Tough Time Never Last ...But Tough People Do
Group Blog
 
All Blogs
 
11>ต้อนรับน้องใหม่

ที่จะเล่าสู่กันฟังตอนนี้ก็คือ วิธีที่จะให้พี่
คนโต ที่เดิมก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ใคร ๆ ก็เอา
ใจ ด้วยความที่มาก่อนคนอื่น ทุก ๆ อย่าง
ก็เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวในบ้าน ไม่ว่า
จะเป็นของเล่น เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้
อันใด โต๊ะเก้าอี้ ชาม และแก้วน้ำที่เป็น
สิ่งเล็ก ๆ สีสรรสวยงาม นั้น รับมือกับน้อง
ที่เคยอยู่ที่ท้องแม่ ให้รักน้อง ช่วยแม่
เลี้ยงน้องได้อย่างไร

โดยเฉพาะน้องที่มาทีเดียว สองคน ! ! !
--------------------


ตั้งแต่ยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ทั้งเพื่อน ๆ ญาติ ๆ มาเยี่ยมกันคึกคัก ตัวฉันเอง
เหนื่อยและเพลียมาก แผลผ่าตัดยังสดและเจ็บอยู่ แต่ก็ต้องฝืนใจขึ้นมารับแขก บางวัน
คิดว่าจะได้พักสักงีบหนึ่ง ก็ได้แค่งีบสั้น ๆ เท่านั้น


เรื่องการเยี่ยมคนไข้หรือคนป่วย ก็ออกจะทำใจกันได้ลำบาก ไม่ไปเยี่ยม ก็อาจหาว่า
ไม่ใส่ใจ หลายครั้งก็อยากให้ได้พักผ่อนจริง ๆ เพราะไม่งั้น ก็คงไม่นอนโรงพยาบาล
ใช่ไหม แต่คนไทยเราก็มักจะทำใจไม่ได้ หากได้ยินข่าวว่ามีใครไม่สบาย แล้วไม่ไปเยี่ยม
จะบอกว่าจริง ๆ แล้วคนไข้อยากพักผ่อนมาก ๆ


ด้วยทุกคนอยากเห็นลูกแฝดก็เลยอาจจะมาเยี่ยมมากกว่าปกติ คุณพยาบาลตั้งกะบะแก้วไว้
คู่กันหน้ากระจกห้องเลี้ยงเด็กอ่อน หลังจากอยู่ตู้อบครบ 3 วันแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะเปรียบเทียบ
ความเหมือน ความต่างของลูกฉัน หลายครั้งที่ออกจะเคือง ๆ เพราะไม่ค่อยชอบให้
ใครมาวิจารณ์ คล้ายกับตัวตลก แต่ก็อ่อนเพลียเกินกว่าจะไปทำอะไร


กล่องของขวัญ สำหรับลูกทั้งสองมีมากมาย เพราะส่วนใหญ่จะให้สองชิ้น ที่สำคัญก็คือ
ให้เป็น 2 ชุดเหมือนกัน และมักจะเป็นสี และ แบบเดียวกัน ถ้าเป็นของเล่นหรือของใช้
ก็เหมือนกันอีกคงอยากให้ใช้ของและแต่งตัวเหมือนกัน


แต่ในหนังสือที่ฉันได้รับจากนายที่ทำงาน คือวิธีเลี้ยงลูกแฝด โดยกลุ่มแม่ลูกแฝดในอเมริกา
ทำการรวมตัวกัน เขียนขึ้นมาโดยอาศัยประสบการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตความผิดปกติ
พฤติกรรมที่อาจเกิดในเด็กแฝด การเลื่อมเวลาให้นม การให้ยา การเรียน ความจำ และอื่น ๆ
อีกซึ่งดีมาก อย่างน้อย ๆ ก็เป็นสิ่งเดียวที่ฉันยึดเหนี่ยวไว้เพื่อเลี้ยงลูกท้องสองนี้


สิ่งหนึ่งที่ในหนังสือเขียนไว้ซึ่งย้ำให้หลีกเลี่ยง ก็คือแต่งตัวเหมือนกัน หรือการดำเนินชีวิตประ
จำวันที่เหมือนกัน เพราะจะเป็นสาเหตุให้เด็กขาดความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากหากเราแสดง
ให้เด็กรู้สึกว่า หากแฝดคนที่หนึ่ง แต่งแบบนี้ แฝดคนที่สองก็ต้องแต่งเหมือนกันนั้น ก็จะ
สร้างให้เกิดนิสัยไม่มีความคิดริเริ่มแต่แรกซึ่งโดยเหตุและผล ฉันเอง ก็เห็นด้วยอย่างมาก


