Tough Time Never Last ...But Tough People Do
Group Blog
 
All Blogs
 
19>ค่ายเยาวชน YMCA

ออกนอกบ้านก็กลัวบอมม์ลง อยู่บ้านเทรดหุ้น ก็แดง

เถือกซะจนขายหมดมือ... เพื่อน ๆ รู้สึกแบบนี้หรือเปล่า



ทุกอย่างจะอยู่ในความสงบ หากท่านใช้สติ สยบความ

เคลื่อนไหว

ได้ข่าวว่าบางแห่ง ยกเลิกงานวันเด็กที่จะจัด

ให้กับเด็กในวันเสาร์นี้ เพราะเกรงว่าเด็กจะเกิดอันตราย

ก็สงสารเด็ก ๆ เหมือนกันเนอะ เอาเหอะเว้นสักปี เพื่อ

ความปลอดภัย มาฟังเรื่องเข้าค่ายของลูก ๆ ดีกว่า



จากคุณ : ชราร่า - [ 10 ม.ค. 50 00:13:40 ]




--------------------------------------------------------------------------------

หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป








--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

เมื่อลูกเล็ก ฉันและคุณช้างพาลูกเที่ยวซะทั่วไทย พอโต

ขึ้นหน่อย นอกจากไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ลูกก็น่าจะได้เรียน

รู้กับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ๆ ซึ่งอันนี้สำคัญมาก ก็อย่างที่

บอก เราเองคนเป็นพ่อเป็นแม่ คงไม่สามารถอยู่ตามใจ

และ รู้ใจลูกได้ตลอดไป ดังนั้น ช่วงปิดเทอมในช่วง

ประถมต้นจนถึงประถมปลาย จึงเป็นระยะเวลาที่ลูกได้เข้า

ค่ายเยาวชนกับสมาคม YMCA ทุก ๆ ปิดเทอม คือเดือน

ตุลาคมและเดือนเมษายน ของทุกปี



เยอะเนอะ แต่ลูกก็กลับมาด้วยตัวดำเมี่ยม และหน้าเปื้อน

รอยยิ้มทุกครั้งไป



ทำไมต้องเป็นที่แห่งนี้ ก็บอกตามตรงว่า ยังไม่เคยรู้ว่ามี

แห่งไหนที่มีค่ายฤดูร้อนเป็นเรื่องเป็นราว ที่นี่ฉันได้เคยพา


ลูก ๆ มาว่ายน้ำบ้าง มาทำกิจกรรมต่าง ๆ บ้าง ก็เห็นว่ามี

ระบบการจัดการที่ดี รวมทั้งเป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ

