Update! • Kenny Keng Web• Activity • Article • Imagine • My ARTWORK • BackPack/Journey • Sketch • All Art • alphafo

alphafoBasic Sketch • • 333 STUDIO KENNY KENG Blog


ALPHA FO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]








**อันนี้ก็สำคัญครับ กับเรื่องของสิทธิ
คือว่าถ้าหากเพื่อนๆท่านใด
ต้องการนำภาพหรือบทความไปเผยแพร่
กรุณาแจ้งผมด้วยนะครับ

**ขอบคุณครับ**

alphafo

New Article : JAN 2015

Art trip : My Journey
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม"ฮานอย1 เวียดนาม:13/02/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา3 เวียดนาม:31/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา2 เวียดนาม:16/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา1 เวียดนาม:14/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" เดียนเบียนฟู เวียดนาม:09/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" หลวงพระบาง ลาว:07/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ไชยบุรี2 ลาว:26/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียนาม" ไชยบุรี1 ลาว:25/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ปาด แปด 8:23/12/14
• "เริ่มใหม่...ได้ทุกเมื่อ":25/02/14
• "ปั่นคิดที่กองโค":19/12/12
• "12 12 12":12/12/12

• "ลับแล ซะที" :06/08/12

• BEST OF THE BEST:05/03/12

alphafo

• กาแฟสดบ้านหมึกจีน coffee and china's art gallery:16/02/12

Update! • อุปกรณ์การวาด carbon powder
•เทคนิคการทำเฟรมเขียนสีน้ำมัน
•เทคนิคการทำเฟรมสีน้ำมัน
•ปลอกต่อดินสอ EE กรณีดินสอของท่านหดสั้นจุ๊ดจู๋
•การทำสมุดเสก็ตซ์อย่างง่ายและประหยัด
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 1
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 2
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 3



Update!เทคนิค ขั้นตอน การวาดภาพการ์ตูน
• : เทคนิคการวาดภาพผงคาร์บอนพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก
• การวาดการ์ตูนล้อเลียน
• พื้นฐานการวาดการ์ตูน
•เทคนิคการวาดภาพคนสีชอล์ก(หลวงปู่แดง)
•เทคนิคการวาดภาพคนเหมือนเต็มตัวสีน้ำมัน
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบหญิง
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบชาย
•เทคนิคการวาด carbon powder
•การวาดสีชอล์กแท่ง พระยาพิชัยดาบหัก
•การแก้ไขภาพสีน้ำมัน landscape
•เทคนิควาดภาพสีน้ำมัน Landscape
•พื้นฐานการวาดภาพสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่(Basic)
•เทคนิคการวาดเส้นหุ่นนิ่ง(Drawing)
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ตา"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "จมูก"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ปาก"
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนด้วยดินสอ EE(drawing portrait-woman)
•เทคนิคการวาดเส้นคนเหมือน (Drawing sketch)
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนภาพสีด้วยสีชอล์กแท่ง(pastel portrait)
•เทคนิคการใช้สีชล์อกแบบ drawing
•เทคนิคการแกะสติ๊กเกอร์แบบปลอกล้วย(จริงๆ)

alphafo ART ARTICLE :
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 6(สุดท้าย): โบนัสพิเศษกับงานศิลปะ
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 5 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 2)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 4 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 1)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 3 : ตามหามุมบันทึก(วาดเส้น)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 2 : ทำไมต้องเป็นถ่าน?
• "เที่ยวไปกับถ่าน" ตอนที่ 1: เด็กน้อยกับฝาบ้าน
**ภาพสเก็ตซ์สีชอล์กน้ำมัน
**เทคนิคประสม...ใคร ??
ศิลป์(ป่ะ) “ต้องเป็นตัวของตัวเองดิ๊” ...

