นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

จากกรณีวันที่ 22 มกราคม น.ส.เอ อายุ 24 ปี และ น.ส.บี อายุ 22 ปี (ทั้งสองนามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ว่า ถูกชายยังไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ว่า "lnw Nanal" หลอกลวงว่าเป็นโปรดิวเซอร์สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ชักชวนไปถ่ายทำภาพยนตร์ แต่กลับพาเข้าโรงแรม อ้างว่าจะเริ่มถ่ายทำเดโม่ หรือภาพยนตร์ตัวอย่าง ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเรานั้น

วันที่ 23 มกราคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายวิริยะ เดชผดุง อายุ 37 ปี ผู้ประสานงานโปรดักชั่นส์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ชาวจ.ปราจีนบุรี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ปรีชา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว โดยอ้างว่าป็นชายคนที่ถูกผู้เสียหายกล่าวหา

นายวิริยะ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุทาง น.ส.เอ เป็นฝ่ายติดต่อมาหาตน ให้รับไปหาที่ร้านอาหารย่านอ่อนนุช เพื่อนั่งรับประทานอาหารและพูดคุยกันเกี่ยวกับงานที่ตนได้เคยติดต่อไว้ แต่เป็นเพราะวันนั้นเลิกงานดึกเกือบเที่ยงคืนแล้ว เลยบอกว่าไม่ว่าง แต่น.ส.เอก็บอกว่า น.ส.บี ที่มาด้วยนั่งรออยู่ จึงบอกว่าถ้างั้นเดี๋ยวจะไปนั่งคุยดื่มเบียร์กัน กระทั่งขับรถไปหาทั้งสองที่ย่านอ่อนนุช

ระหว่างที่นั่งพูดคุยก็ได้บอกรายละเอียดว่างานที่ให้ทำเป็นแบบไหน ตนจะให้เงินเป็นการดูแลกันเดือนละเท่าไหร่ ทางนั้นก็โอเค ไม่มีปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักโรงแรมแถวนั้นเลย กระทั่งเวลา 04.00 น.น.ส.เอก็เป็นตนพาไปถึงโรงแรม แล้ว น.ส.บี คนที่ใส่ชุดนักศึกษานั่งอยู่ด้านหน้า ส่วน น.ส.เอ หมอบอยู่ด้านหลัง จากนั้นพอเข้าโรงแรมม่านรูด ก็เข้าไปอยู่ในห้องด้วยกันทั้ง 3 คน

"สำหรับ น.ส.บี ที่แจ้งว่าถูกผมกระชากเสื้อ ผมยืนยันว่าไม่ได้ใช้กำลังทำอะไรเขาเลย น้องเขาเต็มใจตั้งแต่ที่ร้านแล้ว ในระหว่างที่ผมมีอะไรกับ น.ส.บี อยู่นั้น น.ส.เอ ก็อยู่ในห้องด้วย ส่วนที่ถ่ายคลิปนั้น ต้องขออธิบายว่าเป็นเหมือนกับที่เขามีให้ดาวน์โหลดกันในอินเตอร์เน็ต เรื่องคลิปผมขอยืนยันว่าถ่ายไว้ได้นิดเดียวเพราะวันนั้นแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือหมดพอดี มีแค่ 14 วินาที ยังไม่ได้นำไปเผยแพร่ที่ไหนเลย" นายวิริยะ กล่าวและว่า จริงแล้วทราบข่าวตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมเมื่อผู้เสียหายเข้าแจ้งความแต่ยังไม่มีเวลามาพบพนักงานสอบสวน จึงตัดสินใจเดินทางมาในวันนี้แทน

ถามถึงกรณีที่หญิงสาวผู้เสียหายระบุว่ามีการเรียกเข้าไปในห้องทีละคน นายวิระยะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ทั้ง 3 คน อยู่ในห้องพร้อมกัน และจะเป็นไปได้อย่างไรหากลงมือข่มขืนแล้วผู้เสียหายจะไม่ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ น.ส.บี กลับบ้านไปก่อนเพราะแม่โทรศัพท์มาตาม เมื่อเห็นว่าน้องจำเป็นต้องกลับก่อนก็ยังโทรศัพท์เรียกแท็กซี่ให้ด้วยซ้ำ และทางโรงแรมก็ติดต่อให้ ยังเดินไปส่งขึ้นแท็กซี่เลย ต่อมาก็นั่งดื่มเบียร์อยู่กับ น.ส.เอ แต่ยืนยันว่ามีเพศสัมพันธ์แค่เพียงกับ น.ส.บี และไม่ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำแต่อย่างใด ในส่วนของ น.ส.เอ นั้น มีการถ่ายคลิปแต่ก็บอกได้เลยว่ายังไม่ได้นำไปเผยแพร่

ถามถึงกรณีที่ผู้เสียหายระบุว่าได้กัดเข้าที่ไหล่ขวาของนายวิริยะ ในช่วงที่ถูกข่มขืน นายวิริยะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมกันนั้นได้เปิดเสื้อให้ดูที่บริเวณไหล่ขวาว่าไม่มีแผลใดๆ และว่า หลังจากนั้นตนยอมรับว่ายังไม่ได้ให้เงินกับทั้งสองตามที่มีการตกลงกัน เพราะช่วงนั้นยอมรับว่าเพิ่งใช้จ่ายในช่วงปีใหม่ และกำลังมีปัญหากับแฟนจึงไม่มีเงินโอนไปให้ ซึ่งฝั่งผู้เสียหายก็ทวงถามตลอด ก่อนที่เขาจะติดต่อมาว่าให้ไปตกลงกับเขาที่ สน.อุดมสุข เรื่องว่าตนไปหลอกลวงเขา แต่ตนก็ไม่ไปและไม่ได้ติดต่อกันอีกจนเรื่องเงียบหายไป ก่อนจะมาเป็นข่าว ส่วนกรณีที่ถูกระบุว่ายังมีผู้เสียหายอีก 2 คน นั้น ตนไม่รู้เรื่องเลย เพราะไปกับแค่หญิงสาว 2คนนี้เท่านั้น

ด้าน ร.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเนื่องจากทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างหาข้อเท็จจริงในคดี เมื่อทางนายวิริยะ เดินทางเข้ามาให้ปากคำเอง โดยระบุว่าเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาและมีความประสงค์จะชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็คงจะต้องสอบปากคำไว้ก่อนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากนั้นจึงนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา ก่อนจะมีการพิจารณาดำเนินการต่อไป