ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

สาวประเภทสองหัวใจนางฟ้า พาคนถูกฟันเลือดท่วมส่งรพ.

สาวประเภทสองหัวใจนางฟ้า พาคนถูกฟันเลือดท่วมส่งรพ.

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

วานนี้ (3 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Laphit Wongthawi ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นชายวัยรุ่นนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ในสภาพเลือดอาบไปทั้งตัว โดยมีสาวประเภทสองรายหนึ่งเป็นผู้พามาส่ง และคอยพูดคุยปลอบคนเจ็บ พร้อมระบุข้อความว่า

"เมื่อสักพัก ขณะที่ปิงกำลังขับรถเข้าบ้าน เจอน้องวัยรุ่นคนนึง นอนจมกองเลือดอยู่บนฟุตปาธ ข้างถนน ซึ่งเลือดไหลไม่หยุด แล้วไม่มีใครพาไปส่งโรงพยาบาลค่ะ ปิงเลยอาสาพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่สภาพบาดแผลที่ปิงเห็น คือ "โดนฟันด้วยมีดทั้งตัว" !! สืบเรื่องมาได้ความว่า น้องเจอกลุ่มแก๊งผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-6 คน ใช้ผ้าปิดบังทั้งใบหน้าแล้วขี่มอเตอร์ไซค์มารุมกระหน่ำฟันเค้าทั้งตัว พอเห็นว่าน้องแน่นิ่งไปแล้ว ก็รีบแยกย้ายหนีไป !! จิตใจคนสมัยนี้น่ากลัวมากๆ ค่ะ"

อย่างไรก็ตาม ชาวสังคมออนไลน์ต่างเข้ามากดไลค์และชื่นชม "น้องปิง" กันเป็นจำนวนมาก ว่าเธอมีน้ำใจที่งดงาม ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเธอคนเจ็บอาจเสียชีวิตไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเสียงผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่บอกว่าทำไมไม่พาคนเจ็บไปที่โรงพยาบาลที่ใหญ่กว่านี้ ซึ่งสาวผู้นำคนเจ็บมาส่งก็อธิบายไปว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งที่เธอทำก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วในการรักษาชีวิตคนเจ็บ




 

Create Date : 04 เมษายน 2558    
Last Update : 4 เมษายน 2558 13:39:23 น.
Counter : 2001 Pageviews.  

สาว 19 ร้องมูลนิธิปวีณา พ่อเลี้ยงข่มขืน ท้องลูก 2

สาว 19 ร้องมูลนิธิปวีณา พ่อเลี้ยงข่มขืน ท้องลูก 2

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

สาววัย 19 ร้องปวีณา ถูกนาน 12 ปี ตั้งท้องลูก 2 คน โดยมีแม่แท้ๆ คอยบังคับ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.โบ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.เขมภัทร โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ให้ติดตามจับกุมพ่อเลี้ยงข่มขืนจนตั้งท้องลูก 2 คน โดยมีแม่แท้ๆ ที่สมรู้ร่วมคิดและทำร้ายร่างกาย

น.ส.โบ เล่าว่า แม่เป็นลูกจ้างร้านอาหารตามสั่ง ส่วนพ่อเลี้ยงทำงานก่อสร้าง ตั้งแต่เล็กตนเองอาศัยอยู่กับยายจนกระทั่งอายุ 7 ปี แม่พาพ่อเลี้ยงมาเยี่ยม และขอรับตัวไปอยู่ด้วยในแคมป์คนงานก่อสร้างย่านนนทบุรี และมีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่แม่ไม่อยู่ พ่อเลี้ยงได้ข่มขืนพอแม่จับได้ก็ไม่ว่าอะไร พ่อเลี้ยงก็กระทำเรื่อยมา จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน นอนอยู่ในมุ้งเดียวกัน 3 คน เวลาที่พ่อเลี้ยงมีเพศสัมพันธ์กับแม่ เมื่อสำเร็จความใคร่ก็จะหันมามีเพศสัมพันธ์กับตนต่อ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแม่ก็บังคับให้ตนเองยอมจนอายุได้ 12 ปี ก็ตั้งท้องกับพ่อเลี้ยง และอยู่กันเรื่อยมา จนกระทั่งอายุ 15 ปี ก็ตั้งท้องลูกคนที่ 2 อีกคน ที่ผ่านมาเคยขอแม่จะไปอยู่ที่อื่น แต่แม่ก็ไม่ยอม เมื่อไปขอความช่วยเหลือจากใคร แม่ก็จะไปตามกลับมาและทุบตี

เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้รู้จักกับเพื่อนบ้าน จึงตัดสินใจออกไปทำงานก่อสร้างที่อื่น ระหว่างที่พักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงาน ก็ถูกคนงานก่อสร้างเข้ามาข่มขืนแล้วก็หลบหนีไปอีก ตอนนี้ตนตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว และวันก่อนกลับมาหาพี่คนหนึ่งเพื่อปรึกษาขอความช่วยเหลือ แม่ก็ตามมาเจอ ก่อนจะใช้ไม้หน้า 3 ทุบตีเข้าที่ท้องและตามร่างกาย พร้อมกับฟาดท้ายทอยจนล้มสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมาแม่ก็บังคับให้กลับบ้าน ตนจึงแกล้งเดินตามไป กระทั่งมีรถจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งผ่านมา จึงเรียกให้ช่วยพาหนี ก่อนจะเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ

ในเวลาต่อมา พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง ได้นำกำลังไปจับกุม นายทองดี อายุ 46 ปี คน กทม. และ นางสาวสร้อย อายุ 45 ปี คน จ.กำแพงเพชร ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ จ.241/2558 ลงวันที่ 1 เมษายน 2558 โดยสามารถจับผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ที่แคมป์คนงานก่อสร้างเขตบางบอน แขวงบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาทั้งแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยง ข้อหาได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดานหรือผู้อยู่ในความปกครอง โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

นายทองดี พ่อเลี้ยงให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำชำเรา น.ส.โบ (นามสมมุติ) ตั้งแต่อายุได้ 12 ปี จนกระทั่งมีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกอายุได้ 5 ขวบครึ่ง และคนที่สอง อายุ 3 ขวบ ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
คุมเข้าห้องขังดำเนินคดีต่อไป




 

Create Date : 03 เมษายน 2558    
Last Update : 3 เมษายน 2558 7:40:19 น.
Counter : 1571 Pageviews.  

เปิดใจคุณตา ขอเก็บศพเมียไว้จนกว่าตนจะสิ้นลม

เปิดใจคุณตา ขอเก็บศพเมียไว้จนกว่าตนจะสิ้นลม

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากกรณีที่ พบศพ น.ส.ซกกี อายุ 83 ปี ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2557 รวมระยะเวลาเกือบ 10 เดือน มีสามี นายยม อายุ 78 ปี คอยดูแลศพภรรยาไม่ห่าง อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จนกระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ผงะตาอยู่กับศพเมียเกือบ 10 เดือน)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 เม.ย.) นายยม เปิดเผยถึงชีวิตการครองรักครองเรือนอยู่กับอาม่าซกกี น.ส.ซกกี มานานกว่า 44 ปี ว่า อยู่กินฉันสามีภรรยากันมาตั้งแต่อาม่าซกกี อายุ 38 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 44 ปี ไปมีครอบครัวอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ

นายยม กล่าวต่อว่า ตนกับภรรยายึดอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีบ้างขาดบ้าง แต่ไม่เคยทอดทิ้งกัน ภรรยาอยากกินอะไรแพงแค่ไหน ก็จะเก็บเงินซื้อมาให้กิน อย่างเช่น ภรรยาอยากกินกุ้งกิโลกรัมกว่า 300 บาท ก็หามาให้กิน ยิ่งตอนภรรยาเดินไปไหนไม่ได้ ความจำเริ่มหลงลืม ตนยิ่งไม่เคยทอดทิ้ง คอยดูแลปรนนิบัติหาข้าวหาน้ำ ขนม มาให้กินทุกวันถึงในมุ้ง รวมทั้งเก็บเช็ดล้างสิ่งขับถ่ายให้ทุกวันไม่เคยรังเกียจ

