วัดป่าสัก

วัดพระธาตุจอมกิตติ- อยู่เลยจากวัดป่าสักออกไปเหมือนจะนอกเมือง แต่จริงๆ ไม่ไกลเลยค่ะ โบราณสถานแห่งนึงที่ควรมาชมเช่นกันค่ะ

วัดเจดีย์หลวง- อยู่ในตัวเมืองค่ะ กลางคืนมีเปิดไฟส่องอุโบสถด้วยค่ะ คาดว่าน่าจะสวย ว่าจะมาถ่ายรูปตอนกลางคืนอีกที แต่เอาเข้าจริงขี้เกียจแวะมาถ่ายอีกรอบค่ะ

วัดล้านนา- จากแยกสถานีตำรวจเลี้ยวขวาจะไปเชียงของใช่มั๊ยคะ เราไม่ไปค่ะ เราเลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆ ก็จะเจอวัดล้านนาค่ะ ที่นี่วัดเล็กค่ะ แต่ก็มีดีให้เยี่ยมชมเช่นกัน

วัดพระธาตุผาเงา- แนะนำเลยให้มา อยู่เลยนอกตัวเมืองไปอีกพอสมควร ดูแล้วอัศจรรย์ดี ยิ่งได้อ่านประวัติยิ่งอัศจรรย์เข้าไปอีก แนะนำค่ะ ไปเหอะแล้วจะอัศจรรย์ใจเช่นเรา มาที่นี่ มีที่ให้ชมอยู่ 3 อย่างค่ะ ก็ขึ้นไปชมบนเขาก่อนหละกัน ไม่ไกลหรอกค่ะ ขับขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ถึงเอง จะเป็นพระธาตุ... (ลืมชื่ออะ) เสร็จแล้วขับลงมาครึ่งทางจะเป็น อุโบสถไม้สัก มาดูสถาปัตยกรรมที่นี่ได้ เค้าสร้างทีหลัง ออกแบบดีค่ะ เดาว่าน่าจะให้สถาปนิกออกแบบให้โดยเฉพาะ ประมาณว่างานละเอียด และใช้สอยพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

จากประวัติพราะธาตุผาเงานี้ ค้นพบมาได้ประมาณ 30 ปีต้นๆ เองค่ะ

วัดพระธาตุ 2 พี่น้อง- วัดเล็ก คนมาเยือนน้อยค่ะ ก็จะมีพระธาตุองค์พี่ และพระธาตุองค์น้อง อยู่บริเวณใกล้เคียงกันค่ะ

ทะเลสาบเชียงแสน- ม่ายมีอารายเลย แหม มาสะไกล (พอดีอ่านจากประวัติทะเลสาบเชียงแสน เลยอยากมามากมาย แต่พอถามเจ้าหน้าที่เกษตรแถวนั้น เค้าว่าเป็นทะเลสาบเล็กๆ แต่ละแห่งมารวมกันกลายเป็นทะเลสาบผื่นใหญ่ค่ะ)


ที่น่าเสียดายคือพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ข้างวัดพระเจดีย์หลวงค่ะ พอดีว่าเย็นแล้วเลยปิดแล้ว จะมาเช้าอีกวันนึงก็ดันตรงกะวันที่ 5 ธันวาอีก เลยอดเลยค่ะ แย่จัง น่าเสียดายมาก น่าจะมีอะไรให้ชมเยอะแยะ

