แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม / ตอนที่ 1 ปาด แปด 8
แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม ตอนที่ 1 ปาด แปด 8
อยากไปให้ครบทุกสี อย่างน้อยก็ทำให้เต็มที่เท่ากับเวลาที่มี ผมคิดแบบนั้น !!
คามคิดขยับตัวเริ่มขึ้น เมื่อผมอยากลองเข้าด่านชายแดนใหม่ที่ยังไม่เปิดเป็นด่านสากล ด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อการตัดสินใจพิสูนจน์เส้นทางใหม่ในรอยหยักของสมองผมก่อตัว การวางแผนขีดเส้นทางเดินแห่งการเดินทางก็เริ่มขึ้น
เส้นทางคร่าวๆถูกกำหนดขึ้นก่อนการเดินทางประมาณ 3 เดือน งบประมาณที่มีถูกจำกัดไว้ เพื่อการใช้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด เป้ใบขนาดกลางกับระยะเวลา 15- 20 วันถูกตั้งไว้แบบหลวมๆ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จริงๆแล้วในทุกๆวันใหม่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นการกำหนดทุกอย่างไว้ในมือ คงเหมือนกับการถือรีโมตไว้บังคับทุกอย่างให้ตามใจตน บังคับลม บังคับคน บังคับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว
หากการเดินทางเหมือนกับการเดินเรือ คงเพียงแค่ปรับใบเรือ ให้ลมช่วยส่งแรงดัน คงไม่ใช่บังคับลมให้เป่าใบเรือให้เรือแล่นไปยังทิศทางที่เราต้องการ
06/12/2014 11:11 am. คือเวลาที่ออกมารอรถโดยสารคันแรก การเดินทางของผมเกิดขึ้นพร้อมๆกับการเดินทางขยับตำแหน่งของดาวเสาร์ ที่สารพัดหมอดูบอกให้คนกราบไหว้ สำหรับผมคงไม่เกี่ยวกันเพราะผมมีแผนที่การเดินทาง สำหรับเส้นทางในชีวิตของผม
นั่นคือการเริ่มต้นของการออกเดินทางครั้งนี้ ซึ่งตามเส้นทางแล้วผมต้องเริ่มต้นที่อุตรดิตถ์
ผมนัดกับผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้ไว้อีกคน คือ คุณปีเตอร์ ผู้ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬา 3 สัญชาติ ไทย ออสเตเรีย และอเมริกาไว้ กับการแบกเป้ตะลุยในทริปนี้ เราคุยกันก่อนหน้านี้มาครึ่งปีสำหรับการเดินทางไปไหนสักที่ เพื่อเพิ่มความรู้สึกที่ใหม่สำหรับมุมมองและความคิด
อาจเป็นที่ที่เคยไป เคยได้ยิน เคยผ่านตา ที่ไหนก็ได้บนดาวดวงนี้
การตกลงล่วงหน้าโดยที่เราไม่อาจรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น ทำให้ "ต้นทุนของการรักษาคำพูดนั้นสูง แต่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและทรงพลัง" การบริหารจัดการทุกปัญหาที่รุมรอบตัวเพื่อรักษาข้อตกลงนั้นไว้ คงต้องใช้ความตั้งใจจริงสำหรับการจัดการ ไม่อย่างนั้น สารพัดสาเหตุของความผิดพลาด หรือข้อแก้ตัวต่างๆจะเกิดขึ้นเพียงเพราะเราทำไม่ได้
การเดินทางจึงเกิดและเริ่มต้นขึ้น เราต่างรู้ดีว่าเราต่างต้องแลกเวลาที่เตรียมกันไว้นี้มาด้วยอะไรบ้าง การเดินทาง 2 คนทำให้ค่าใช้จ่ายเราลดลงครึ่งหนึ่ง ทั้งค่าที่พัก ค่าทริปที่จำเป็นต้องใช้รถ ปรึกษาแก้ไขปัญหาและโอกาสที่เกิดขึ้นข้างหน้า