ก็เลือกที่นี่แหละ ก็ข้อเลือกไม่มีให้มากนัก


เรื่องเตรียมตัว สำหรับเสื้อผ้า ข้าวของ อันนี้ฝึกมากับมือแต่

เด็กแล้ว ไม่ต้องห่วง สบายมากเริ่มต้นด้วย การ list

รายการ ส่งมาให้ฉันตรวจ แล้วจัดการเตรียมสิ่งของตามที่

ได้เขียนไว้ ของของใช้สำหรับหน้าหนาว หรือของจำเป็น

สำหรับหน้าร้อน ลูก ๆ ทำได้เป็นอย่างดี



เมื่อถึงเวลาฉันเพียงแต่ไปส่งเขาขึ้นรถบัสใหญ่ซึ่งออกจาก

สมาคม ฯ แถวสาธร เคยเห็นผู้ปกครองบางคนไม่ใช่แค่มา

ส่งจากที่นี่ แต่ขับรถตามรถบัสไปถึงบ้านฉาง จังหวัด

ระยอง บางคนก็เช่าบ้านพักที่อยู่ใกล้ ๆ กับค่าย แล้วแอบ

ดูลูกผ่านรั้วทุกเช้า ด้วยอยากรู้ว่าลูกทำอะไรบ้าง อยู่ได้

ไหม กินอาหารทางค่ายจัดไว้ได้ไหม เคยรู้ว่ามีการแอบ

ส่งขนม นมเนยให้กันด้วย ทำให้เด็กอื่น ๆ น้อยอกน้อยใจ

ว่า ทำไมพ่อแม่ของตัวเองไม่มา ส่งข้าว ส่งน้ำกันบ้าง มิใย

ที่ทางเจ้าหน้าที่ค่ายจะออกมาขอร้อง สิ่งเหล่านี้ก็มีให้เห็น

ทุกครั้งไม่ขาด



ลูก ๆ ของฉันก็เป็นหนึ่งในกลุ่มจำพวกทำไมแม่ไม่ไปเยี่ยม

บ้าง ได้อธิบาย แต่ลูกก็ยังไม่พยายามจะเข้าใจ จน

กระทั่ง เขาก็เบื่อถามไปเอง เพราะรู้นิสัยของแม่ช่าอยู่แล้ว

ว่า เป็นลูกแม่ต้องอดทน แล้ววันหนึ่งลูกจะตอบตัวเองได้

เองแหละว่าทำไม



จากคุณ : ชราร่า - [ 10 ม.ค. 50 00:19:24 ]






ความคิดเห็นที่ 2

ลูก ๆ เริ่มเข้าค่ายตั้งแต่อายุน้อยที่สุดตามเกณฑ์คือ 8

ขวบ ตอนแรก ๆ พี่เลี้ยงที่ค่ายฤดูร้อน ต่างก็กังวลเรื่องการ

ช่วยเหลือตัวเอง เพราะเป็น 3 คนที่มีอายุน้อยที่สุด เกรงว่า

จะต้องมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กตามเนอร์เซอร์รี่ย่อม ๆ แต่ปรากฏ

ว่า พวกพี่ ๆ ในค่าย ก็ผิดหวังตาม ๆ กัน แม้ว่าทุกอย่างไม่

ได้เรี่ยมเร้ เรไร การพับผ้า อย่าเรียกว่าพับเลย เรียกว่า

รวบดีกว่า... รวบเสื้อผ้ายัดมาเป็นก้อน ๆ ที่ใส่แล้วกับยัง

ไม่ใส่ก็ไว้ถุงเดียวกัน แชมพูลืมปิดฝา ยาสีฟันบีบซะ

ยับเยินบู้บี้ขมวดไปทั้งหลอด ผ้าขนหนูที่ขนกลับมาก็ยัง

เปียกและเต็มไปด้วยเม็ดทราย แต่ก็ไม่เคยเป็นที่หนักใจ

ซ้ำร้ายยังได้เป็นผู้ช่วยพี่เลี้ยงที่ดี ดีกว่าเพื่อนที่มีอายุ

มากกว่าอีกด้วย



ตลอดเวลา 6 ปี หรือ 12 ครั้งที่เข้าค่าย ลูกจะกลับมา

พร้อม เพลงค่ายใหม่ ๆ ท่าเต้นสนุก ๆ ตบแผะท่าแปลก

ๆ นิทานผีที่พวกพี่เลี้ยงชอบเล่าให้ฟังตอนกลางคืนที่น่า

ตื่นเต้นมากขึ้น พร้อมกับวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าใหม่ ๆ

ไม่ว่าการโรยตัวจากหอสูง การสังเกตรอยเท้าสัตว์ จอม

ปลวก การดูดาว การช่วยชีวิตคนด้วยการผายปอด การ

ทำแผล วิธีใช้หญ้าทะเลเมื่อโดนแมงกะพรุนที่สำคัญคือ

รู้จักรอ รู้จักเข้าแถว มีการจัดเวร เป็นนางฟ้าและ เทวดา

คือมีหน้าที่ทำกับข้าว ( ได้ยินว่า เมนูหลัก คือ เมนูไข่ และ

ก็ หมดทุกครั้งด้วย ไม่ว่าคนทำมื้อนั้นจะฝึมือแย่ขนาด

ไหน ) ตักข้าวและ กับข้าวแจกเพื่อน ๆ ตามโต๊ะยาว



ครั้งหนึ่ง น้องปัน กลับมาพร้อมกับบอกว่า สงสารน้องปูน

กับน้องไปป์จังเลย พี่ให้ถือถาดกับข้าวแจกตามโต๊ะ ด้วย

ความที่จานมีจำนวนมากในถาดหนึ่ง ๆ ทำให้น้องต้อง ถือ

จนตัวเอียง กับข้าวเกือบหกเลย เล่าไปก็ตาแดงไปด้วย

ความสงสารน้อง ขณะที่น้องแฝดไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะไม่

ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่มาอวดความรู้ใหม่ที่ได้มาในแต่ละ

ครั้ง


“แม่เคยเห็นแมงปอน้ำไหมครับ ไปคราวนี้ปูนได้เห็นด้วย

แหละ.....”….


