แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม / ตอนที่ 3 : ไชยบุรี2 ลาว
แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ : ไทย ลาว เวียดนาม ตอนที่ 3 : ไชยบุรี 2 ลาว
ทางเลือกหลากหลายที่ถูกสร้างขึ้นยังคงเต็มอยู่ในหัวผม การสำรองทางเลือกไว้กรณีฉุกเฉินยังคงจำเป็นเพราะหนทางที่จะเดินต่อไปข้างหน้านั้นยังไม่ชัดเจน การเดินทางเพื่อให้ถึงจุดหมายในเส้นทางที่เราคิดว่าเป็นไปได้ และในที่สุดเราจะแสวงหาวิธีเพื่อกระทำสิ่งนั้นให้ถึงเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้
คุณปีเตอร์บอกว่า การเริ่มนับหนึ่งนั่นแสนสาหัสนัก แต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน ผมเองก็คิดว่ามันเป็นแบบนั้น
การทบทวนสอบถามเส้นทางจากผู้รู้คร้งแล้วครั้งเล่า จากในอินเตอร์เนตบ้าง จากคนพื้นที่บ้าง จึงเกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ก่อนตัดสินใจ
เมื่อมีสัญญาณส่งว่าเคยได้ยิน หรือเคยเห็น นั่นแปลว่ามันต้องเป็นไปได้ สำหรับผมเองก็ยังคงคิดและยังคงเดินตามเส้นทางนั้น เส้นทางที่ผมได้เลือกไว้
วันนี้ 10 .12.2014 ส.นิยม จะพาผมเข้าไปเวียงจันทร์ด้วยการขับรถไปส่ง ในขณะที่ผมพยายามมองหารถบัสประจำทางที่เคยเห็นแล่นผ่านตา จากไชยบุรีสู่หลวงพระบาง
สำหรับข้อมูลที่ผมมีอยู่ตอนนี้ ซึ่งดูสับสนและแวะพักหลายแห่งมาก กว่าจะถึงเป้าหมายที่ซาปา แล้วย้อนกลับลงมาทางฮานอย สู่เหว้ เข้าดาหนัง ฮอยอัน กลับมาที่เหว้และจากนั้นก็ออกที่ด่านลาวบาว สวรรณเขต และเข้าไทยที่มุกดาหาร นกสีน้ำเงินกำลังเดินทาง(ไม่มีอะไรแค่ชอบสีน้ำเงิน)
05.55 ส.นิยมมารับผมที่โรงแรมที่พักซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายแห่งในราคาประมาณ 12 -30 USD สำหรับผม กำหนดไว้แล้วตั้งแต่ต้นทริปในราคา 8 - 15 USD
ไม่นานนักเราก็มาถึงบริเวณหน้าโรงเรียน ภาพในเมื่อ 6 ปีก่อนหายไปหมดแล้ว เมื่อก่อนผมเห็นภาพเด้กที่มอมแมมเดินทางมาโรงเรียนด้วยผมที่กระเซิง มาเดี๋ยวนี้ทุกคนใช้จักรยานเป็นพาหนะ ปั่นเรียงรายกันมาเป็นแถวเพื่อให้ถึงโรงเรียน เรียนกันจนถึง 11.00 am. เข้าเรียนอีกรอบ 02.00 pm. จนถึง 03.00 หรือ 04.00 pm. เวลาที่เป็นไปตามวิถีแห่งฝรั่งเศสที่เคยกำหนดไว้
เก็บภาพพร้อมคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษาเรียนรู้เมื่อมีสิ่งเปรียบเทียบ ในประเทศไทยเองเด็กคงหอบกระเป๋าที่อัดไปด้วยหนังสือและการบ้านกันหลังแอ่น สมองคงถูกอัดเต็มไปด้วยการบ้าน รายงาน เรียนเสริม เรียนพิเศษ ความคิดคงวนเวียนอยู่กับการท่องจำในหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันมาเป็นสิบปี