ภาพวาดที่ฉีก: ผมยืนมองภาพพร้อมกับฟังเสียงหล่น..
ANATTA: วันที่ความหดหู่ หดเหี่ยว หรือเหี่ยวจนหด...
alphafo
alphafo

alphafo
alphafo


Sketch crawl ร่วม Sketch กับเพื่อนๆทั่วโลก

alphafo ALPHA FOCUS หนังสือพิชัย เมืองเล็กฯ เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหน้าด่านของสยามประเทศในอดีต.....
alphafo
โอกาสที่ท่านมุ้ยมอบให้ สิ่งที่ผมเฝ้าศึกษาและสังเกตุ จะมีเรื่องราวและข้อมูลไปพ้องกับใครบางท่านเข้าอย่างจัง...

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ALPHA FO's blog to your web]
Links
 

 
แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม / ตอนที่ 7 : :ซาปา2 เวียดนาม



แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม / ตอนที่ 7 : :ซาปา2 เวียดนาม

แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ : ไทย ลาว เวียดนาม
ตอนที่ 7 : ซาปา2 เวียดนาม



เหมือนหลุดมาอยู่ดาวเคราะห์อีกดวงที่คล้ายโลก
หลังจากเดินลงมาที่หมู่บ้านใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ภาพมัวในหมอกค่อยๆจางหาย กลายเป็นหมู่บ้านชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ


หลายๆคนใช้เส้นทางลัดเพื่อเดินไปให้ถึงหมู่บ้าน ในขณะที่เส้นทางเปียกแฉะ
ชาวต่างชาติหลายๆคนเลือกใช้เส้นทางแบบนี้เพื่อตะลุยกันแบบมันส์ๆในทริปนี้ด้วยสภาพมอมแมมจากดินโคลน




ผมเองก็อยากลุยแบบนั้นเหมือนกัน
แต่เมื่อคิดถึงสภาพและเสื้อผ้าที่ต้องซัก รองเท้าที่ต้องหาซื้อใหม่ ทำให้ความคิดนี้ถูกคัดออกไป



เราเดินลงมากันเรื่อยๆ ผมจะเป็นคนที่ช้าสุดเสมอ
ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่คงเป็นเพราะต้องหยุดเก็บบรรยากาศนี้ไว้ให้นานที่สุด



ระหว่างทางลงไปถึงหมู่บ้านมีจุดแวะถ่ายรูปเป็นจุดๆไป เมื่อเราหยุดจะมีชาวเขามารุมล้อมเพื่อทำบางอย่างให้เรา
ลักษณะเหมือนม้า แต่ของผมที่ได้ไม่มีหาง ซึ่งอาจหลุดหายไปที่ไหนสักที่หนึ่ง
ในขณะที่ Taeheon และ Peter ได้ม้าเหมือนกันกับผม แต่หางยาวชะมัด
และ Yeonju ได้รูปหัวใจ แถมม้าอีกตัว 

ความอิจฉาเล็กๆเกิดขึ้นในใจถึงม้าที่ได้ เพราะคนอื่นสวยกว่าม้าของผม

มันเป็นอารมณ์ของมนุษย์เมื่อเกิดการเปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบทำให้เราเป็นสุขหรือเจ็ดปวดเสมอ


ความสุขจะเกิดเมื่อเรามองเห็นคุณค่าในสิ่งที่มี นั่นคือ

ผมได้น้ำใจจากพวกเขา รวมถึงพวกเราทุกคนด้วย
มันเป็นของที่ระลึกเล็กๆที่มีคุณค่าเมื่อในอนาคตเราได้ย้อนกลับมามองสิ่งนี้อีกครั้ง
ความทรงจำที่ฝังอยู่ในนั้นก็จะปรากฎเป็นภาพออกมาเพื่อยกมุมปากของเราให้ยิ้มในทุกคราวที่ได้มอง


ความสนุกเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเรารู้ทันอารมณ์ที่ก่อตัวของมนุษย์
และหากผมได้ม้าตัวที่สวยที่สุดผมจะมอบให้เพื่อนผม
เพราะสำหรับผมแล้วอะไรก็ได้
และสิ่งนี้อาจเป็นฝีมือที่ดีที่สุดของเธอคนที่ส่งม้าตัวนี้ให้ผมก็ได้



