เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตรวจสอบร้านขายของชำของ นางเบญจภรณ์ จินดาเรืองอายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีหลังจากทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยนำธนบัตรปลอมใบละ 500 บาท มาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงภายในร้านและพื้นที่ใกล้เคียง โดยที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่ในชุมชนเปิดเป็นร้านขายของชำ

สอบถาม นางเบญจภรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องสงสัยเป็นชาย-หญิงขับรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าร้าน ซึ่งมีผู้ชายเป็นคนขับ และมีหญิงสาวอายุประมาฌ 30 ปี ลงมาทำทีมาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 7 ลิตร ราคา 210 บาท และได้จ่ายคาน้ำมันด้วยธนบัตรใบละ 500 บาทปลอม และหลังได้รับเงินทอนก็ขับรถไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นตนเองจึงนำธนบัตรใบดังกล่าวมาเทียบกับของจริง จึงทราบว่าธนบัตรที่ได้รับมาเป็นของปลอม ซึ่งจะมีสีที่ใกล้เคียงกับของจริง แต่จะไม่มีลายน้ำและแถบสีโลหะในเนื้อกระดาษ

จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันผู้ต้องสงสัยคนเดียวกันได้ไปก่อเหตุ ที่ร้านขายของชำของนายเทิดเกียรติ ขวัญใจ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 6 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และได้ลงไปซื้อน้ำมันพืช ราคา 59 บาท และขับรถออกจากหน้าร้านไปอย่างรวดเร็ว ตนเองจึงนำธนบัตรมาดูจึงทราบว่าเป็นธนบัตรปลอม จึงได้ขับรถตามรถผู้ต้องสงสัยไป แต่ไม่ทัน จึงนำธนบัตรปลอมไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พุนพิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดี

ด้านพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องธนบัตรปลอมที่กำลังระบาดในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว และสั่งการไปทุกพื้นที่ให้ตรวจสอบ และติดตามรถต้องสงสัย เพื่อทำการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะร้านค้าขายของชำ อยากให้มีการตรวจสอบก่อนรับธนบัตรในการซื้อขายสินค้า และ หากพบผู้ต้องสงสัยใช้ธนบัตรปลอมให้รีบดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามจับกุมให้ได้