สำหรับผม บอกกับตัวเองที่ทุกคนรอบข้างว่า "ชีวิตตอนนี้เหมือนรอแกะห่อของขวัญ ทึ่เราไม่รู้ว่่ในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง ..ลุ้นๆไปกับทุกวัน สำหรับการเดินทางที่มีเป้าหมาย สิ่งสำคัญคือผมได้เริ่มแล้ว เรื่องราว ระหว่างเส้นทางทึ่กำลังจะเดินย่องเข้ามา คือของขวัญชิันพิเศษที่ผมต้องเปิดมันด้วยตัวเอง"
"แวะน้ำปาดก่อนดิ๊!" เสียงของเพื่อนผมที่อยู่ที่นั่นบอกตามคลื่นสัญาณของโทรศัพท์ หลังจากที่ผมโทรไปปรึกษาเรื่องการข้ามแดนที่ด่านภูดู่
ความลงตัวที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผมกับปีเตอร์ได้ติดรถของเพื่อนผมมาที่น้ำปาดก่อนข้ามแดน เราคุยกันมาตลอดเส้นทางล้อที่หมุนขับเคลื่อนตัวเราผ่านเส้นทางอุตรดิตถ์-น้ำพี้ ซึ่งเป็นบ่อเหล็กกล้าที่ใช้สำหรับกษัตริย์และนักรบในอดีตขนาดใหญ่
เขยิบเข้าใกล้มาอีกหน่อยแล้ว ทึ่นี่น่าสนใจมากเลข8ที่คอยสะกิดอยู่ในหัวและผ่านตามาตลอดเส้นทาง หลังจากพักห้อง1208 เมื่อคืน ผมเห็นป้ายแว๊ปๆว่า อีก 80 กม.จะถึง น้ำปาด พบข้อมูลทึ่น่าสนใจว่าต้นสักนี้มึอายุ1,518ปี ซึ่งเมืองน้ำปาดเองก็จะมึอายุครบ118ปึ เลขแปดที่แอบสะกดรอยตามมาเรื่อยๆกำลังจะบอกถึงอะไรกันแน่?
น้ำปาดเมืองที่มีเรื่องน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะของดี 8 อย่างที่นั่น จุดแวะพักก่อนข้ามด่านน่าสนใจจนผมตัองหยุดแวะพักที่นี่เพิ่มขึ้นอีกคืน เราตัดสินใจเลื่อนทริปข้ามแดนในวันที่ 8 เพื่อพักน้ำปาด และเปลี่ยนข้ามแดนเข้าลาวในวันที่ 9 ในตอนเช้าเมื่อด่านเปิด
เมื่อเข้าถึงน้ำปาด ปลัดด่อน ปลัดหนุ่มไฟแรงแห่งเมืองน้ำปาดเตรียมอาหารพื้นเมืองของที่นั่นไว้ให้เราลองชิม พร้อมขับรถพาดูเรื่องราวของที่น้ำปาดแห่งนี้ พร้อมหาที่พักที่มีให้เลือกอยู่มากมาย ราคา ตั้งแต่ 350-400 บาท ระหว่างเส้นทางในหมู่บ้าน ผมเห็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ติดไว้หน้าบ้านแทบทุกหลัง ติดไว้เพื่อชื่นชมพระบารมี
และใช้ชีวิตกันตามพระราชดำรัส พวกเขาอยู่อย่างพอเพียง โดยที่มีบ้านบางหลังได้ใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยการปลูกผัก เลี้ยงปลา พอกิน พอขาย อยู่อย่างง่ายดาย ที่ผมเห็น ไม่ได้เป็นความหรูหราที่หลายๆคนเรียกว่าความสุข แต่มันคือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และชีวิตครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขของคนที่นี่
ปลัดด่อนกับคุณหนุ่มผู้ร่วมอุดมการณ์รักน้ำปาดขับรถพาพวกผมวนไปรอบๆหมู่บ้าน ผ่านวัด ผ่านทุ่งนาที่มองเห็นเนินเขาสลับกันไปมา บางแห่งทำเป็นขั้นบันได แต่ผืนนาตอนนี้บางส่วนเป็นสีดำเพราะเกิดจากการเผาฟางข้าว สลับกับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆมุดก้อนกลมๆนั้นลง ทำให้ผมนึกถึงจักรยานที่จอดคาอยู่ที่บ้าน อยากหาโอกาสมาปั่นเล่นที่นี่จัง แต่คงฝากไว้ก่อนกับทริปที่ยังต้องเดินทางไปอีกหลายแห่งครั้งนี้ ก่อนที่พรุ่งนี้จะออกตะลุยสำรวจมหัศจรรย์แห่งเลข8ที่นึ่
