Group Blog All Blog
|
หลากหลายความคิดเกี่ยวกับเดือนเมษายน
 แล้วเดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนที่สี่ของปีปฎิทินก็ย่างกรายเข้ามาตามวัฎจักรของมัน มันมาแล้วก็ไปตามจักรราศี หากไม่คิดอะไรมากนัก มันก็เป็นเพียงเดือนหนึ่งของปีเหมือนเดือนอื่นๆ แต่ผมจะมาชวนให้คิดกันสักหน่อยว่า เดือนเมษายน มีอะไรให้คิดกันบ้าง เมษายนเรามาเริ่มกันที่อุณหภูมิก่อน เดือนนี้มีอากาศร้อนมากกว่าเดือนอื่นๆ นักดาราศาสตร์เขาบอกว่าเดือนนี้แกนของโลกเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์มากกว่าเดือนอื่นๆ จึงทำให้รับแสงอาทิตย์มาก เท็จจริงอย่างไรก็ไปถามนักดาราศาสตร์เอาเถอะ ผมจำขี้ปากเขามาได้เท่านี้แหละ ทีนี้ถ้าจะมาคิดแบบไทยๆที่เป็นทางการหน่อย ก็จะต้องบอกว่าเดือนเมษายนมีวันสำคัญที่พวกเราคงไม่ลืมคือ วันที่ 1 เป็นวันข้าราชการไทย และทางราชการก็จะมีการแจกรางวัลสำหรับข้าราชการดีเด่นประจำปีกันอย่างครึกครื้นจำนวนหลายร้อยคนทั่วประเทศ แจกกันมาหลายปีแล้วประชาชนคนไทยระดับรากหญ้ายังบอกว่า ข้าราชการที่ยังไม่ดีเด่นก็ยังมีมากกว่า (ฮา) งั้นต้องไปถามสำนักงาน กพ.ว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไงกัน?วันที่ 6 เป็นวันจักรี ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก วันที่ 13 วันสงกรานต์ วันที่ 14 วันผู้สูงอายุ (ดีใจจังที่มีวันนี้) วันที่ 14 วันครอบครัว รวมๆแล้วเรียกว่า วันสงกรานต์ หรือ เทศกาลสงกรานต์ ที่ว่ามานั้นคิดแบบเป็นทางการ ถ้าคิดแบบปัจเจกชน (แปลว่าอะไรก็ไม่รู้) บางคนที่เป็นวัยเด็กอาจจะคิดถึงฤดูการเล่นว่าว ทั้งที่ต่างจังหวัดและท้องสนามหลวง วัยหนุ่มขึ้นมาเฉพาะเพศชายก็คงคิดถึงฤดูการเกณฑ์ทหารในหลายท้องที่ ซึ่งเขานิยมเกณฑ์ทหารในเดือนเมษายนนี้ วัยหนุ่มสาวที่ทำงานแล้วคงคิดถึงการมีวันหยุดระยะยาว ปีนี้โชคดีมีวันหยุดยาวสองระยะคือ ระยะแรกช่วงวันจักรี (6-8 เมษายน) ช่วงที่สองเทศกาลสงกรานต์ (13-17 เมษายน) ใครที่ไม่มีภาระกิจต้องไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ก็คิดหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ จะเป็นที่ไหนใกล้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มี สุดท้ายก็คิดถึงอุบัติเหตุว่า ปีนี้จะมีคนตาย บาดเจ็บ และทุพลภาพเท่าใด จากการเดินทางไปต่างจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่างก็ออกมาประชาสัมพันธ์ว่าจะลดการตาย บาดเจ็บให้น้อยลงกว่าปีก่อนๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าคนไทยเรานี่ไม่กลัวตายเลยนะ ต้องให้คนอื่นเขามารณรงค์ว่าอย่าตายมากนักเลยนะ ทูลหัว.....ตายแล้วมันเกิดง่ายหรือไงยะ? (ฮา)  ชีวิตบนผืนผ้าด้วยสีธรรมชาติ