ความชัดเกิดขึ้นเมื่อเราลงมาด้านล่างนี้
จากความกังวลที่ก่อตัวในครั้งแรก จากเสียงเล่าขานถึงหมอกหนา
จากการรอลุ้นเพื่อจะได้มองเห็นภาพที่ถูกส่งต่อกันมา
ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจน เมื่อเราตัดสินใจเข้าพิสูจน์

เหมือนหลายๆครั้งของชีวิตที่ดูเหมือนความคิดจะอยู่ที่สูงเกินไปจนถูกเมฆหมอกบดบัง
การมั่นสำรวจความคิดของตัวเองจึงเป็นเรื่องจำเป็นเสมอสำหรับผม



เมื่อเดินลงเนินเขามาเรื่อยๆ เราจะเห็นชีวิตที่มากขึ้น 
อากาศยังคงเย็นเหมือนเดิม ลมยังคงพัดหอบไอเย็นเข้ามาปะทะร่างกายเช่นเดิม แต่อารมณ์ตอนนี้แตกต่างจากเดิมมากนัก
การเดินเท้ามาตลอดกว่า 2 ชั่วโมง คงช่วยให้ร่างการอุ่นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เด็กๆยังคงเล่นกันตามปกติ แน่นอนว่าต้องมีขาโจ๋ มีคนที่พยายามขอเข้ากลุ่ม
หรือมีคนที่ความคิดต่างจากคนอื่น
แต่พวกเขาก็อยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกัน เล่นด้วยกัน

นั่นคืออารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ส่วนใหญ่ในทุกเผ่าพันธ์




พื้นที่เปียกแฉะมากขึ้นบ่งบอกถึงความชื้นที่นี่ที่มีสูง
หมอกที่หนาจนกลายเป็นละอองน้ำเล็กๆในอากาศ
และเมื่ออุณภูมิต่ำลงเรื่อยๆ ละอองน้ำในอากาศเหล่านี้จะจับตัวกันจนเป็นหิมะ
ซึ่งในบางปีก็จะเกิดขึ้นที่นี่





ความสมบูรณ์ของที่นี่ทำให้ผมลืมไปว่า โลกของเรากำลังหมุนอยู่
เรากำลังอาศัยอยู่ในก้อนวัตถุที่กำลังเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วสูง


ภายในก้อนกลมๆก้อนนี้มีสารพัดสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกัน หนึ่งในนั้นคือมนุษย์
มนุษย์ซึ่งแบ่งแยกตัวเองออกมาเป็นกลุ่มตามความเชื่อ ตามลักษณะเผ่าพันธ์ ตามพื้นที่
การแบ่งแยกทำให้ง่ายขึ้นสำหรับการปกครอง

แต่เขตแดนที่ถูกบางคนแบ่งแยก ก็ไม่อาจกั้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้





Memi ยังคงชวนทุกคนเพื่อพูดคุย ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายตั้งคำถาม
และพยายามช่วยเธอถือถุงพลาสติกห่อใหญ่ที่เธอหิ้วมาตลอดเส้นทางนั้น แต่เธอปฎิเสธทุกครั้งไป
เพื่อนของเธอซึ่งคงจะมีอายุอยู่ในรุ่นเดียวกันเข้ามาช่วยป้อนน้ำให้กับ Zhu ที่ไม่มีแม้แต่อาการงอแง
นอกจากแสดงท่าทีรำคาญหมวกไหมพรมที่ Memi สวมให้อยู่จนเธอต้องถอดออกไป
ห่อผ้าที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังของเธอถูกแกะออกเพื่อมัดกลับเข้าไปใหม่ให้กระชับมากขึ้น


ในวัยเด็กเธอคงเคยเล่นซนเป็นกลุ่มเหมือนเด็กทั่วไป
แต่ในชนเผ่าของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานตั้งแต่อายุ 17 ปี และมีทายาทในที่สุด
ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน Zhu จะพูดภาษาเก่งเหมือนแม่ของเขา
ซึ่งตั้งแต่เดินลงมาที่หมู่บ้าน มีสารพัดชนเผ่าที่เข้ามาคุยด้วยกันกับพวกเรา
แต่เท่าที่ผมสังเกตุเห็น ยังไม่มีใครพูดภาษาได้ดีเท่า Memi 