“ แม่.. ไปป์หุงข้าวด้วยเตาถ่านเป็นด้วยแล้วครับ พี่เขา

สอน”.......



“หัวมันเผานะแม่ อร่อยสุดยอด พี่ให้เผาก่อนเตาถ่านจะ

มอด กินตอนร้อน ๆ หวานมากเลย...”

“ ทำไมเพื่อนบางคนต้องนอนเปิดไฟด้วยค่ะ เขาบอกว่าถ้า

ปิดไฟเขานอนไม่หลับ.... แต่ปันหลับไม่ลง ถ้าไม่ปิดไฟ”

“อ้าวแล้วทั้งเดือนลูกทำงัย...” “ พี่เขาก็ให้เอาผ้าคาดตา

ไว้ แต่ให้สลับวัน วันหนึ่งเปิดไฟได้ อีกวัน ก็เปิดไฟไม่

ได้”

“แล้วก็นอนไม่ค่อยหลับซิ...”

“หลับสบายดีแม่.. ก็เล่นทั้งวัน มันเหนื่อย ก็หลับง่าย แต่

บางวัน พี่ที่ค่ายมาเล่าเรื่องผีให้ฟัง เปิดไฟนอนก็ดีเหมือน

กัน...”

จากคุณ : ชราร่า - [ 10 ม.ค. 50 00:22:45 ]






ความคิดเห็นที่ 3

มีครั้งหนึ่งที่ หากใครจะพอจำได้ ตึกเพรสซิเด้นท์ ที่ตั้งอยู่

สี่แยกราชประสงค์ไฟไหม้ใหญ่ระหว่างการก่อสร้าง พวก

เราพ่อแม่ลูกกำลังลุ้นหน้าจอทีวีให้ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเฮลิ

คอร์ปเตอร์โรยเชือกลงมาช่วยจากชั้นที่มีไฟไหม้อยู่ หญิง

คนนั้น รับเชือกมาก็จับไว้ด้วยมือเปล่า เมื่อเฮลิคอบเตอร์

สาวเชือกขึ้นโดยมีร่างของหญิงสาวห้อยอยู่ปลายเชือก

ไม่นานหญิงคนนั้นก็หล่นลงมา คงหมดแรง หรือไม่ก็เป็น

ลม ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของคนเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เบื้อง

ล่างตึก ซึ่งแน่นอนพวกเราด้วยที่อยู่หน้าจอ


“ เขาทำไม่ถูก เขาทำไม่ถูก” จำไม่ได้ว่าลูกคนไหนที่พูด

ขึ้นมา

“ต้องเอาเชือกมาผูกรอบเอว แล้วโยงที่หว่างขา แล้วมาผูก

ไว้ที่เอวเป็นเงื่อนเป็นอีกที...”ลูกอีกคน ก็เสริม พ่อ

ช้างบอกให้เอาเชือกมาสาธิตให้ดู ก็รู้ว่าเป็นการป้องกันไม่

ให้ตัวพลัดตกลงมา กรณีว่าหมดสติ หรือหมดแรง ระหว่าง

ที่รับการช่วยเหลือ



“ลูกรู้มาจากไหน...” “วิทยากรที่ค่าย YMCA บอก เขามา

บรรยายและแสดงให้เด็ก ๆ ดูเกือบทุกรอบครับ จนปูนไป

ป์ ได้เป็นตัวแสดงสาธิต เพราะครูบอกว่า เราฟังหลายรอบ

แล้ว.....”



