นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากกรณี น.ส.ชลาลัย ไชยหิรัญการ หรือ จิ๊บ อายุ 26 ปี นักศึกษาทุนปริญญาเอก มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ถูกเพื่อนชาย นายไบรอัน สปริงเกอร์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน อายุ 29 ปี ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดในอพาร์ทเม้นท์ในย่านโอ๊กแลนด์ ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก มลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ก.พ.) รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ช่อง 3 รายงานว่า นายยุทธกร ไชยหิรัญการ อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บิดาของ น.ส.ชลาลัย กล่าวว่า ทราบข่าวจากเพื่อนของลูกสาวที่พิตต์สเบิร์ก ซึ่งโทรศัพท์มาแจ้งข่าวให้ทราบ ตนไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น

เพราะเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.45 น. ของวันที่ 27 ม.ค. ตรงกับเวลา 16.00 น.ที่พิตต์สเบิร์ก ตนยังคุยไลน์กับลูกสาว ไม่พบสิ่งน่าสงสัย หรือลางบอกเหตุว่าจะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย ตนสนิทกับลูกสาวมาก มีอะไรลูกสาวก็จะเล่าให้ฟัง เรื่องแฟนหนุ่มของลูกสาวทราบเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง ตามประสาคู่รักธรรมดา ซึ่งก็ไม่ได้ร้ายแรง และไม่นานก็คืนดีกัน

นายยุทธกร กล่าวต่อว่า ลูกสาวเป็นคนร่าเริงแจ่มใส ตั้งใจเรียนตั้งแต่จบมัธยมโรงเรียนโยธินบูรณะ สอบทุนเข้ามหาวิทยาลัยมหิดลจนจบปริญญาตรี ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ต่อมามหาวิทยาลัยมหิดลรับเข้าทำงานได้ 1 ปี ก็สามารถสอบชิงทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน จนจบปริญญาโท และยังสอบเข้าเรียนในชั้นปริญญาเอก ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ได้ 2 ปีแล้ว

ลูกสาวรู้จักนายไบรอันที่อเมริกา เพราะฝ่ายชายเป็นนักศึกษาด้านวิศวกรคอมพิวเตอร์ และเข้าบรรจุทำงานในมหาวิทยาลัย จึงรู้จักสนิทสนมกับลูกสาว จากการที่ฝ่ายชายเข้ามาช่วยเหลือด้านเอกสารกับงานวิชาการ

เมื่อ 14 ต.ค.2557 ลูกสาวมาบอกว่านายไบรอันมาบอกรัก และขอเป็นแฟน ซึ่งลูกสาวก็ตอบตกลงไป ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของลูกสาวเลยไม่ขัดข้อง แต่เนื่องจากทั้งคู่อยู่ที่อเมริกา จึงไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างไร นอกจากนี้ ตนยังรู้จักกับแม่ของนายไบรอัน ซึ่งเป็นคนไทยอีกด้วย

นายยุทธกร เปิดเผยอีกว่า แม้กระทั่งคลิปที่นายไบรอันไปซื้อปืน ตนยังทำใจไม่ได้ หลังจากเกิดเหตุตนได้สอบถามไปที่พ่อแม่ของไบรอัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง

ส่วนเรื่องการนำศพลูกสาวกลับมาประเทศไทย กับมหาวิทยาลัยคาร์เนลกีฯ รวมถึง ก.พ. และอุปทูตที่ดูแลอยู่ที่นั่น จะติดต่อประสานงานให้ คงจะนำร่างของลูกสาวกลับมาอีก 2 สัปดาห์ แต่ตนทำใจไม่ได้ที่จะไปรับลูก ก็จะให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ของตนเป็นคนดำเนินเรื่องนี้

"ผมไม่ได้ใจหาย ผมคือคนใจสลายแล้วตอนนี้ โพสต์ไปในเฟซบุ๊ก หัวใจสลายไปพร้อมการจากไปของน้องจิ๊บ ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่าเป็นแก้วตาดวงใจ" นายยุทธกร กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์