แม้กระทั่งเมื่อภรรยาสิ้นใจ ก็ยังเอาข้าวเอาน้ำ ขนม โอวัลติน มาให้กินก่อนทุกวันตอนเช้าจากนั้นตนจึงจะกินของที่เอามาให้ภรรยา ความตั้งใจจะขอเก็บศพภรรยาไว้บนบ้านในห้อง เพื่อตนเองจะได้นอนด้วยข้างโลงศพ จะได้ให้ข้าวให้น้ำเช่นเดิม จนกว่าตนเองจะสิ้นลม จากนั้นใครจะจัดการอย่างไรกับศพตนกับภรรยาก็ตามแต่จะเห็นควร และลูกชายจะจัดการอย่างไรก็ตามแต่ลูก

ด้าน นายโสภณ แช่มมั่นคง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ อายุ 65 ปี กล่าวว่า นายยม หรือ เตี้ย เมื่อก่อนตอนหนุ่มๆ แกเป็นคนรับจ้างจับหมู มีร่างกายแข็งแรง เป็นคนตรงไปตรงมา และเมื่ออดีตคนละแวกนี้เรียกแกว่า "เซียนเตี้ย" แกโขกหมากรุกเก่งมาก และแกจะเป็นคนตรง พูดจาฉะฉาน ระยะหลังฐานะครอบครัวยากจน ลูกชายก็ไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัดไม่เคยกลับมา

เบื้องต้น นายก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน และเพื่อนบ้าน ตั้งใจจะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรมศพอาม่าซกกี 3 วัน จากนั้นก็คงต้องเก็บศพของอาม่าซกกีไว้บนบ้านตามประสงค์ของนายยม ผู้เป็นสามี

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ และข่าวสดออนไลน์




 

Create Date : 02 เมษายน 2558    
Last Update : 2 เมษายน 2558 8:18:21 น.
Counter : 1204 Pageviews.  

โอเรียนท์ไทย แจง บินภูเก็ต-เฉิงตู ไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บ ทำตามขั้นตอน ลงจอดปลอดภัย

โอเรียนท์ไทย แจง บินภูเก็ต-เฉิงตู ไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บ ทำตามขั้นตอน ลงจอดปลอดภัย

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากรายงานข่าวเดลี่ เมล์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ระบุว่าว่า เกิดเหตุระทึกขึ้นกับเครื่องบินสายการบินโอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ เที่ยวบินจากไทยไปยังจีน เมื่อเครื่องบินเจอวิกฤตเครื่องยนต์ ขัดข้อง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนหลายสิบรายหน้ามืดและเลือดออก เพราะภาวะหูอื้อและขาดออกซิเจน ขณะที่นักบินต้องนำเครื่องบินจงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในเมืองคุนหมิง นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 มีนาคม สายการบิน ได้ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ค Fly Orient Thai ว่า สายการบินโอเรียนท์ ไทย ขอขี้แจงข้อมูลเที่ยวบิน OX682 เส้นทางบินภูเก็ตไปยังเมืองเฉิงตู ในวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 ตามตารางบินออกจากภูเก็ตในเวลา 20.00น. และกำหนดเวลาถึงเมืองเฉินตูในเวลา 01.00 ของวันถัดไป บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 132 ท่าน นักบินและลูกเรือ 8 ท่าน เที่ยวบินดังกล่าวได้ออกจากสนามบินภูเก็ตตามเวลาปกติ และต่อมาในเวลาประมาณ 23.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ได้รับรายงานว่าเครื่องลงจอดอย่างปกติที่ สนามบินคุณหมิง อย่างปลอดภัย พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนปลอดภัย ไม่ได้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้นพนักงานต้อนรับได้ทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสารทุกคนอย่างดีและไม่ได้ตื่นตระหนกตามที่เป็นข่าวอย่างไรทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่ของสายการบินฯได้นำผู้โดยสารเข้าพักยังโรงแรมและในวันถัดไปสายการบินได้นำเครื่องบินอีกลำออกจากสนามบินอีกลำออกจากสนามบินดอนเมืองไปรับผู้โดยสารที่คุณหมิง และนำส่งผู้โดยสารถึงปลายทางเฉินตูในวันเสาร์ที่ 28 มี.ค.58 เวลาโดยประมาณ 17.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองเฉินตู)