“ยังมีอีกหลายอย่าง แม่ เวลาตึกไฟไหม้ ก็หมอบต่ำ หลบ

ควัน เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกไว้ ไม่ใช้ลิฟท์…”



ดีใจที่ลูกได้รู้สิ่งเหล่านี้ บางสิ่งเราก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

การอยู่ในเมืองหลวงย่อมจะต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง

เช่นการอาศัยอยู่ตึกสูง การหนีไฟ การทิ้งขยะ มารยาท

ของการใช้ลิฟท์ มารยาทของการใช้บันไดและบรรได

เลื่อน การขึ้นลงรถไฟใต้ดิน



จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักจากการส่งลูก

ออกไปออกค่าย แต่สิ่งที่ลูกได้รับรู้ มา มากเกินกว่าที่คาด

หมาย ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจ ไม่ใช่หรือ



จากคุณ : ชราร่า - [ 10 ม.ค. 50 00:25:15 ]






ความคิดเห็นที่ 4

อ่านแล้วก็...ชื่นใจเบิกบานจริงๆ...

คุณแม่ฯ น่าจะทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คนะครับ...









จากคุณ : akae - [ 10 ม.ค. 50 07:29:14 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ตามมาเชียร์อีกครั้ง อ่านแล้วสนุกสนาน


ตอนเด็กๆ เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว (เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น) มีโลกส่วนตัวของตัวเอง


คงเพราะเราไม่มีโอกาสไปเข้าค่ายแบบนี้


พ่อแม่ไม่ชอบให้ไปเล่นซนข้างนอก สั่งให้เล่นซนอยู่ในบ้านอย่างเดียว


แต่ก็โชคดีที่บ้านมีทั้งสระน้ำ สวนกล้วย ทำให้มีของเล่นสนุกๆ ไม่มีเบื่อ


ใครเคยทำม้าก้านกล้วย กับปืนยาวบ้าง เด็กๆ ทำกัน แล้วไปเล่นตำรวจจับโจรสนุกดี


ปืนยาวเวลายิงจะมีเสียงดังปังๆๆๆ ไม่ต้องทำเสียงเอง หรือใส่ถ่านแบบเด็กสมัยนี้


พอเหนื่อยก็แอบไปเล่นน้ำในสระ อันนี้ถูกตีบ่อยๆ เพราะจะเลี้ยงปลาอยู่ในนั้น


แม่ให้เหตุผลว่าสกปรก มีแต่เชื้อโรค ไอ้เราก็ไม่เข้าใจ เพราะเมื่อกี้นี้กินน้ำไปอึกใหญ่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร


คิดถึงตอนเด็กแล้วสนุกดี มีความสุข









จากคุณ : wasansem - [ 10 ม.ค. 50 08:48:22 ]






ความคิดเห็นที่ 6



ผมรู้จักแต่ค่ายลูกเสือเท่านั้นเอง ง่ะ..............

จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 10 ม.ค. 50 09:24:23 ]






ความคิดเห็นที่ 7

^ ^ เด็กโบราณเหมือนกัน เคยแตไปค่ายลูกเสือ :)

จากคุณ : BeSmile - [ 10 ม.ค. 50 09:40:13 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ไปค่ายลูกเสือ ได้กินแต่ถั่วเขียวต้มอ่ะครับ

จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 10 ม.ค. 50 10:48:19 A:221.128.91.227 X: TicketID:125129 ]






ความคิดเห็นที่ 9

มาทักทาย คุณแม่ช่า ครับ

สวัสดีครับ

จากคุณ : Vprawat - [ 10 ม.ค. 50 11:26:56 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ฮิฮิฮิ...ขอเข้า ชมรมค่ายโบราณ(ลูกเสือ) ด้วยนะครับ...

โตขึ้นเป็นหนุ่มก็ไปเข้าค่าย รด.

..









จากคุณ : akae - [ 10 ม.ค. 50 13:00:03 ]






ความคิดเห็นที่ 11

อิอิ ผมก็ค่าย ลูกเสือ กับ รด. ครับ


อ่านกี่ทีก็เบิกบานเช่นกันครับอ่านแล้วได้อะไรหลาย ๆ อย่าง เยอะมาก ๆครับ


ถ้าพี่ช่า ทำเป็นหนังสือเมื่อไหร่ขอจองด้วยเลยน่ะครับ อิอิ









จากคุณ : ozzyii - [ 11 ม.ค. 50 10:44:08 ]






ความคิดเห็นที่ 12

ดีครับ พี่ช่า อ่านตามมาทีหลังแบบซุ้มๆ อิอิ









จากคุณ : wayu_w - [ 11 ม.ค. 50 19:08:11 ]






ความคิดเห็นที่ 13

เห็นทุกคนอ่านแล้วทำให้นึกถึงวัยซน ตอนโน้น ก็อด

อมยิ้มไม่ได้ สมัยก่อนเวลาเล่น ได้ตากแดด ตากลม

มันดีกว่าสมัยนี้เยอะเลยเนอะ พ่อแม่ห่วงลูกก็เลยเก็บ

ไว้แต่ในห้องแอร์...