หากแต่การเรียนรู้ของผมแล้ว มันคือชีวิตและความเป็นอิสระภาพ วิชา คงเป้นการฝึกฝนทักษะ ความชำนาญให้ดีขึ้นในทุกวัน มันคงไม่ใช่การทำการบ้านหรือรายงานสิ่งเดิมๆที่ลอกต่อกันมาส่งครู ที่บางครั้งไม่เคยเปิดอ่านด้วยซ้ำไป
ไม่นานนักผมก็มาถึงตลาดของไชยบุรี ที่นี่ก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกันพื้นขรุขระ ในสภาพตลาดไม้เก่า ไม่มีอีกแล้ว แต่สำหรับสภาพความเป็นอยู่ของที่นี่ยังคงเหมือนเดิม
ขนมบางอย่าง อย่างขนมไข่หงษ์ก็เหมือนบ้านเรา ทุกอย่างเหมือนกัน จะมีแปลกตาเพียงไม่กี่อย่าง เช่น ก้อนขนมปังแท่งยาว วัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ตกค้าง พ่อค้าแม่ค้ามากมายที่นี่ บ่งบอกถึงการจับจ่ายที่มากมายของที่นี่เหมือนกัน บางร้านของยังกองอยู่เต็ม บางร้านเตรียมตัวกลับบ้าน โดยเฉพาะอาหารเช้าอย่างเฝอ
เราแวะกิกาแฟในตลาดของแม่ค้าหน้าตาหน้ารักที่ชื่อ ลินดา ที่ร้านของเธอมีกาแฟโบราณอย่างที่ขายกันในบ้านเรา เครื่องปรุงต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะมีไว้ปรุงรสเพิ่มเติมจากเฝอที่เธอขายอยู่ด้วย ของหลายๆอย่างล้วนมาจากประเทศไทย คงเพราะพวกเขาต่างยอมรับในคุณภาพของสินค้าไทยที่มีอยู่
เมื่อเดินรอบตลาดไปเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นสินค้าบางอย่างที่แตกต่างไป หรือคล้ายคลึงกับบางพื้นที่ของประเทศไทย ผมเห็นเป็นเส้นหนาๆ ยาววางเรียงรายกัน บางสวนถูกนำบรรจุลงในถุงพลาสติกใสเป็นกอง
มันคือหนังควาย
ความสงสัยมีอยู่ไม่นาน เพราะเมื่อสมัยวัยเด็ก ภาพที่เลือนลางของผมจำได้ว่าที่บ้านยาย เคยเอามาย่างกินกันรอบกองไฟยามหน้าหนาว
เมื่อความสงสัยเกิดขึ้นเกี่ยวกับรสชาติและวิธีการกิน ดาวแม่ก็เริ่มส่งแม่ค้าผู้หนึ่งเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับส่งตัวอย่างเพื่อทดลองชิม เส้นยาวๆที่ผมเห็นวางอยู่ ถูกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแบบลูกเต๋า พร้อมส่งกินหอมที่รันจวนใจ นี่ไม่ใช่การส่งเสริมการขาย แต่พวกเธอกำลังจะกินข้าวกัน ความเป็นมิตรเกิดขึ้นเมื่อเธอพยายามชวนผมกินด้วยกัน และหยิบส่งก้อนสี่เหลี่ยมนั้นมาให้ผมเพื่อทดลองชิม
"เค็มนิดๆ ไม่เหนียวอย่างที่คิด กรอบเหมือนเคี้ยวกระดูกอ่อน กินกับข้าวเหนียวกำลังดี" นี่คือความรู้สึกที่ผมได้รับ แต่ที่มากกว่านั้น คือรอยยิ้ม ผมกล่าวขอบคุณและเดินต่อไป