อาหารพื้นเมืองถูกจัดไว้เต็มที่ ทั้งขาวจี่ ผักเสี้ยน ปลาย่าง เนื้อย่างจากในตลาด พวกเราช่วยกันก่อไฟจัดการกับวัตถุดิบทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อทดลองชิมในคืนนี้
พระจัทร์ดวงกลมลอยเด่นอยู่กลางฟ้าที่ใสไร้หมอกควัน ดวงดาวลอยเกลื่อนที่นี่ พร้อมๆกับเสียงพูดคุยถึงดินแดนแห่งนี้ เมืองน้ำปาด เรื่องราวประวัติศาตร์ เรื่องเล่า ตำนาน ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรม ภาษาของชาวล้านช้างสำเนียงหลวงพระบาง บรรยากาศ จักรยาน ธรรมชาติอย่างภูสอยดาวที่อยู่ใกล้เพียง 80 กม. เราคุยกันถึง"แปด"ที่เป็นตัวอักษร "แปด"ถ้าเป็นกริยาของภาษาถิ่นที่นี่ หมายถึงการสัมผัส การปาดให้เรียบ เกลี่ยให้เสมอ
การสนทนาเลื่อนไหลผ่านไปพร้อมๆกับสายลมและกาลเวลาไปอย่างรวดเร็ว ตลาดตอนเช้าวันจันทร์ซึ่งพวกเรารอคอยที่จะเห็นของพื้นเมืองในเช้ารุ่งขึ้นกำลังรอเราอยู่ 10.40 pm - ผมขอตัวกลับที่พักเพราะพลังงานในตัวเริ่มใกล้หมด การนอนหลับเพื่อชาร์ตพลังงานให้เต็มที่จะทำให้เรามองเห็นมุมมองต่างๆได้หลายมุมมากขึ้น
8-12-2014 / 05.55 - ผมขับรถจิ๊ปที่ปลัดด่อนให้ไว้ขับมาถึงที่นัดหมาย เช้านี้พวกเราจะไปดูตลาดที่นี่กันว่าคนน้ำปาดเขาอยู่กันอย่างไร ในตลาดมีสินค้าพื้นบ้าน ผักป่า ของป่า บางอย่างที่เห็นวางขายเหมือนของที่ระลึกอย่างปอกมีดที่ทำจากไม้ไผ่ก็ถูกนำไปใช้จริง มีพริก ปลาร้า ปลาเขื่อน กระเทียม เครื่องจักสาน ณ ตลาดถนนหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำปาด
ผู้คนมากมายพูดภาษาน้ำปาดในบรรยากาศที่เป็นกันเอง พวกเขาดูเหมือนรู้จักกันดีทั้งคนขายและคนซื้อที่ดูเหมือนเป็นการนัดพบกันประจำสัปดาห์ ทราบภายหลังคือคนที่มาซื้อบ้านจะอยู่ไกลเข้าไปในป่า พวกเขาต้องออกมาซื้อสินค้าที่นี่เพื่อสำรองประจำสัปดาห์เมื่อเข้าไปอยู่พื้นที่ภายนนั้น บางรายก็ใช้เป็นเสบียงสำหรับการเดินทางเข้าป่าเพื่อหาของป่ามาขาย
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกชิ้นที่ทำเองจากคนในพื้นที่ เพราะปกติจะเห็นตามแหล่งผลิตที่เมืองใหญ่ ต่อจากนั้นแม่ค้า พ่อค้าก็รับมาขายกันตามระบบโรงงาน จากการสอบถาม คุณ เล็ก บอกว่าไม่อยากกินลูกชิ้นที่อื่นเพราะไม่รู้ว่าผสมอะไรบ้าง แต่ของที่เขาทำเองเขารู้ว่าของเขามาจากเนื้อ มาจากหมู แบบกัดได้เต็มๆคำ พร้อมยื่นมาให้ผมชิมพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่อุ่นอยู่ตลอดเวลา
หลังจากกัดไปหนึ่งคำ ผมรับรู้ถึงรสชาติได้ตั้งแต่ปลายลิ้น "ลูกชิ้นป้ายแดง" ของนายเล็ก