 ภาพประกอบด้านบนและด้านล่างนี้ ผมนำมาลงประกอบเพื่อให้ข้อเขียนนี้มีความสมบูรณ์ขึ้น เมื่อวานนี้ผมเปิดเคเบิ้ลทีวี ได้ดูรายการสารคดีช่อง Panorama Channel มีสารคดีเรื่องหนึ่งชื่อว่า ชีวิตบนผืนผ้าความจริงผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับผ้าเช่น อ.เผ่าทอง ทองเจือ หรอกครับ และไม่คิดที่จะศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าแต่ประการใด ที่นำสารคดีเรื่องนี้มาถ่ายทอดต่อในบล็อกนี้ เพราะผมสนใจชีวิตของชายผู้หนึ่งที่เป็นตัวนำในสารคดีนี้ เขาไม่ใช่คนไทย แต่เป็นฝรั่งสัญชาติอะไรในสารคดีนี้ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ เขาเข้ามาคลุกคลีอยู่ในหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงหรือปะกากะญอ บริเวณลุ่มแม่น้ำสบเมยมานานร่วมยี่สิบห้าปีแล้ว เขาเล่าว่า ครั้งแรกที่เขาเข้ามาที่หมู่บ้านนี้ เพียงต้องการจะช่วยเหลือชาวเขาเผ่านี้เกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย แจกยาให้กิน แต่เขาเล่าว่าชาวเขาเผ่านี้ค่อนข้างจะไม่สนิทสนมกับคนแปลกหน้าง่ายๆ ยิ่งเขาไม่รู้ว่าคนๆคนนี้เข้ามามีเป้าหมายอะไร ต้องใช้เวลานานหลายปี จนสังเกตุได้ว่าชาวกระเหรี่ยงเผ่านี้มีสภาพความเป็นอยู่ยากจนมาก ไม่มีรายได้อะไรมากนัก เขาจึงแนะนำชาวกระเหรี่ยงหมู่บ้านนี้ให้นำพืชพื้นเมืองในป่ามาสกัดเป็นสี สำหรับย้อมผ้าที่ทอขึ้น เป็นสีธรรมชาติที่สวยงาม แปลกใหม่ และไม่ต้องซื้อเหมือนสีเคมีที่ขายในท้องตลาดผมสนใจที่ฝรั่งคนนี้เข้ามาใช้ชีวิตในป่าเขาร่วมกับชาวเขา และพยายามปรับตัวให้เข้ากับชาวเขาจนได้รับความไว้วางใจอย่างดี อะไรเป็นเหตุบันดาลใจให้เขาทำอย่างนี้ เพราะการใช้ชีวิตในป่าเขาที่กันดาลอย่างนี้ คงเป็นเรื่องที่ทำกันไม่ได้ง่ายๆ  ห้องนั่งเล่น ตอนท่านเชื่อหรือไม่
ท่านเชื่อหรือไม่ เดลิเมล์ - ว่ากันว่า ณ ที่หนึ่งที่ใดในโลกใบนี้ มีใครคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนคุณราวกับแกะ และบางทีเขาหรือเธอคนนั้นอาจอยู่ใกล้ๆ ชนิดที่คุณคิดไม่ถึง คนหน้าคล้ายเหล่านี้ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด แต่กลับหน้าตาเหมือนกันอย่างกับฝาแฝด หลายคู่อาศัยอยู่บนถนนสายเดียวกัน หรือกระทั่งในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน และขณะนี้ คนหน้าคล้ายหลายคู่ถูกรวบรวมอยู่ในอัลบั้มของช่างภาพนาม ฟรังซัวส์ บรูเนลล์ ที่ตระเวนเดินทางรอบโลกเพื่อค้นหาคู่เหมือน หลายคู่ในจำนวนนี้ไม่เพียงหน้าตาเหมือนกันเท่านั้น เพราะเมื่อเพ่งพิศพินิจดูจะเห็นว่า พวกเขามีจมูก ตา และโครงหน้าราวโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน โครงการตามเก็บภาพคนหน้าคล้าย 200 คู่ของบรูเนลล์ ช่างภาพลูกครึ่งฝรั่งเศส-แคนาดาวัย 56 ปี ได้แรงบันดาลใจจากเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ที่เพื่อนหลายคนวิจารณ์ว่าหน้าตาของเขาเหมือนกับมิสเตอร์บีน ที่สวมบทโดยโรแวน แอตคินสัน "ตอนที่เห็นเขาครั้งแรกในทีวี ผมรู้สึกเหมือนว่ามีคนสร้างหนังเรื่องนั้นให้ผม ตั้งแต่นั้นผมใฝ่ฝันที่จะเจอตัวละครตัวนี้และถ่ายรูปคู่กัน แต่ความฝันนั้นห่างไกลเหลือเกิน" ความฝันดังกล่าวทำให้บรูเนลล์หมกมุ่นตามหาคนหน้าคล้ายคู่อื่นๆ และเมื่อประกาศเชิญชวนออกไป ปรากฏว่ามีคนหน้าคล้ายถึง 140 คู่ติดต่อกลับมา ในจำนวนนี้รวมถึงนีนา-โรส ซิงห์ กับแอนนา รูบิน