ร้านทองที่ตั้งวางตั้งแต่ด้านหน้าหรือในซอกซอยเล็กๆในตลาด เป็นอีกส่วนที่ผมอดแปลกใจไม่ได้ หากประเทศไทยเปิดร้นทองแบบนี้ผมไม่อยากจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร้านทองเหล่านี้ พวกเขาตั้งวางขายทองคำกันเหมือนขนมทองม้วน
ส.นิยมบอกว่า ชาวบ้านที่นี่หากมีเงินจะนิยมซื้อทองกันเก็บไว้ ภาพที่เห็น คงไม่ต้องพูดกันถึงเรื่อง อาชญากรรม การปล้น ฉกชิงวิ่งราว หรือสารพัด แปลกที่พื้นที่ที่แตกเพียงมีเขตแดนที่ถูกมุดปักกั้นไว้ ความเป็นอยู่เหมือนกัน วัฒนธรรมใกล้เคียงกัน แต่สภาพจิตใจและความไว้วางใจกลับต่างกัน
หรือว่าเราเองต่างหากที่ตกอยู่ในกับดักของความโลภจนมองไม่เห็นความเป็นไปของชีวิต
ส.นิยม พาผมตระเวนดูรอบเมืองที่มีประตูเมืองต้อนรับอยู่ ที่นี่ยังคงให้ความสำคัญของช้าง พวกเขาจะมีพิธีอาบน้ำช้างกันทุกปีเหมือนกับทางน้ำปาดในอดีต แต่ตอนนี้ที่ไชยบุรีแห่งนี้ยังคงมีอยู่ ในทุกปีช่วงเดือนเมษายนจะมีงานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาที่นี่ พร้อมผู้สนับสนุนประเพณีเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นและต่างทำธุรกิจกันที่นี่ รวมถึง ท้าวส.นิยม เพื่อนผมด้วย
เมื่อเราวนกลับกันมาถึงที่ซุ้มหน้าโรงเรียน คุณอ้อยได้จัดข้าวต้มปลา ขนมปังบาเต๊ะ(บาเก็ต) ที่ไส้ในทำเป็นพิเศษ ด้วยหมูยอ ผักดองที่ไม่ทิ้งไว้นาน สูตรนี้ดองเพียงข้ามคืน หมูหยอง ผักสด เท่าที่ผมเห็น พร้อมกาแฟดำที่ถูกจัดวางคู่กันทำให้ผมอดหลงใหลอาหารมื้อเช้า(อีกรอบ)มื้อนี้จริงๆ
ซึ่งหลังจากนี้พวกเราจะเดินทางกันไปต่อที่ หลวงพระบาง 10.55 เป็นเวลาที่พวกเราต้องออกจากไชยบุรี
11.55 เพียง 1 ชั่วโมงเราก็มาถึงที่นี่
สะพานข้ามแม่น้ำโขงไปสู่เขตหลวงพระบาง สะพานท่าเดื่อ - ปากขอน แม่น้ำโขงที่กั้นอยู่ทำให้การเดินทางจากไชยบุรีสู่หลวงพระบางเป็นเรื่องยาก เพราะต้องขึ้นโป๊ะข้ามแม่น้ำ แต่ตอนนี้สะพานถูกสร้างขึ้นจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเหลือเพียงถนนที่กำลังเร่งสร้างกันไปตลอดเส้นทาง
12.00 ความงามของที่นี่ ทำให้ผมอดที่จะลงเข้าชื่นชมไม่ได้ แม่น้ำที่กว้างใหญ่ที่หลายๆครั้งได้แบ่งแยกผู้คนออกจากความเชื่อ ความคิด วิถีชีวิตความเป็นอยู่ด้วยตัวของมนุษย์เอง ส.นิยมบอกว่า น้ำโขงด้านไชยบุรีนี้ถูกเรียกว่าลาวฝั่งไทย อีกด้านหนึ่งคือลาวฝั่งลาว