ที่นี่แนะนำว่า ใครอยากซื้อของฝากจำพวกของกินให้ซื้อได้ที่นี่เลยค่ะ ไม่ต้องไปเผื่อซื้อที่อื่น เพราะของเค้าถูกจริงๆ ค่ะ คงใกล้ท่าเรือขนส่งจากจีน เลยต้นทุนไม่สูงมาก อย่างเราซื้อ แมคคาเดเมีย มาจากบนดอยแม่สลอง ถุงละ 250 บาท (เค้าว่าของเค้าถูกแล้ว) พอลงมาเจอที่เชียงแสน เหลือถุงละ 150 ค่ะ เสียดายที่ซื้อมาแค่ถุงเดียว พ่อบอกว่า ให้ลองไปดูที่เชียงใหม่ เผื่อถูกกว่า ยี่ห้อเดียวกันนี่แหล่ะค่ะ พอมาซื้อที่สนามบินเชียงราย ถุงละ 240 ค่ะ สรุปว่า ที่เชียงแสนถูกกว่าค่ะ ร้านให้ซื้อก็เยอะด้วย เราซื้อสตอร์เบอรี่แช่อิ่มมา (ใช่ปะ เรียกงี้ปะ ไม่รู้) อร่อยดีค่ะ คนขายว่า มี 2 แบบ จากเมืองจีนจะหวานหน่อย และอร่อยกว่า กะจากเชียงใหม่ สีจะแดงกว่า แล้วก็เปรี้ยวกว่าค่ะ เราซื้อมา ครึ่งโล 200 บาท (หรือ 100 จำไม่ได้และ) แต่ที่สนามบินเชียงรายขายเป็นกล่อง กะด้วยสายตา แล้วน้อยกว่าค่ะ ราคากล่องละ 200 เหมือนกัน

อ้อ ที่เชียงแสนตอนดึกๆ ถ้าจะหาของทาน ให้ไปตรง 7-11 ติดถนนใหญ่ค่ะ ก่อนถึงแยกสถานีตำรวจ ถ้ามาจากทางเข้าเมืองนะคะ อยู่ตรงธนาคารกรุงเทพฯ หรือออมสิน นี่แหล่ะ ตรงนี้ จะมีร้านอาหารขายครึกครื้นดีค่ะ เพราะไปโซนอื่นแล้วเงียบเหลือเกิน

โดยสรุป เมืองนี้ก็ชอบค่ะ เพราะไม่วุ่นวายดี กลางคืนก็เงียบๆ แล้วก็เป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดปี เพราะเป็นเมืองค้าขายอยู่แล้วด้วย


เฮ้อ ไปลุยเชียงใหม่ต่อดีก่า เอิ๊กๆ




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552    
Last Update : 13 ธันวาคม 2552 15:45:12 น.
Counter : 457 Pageviews.  

เชียงราย:ดอยแม่สลอง กะบรรยากาศเมืองเล็กๆ

ชอบค่ะ ที่นี่ และจะมาอีกด้วย เส้นทางก็ง่ายด้วย ถนนก็ดี

บางคนอาจมองว่าไม่มีอะไร แต่เราชอบตรงที่มีถนนเมืองเล็กๆ ให้เดินดูไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะเป็นแต่ร้านขายของก็เหอะ

ที่นี่ เราพักที่ แม่สลองรีสอร์ท อยู่บนเขาค่ะ วิวดีมาก ได้เห็นมุมสูงของเมืองแม่สลองด้วย ห้องพักกว้างมี 3 ห้องนอน แล้วก็ห้องรับแขกด้านนอก ราคาต่อคืนแค่ 1,500 ค่ะ คิดดูพักได้จิงๆ เป็น 10 แหน่ะ ถ้ามากะเพื่อนแล้วนอนด้วยกันตรงห้องนอนใหญ่กะห้องรับแขกนะ

ครั้งนี้ ไม่ได้แวะสวนชาค่ะ พอดีเห็นข้างทางเยอะแหละ เลยเปลี่ยนไปนั่งชิมชาตามร้านเอา ตามล่าหาชายอดน้ำค้างอยู่ แต่เจอที่นี่ไม่หอมหวานเท่าที่เคยซื้อที่ปายค่ะ (แย่จัง) สงสัยเป็นชาที่เก็บมาหน้าฝนเลยยังไม่ค่อยหวานเท่าไหร่แหะ

เราแวะกินข้าวตามสไตล์อาหารยูนนานค่ะ ก็เหมือนๆ ที่เคยไปกินที่ปายที่หมู่บ้านสันติคีรี (ใช่ชื่อนี้ปะ)