สำหรับสาเหตุนั้น เนื่องด้วยเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบความดันภายในห้องผู้โดยสารห้องผู้โดยสารระบบหน้ากากออกซิเจน จึงทำงานตามปกติ เพื่อให้ผู้โดยสารสวมใส่โดยมีพนักงานต้อนรับดูแลผู้โดยสารทุกคน การนำเครื่องลงในสนามบินที่ใกล้ที่สุดโดยเป็นไปตามมาตรฐานของความปลอดภัย และนักบินได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง




 

Create Date : 01 เมษายน 2558    
Last Update : 1 เมษายน 2558 7:51:57 น.
Counter : 917 Pageviews.  

ตร.จับพ่อเลี้ยงคลิปฉาว กระทืบลูกที่บันได เด็กเสียชีวิตแล้ว

ตร.จับพ่อเลี้ยงคลิปฉาว กระทืบลูกที่บันได เด็กเสียชีวิตแล้ว

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอที่กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ภาพสุดสะเทือนใจพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ บริเวณบันไดหนีไฟ อาคารที่พักแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี จนเป็นเหตุทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ล่าสุดจะเสียชีวิตลงในที่สุด ทั้งนี้มีรายงานว่า พ่อเลี้ยงใจโหดคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวแล้ว

ตามรายงานระบุว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กต่างวิพากษ์วิจารณ์ คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ความยาวประมาณ 1 นาทีเศษ แสดงให้เห็นภาพเห็นการณ์เด็กวัย 2 ขวบคนหนึ่ง กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณบันไดหนีไฟ เมื่อชายคนหนึ่งที่ระบุว่าเป็นพ่อเลี้ยงเดินเข้ามาหา ก็ยกเท้าถีบใส่เตะจนเด็กล้มลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนจะทำร้ายอีกหลายครั้ง กระทั่งเด็กหมดสติแน่นิ่งไป โดยที่เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้ามาห้ามปราม

ทั้งนี้ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวระบุว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เด็กวัย 2 ขวบ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการโคม่าและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งหลังเกิดเหตุแม่ของเด็กอ้างว่า ลูกพลัดตกบันไดในอาคารที่พัก ไม่ได้เข้าแจ้งความใดๆ กระทั่งทางญาติและเพื่อนบ้านไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตามร่างกายเด็กพบร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย และพบภาพหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิด ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะหลบหนีไป

ล่าสุดรายการข่าว เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า เด็กวัย 2 ขวบได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.กำแพงเพชร ได้ควบคุมตัวพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวได้แล้ว และได้นำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สน.นิมิตรใหม่ ซึ่งเตรียมเพิ่มข้อหาดำเนินคดี หลังจากที่เด็กเสียชีวิตแล้ว ขณะที่แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เด็กมีอาการสมองบวมและอวัยวะภายในฉีกขาด

ขณะที่เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ที่อาคารเดียวกัน ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่า พบเห็นพ่อเลี้ยงทุบตีเด็กอยู่บ่อยๆ แต่เข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ เพราะพ่อเลี้ยงติดยาเสพติดและเคยข่มขู่ทำร้าย อีกทั้งยังประกาศว่า หากต้องติดคุกเพราะเรื่องนี้ หลังออกจากคุกแล้วจะกลับมาแก้แค้น ส่วนทางญาติฝ่ายแม่ของเด็กเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งมาติดพันและอยู่กินกับฝ่ายหญิงเพียง 2 เดือนกว่า รู้สึกเสียใจที่ฝ่ายหญิงเลือกปกป้องผู้ก่อเหตุมากกว่าลูกตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3




 

Create Date : 30 มีนาคม 2558    
Last Update : 30 มีนาคม 2558 8:01:08 น.
Counter : 1340 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.