ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
หนุ่มออฟฟิศโพสต์แจง เป็นคู่กรณีจากคลิปดัง “เตะรถทำไม?“

หนุ่มออฟฟิศโพสต์แจง เป็นคู่กรณีจากคลิปดัง “เตะรถทำไม?“

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอชื่อว่า "คลิปคนขับแท็กซี่กับผู้โดยสาร สาเหตุเพราะเตะล้อรถ !!" ในโลกโซเชียลมีเดีย ภาพเหตุการณ์โชเฟอร์แท็กซี่คนหนึ่งโต้เถียงกับผู้โดยสาร ก่อนที่ผู้โดยสารจะใช้เท้าเตะล้อรถ ทำให้โชเฟอร์ลงมาตะคอดถามว่า "" ก่อนจะใช้ประแจฟาดใส่ผู้โดยสาร จนกลายเป็นคลิปที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม (ข่าวที่เกี่ยวข่อง: แท็กซี่ใช้ประแจฟาดผู้โดยสาร ถาม "เตะรถทำไม?")

ท่ามกลางคำถามของผู้คนในโลกออนไลน์ที่สงสัยว่าต่างฝ่ายต่างทะเลาะและมีปัญหากันเพราะเหตุใด ล่าสุดมีชายที่อ้างตัวว่าเป็นคู่กรณี หรือฝ่ายผู้โดยสารจากคลิปภาพดังกล่าว โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กและเว็บบอร์ดชื่อดัง พันทิปดอทคอม เพื่อให้สังคมได้รับฟังความอีกมุมมอง

ตามรายงานระบุว่า จากกระทู้ที่ชื่อว่า "ผมเป็นเจ้าตัวกรณีที่เตะรถแท็กซี่ครับ มาอ่านกันว่าทำไม ไม่อยากให้เข้าใจผิดกันครับ" จากเว็บพันทิปดอทคอม ตั้งกระทู้โดย สมาชิกหมายเลข 1740767 ได้โพสต์ข้อความอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้ ซึ่งระบุว่า

"สวัสดีครับ เห็นคอมเมนท์ทุกท่านแล้ว ขอบคุณทั้งคนที่เป็นกำลังใจให้ และคนที่ว่าผมนะครับ คนในรูปเป็นผมเองครับ ขอเริ่มเล่าเหตุการณ์เริ่มต้นเลยแล้วกันครับ เมื่อเช้านี้ผมจะไปขึ้นรถตู้เพื่อไปทำงาน แต่นายท่าบอกว่า วันนี้รถไม่มี เพราะเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด งานตรุษจีนเลยไม่วิ่งรถกัน แล้วนายท่าก็บอกผมว่า มีผู้หญิงอีก 2 คนจะไปรถตู้เหมือนกัน ก็เลยรวมกันไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 3 คน"

"โดยตกลงกันว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะลงกลางทาง และผมกับผู้หญิงอีกคนจะลงปลายทางที่เดียวกัน ตอนขึ้นรถผมก็นั่งข้างคนขับ แล้วน้องผู้หญิงคนที่จะลงกลางทางก็บอกกับคนขับว่า ช่วยแวะจอดตรงนี้ด้วยนะคะ ซึ่งแท็กซี่ก็เงียบไม่ได้พูดอะไร พอถึงกลางทางใกล้ทางที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะลง ก็บอกให้แท็กซี่จอดตรงสะพานข้างหน้าด้วยค่ะ แท็กซี่จอดทันที แล้วผู้หญิงคนที่จะลงก็บอกว่า ไม่ใช่ค่ะ เลยไปอีกหน่อยค่ะ อยู่ตรงสะพาน"

หลังจากที่ผู้หญิงคนแรกลงจากรถไป ก็เหลือผมที่นั่งข้างคนขับ กับผู้หญิงอีกคนที่นั่งข้างหลัง ซึ่งตกลงกันว่าจะลงที่เดียวกัน พอใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางที่ได้บอกแท็กซี่ไว้ ผมก็ได้บอกแท็กซี่ว่า พี่ครับ เดี๋ยวถึงตรงปลายทางแล้วช่วยขับเลยไป เพื่อกลับรถให้หน่อยนะครับ"

"แท็กซี่หันมาแบบอารมณ์หงุดหงิดและพูดใส่ผมว่า นี่พวกคุณกะจะใช้ผมให้คุ้มเลยหรอ? ผมก็ไม่อะไร ไม่อยากมีปัญหาครับ ผมก็เลยตอบกลับไปว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ จอดตรงจุดหมายปลายทางที่เดิมก็ได้ แท็กซี่หันมาพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์เคืองว่า มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!!"