สิ่งสำคัญไม่ใช่ใครเก่งกว่ากัน ความสำคัญอยู่ที่ใครรักการเรียนรู้มากกว่ากัน
เพราะถ้าไม่เก่ง ก็เก่งได้ไม่ยากนักหากมีวินัยและการฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน

นี่คือสิ่งที่ผมสังเกตุเห็นในตัวของผู้หญิงคนนี้

การหาข้ออ้างต่างหากที่สกัดความเป็นไปได้
เพราะในความเป็นไปได้ มักไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น
เมื่อไม่ใช่ก็แค่เปลี่ยนวิธีทำ เปลี่ยนความคิด
ในที่สุดมันก็ใช่และสำเร็จเป็นไปได้



เด็กๆที่นี่หลายคนกล้าที่จะทักทาย พูดคุยกับนักท่องเที่ยว
ซึ่งครั้งหนึ่ง Memi คงเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน
และเมื่อเราเริ่มตอบกลับ พวกเขาก็จะแปลงร่างเป็นนักขายทันที
คนที่เตรียมตัวมาดีจะมีสินค้าบางอย่างติดตัว และพร้อมจะขายให้เราได้ทุกเมื่อทันที
พวกเขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป

ซึ่งมันคงไม่ใช่การฉวยโอกาส

เพราะการฉวยโอกาส อาจใช้สำหรับตอนที่เราเผลอ
เพื่อฉกชิงโดยที่เจ้าของไม่เต็มใจ เหมือนกับตอนที่กระเป๋าผมและเพื่อนๆถูกขนขึ้นรถไป


แต่นี่เป็นการใช้โอกาสที่มีอยู่ของพวกเขา บางทีพวกเขาอาจขายได้
บางทีก็อาจขายไม่ได้ซึ่งคงเป็นส่วนใหญ่ เพราะผมไม่เห็นมีใครซื้อสินค้าของพวกเธอเลย
แต่โอกาสที่พวกเธอได้เต็มๆ คือการได้ฝึกฝนวิธีการขาย วิธีการพูด การกล้าแสดงออก
ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนที่จะทำได้ต้องกล้าและรักการเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเอง



12.21 pm เราเดินทางมาถึงบริเวณร้านอาหารที่มีชนเผ่านแต่ละเผ่าเรียงรายกันรออยู่หน้าร้าน
บางคนมีเด็กอยู่ด้านหลังเหมือนกับเป็นอาวุธสำคัญเพื่อนักท่องเที่ยว
เราตัดสินใจสั่งกาแฟมากินกับขนมปังที่เราซื้อเตรียมมาเพื่อกินตอนกลางวัน



กาแฟที่ค่อยๆไหลลงมาทีละหยด เรียกผู้คนให้มารุมล้อมเรามากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่ผมเรียก Memi มากินอาหารกลางวันด้วยกันทำให้จำนวนของแต่ละเผ่ามากขึ้นไปอีก
รวมถึงเด็กที่ผมเพิ่งทักทายเมื่อไม่นานเท่าไหร่นักก็วิ่งตามกันมาขายกำไรข้อมือถัก


บางคนถามแลกเงินไทยทันทีเมื่อรู้ว่าผมเป็นคนไทย
ไม่มีใครรู้จักเงินไทย บางคนก็เขามาถามเพียงมูลค่าของแบงค์ร้อยที่เคยได้ทริปมาจากนักท่องเที่ยว
แล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึก ปีเตอร์ซื้อนมให้ Zhu และ ชาวเขาอีกคนที่มีเด็กเหมือนกัน
หลังจากนั้นเสียงขายของก็กระหึ่มสารพัดทิศทาง
จนสุดท้าย ผมก็บอกให้ทุกคนหยุดและให้ Memi ยืนคอยผมหน้าร้าน