ที่อายุ 29 ปีเท่ากัน แม้มาจากภูมิหลังต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยซิงห์เป็นลูกครึ่งอินเดีย-ฮังกาเรียน ขณะที่รูบินมีเชื้อสายผสมกันวุ่นวายระหว่างรัสเซีย โปแลนด์ และเยอรมัน แต่ทั้งคู่เรียนเต้นรำเหมือนกันสมัยเป็นวัยรุ่น และต่างย้ายไปอยู่มอนทรีอัล ประเทศแคนาดา ผู้หญิงทั้งสองถูกแนะนำให้รู้จักกัน หลังจากไปสักที่ร้านเดียวกัน และเจ้าของร้านสังเกตเห็นความเหมือน หลังจากนั้น ซิงห์กับรูบินก็คบหาเป็นเพื่อนสนิท และมารู้ทีหลังว่าอยู่ตึกเดียวกัน แถมเกิดวันที่และปีเดียวกันอีกต่างหาก อีกคู่เป็นนักศึกษาที่เริ่มเลียนแบบครูสอนอุปรากรโดยไม่รู้ตัว ส่วนอีกคู่บังเอิญไปถ่ายรูปร้านเดียวกัน และพบว่าใส่เสื้อเชิ้ตติดกระดุมย้อนยุคเหมือนกัน "เป้าหมายของผมคือ ทำให้คนหน้าคล้ายเหล่านั้นมีตัวตนตามธรรมชาติ ผมหลงใหลเรื่องนี้ตรงที่คนสองคนหน้าตาเหมือนกันโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวมาก่อน เป็นคู่เหมือนที่เหมือนกันกระทั่งทำให้เพื่อนของอีกฝ่ายทักผิด" "ธีมของโปรเจ็กต์ของเราคือ ความเหมือนและตัวตน ภาพในอัลบั้มชุดนี้จะสะท้อนประเด็นร้อนแห่งยุคคือ การโคลนนิ่ง" ถึงตอนนี้ บรูเนลล์ถ่ายภาพคนหน้าคล้ายเก็บไว้แล้ว 140 คู่ จากลอนดอน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดา โดยคนทั้งหมดต้องหาเสื้อผ้าและดูแลการแต่งหน้ามาเอง บรูเนลล์บอกว่า เขามีแผนบันทึกภาพคู่เหมือนเหล่านี้ไว้ในหนังสือชื่อ 'ฉันไม่เหมือนใคร' ถ่ายทอดจาก ผู้จัดการออนไลน์ โหราศาสตร์กับชีวิตประจำวัน (1)
 ในชีวิตประจำวันของคนเรามักจะต้องพัวพันกับบางสิ่งบางอย่างแบบไม่รู้ตัว เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ความจำเจอาจทำให้คนเรามองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป หรืออย่างน้อยก็ละไว้เป็นที่เข้าใจว่า สิ่งเหล่านั้นมันต้องมี ต้องอยู่ ต้องเป็น เช่นอากาศที่เราหายใจ กดสวิซท์ไฟฟ้ามันต้องมีกระแสร์ไฟฟ้า เปิดก๊อกน้ำมันต้องมีน้ำไหลออกมา จะมากหรือน้อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนเราจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ หรือหงุดหงิดก็ต่อเมื่อสิ่งเหล่านั้นมันหายไป  ในชีวิตประจำวันของคนเรา มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องพบต้องใช้เป็นประจำวัน นั่นคือ เลขมันจะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตคนเราตั้งแต่เช้าตรู่ของวันใหม่สำหรับคนที่ต้องไปทำงาน เช่น นาฬิกาปลุกให้เรารู้ตัวว่าเป็นเวลาที่ควรตื่นแล้ว และตลอดทั้งวันบางคนอาจจะต้องดูนาฬิกาข้อมือเป็นประจำ บนหน้าปัทม์นาฬิกาก็มีตัวเลขบอกเวลา ภาษาและตัวเลขเป็นของคู่กัน ไม่ว่าชาติไหนๆในโลกนี้หากมีภาษาสำหรับการสื่อสารกัน ก็ต้องมีตัวเลขใช้ควบคู่กันไป ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน หากสามารถรู้ภาษาหนังสือก็ต้องรู้จักตัวเลขด้วย บางคนสามารถรู้ด้วยว่าตัวเลขมีความซับซ้อนและมีอิทธิพลเหนือความคาดหมายของมนุษย์ด้วยซ้ำ และรู้ด้วยว่าตัวเลขมีอิทธิพลสัมพันธ์กับบรรดาดวงดาวบนท้องฟ้า ทั้งนี้เกิดจากการศึกษาเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่องนับเป็นพันๆปี จึงเกิดศาสตร์ขึ้นมาสาขาหนึ่ง เรียกว่า เลขศาสตร์    แนวคิดการให้ของขวัญแบบโหราศาสตร์ (ตอนจบ)