ที่นี่มีที่เที่ยวหลักๆ ที่ไปก็
สุสานนายพลต้วน (ไม่มีไรอะ ขอบอก ก็มีโลงศพท่าน ให้กราบไหว้)
พิพิธภัณฑ์นายพลต้วน ที่นี่ เสียค่าเข้าคนละ 20 บาทค่ะ ก็มีอะไรให้ศึกษาและดูเยอะแยะแหน่ะ บังเอิญชอบดูพวกนี้อยู่แหล่ะ

แค่นี้แหล่ะไม่มีไรมาก พอดีใช้เวลาที่นี่ เดินเอาสะส่วนใหญ่ เดินไปเรื่อยๆ อะ ที่นี่ไม่หนาวเท่าบนดอยช้าง แต่ว่าตอนดึกอากาศก็ได้ที่อยู่เหมือนกัน โชคดี น้ำอุ่นช่วยไว้ ไม่งั้นไม่ต้องอาบน้ำมันทั้งทริปค่ะ

บาย เจอกัน เชียงแสนจ้า




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552    
Last Update : 13 ธันวาคม 2552 5:51:16 น.
Counter : 496 Pageviews.  

เชีบงราย: ดอยช้างกะคืนหนาวๆ (มาก)

ทริปนี้ เดินทางตั้งเกือบอาทิตย์แหน่ะ start ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวา ค่ะ
แต่ตอนดึกๆ นะ ครั้งนี้ไปกะครอบครัว 4 คนค่ะ พ่อ แม่ เรา กะน้อง
ที่พักคีนแรกเนี่ย ราคาถูกมาก ห้องละ 500 บาท มีอาหารเช้าให้ด้วยแฮะ (พิมานอินน์ อยู่โซนสนามบินเก่า)

ครั้งนี้ ตั้งใจเที่ยวดอย เพราะว่า ตัวเมืองเชียงรายดุแล้วไม่น่าจะมีไรมาก คงใช้เวลาไม่นานก็เรียบแล้ว (มั้ง)

ดอยที่ไปวันนี้ เป็นดอยวาวี กะดอยช้างค่ะ
แต่ก่อนอื่น เราแวะน้ำตกขุนกรณ์ก่อนค่ะ เพราะว่า วัดร่องขุ่น ไปมาแล้ว ไปที่อื่นมั่งดีก่า น้ำตกที่นี่ก็ดีนะ ไม่ถึงกะไม่มีอะไรสะทีเดียว คนที่ชอบเดินไปเรื่อยๆ ก็โออยู่ค่ะ ทางก็ไม่ลำบากมากค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกะสบายสะทีเดียว แต่ที่แน่ๆ ม๊ากะป๊า อายุก็คนละ 70 แล้ว เดินไปได้ค่ะ อันนี้ คนแถวนั้นยังชมเลย ว่าเก่งจัง (อิอิ แม่นู๋เอง)

เด๋วจะเอารูปมาลงนา

ออกจากน้ำตกขุนกรณ์เราก็ไปวาวีค่ะ เท่าที่เห็นในหนังสือท่องเที่ยว มันก็ดูมีไรให้แวะชมเหมือนกันนา แต่คุณพี่เจ้าของรีสอร์ทที่ดอยช้างแค่พาขับรถชมเมืองเท่านั้น กะแวะร้านชา ให้ซื้อของฝาก เลยดูเหมือนไม่มีอะไร (แย่จัง ถ้าขับรถมาเอง เราคงแวะไปเรื่อยๆ อะ)

จากวาวี เราก็ไปดูบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ที่นี่อยู่ดอยช้างค่ะ ถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 9 แห่ง ที่สำนักพระราชวังได้นำไปประกอบพิธีสำคัญเลยเชียวนะเนี่ย ที่นี่เราได้เห็นไผ่สีสุกด้วยแหล่ะ แปลกดี มี 2 สี เขียวกะเหลืองในตัวเนื้อไผ่

หลังจากนั้น เราก็ขึ้นไปต่อ เพื่อดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ

ที่ดอยช้าง เราพักที่ บ้านสวนดอยช้าง หรือชื่อเก่าคือ บ้านบนดอย ที่นี่ที่พักถือว่า น่ารักดีค่ะ ดูภายนอกก็ธรรมดา แต่ภายในก็ดูสบายๆ ดีค่ะ ทำด้วยไม้ไผ่ทั้งหมด ส่วนห้องนำ เจ้าของก็บอกว่า ตั้งใจแต่งมาดีค่ะ
ที่นี่มีลานให้กางเต้นท์ด้วยนะคะ ห้องน้ำสำหรับลานกางเต้นท์ก็ไม่ลำบากค่ะ แยกชายหญิงให้เรียบร้อย ใครสนใจพักที่นี่ ก็ลองดูนะคะ แต่ทางไปลำบากหน่อย เราเลยต้องเหมารถรีสอร์ทเอาค่ะ เห็นเค้าว่า อีกประมาณไม่เกิน 2 ปี จะทำทางขึ้นให้รถเล็กขึ้นได้สะดวกแล้วค่ะ

ที่ดอยช้าง เราได้เยี่ยมโรงงานกาแฟด้วยค่ะ เค้าเล่าถึงกรรมวิธีทำกาแฟในแต่ละกระบวนการอย่างให้เห็นที่มาที่ไปเลยค่ะ เราเลยซื้อกาแฟดอยช้างมาฝากเพื่อนๆ สักหน่อย เพราะตัวเองไม่ดื่มกาแฟอะดิ

ที่รีสอร์ทมีชงกาแฟสดให้ดื่มตอนเช้าด้วยค่ะ แต่เราว่าที่โรงงานชงให้อร่อยกว่าอะ (สงสัยว่าจะกินไม่เป็น เพราะที่รีสอร์ทเค้าชงแบบกาแฟดำอะ แต่เรากินไม่ได้อะ มานขมเข้มมากมาย)

เด๋ว resize รูปแล้วจะเอามาลงเด้อ




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2552    
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 23:32:31 น.
Counter : 683 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์หน้าฝน ตอนที่ 3

เซ็งเป็ดอะ


พิมพ์ไปตั้งเยอะ ดันเผลอปิดหน้าต่างไปสะเนี่ย หายหมดเลยอะ

เอาแบบย่อๆ ให้ตัวเองได้ระลึกเล็กๆ น้อยๆ หล่ะกัน

ที่นึกขึ้นได้คือ ไปที่นี่ตั้งใจจะไปกินข้าวมันไก่ค่ะ แล้วก็ได้กินหล่ะ

หาได้ไม่ยากค่ะ ข้าวเค้าแข็งไปหน่อยแต่ไก่อบนี่ อร่อยจิงๆ

หนมปังสังขยา ตามล่าหาจนเจอค่ะ อยู่ Fareast center เป็นสาขาที่เจ้าของร้านขายเองค่ะ ถ้าสาขาอื่นในห้างเป็นเฟรนไชส์ ค่ะ ก็ไปหาทานที่ fareast center ดีกว่าค่ะ

ทางไปก็ไม่ยาก ลงสถานี chinatown ก็เดินไปไกลหน่อย แต่ถ้าเดินจาก MRT สถานี raffles ก็เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ ที่ Raffles นี่เป็นย่านธนาคารเลยค่ะ มันมาตั้งกันครบทุก Bank เลยมั้ง

ร้านหนมปังสังขยาเจ้านี้ ดังมากค่ะ ดูจากลายเซ็นต์ของนักท่องเที่ยวจากหลากชาติมากๆ เลย แล้วก็มีลงในหนังสือพิมพ์แนะนำที่กินหลายชาติเหมือนกัน รวมถึงไทยด้วยค่ะ พอเค้ารู้ว่าเรามาจากไทย เค้าก็พูดไทยกะเราด้วยนะคะ ก็คงฝึกมาหลายชาติ ไว้ต้อนรับแขกต่างชาติค่ะ

เค้ามีขายแบบเป็น Set ค่ะ แล้วก็แบบซื้อแยก แนะนำว่ายังสั่ง french toast เลย มันก็แค่หนมปังชุบไข่ ธรรมดาอะ แต่ข้างในก็มีใส่สังขยาเหมือนกันนะ แต่เราว่ารสชาติมันจะกลบหนมปังปิ้งธรรมดาที่ใส่สังขยาอะ แต่สังขยาบ้านเค้ารสชาติหวานจังอะ ตอนนี้ชอบกินของไทยที่มีขายใน Puff&Pie ค่ะ ยี่ห้อ Blueberry คิดว่าไม่ใช่ของการบินไทยทำแน่ๆ ค่ะ แต่ไม่เห็นลงที่ให้ติดต่อเลยอะ