เมื่อทานมือกลางวันเสร็จและทุกอย่างเริ่มสงบ

ผมหยิบเงิน 50,000 D ใส่ในมืองของ Memi
จริงๆก็อยากให้มากกว่านี้ แต่เมื่อรวมทริปของพวกเราทุกคน Memi ได้ไปเกือบ 10 USD เหมือนกัน
มันคุ้มค่ากับที่เธอได้ฝึกฝนมา
แลพวกเราก็พอใจที่จะให้เพื่อเป็นรางวัลกับเธอ
Memi เธอบอกว่าอยากเห็นบ้านของเธอหรือเปล่า
แต่พวกเราตัดสินใจเดินเลาะไปยังทุ่งนาอีกด้าน

เธอบอกว่าจะรอพวกเราอยู่ที่ทางออกของเส้นทางนี้
หลังจากที่พวกเรากำลังสนใจกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังทำการรื้อบ้านกันอยู่



เราเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นกลุ่มผู้ชายกำลังระวังอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้ไม้คานนั้นหักลง
กลุ่มของเด็กและผู้หญิงกำลังจับกลุ่มต้มอาหารในหม้อใหญ่และดูเหมือนกำลังถลกหนังบางอย่างอยู่
พวกเขารอคอยเหมือนกับได้อาหารชั้นเลิศ ที่จะมาจัดสรรแบ่งกันกิน
แค่ผมเห็นไกลๆในสัตว์ตัวสีดำที่กำลังถูกเชือดอยู่นั้นก็พอจะเดาออกว่าเป็นอะไร
มันไม่ใช่หมูป่าแน่นอน เพราะลักษณะผอมและตัวเล็กกว่าหมูเยอะ

สิ่งนี้คงเป็นอาหารแสนวิเศษและน่าโปรดปราณของพวกเขา





เราคงไม่ยืนอยู่ดูเขาจนเสร็จพิธีและเข้าร่วมกินสิ่งนั้นกับพวกเขาแน่นอน
เราเดินออมไปอีกด้าน ผ่านซุ้มไม่ระแนง รั้วไม้ไผ่ ที่มีผักไว้เก็บกิน
หลังคาบ้านที่ยังเป็นแป้นไม้ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
พวกเขาใช้ชวิตกันปกติเหมือนไม่มีนักท่องเที่ยวเดินถ่ายรูปและกำลังมองชีวิตของพวกเขา



เราเดินออ้มกลับมาทางเดิมก็พบกับ Memi ที่คอยอยู่
ในมือของเธอซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กเล็ก ซึ่งคงเป็นเงินที่เธอเพิ่งได้เมื้อมื้อกลางวันที่ผ่านมา
ทันทีที่เธอได้เงิน เธอก็ซื้อของใช้จำเป็นสำหรับ Zhu 
นั่นทำให้ผมเห็นถึงพลังของเด็กผู้หญิงคนนี้ที่มีมากเหลือเกิน



เธอเดินนำหน้าผมเรื่อยๆจนถึงบ้านของเธอ ซึ่งเป็นบ้านทรงต่ำ หลังคาแทบติดกับพื้น
ผนังรอบบ้านเป็นแผ่นไม้เรียงตัวกันทั้งแถว ด้านบนแปะติดด้วยไม้ไผ่สาน
เมื่อเธอเรียกให้พวกเราเข้าไปในบ้านที่ด้านในนั้นมืดทึบ
จะเห็นห้องครัวเป็นอันดับแรก ข้างในนั้นไร้แสงจากหลอดไฟ คงเป็นแสงที่ลอดมาจากช่องว่างของไม้ที่ติแปะข้างฝานั้น
พื้นห้องยังเป็นดิน เสาไม้ต้นกลมขนาดกำลังพอเหมาะและมีห้องนอนอยู่ด้านบนใต้หลังคา



ห้องโถงใหญ่ที่สะอาดตาเหมือนเป็นห้องพระประจำบ้าน
เป็นอีกหนึงความเชื่อของชนเผ่าม้งที่ Memi นั้นเป็นอยู่
Memi ม่ได้อธิบายอะไรเกี่ยวกับความเชื่อนี้