ในช่วงสายผมได้มีโอกาสขับรถไปรอบๆตัวหมู่บ้าน เรื่องราวของความเป็นอยู่แบบเก่า ความเป็นไปในแบบสมัยใหม่ การพัฒนาการตามการขับเคลื่อนของสังคม จนถึงความเชื่อและความศรัทธาที่มีมานานของผู้คนที่นี่
พระยาปาด หรือ พญาปาด เป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถามขึ้นมาว่ามีที่มาหรือความเป็นมาอย่างไร? ความคิดถูกแยกไปหลายส่วนตามความเชื่อทางตำนานเรื่องเล่า พงศาวดาร การเกี่ยวเนื่องกันระหว่างเหตุการณ์ครั้งกรุงธนบุรี ระหว่างพระเจ้าตากสิน พระยาพิชัยดาบหัก เรื่องของ"พระยา"ที่เป็นยศตำแหน่ง ไปจนถึง"พญา"หมายถึงผู้เป็นใหญ่หรือผู้เป็นหัวหน้า จนถึงความศรัทธาต่อผู้นำทางชนเผ่าสู่การอพยพเข้ามาถึงเขตแดนที่ครั้งหนึ่งยังไม่ถูกเรียกว่าประเทศไทยแห่งนี้
ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา วิถีความเป็นอยู่ที่นี่ ใกล้เคียงกับ ลาวที่ผมกำลังจะเดินทางเข้าไปพรุ่งนี้ มาที่นี่เหมือนซ้อมหูซ้อมมุมมองก่อนผ่านแดนไปยังไชยบุรี ประเทศลาว ซึ่งเพื่อนชาวลาวคนหนึ่งของผมอยู่ที่นั่น
หลังอาหารกลางวัน ปลัดด่อนและคุณหนุ่มก็พาพวกเราไปที่วัดศรีสะอาดโพธิ์ รูปร่างทางสถาปัตยกรรมทั้งพระประธานและโบสถ์เหมือนทางล้านช้าง ทางเชียงแสน ว่ากันว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่มีเมืองน้ำปาดมาเลยทีเดยว หลายๆอย่างที่นี่ทรุดโทรม ขาดการดูแลเท่าที่ควร อาจคงเป็นเหมือนกับหลายๆแห่งบนดาวดวงนี้ก็ได้ที่คนภายในพื้นที่ ที่มองเห็นและรับรู้กันมาจนชินตา ไมให้ความสำคัญ
พระเก่าแก่ถูกขโมยหายไปมากมาย แต่สิ่งที่ยังมีอยู่ หากช่วยกันรักษาจะทำให้คุณค่าเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา
02.30 pm มาถึงที่หลักเขตเก่าชายแดนของไทย-ลาว ในสมัยที่ยังเป็นหลักไม้อยู่ หลักเขตนี้ต้้งอยู่ที่กองร้อยตพรวจตระเวนชายแดนที่ 316 พร้อมกับหลักเขตทางบกจำลองมที่สูงที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์
ในอดีตที่นีเคยสำรวจและจัดทำหลักเขตร่วมกันระหว่างสยามประเทศกับฝรั่งเศส หากจะว่าไปแล้วก่อนหน้านั้นสยามของเรามีการปกครองดูแลอณาจักรล้านช้างไปจนถึงหลวงพระบาง แต่เมื่อตอนหลังตามสถาณะการณ์โลกทำให้เราต้องเริ่มแบ่งเขตผู้คนที่มีเรื่องราววัฒนธรรม ภาษาเดียวกัน เรากลายเป็นอยู่คนละประเทศ เมื่อมีเขตแดนมีขีดกั้น
หลักเขตจำลองเหล่านี้เป็นหลักเขตไม้ที่ถูกจำลองขึ้นจากของจริงท้ง 10 หลัก มีการนำพระจำนวน 109 องค์และไม้มงคล 9 ชนิด บรรจุไว้ในหลักเขตจำลองใหญ่นี้ ตามความเชื่อที่ว่า หากใครได้ลอดย่อมเป็นมงคลแก่ชีวิตและการเดินทาง ซึ่งในกองร้อยแห่งนี้ก็มีศาลของพระยาปาดตั้งไว้อยู่ด้วย
ผมและคุณปีเตอร์เดินดูสำรวจพร้อมลอดหลักเขตนี้ ก่อนที่พรุ่งนี้ตอนเช้า ในวันที่ 9 จะเดินทางข้ามไปยังเขตแดนประเทศลาว เพื่อให้ถึงเมืองไชยบุรีกว่า 190 กม. ซึ่งระยะการพักก่อนข้ามแดนไปยังประเทศลาวที่เมืองน้ำปาดแห่งนี้กำลังพอดี เพราะที่นี่ห่างจากด่านภูดู่ 90 กม.