จากคุณ : ชราร่า - [ 11 ม.ค. 50 22:01:11 ]






ความคิดเห็นที่ 14

สวัสดีค่ะ พี่ช่า


ลืมคลับนี้ไปนาน เพิ่งมีโอกาสกลับมาแวะก็วันนี้ ได้อ่านที่พี่ช่าเขียนแล้ว รู้สึกดีใจที่ลูกๆ มีพี่ช่าเป็นคุณแม่


ซ้อเองก็จะทำตามแบบพี่ช่าค่ะ ให้ลูกเรียนรู้โลกรอบตัวให้มาก จะไม่ขังเขาไว้ในบ้าน ทุกวันนี้ลูกโทนี่ก็ออกไปเดินนอกบ้านทุกวันค่ะ เสียอย่างเดียว บ้านเป็นตึกแถว ไม่มีสนามหญ้า ต้องพาลูกไปเดินในซอย มีรถเข้าออกบ้าง ก็ต้องคอยระวังกันไป


น่าอิจฉา ญี่ปุ่นที่มีสวนเด็กเล่นเยอะ ที่กรุงเทพฯ ไม่มี เลยต้องเอาซอยข้างบ้าน เป็นสนามเด็กเล่นแทน


จะคอยตามอ่านพี่ช่านะคะ สนุกมาก และจะเอาเป็นแบบอย่างด้วยค่ะ

จากคุณ : ซ้อสี่ค่ะ (คิมิเอะ-จัง) - [ 12 ม.ค. 50 12:57:32 ]






ความคิดเห็นที่ 15

เย้... วิ๊ดวิ๊ววววว.... เย้..ย..ย..ย..ย..ย

ดีใจจัง ซ้อสี่ ผู้ร่วมทำให้เราได้รู้แนวคิด DSM

ยินดีมั่กมั่ก ค่ะ ซ้อ สบายดีนะคะ หุ่นสวยเหมือน

เดิมแล้วซิคะ หลานโทนี่ล่ะ คงหล่อเหมือนพ่อ

และเฉลียวฉลาดอย่างแม่

วันไหนหลานโทนี่ ไม่กวนมาก ก็เข้ามาแจมกับ

กระทู้พวกเราหน่อยซิค่ะ แล้วปอดของซ้อไปถึงไหน

แล้ว อุ้ย ดีใจ ดีใจ

จากคุณ : ชราร่า - [ 13 ม.ค. 50 09:50:16 ]






ความคิดเห็นที่ 16

เข้ามาคารวะและสวัสดีปีใหม่ ...เจ้าของกระทู้คลาสสิค

พี่ซ้อสี่...


ครับ...









จากคุณ : akae - [ 13 ม.ค. 50 11:24:27 ]









Create Date : 28 มกราคม 2550
Last Update : 28 มกราคม 2550 20:15:33 น. 2 comments
Counter : 2312 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ดีใจจังค่ะ ที่ได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับค่ายแบบนี้ เพราะเคยเป็นผู้นำค่ายเยาวชนเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ว่าน้องๆได้เรียนรู้อย่างเดียวนะคะ เพราะน้องๆก็ให้ประสบการณ์ที่ดีในการทำงานกับพี่ๆ ผู้นำด้วยเหมือนกันค่ะคุณแม่น้องปูน&น้องไปป์


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:25:10 น.  

 

คุณนักเดินทาง ฯ อาจเคยเป็นพี่เลี้ยงของปุน ไปป์ ก็ได้นะคะ


โดย: แม่ช่า (ชราร่า ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:42:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชราร่า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




");}
Friends' blogs
[Add ชราร่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.