ออกมาด้านนอก จะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเย็บผ้าโดยอาศัยแสงสว่างจากด้านนอกสาดเข้ามา
พร้อมกับควายและไก่ที่เดินวนกันไปมา
ที่เป็นเนินนั้นคงเป็นนาข้าวแบบขั้นบันไดซึ่งสามารถเก็บกักน้ำไว้ในนั้น
เพื่อไม่ให้ไหลลงตามไหลเขาจนไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้เลย
เขาทำรางน้ำเพื่อกันน้ำล้นไหลทวมพื้นดินอีกชั้น


เมื่อ Memi แนะนำให้ผมได้รู้จักกับแม่ของเธอ
แม่ Memi มาหาผมทันทีด้วยท่าดึงแว่นที่สวมให้ลดต่ำลงมา
พร้อมรอยยิ้มที่น่าสงสัย
ทันใดนั้น..เธอก็แปลงร่างเป็นนักขายซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องถนัดของเด็กๆและผู้หญิงที่นี่
ของที่ระลึกทุกชิ้นที่อยู่ในบ้านจะถูกเธอขายราคาพิเศษหมด
แม้กระทั่งโปสการ์ดยับๆ


Memi ได้แต่ยิ้มๆและจับแขนแม่ของเธอเบาๆหลายๆครั้งเหมือนจะเกรงใจพวกเราไม่นอยเลยทีเดียว

ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเราได้มาส่ง Memi  และ Zhu ถึงที่บ้านแล้ว
เรายืนพูดคุยถ่ายรูปกันสักพักปีเตอร์ก็หยิบบางอย่างออกมาจากเป้ด้านหลัง
ขนมที่ปีเตอร์พกมาเขาได้ส่งต่อให้กับ Zhu และเด็กๆบรรดาญาติของ Memi
พวกเขาดูตื่นเต้นกับขนมในกล่องที่แสนธรรมดาสำหรับเรามาก


ความสงสารและเห็นใจเกิดขึ้นกับผมอย่างฉับพลันถึงชีวิตของ Memi 
กว่าเธอจะสามารถพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษได้ เธอทำอย่างไร
ต้นทุนความมุ่งมั่นเธอมีสูงมากกับสถานที่แห่งนี้ซึ่งครั้งหนึ่งยังไม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ความคิดที่ผุดมาเป็นระยะพร้อมเหตุผลแห่งความจริงคือ ชนเผ่าของเธออยู่กันมาแบบนี้
เธอคุ่้นเคยชีวิตแบบนี้
และนี่คือเรื่องปกติการกินอยู่แบบปกติที่แต่ละชนเผ่าสืบทอดกันมานานนัก

ผมต่างหากที่คิดและตัดสินแทนคนอื่นจากพื้นฐานของตัวเอง
คงเหลือแต่ความมุ่งมั่นในเรื่องภาษาของเธอที่ยังมัดใจผมได้ต่อไป

ปีเตอร์ขอตัวกลับก่อนเพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
Memi หามอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งปีเตอร์ในตัวเมืองซาปาด้วยราคา 50,000 D 
สำหรับพวกเราจะเดินให้รอบหมู่บ้านและเดินกลับเอง

การแยกตัวเล็กๆเกิดขึ้นที่นี่อีกครั้ง
สำหรับ Memi เธอคงอยู่แต่ในความทรงจำผมเท่านั้นเพราะอาจไม่ได้เจอกันอีกแล้ว 
แต่ใครจะรู้อนาคตที่แน่นอนได้ล่ะ!