แถว fareast center จะมีร้านหนมปังปิ้งอีกร้านชื่อร้าน toast อะไรเนี่ยแหล่ะ อย่าไปซื้อเลยค่ะ มันก็แค่หนมปังปิ้งทาเนยมาการีน แบบบ้านเราเนี่ย
แหล่ะ ซ์อมาหละ รสชาติงั้นๆ ค่ะ

อีกอันคือ โดนัทค่ะ เค้าว่าที่นี่มีโดนัทรสชาติหลากกว่าบ้านเราค่ะ เราก็ไประเห็จหามาจนเจอค่ะ เราซื้อมารสทิรามิสุ ชาเขียว แล้วชีส ค่ะ ก็อร่อยดีแต่ชอบแป้งโดนัทของ ดังกิ้น หรือมิสเตอร์มากกว่าอะ

ของกินอีกอย่างที่ตั้งใจจะไปกินคือ White choc mocha ค่ะ อ่านที่รีวิว เจอว่าที่ไทยไม่มี เราก็ไม่ค่อยได้เข้า starbucks ที่ไทยบ่อยเท่าไหร่ เพราะไม่นิยมกาแฟ ยกเว้นแต่ Greentea frappuchino ของ starbucks อร่อยสุดๆ แล้วแหล่ะ
เราแวะไปกินแถว merlion ตรงปากแม่น้ำสิงคโปร์ วิวดีเห็นโรงละคร espanard ด้วยแหล่ะ ปรากฏว่า บาริสต้า ถามว่าจะใส่ coffee ป่าว เราก็งงอะ ถ้าไม่ใส่กาแฟ ก็ไม่ใช่ mocha สิ แต่เราไม่ชอบกินกาแฟ อยู่แล้วอะ เลยบอกเค้าไม่ใส่ รสชาติเลย เป็น white choc ธรรมดา

เที่ยวสิงคโปร์ เที่ยวนี้ ก้ไม่มีไรมากค่ะ ประมาณว่าเที่ยวชมตัวเมือง
จิงกๆ อยากไปอีกหลายที่ ใครว่าที่เที่ยวไม่มาก บังเอิญว่าเป็นคนชอบดูอย่างละเอียดมากกว่ามองผ่านๆ เลยรู้สึกว่าตัวเองยังชมเมืองสิงคโปร์ไม่ครบค่ะ แต่ไม่เป็นไร ไปอีกก็รู้แหล่ะ ว่าไปไม่ยากค่ะ

next trip could be Japan, anyone wants to join us

แต่ที่แน่ๆ ปลายปี จองตั๋วไปเชียงรายแล้วอะ ไม่รู้จะไปไหนดีอะ ใครแนะนำหน่อยจิ เพราะเชียงรายก็ไปเที่ยวที่เด่นๆ ของเค้ามาพอสมควรเหมือนกันอะ




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2552    
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 13:08:22 น.
Counter : 517 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์ หน้าฝน ตอนที่ 2

หลังจากเมื่อคืนทานอาหารดึกมาก คือ เกือบตี1 บ้านเค้าไม่ค่อยหลับนอนกันค่ะ หรือว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ป่าว ไม่รู้ เค้าเลยพักผ่อนกันเต็มที่

วันนี้ เรา plan ว่าจะต้องหาที่พักให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวค่ะ ระหว่างทางเลยขอเดินเล่น แถว little india ก่อน เพราะว่าเดินไปไม่ไกลมาก อีกอย่างถือโอกาสเดินชมเมืองด้วยค่ะ บ้านเมืองเค้าสวยดีค่ะ สีสันสดใสดี แต่ภายใน เห็นคนอินเดียเค้าอยู่กันแออัดเหมือนกันนา