 ราศีมังกร หมายถึงผู้ที่เกิดตั้งแต่ 16 มค.ถึง12 กพ. หรือมีลัคนาอยู่ราศีมังกร ผู้ที่เกิดราศีนี้เป็นคนหนักเอาเบาสู้ เป็นคนรอบคอบ ชอบสันโดษ มีความภูมิฐานและเป็นคนมีรสนิยมสูง ฉะนั้นของขวัญที่ถูกใจชาวราศีมังกรคือเครื่องประดับที่มีรสนิยม เช่น นาฬิกา เนคไทที่บ่งบอกรสนิยมสูง แต่สีต้องเรียบๆไม่ฉูดฉาด น้ำหอมกลิ่นผู้ดี ไดอารี่ปกหนังอย่างดี เสื้อสไตล์เรียบง่ายแต่ดูดีมียี่ห้อ สิ่งที่ท่านต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลือกของขวัญให้ชาวราศีนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ท่านต้องเน้นถึงคุณสมบัติ คุณภาพ ประโยชน์ใช้สอยและต้องมีแบรนด์  ผู้ที่เกิดราศีกุมภ์คือ เกิดตั้งแต่วันที่ 13 กพ.ถึง 13 มีค.หรือมีลัคนาอยู่ที่ราศีกุมภ์ ชาวราศีนี้เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา มีความคิดสร้างสรรค์ มีมนุษยสัมพันธ์ดีคบกับคนได้ทุกระดับชั้น ชอบสนุกสนานเฮฮา ของขวัญที่ถูกใจมากๆถ้าจะเป็นวิสกี้ยี่ห้อดีๆสักขวด บัตรรับประทานอาหาร บัตรส่วนลดสถานที่ตากอากาศดีๆ เสื้อยืดเก๋ๆ ถ้าเป็นของนอกยิ่งถูกใจมาก ปากกางามๆ เทปเพลงหรือซีดี ถ้าเป็นไดอารี่สวยๆสักเล่มก็ถูกใจเช่นกันนะ  ชาวราศีมีนหมายถึงผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 14 มีค.ถึง 12 เมษ. หรือมีลัคนาอยู่ที่ราศีมีน ชาวราศีมีนเป็นคนที่เข้าใจยากสักหน่อย รักความเป็นอิสระ ชอบความมีระเบียบและเป็นคนประณีต มีจิตใจเมตตากรุณา ชอบหนังสือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นวรรณคดี นวนิยาย เรื่องสั้น หนังสือแปล หนังสือธรรมะ ดังนั้นของขวัญสำหรับชาวราศีนี้คือ หนังสือทุกประเภท เทปหรือซีดีเพลงเก่าอมตะ ถ้าเป็นวัยรุ่นก็การ์ดอวยพรเก๋ๆสักใบ  ชาวราศีเมษคือผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 13 เมย.ถึง 13 พค. หรือผู้ที่มีลัคนาอยู่ราศีเมษ เป็นคนที่มีนิสัยตรงไปตรงมา เอาจริงเอาจัง รักความิสระ มีลักษณะเป็นู้นำ เป็นคนมีความคิดสร้างสรรคและชอบการพัฒนา ของขวัญที่ถูกใจชาวราศีนี้คือ เสื้อยืดสีแดง สีแสด สูทที่ดูแล้วงามสง่าทันสมัย เนคไทสีสด และชอบเครื่องประดับเกือบทุกชนิด เช่น นาฬิกา สร้อย แหวน หรือเครื่องประดับที่ประกอบด้วยอัญมณี เช่น เพชร โกเมน บุษราคำ ทอง เครื่องหนังเช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ เป็นต้น แนวทางที่กล่าวมาทั้งหมด 12 ราศีนี้ เป็นเพียงพื้นฐานทางโหราศาสตร์เท่านั้น หากท่านจะซื้อของขวัญอะไรให้ถูกใจผู้รับจริงๆ ท่านควรจะศึกษา นิสัย รสนิยม ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาให้ถ่องแท้ และคำนึงถึงความพร้อมของท่านด้วย ขอให้โชคดีครับท่าน |
หนุ่มร้อยปี
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง  Friends Blog
|