สำหรับแม่น้ำเองยังคงไหลต่อไปเพื่อให้ทุกสิ่งที่มีชีวิตบนดาวดวงนี้ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการดำรงอยู่กันอย่างเต็มที่ ความอ่อนน้อมของสายน้ำที่ไหลลงต่ำ ช่างงดงามจริงๆ สิ่งที่มีคุณค่าและมากด้วยประโยชน์มักอ่อนน้อมและนุ่มนวลเสมอ
เมื่อข้ามสะพานมา จะเห็นช่องเขาที่ถูกเจาะเป็นร่องเพื่อให้รถผ่าน และเมื่อมองลอดออกไปเราก็จะพบกับที่ราบแห่งใหม่ ผมยังเห็นเด็กนักเรียนเดินออกจากโรงเรียนอยู่ บ้างเดิน บ้างปั่นจักรยาน จักรยานแสนธรรมดาที่พวกเขาปั่นกันขึ้นเนินสูง
ไม่มีเกียร์จักยานราคาเป็นหมื่น ไม่มีจักรยานราคาเป็นแสน ไม่มีรถรับนักเรียนส่งหรูหรา ไม่มีสถาบันกวดวิชาที่ใช้เพียงเพื่อสอบแล้วลืมมันไป มีเพียงความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่พวกเขาในทุกพื้นที่ตอนนี้ ต่างให้ความสำคัญกับการเรียนรู้โดยไม่ย่อท้อ
01.26 เรามาถึงทางแยกแล้ว อีกเพียง 24 กม.เราจะถึงหลวงพระบาง มาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆอย่างง่ายกว่าที่คิดไว้มาก แผนสำรองหลายๆแผนถูกวางพับเก็บไว้
ความจริงในตอนนี้คือ ไม่มีสิ่งไหนอยู่ในแผนเลย นอกจากจุดหมาย อีกเพียงไม่กี่อึดใจเราจะถึงจุดหมายเล็กๆน้นที่วางไว้แล้ว การเดินทางถึงจุดหมายแต่ละจุดที่แยกย่อยวางไว้ สร้างความชุ่มชื่นใจได้ดีทีเดียว
ถึงแม้ตอนนี้เรายังไม่มีใครรู้ถึงวิธีการที่จะข้ามไปยังเวียดนาม ยังไม่รู้เหตุการณ์ข้างหน้าที่เดียนเบียนฟู ก่อนถึงซาปา
หลังจากนี้ ผมจะไม่มีใครที่รู้จักอีกแล้ว เหมือนเพื่อนๆจากน้ำปาด หรือส.นิยมจากฝั่งลาว การเดินทางที่มุ่งไปข้างหน้า ยังคงมีเรื่องราวใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
คุณปีเตอร์เคยถามผมว่ามีเพื่อนอยู่ที่เวียดนามหรือเปล่า ผมตอบว่าตอนนี้ยังไม่มีที่เวียดนามเหนือ แต่ผมเชื่อว่า เพื่อนใหม่ของผมจะรออยู่ที่นั่น ผมเชื่อแบบนั้น
กล่องของขวัญใบใหม่ถูกวางไว้อยู่ที่นั่น รอเพียงเราเดินเข้าไปเปิดมันเท่านั้นเอง
อีกไม่กี่นาทีจะถึงหลวงพระบางแล้ว
ตอนที่ผ่านมาและต่อไป "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ; ไทย ลาว เวียดนาม" ตอนที่ 3 : ไชยบุรี2 ลาว <<<< Now! here ตอนที่ 5 : เดียนเบียนฟู เวียดนาม ตอนที่ 7 : ซาปา2 เวียดนาม ตอนที่ 8 : ซาปา3 เวียดนาม ตอนที่ 9 : ฮานอย 1 เวียดนาม ตอนที่ 10: ฮานอย 2 เวียดนาม ตอนที่ 11 : เหว้ เวียดนาม ตอนที่ 12 : เหว้-สวรรณเขตสู่ไทย
Create Date : 25 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 14 มกราคม 2558 12:04:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2069 Pageviews. |
|
|