เราเดินไปถึง little india ว่าจะแวะทานอาหาร ร้าน banana leaf อะไรสักอย่างแหล่ะ แต่ปรากฏว่า ยังไม่เปิดค่ะ เวลาตอนนั้นก็ 10 โมงแล้วด้วย ไม่เห็นร้านไหน เปิดกันสักร้านเลย

ไม่ไหว ฝนก็ตกหน่อยๆ แล้ว เลยเดินไปขึ้น MRT ดีกว่า เพราะไม่รู้จะดูไร เล่นไม่เปิดกันสักร้านเลยแหะ

ถึง MRT เรานั่งไปลง china town ค่ะ เพราะจะไปหาที่พักที่นั่นด้วย ปรากฏว่า ที่พักแพงไปหน่อยอะ คืนละ 1000 บาท ต่อคนนะคะ ด้วยว่า ทริปนี้ตั้งใจให้เป็น Budget trip ไม่ใช่ hiso backpacker ค่ะ เลยต้องจรลี หนีจาก china town มา

china town เหมือน little india ค่ะ คือ มานยังไม่เปิดร้านขายของกานเลย ยกเว้นร้านอาหารที่สิงคโปร์หาไม่ยาก เปิดกัน 24 ชั่วโมง กินกันได้ทั่งวันทั้งคืน ทั้งอาหารสไตล์แขก จีน มีให้เลือกหมดค่ะ

China town นี่เดินกันนานมากอะ ก็ยังไม่ได้ที่พัก เข้าทะลุแทบทุกซอยเลย สุดท้าย เพื่อนสาวบอกว่า ไม่มีแรงเหวี่ยงแล้ว กระเป๋าก็หนักมาก พวกเราเลยตัดสินใจไปหาแถว Bugis ต่อค่ะ เป็นงัยหล่ะ ครึ่งเช้าผ่านที่เที่ยวมา 3 แห่งเลยนา

ที่ Bugis เรามาโดย MRT เหมือนเดิมค่ะ ก็หาร้านก๋วยเตี๋ยวกินกลางวันกันก่อน ร้านค้าทุกร้านที่สิงคโปร์ เค้าให้จ่ายตังค์ก่อนค่ะ ถึงจะได้อาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านในห้องแอร์ หรือร้านข้างทางก็ตามค่ะ

ที่ Bugis เค้าว่าเหมือน จตุจักร บ้านเราค่ะ แต่ห้างตอนที่เราออกจาก MRT มา บังเอิญเห็นร้าน TOPSHOP กำลัง on sale เลยแหล่ะ ราคาที่ราวก็ประมาณ 1000 กว่าบาทไทย ถือว่าถูกนะ แต่ข้าเจ้าก็ไม่ได้ซืออะ เพราะแบบเสื้อยังไม่แจ่มเท่าไหร่

นี่ต้องข้ามมาตรงข้าม MRT เค้าค่ะ ตรง Bugis นี่แหล่ะ เดินไปรอบๆ ถนน เหอะ มีร้านเสื้อผ้าตามตรอกซอยเยอะแยะ เห็นเสื้อตัวนึงมี hood ลายตุ๊กตาหมี น่ารักดีอะ ราคาแค่ 200 บาทไทยเองค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ กะว่าเผื่อเจอน่ารักกว่านี้อีก ปรากฏว่าไม่เจอแล้วก็ขี้เกียจกลับไปซ์อแล้วอะ อดเลย กลับมาไทยซื้อเสื้อมี hood ของ Esprit on sale แล้วก็ยัง 700 บาท เฮ้อ ตอนนั้น ตรูน่าจะซื้อมาว่ะ

หลังจากเติมพลังข้าวกลางวันกันแล้ว เราก็นั่ง MRT ต่อ ค่ะ เพื่อหาที่พักต่อไป หนนี้ ได้ราคาถูกหลายแห่งเลยค่ะ เพราะโรงแรมแถว altunaid ตั้งอยู่ห่างตัวเมือง ประมาณ 2-3 สถานี ค่ะ สุดท้ายเราก็ได้ Minvah hotel ค่ะ ราคาคืนละ เกือบ 500 บาท ไม่แพงค่ะ สำหรับการพักต่างประเทศ เนอะ