ดังนั้น เสื้อผ้าข้าวของที่เหมือนกัน จึงถูกแยกออกมาเป็นสองชุด ชุดหนึ่งไว้ใช้ อีกชุดก็เก็บ
ไว้เพื่อให้คนอื่น ต่อไป หรือไม่ก็อาจนำมาใช้ในวันข้างหน้า ของเล่นก็เช่นเดียวกัน
ญาติ ๆ และ พี่เลี้ยงเด็ก จะไม่ค่อยพยายามเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ ทุก ๆ คนหาว่า
คนชอบขวาง ชอบฝืน ที่จะให้ลูกใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกันโดยเฉพาะเวลาจะพาลูกออกนอกบ้าน
แต่ฉันก็รู้ว่า เมื่อไรที่ฉันไม่อยู่ ก็จะแอบให้น้องใส่เสื้อเหมือนกัน ก็เอาเหอะ ถือว่าไม่เห็น





อ้าว ก็เลยเขียนไม่เข้าประเด็นที่อยากจะพูดให้ฟังในกรณีที่ลูกคนโต จะยอมรับน้องคนใหม่ได้อย่างไร



พอรู้ว่า น้องแฝดได้ของขวัญมากมาย กลับไปที่บ้านลูกสาวคนโตวัยไม่ถึง 16 เดือน
คงยากที่จะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันจึงออกอุบายให้คุณช้างไปซื้อของขวัญสำหรับ
เด็กหญิง อีกประมาณ 5-6 กล่องหลายหลากออกไป เป็นเสื้อผ้าบ้าง ตุ๊กตาบ้าง แอบไว้
คราวนี้พอแขกผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมกลับไปแล้ว แม่ช่าก็จะเรียกพี่ปันมาใกล้ ๆ

“นี่จ๊ะน้องปัน คุณป้าณี ฝากกล่องนี้ไว้ให้หนูนะคะ เพราะป้าณีรู้ว่า หนูจะช่วยแม่เลี้ยงน้อง
ก็เลยให้เป็นรางวัลจ๊ะ” น้องปันยิ้มแก้มปริ หรือไม่ก็....

“ลุงสน ฝากของขวัญให้พี่สาวคนเก่งนะคะ”

ซึ่งจริง ๆ เป็นของที่เราซื้อเองและแอบไว้หลังตู้ไม่ให้ลูกเห็น เดี๋ยวจะไม่เนียน..


ส่วนหากคนที่มาเป็นเพื่อน ๆ ที่พอจะบอกกันได้ ก็จะโทรขอกันตรง ๆ


“พี่นิดจ๊ะ ตอนมาเยี่ยมหลานแฝด ขอขนมกล่องเล็ก ๆ ฝากให้น้องปันด้วยนะจ๊ะ”

“เออจริงซิ ได้ ๆ เดี๋ยวซื้อให้ด้วยอีกชิ้น ยัยช่านี่ความคิดดีแฮ่ะ”

“น้องปัน ป้านิดฝากของเล่นให้พี่ปัน กับน้องนะคะ 3 กล่อง น้องยังเล็ก พี่ปันเก็บให้น้อง
ก่อน ส่วนกล่องนี้ตุ๊กตาของปันเลย อันนี้ ชอบไหม” คำนี้เล่นเอาพี่ปัน อกพอง เป็นพี่แล้วนะ
เป็นพี่แล้ว ส่วนป้า ๆ น้า ๆ ทั้งหลาย ยังเอาวิธีนี้ไปใช้สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีลูกคนที่สอง
หรือสาม แต่จะซื้อเผื่อคนเป็นพี่ด้วยเสมอ


อีกเรื่องหนึ่งที่ฉันทำแล้วได้ผล เต็ม ๆ ก็คือ คุณช้างจะไม่ต้องเข้ามามีส่วนในน้องแฝดเลย
คุณพ่อ จะเป็นคนดูแลพี่ปัน คนเดียว บอกให้พี่ปันรู้ว่าช่วงนี้แม่ดูแลไม่ไหว เพราะต้องดู
น้องแฝด ดังนั้น ปันจะไม่รู้สึกเหงา หรือถูกแย่งเอาความรักไปหมด เพราะแม่ช่าแบ่งหน้าที่
ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว


ส่วนหากพี่ปันอยากมาช่วยแม่ดูน้อง ก็จะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ก่อน เช่น พี่ป้นจะมีหน้าที่หยิบ
แพมเพิส หรือผ้าอ้อม เวลาน้องจะใช้ แม่หรือพี่เลี้ยงก็จะเรียกหา

“พี่ปัน พี่ปัน น้องขอผ้าอ้อมจ๊ะ โอ้ยย เก่งจัง น้องปูน กับน้องไปป์รักพี่ปัน เพราะพี่ปัน
ใจดีนะคะ”


น้องปันจะวิ่งเข้ามาทำหน้าที่ทุกครั้ง จนเป็นงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ หลายครั้งที่มักจะชี้นิ้วไปที่
ก้นน้อง แล้วหันหน้ามามองแถม
มีเสียง เออ อ้า ด้วยความที่ยังพูดไม่ได้ เสมือนถามว่าน้องเปียก หรือยังหลัง ๆ เริ่มรู้งาน
เลียนแบบจากพี่เลี้ยง ก็คือ จับก้นน้องเอง พอรู้สึกว่าน้องเปียก ก็จะร้องเสียงดัง
และวิ่งไปที่ตะกร้าผ้าอ้อมทันที