"ตัวผมก็เงียบเพราะรีบไปทำงาน ไม่อยากมีปัญหาคิดว่าเดี๋ยวต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาก็ได้ หลังจากนั้นพอใกล้ถึงจุดหมายจริงๆ แล้ว ผู้หญิงที่นั่งข้างหลังที่ตกลงกันไว้ว่าจะลงที่เดียวกัน กลับบอกให้แท็กซี่จอดลงตรงนี้ (ห่างจากจุดหมายปลายทางประมาณ 500 เมตร) ผมก็นึกในใจแล้วว่า เฮ้ย..แท็กซี่มันยิ่งอารมณ์เสียอยู่แล้ว ผู้หญิงข้างหลังบอกให้จอดตรงนี้ แท็กซี่ก็จอดเลยครับ"

"พอจอดเสร็จปุ้บ แท็กซี่ดึงเบรกมือและกดหยุดมิเตอร์ทันที ซึ่งตรงนั้นเป็นถนนใหญ่ จะโบกแท็กซี่ไปต่อหรือมอเตอร์ไซค์วินก็คงไม่มี ผมก็เลยบอกแท็กซี่ว่า พี่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางเลย พี่ตรงไปอีกหน่อยละกันครับ ซึ่งเป็นทางถนนใหญ่ที่แท็กซี่ต้องขับไปต่ออยู่แล้ว และตกลงกันไว้แต่แรกว่าจะลงที่นั่น"

"แต่ผู้หญิงที่นั่งมาด้วย ดันบอกให้จอด แล้วแท็กซี่ก็จอดให้ และเลือกที่จะไม่ไปส่งผมต่อตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก แท็กซี่หันมาเหวี่ยงๆ ใส่ว่า ผมก็จอดให้คุณสองที่แล้วไง ผมก็เลยบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นก็บอกพี่แล้วด้วยว่า จะลงจุดหมายปลายทางที่อยู่ข้างหน้าตั้งแต่เรียกรถ แต่เขามาลงก่อน ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้"

"แท็กซี่บอกผมว่า แล้วมึงจะเอายังไง? ผมก็เลยบอกว่า ก็ไปต่อให้กูหน่อย หลังจากนั้น แท็กซี่ก็ชกมาที่หน้าผม แต่ผมหลบทันและชกมันกลับ โดนที่หน้าครั้งหนึ่ง และรีบลงจากรถ มันเดินตามลงมา จะเข้ามาหาเรื่องผมต่อ ผมเลยถีบมันตอนเดินเข้ามา แต่มันจับขาผมเหวี่ยงจนล้มลงไปและมาถีบผมซ้ำอีกที ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าคลิปวิดีโอ"

"หลังจากนั้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่เห็นในคลิปครับ คือผมเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปถีบรถ เพราะว่าตรงนั้นผมต้องเดินไปอีก 500 เมตร และแบกโน้ตบุ๊คกับกระเป๋าสะพายหนักๆ เพื่อไปเรียกมอเตอร์ไซค์วินไปต่อ ทั้งๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าจะไปส่งที่ปลายทาง"

"แล้วก็เห็นตามในคลิปครับ พี่ผู้ชายจากรถกระบะบอกแท็กซี่ให้ขับไป อย่ามีเรื่องกัน ผมก็เลยเดินเข้าไปคุยกะพี่เขาสั้นๆ ว่า จะไปลงข้างหน้า แต่มันปล่อยผมลงตรงนี้ พี่เขาก็บอกว่า น้องอย่าไปมีเรื่องกับมัน ไม่คุ้มกันหรอก พี่เคยมีเรื่องกับแท็กซี่มาแล้ว เขาก็บอกให้ผมเดินไปอีกทาง ซึ่งเป็นคนละทางที่ผมจะไปทำงาน ผมเลยยืนอยู่ตรงนั้น ดูท่าทีแท็กซี่ว่ายังไง สักพักมันก็ขับไปครับ"

"และผมก็ต้องแบกของหนักเดินไปทำงาน ซึ่งก็เข้างานสายและต้องเสียค่าปรับค่ามาสายตามกฎบริษัทด้วย เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ครับ ขอบคุณคับ ผมจำเลขทะเบียนรถได้ แต่ทางที่บ้านและพี่ที่ทำงาน หลายท่านแนะนำว่าให้ปล่อยๆ ถือว่าฟาดเคราะห์ไปครับ ไม่คิดว่าจะมีคลิปออกมาแบบนี้และโดนหลายท่านเข้าใจผิดเยอะ"

"จึงอยากออกมาชี้แจงความจริงให้ทุกท่านที่อ่านทราบ ซึ่งทางครอบครัวผมไม่อยากให้เข้ามาชี้แจงด้วยซ้ำเพราะว่า ไม่อยากให้มีปัญหาบานปลาย แต่ผมอยากเล่าความจิงไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดครับ"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการโพสต์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นประเด็นนี้กันเป็นจำนวนมาก หลายฝ่ายมองว่าเป็นความผิดของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็อารมณ์รุนแรงเกิดไป ไม่เหมาะกับงานบริการ ส่วนอีกฝ่ายก็ควรระงับอารมณ์หรือทำลายทรัยพ์สินของผู้อื่น สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาภาวะทางอารมณ์ของคนในสังคม ที่มักจะเป็นต้นเหตุทำให้กรณีทะเลาะวิวาทและกลายเป็นปัญหาอาชญากรรมขึ้น




Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2558 8:17:13 น. 0 comments
Counter : 1463 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.