เวลาที่เจอที่พักคือ บ่ายสองค่ะ OH MY GOD ก็ยังดีฟระที่ยังหาเจอ

ช่วงบ่ายเราไป Sentosa กันค่ะ เพราะว่าเลยช่วงเที่ยงมาแล้ว สมควรแก่เวลาในการไปเที่ยวได้แล้วค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าที่นั่น ร้อนมาก

เรามาเสียตังค์ที่ sentosa กันเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะค่าเข้าแต่ละแห่งของเค้าเป็นเงินไปหมดเลยค่ะ ตั้งแต่นั่ง Cable car ก็เกือบ 500 กว่าบาทแล้ว แล้วก็ค่าขึ้นเกาะด้วยค่ะ อีก 2 USG แล้วเราก็ขึ้น Tower ของเค้าด้วยค่ะ เพื่อชมวิว 360 องศา ขึ้นไปประมาณ 20 นาทีค่ะ กับสตางค์ค่าขึ้นไปอีก 12 USG (มั้ง) เช่นกันคร้าบ

ที่สิงคโปร์ นอกจากร้านกาแฟ Starbucks ที่เห็นกันเกลื่อนเมืองแล้ว ยังมีร้านกาแฟ ชื่อ Coffee Beans ที่เห็นกันมากเหมือนกันค่ะ แถมยังตั้งใกล้ๆ กันแทบทุกแห่งด้วย เราลองกิน cappuchino ของเพื่อน รสชาติก็ทั่วๆ ไปค่ะ ไม่ได้มีกลิ่นหอมมาก แต่ก็ไม่ได้ลองอย่างอื่นของเค้านะคะ แต่เห็นว่าน้ำผลไม้ของเค้าราคาถูกดีค่ะ ขวดอย่างโตเลย ดื่มหมดขวดคาดว่าจะอิ่มได้เป็นชั่วโมง
บนเกาะ Sentosa นอกจากร้านกาแฟ แล้วก็มีร้านไอติม Natural from Natherland มั้ง จำไม่ได้แล้วอะ แต่ที่กรุงเทพฯ ก็มี เรากินตั้งแต่มันเพิ่งเข้ามาในไทยแล้วแหล่ะ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เฉยๆ แต่ว่าอากาศที่นี่มันร้อนชะมัด เลยต้องขอซื้อกินสักโคนหน่อยเหอะ ก็ตก โคนละ เกือบ 100 ค่ะ (มั้ง)

ใครที่จะมาเที่ยว Sentosa ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเข้าชมที่ไหนดี ค่อยซื้อตั๋วบนเกาะก็ได้ค่ะ ราคาเท่ากัน แต่ถ้าใครรู้แน่ๆ แล้วว่า ชั้นจะเข้าที่ไหนบ้าง ก็ซื้อตั๋วได้ตั้งแต่ข้างล่างเลยค่ะ

Hilighted ของ Sentosa Island คือ Merlion ค่ะ Big สุดของทุกตัวใน Singapore แล้วค่ะ ถ้าจะเข้าไปในตัวมันก็ 8 USG ค่ะ แต่เราไม่ได้เข้าไปค่ะ มี Under Water World ด้วย ก็ไม่ได้เข้าเหมือนกัน เพราะว่าเข้าของไทยที่ Parogon มาแล้ว เค้าว่าของบ้านเราใหญ่กว่าบ้านเค้า เลยไม่เข้าดีก่า

วิธีการเดินทางมายังเกาะ Sentosa ก็เหมือนหลายคนที่ รีวิวกันมา เราเลือกนั่ง MRT มาลงที่ Habour front ก็จะออกมาโผล่ที่ห้าง แล้วก็เดินไปตามลูกศรชี้ทางไปนั่ง Cable car ค่ะ เส้นนี้ เดินทางสะดวกเหมือนกัน ไม่ต้องต่อรถอะไรให้มากมาย เหมือนตอนไปฮ่องกง ที่จะไปวัดใหญ่ น่ะค่ะ ออกจาก MRT ก็เจอห้าง เดินไปหน่อยเพื่อขึ้น cable car เด๊ะๆ เลย