วันจันทร์ที่ 8 .12.2014 ผ่านไปกับหลายเรื่องราวในน้ำปาด ที่ผมไม่อาจสรุปทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงวันเดียว ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายกว่าที่ผมคิด เรื่องราวของเลข 8 ยังเป็นปริศนาของผมอยู่ ว่า 8 สิ่งในน้ำปาดนี้ คือ อะไร มีอะไรบ้าง ? 8 ที่ว่านี้ มีการแบ่งตัวไปทางไหน? กระจายตัวไปอย่างไร? 10.46 pm. กลับห้องพัก พร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นซึ่งผมจะมาค้นหาคำตอบนั้นด้วยตัวเองอีกครั้งที่นี่ น้ำปาด "ปาดแปด 8"
9.12.2014 มองจากกระจกรถที่คุณจักรขับมาส่งผมเห็นซุ้มประตูด้านหน้าของด่านภูดู่แล้ว ผมเดินทางมาถึงที่นี่หลังจากเลื่อนนัด จากการข้ามแดนวันที่ 8 โชคดีที่เพื่อนจากทางฝั่งลาวนั้นเข้าใจ คงเพราะรีบโทรไปบอกก่อนล่วงหน้าสำหรับการเลื่อนนัดครั้งนี้
เพราะ"ต้นทุนของการรักษาคำพูดนั้นสูงจริงๆ" เพื่อนผมบอกว่า "ไม่เป็นไร เราเพื่อนกัน ยังไงก็ได้" ซึ่งครั้งแรกผมยืนยันว่าจะหารถหรือเกาะรถที่เข้าปากลายแล้วนั่งรถโดยสารเข้า ไชยบุรี แต่เพื่อนผมที่นั่นยืนยันจะมารับ
หากในอนาคตมีรถที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายก็คงดี การเดินทางข้ามไปมาจะสะดวกขึ้น การเดินทางไปหลวงพระบางจากเส้นทางนี้ คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งตอนนี้หากใครมีรถส่วนตัวสามารถขับไปยังหลวงพระบางกันได้เลยทีเดียว
สำหรับทริปนี้ การได้เริ่มต้นมาจนถึงตรงนี้ได้เปิดกล่องของขวัญชุดแรกแล้ว ของขวัญชุดต่อไปกำลังรอการเปิดของเราอยู่ในวันต่อไป
แล้วพบกัน "ไชยบุรี" ประเทศลาว
ขอบคุณชาวน้ำปาด ปลัดเทศบาลด่อน สัมพันธุ์ ขวานา คุณหนุ่ม,คุณติ่ง,คุณเซเว่น,คุณบ๊อบบี้,คุณจักร และพี่น้องทุกท่านที่ต้อนรับครับ
ตอนที่ผ่านมาและต่อไป "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ; ไทย ลาว เวียดนาม" ตอนที่ 7 : ซาปา2 เวียดนาม ตอนที่ 8 : ซาปา3 เวียดนาม ตอนที่ 9 : ฮานอย 1 เวียดนาม ตอนที่ 10: ฮานอย 2 เวียดนาม ตอนที่ 11 : เหว้ เวียดนาม ตอนที่ 12 : เหว้-สวรรณเขตสู่ไทย
Create Date : 23 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 14 มกราคม 2558 12:01:23 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2027 Pageviews. |
|
|