คนที่มาเยี่ยมเยอะ ๆ ก็มีทั้งมาแสดงความยินดีจริง ๆ ที่เราโชคดีมีคราวเดียวสองคน นัยว่า
ประหยัดค่าคลอดแต่ก็ยังมีอีกจำพวกหนึ่ง จะเรียกว่า พวกเจตนาดีประสงค์ร้าย ก็คงไม่ผิด

“นี่ นี่ ช่า อย่าหาว่าพี่พูดไม่ดีนะ อันนี้สำหรับคนสนิทนะคะ ไม่สนิทก็คงไม่กล้าพูด
เรื่องการมีเด็กแฝดในบ้านเนี่ยะ โดยเฉพาะเด็กชาย”

ฉันเริ่มทำใจ บอกตัวเองว่า คำทำนายจะมาอีกแล้วงั้นเหรอ


“ …. มีอะไรเหรอคะ”

“คือคนพูดกันว่า ถ้ามีแฝดในบ้าน ก็ให้แยกเลี้ยงกันซะ อยู่ด้วยกัน คนใดคนหนึ่งจะไม่รอด...”

“วิธีการก็คือ ยกให้คนอื่นไปเลี้ยง หรือไม่ก็ยกให้พระเลี้ยงแทน...”


ทีแรก ก็นึกว่า เพื่อนรุ่นพี่จะพูดเล่น คงกะ จะขอลูกฉันไปเลี้ยง เพราะเธอแต่งงานนานแล้ว
แต่ยังไม่มีลูกแต่ด้วยเรื่องนี้ มีคนมากกว่า 4 คน มาพูดในลักษณะเดียวกันหมด กระทั่ง
เกิดกระแสความคิดที่เห็นด้วยขึ้นมาในวงญาติของคุณช้าง ว่าหลานแฝดคู่นี้ จะต้องถูก
แยกออกจากกัน ! ! !


“… ถ้าอยู่แล้ว บ้านนี้จะมีเหตุไม่ดี ช่ากับลูกก็จะย้ายออกไปเองดีกว่า คงไม่สร้างความ
ลำบากให้แน่นอนค่ะ ไม่ต้องเป็นกังวล..” ฉันอาสาเองในค่ำวันหนึ่งบนโต๊ะอาหาร


“….ก็ไม่ใช่ว่าจะขับไส ไล่ส่ง แต่เป็นธรรมเนียมที่พ่อแม่ก็ต้องอยู่กับลูกชายคนโต
ช่าจะทิ้งให้คนแก่อยู่กันเอง แล้วพาลูก 3 คนย้ายออกไปได้อย่างงัย”


“ถ้างั้น ก็อยู่ด้วยกันแบบนี้แหละ หากเกิดเหตุอะไรขึ้น ช่า ก็จะรับผิดชอบเอง แต่ขอร้อง
ไว้อย่างเดียว อย่าพูดเรื่องทำนองนี้อีกต่อไป ใครมาพูดอีก ก็ไม่ต้องฟัง.. และไม่ต้อง
มาเล่าให้ฟังด้วย” ฉันเสียงเข้ม เรื่องดังกล่าว ก็หยุดไปโดยปริยายนับแต่วันนั้น


แม่ของฉันซึ่ง ได้มาเยี่ยมฉันพร้อมให้น้องชายหาบตะกร้าจีนใบใหญ่สองใบ มารับขวัญ
หลานชาย คนแรกของบ้านตามธรรมเนียมจีนเท่งไฮ้ ประกอบด้วยไข่ไก่ 40 ใบ ส้ม
กล้วย และขนมจันอับ อีกจำนวนหนึ่ง มาอวยพรกับญาติผู้ใหญ่ของทางคุณช้าง


“..วันนี้เอาขนมมายินดี มีหลานแฝด เปรียบเสมือนมีตะเกียงคู่อยู่หน้าบ้าน จะส่อง
ความเจริญและให้แสงสว่างกับคนในบ้านนี้ไปตลอด ดีใจด้วยนะคะ”

แม่ฉันซึ่งฉันไม่เคยเล่าเรื่อง ที่ผู้หวังดีประสงค์ร้ายบอก แต่กลับนำเรื่องที่ดี ๆ มาให้
ซึ่งเห็นได้ว่า อยู่ที่มุมมองที่แตกต่างกันจริง ๆ มาถึงวันนี้ก็ 22 ปีแล้วที่เลี้ยงกันมา ก็มีแต่เรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขื้นมาตลอด โดยเฉพาะวันที่แฝดทั้งสองจบการศึกษาจากสถาบันระดับต้น ๆ ของประเทศ ฉันนึกถึงคำแม่

”เด็กสองคนนี้ จะเป็นตะเกียงหน้าบ้านสองดวงที่ส่องให้แสงสว่างกับคนในบ้านตลอดไป”

และแน่นอนที่สุด เป็นตะเกียงที่ให้ความอบอุ่นกับใจฉันด้วย





Create Date : 28 มกราคม 2550
Last Update : 28 มกราคม 2550 20:07:50 น. 0 comments
Counter : 412 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชราร่า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




");}
Friends' blogs
[Add ชราร่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.