พอ 6 โมงเย็น ก็สมควรแก่เวลาที่เราจะ move กันไปที่อื่นต่อค่ะ
เราตั้งใจว่าจะไปเอสพานาดค่ะและ Singapore frier (เขียนถูกป่าวหว่า)

หลังจากแทบจะงมเข็มในมหาสมุทรเพื่อหาทางไปไอ้ชิงช้าสวรรค์บ้านเค้าแหน่ะ หลงทางไปเป็นชั่วโมงแหน่ะ แต่ก็ได้ไปโผล่สถานที่เที่ยวที่อื่นของเค้าที่เราไม่ตั้งใจจะไปแหะ เช่น สถานที่เล่นว่าวบ้านเค้า design ได้สวยมากค่ะ เป็น stadium โค้งเป็นวงกลม ให้เดินเล่น หรือเล่นว่าวกันได้ตลอดทางเดินโค้งๆ นี่ค่ะ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ

อ้อ วันนี้เป็นวันชาติบ้านเค้าค่ะ จะเห็นใครๆ ก็ใส่เสื้อสีแดงกันทั้งนั้นเลยค่ะ

หลังจากถ่อหาทางไปนั่งเล่นชิงช้าสวรรค์ได้แล้ว อ้อ เราได้บัตรลดมาจากตอนเดินเล่นแถว little india แหล่ะ เลยลดค่านั่งไปได้ตรึมเลย จาก 69 USG เหลือแค่ 29 USG เอง ถือว่า save ไปได้เยอะเลย แต่ว่าเค้าไม่ให้เอาของกินเข้าไปนา โชคดีกะลังจะไปซื้อเบอร์เกอร์มากินแล้ว ดีนะที่ซื้อไม่ทัน ใครจะไปสิงคโปร์ ก็นั่งชิงช้าสวรรค์ ก็โอ อยู่ นะคะ ได้นั่งนานดีเหมือนกัน ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็ได้เห็นบ้านเมืองเค้าแบบเต็มๆ ในจุดที่สูงเลยค่ะ เราแอบเห็น Merlion อีกตัวด้วย แต่มันตัวเล็กมากๆ เลย ไว้พรุ่งนี้จะมาชมโฉมใกล้ๆ นะ คืนนี้ดึกแล้ว คงเดินไปดูไม่ไหวแล้วอะ อ้อ MRT ทีนี่ มีโบสถ์สวยนะ เป็นที่เที่ยวด้วย แต่จำชื่อไม่ได้อะ

ขากลับ เราลองนั่งรถเมล์ดูบ้างค่ะ ไปลงสถานี MRT แล้วก็ยิงยาวกลับที่พักเลยค่ะ คืนนี้ขอกินข้าวต้มกุ๊ยบ้านเค้าค่ะ ร้านข้างทางอย่างนี้ เค้าจะไม่พูดภาษาปะกิดค่ะ เค้าจะพูด Chinese กะเรา ซึ่งข้าเจ้าก็อุตส่าห์ไปเรียนมาบ้างเล็กน้อย ไม่กี่ชั่วโมง เลยยังจำอะไรไม่ได้ พอจะบอกเค้าว่า เอาข้าวต้ม ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดว่า จุ้ยฟ่าน ป่าว 555 ตรงตัวกันไปเลยค่ะ ราคาข้าวต้มกุ้ย บ้านเค้าถูกมากๆๆ ค่ะ กินกันอิ่มเลย

เฮ้อ คืนนี้พอแค่นี้แหล่ะ เหนือยจะตายอยู่แล้ว เดินอย่างเดียวเลย ตั้งแต่เช้า





 

Create Date : 02 สิงหาคม 2552    
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 12:05:32 น.
Counter : 1460 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

chocomania
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ได้เกิดเป็นคนทั้งที ใช้ชีวิตให้เต็มที่หน่อยดีมั๊ย

แต่ถ้ากระเป๋าตุง ก็คงทำได้อย่างใจอยากแล้วอะนะ
Friends' blogs
[Add chocomania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.