01:48 pm เราเดินออกมาเรื่อยๆโดยไม่ย้อนกลับทางเดิม
ทางเส้นนี้จะไปอีกชนเผ่า ซึ่งเราจะอ้อมเนินเขาลูกนี้และเดินขึ้นเขากลับเข้าไปในซาปาอีกรอบ
ที่นี่มีทั้งโฮมสเตย์ ร้านขายของที่ระลึก มีเกลเลอรี่ ร้านอาหาร


เด็กๆที่เล่นกันข้างทางน้อยลงไปเรื่อยๆกับเส้นทางที่ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม
เพราะเส้นทางกลับถึงแม้จะระยะทางเท่าเดิมแต่เป็นการเดินขึ้นที่สูง
นั่นหมายความว่าพวกเราต้องใช้พลังงานมากกว่าเดิมกว่าเดินลงแอ่งหมู่บ้านแห่งนี้มาเมื่อเช้า




เราเดินขึ้นเนินเขากันมาโดยไม่มีใครหยุดพัก
ระหว่างเส้นทางที่ไร้ผู้คนนั้น ทำให้พวกเรา 3 คน
ผม Taeheon และ Yeonju ได้คุยกันมากขึ้น
เราสอบถามกันลายๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่อง งาน อายุจนถึงความเชื่อและโฆษณาชวนเชื่อ




บ้านที่เล็กลง หมอกที่เริ่มหนาขึ้นแสดงว่าเรามาไกลเกินกว่าที่จะย้อนกลับไปแล้ว
ผมถามถึงบ้าน Memi ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่หลังไหน
เรามองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่เดินผ่านมาแล้วก็อดทึ่งในตัวเองไม่ได้
วิชาลูกเสือตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้ผมคุ้นเคยกับบรรยากาศการเดินทางไกลได้ดี
หากอยากเป็น Backpacker เก่งๆวิชาลูกเสือคงเป็นวิชาที่ต้องเรียนรู้ไว้
โดยเฉพาะการผูกมิตร ให้เกียรติซึ่งกันและกัน การแยกหมู่ การเดินทางไกลหรือการศึกษาแผนที่ก่อนเดินทาง

หลายๆครั้งชีวิตของเราก็เหมือนออกค่ายพักแรม
หลายๆครั้งชีวิตของเราก็เหมือนกับการเรียนรู้ สอบผูกเงื่อนพิรอด



ระยะหลังเราหยุดพักกันบ่อยขึ้น
ช่วงแรกๆผมจะหยุดถ่ายรูป แต่ช่วงหลังเป็นการยืนบิดตัวแบบไมกลัวเสียฟแร์มลุกเสือสำรองเก่า
04:11 pm. เราก็มาถึงจุดที่ตรวจบัตรเข้าหมู่บ้านเมื่อเช้า 6 ชั่วโมงสำหรับการเดิน
นี่ยังไม่รวมการออกเดินสำรวจเล่นในเมืองชั่วเช้าอีก 2 ชั้วโมง
วันนี้คงเดินไปไม่ต่ำกว่า 20 กม.



หมอกที่หนามากขึ้นเรื่อยๆจนมองไม่เห็นทาง
ผมต้องเอาไฟกระพริบเปิดส่องด้านหลังไว้เหมือนช้างที่มัดแผ่น CD. ไว้ด้านหลัง
เพราะบรรดารถที่ส่งนักท่องเที่ยวก็เล่นกลับเฉี่ยวตูดเรากันไปหลายคัน
ไม่มีใครเดินแบบเรา พวกเขานั่งรถกลับกันหมด
และผมก็เชื่อว่าพวกเขาหมดสิทธิสัมผัสบรรยากาศอยางที่ผมสัมผัสเช่นเดียวกัน



เราหยุดพักกันอีกรอบ ก่อนจะเข้าในตัวเมืองซาปา
แผนที่ซาปาที่บ่งบอกถึงชนเป่าพื้นเมืองที่นี่ แปะติดให้ผมได้ทบทวนเส้นทางวันนี้อีกรอบ



04.50 pm เราก็ถึงโรงแรมที่พัก พร้อมกับจองตั๋วไปฮานอยในวันพรุ่งนี้ตอนค่ำ
ทั้ง2คนตัดสินใจเดินทางไปฮานอยพร้อมกันกับผม เพราะเราต่างไร้แผนการณ์ทั้งคู่
เรานัดกันอีกครั้งตอน 5.30 pm เพื่อแลกผลงานศิลปะกันดูหลังจากที่คุยกันถึงผลงานที่เรามี
เราทำหลายๆอย่างเหมือนกัน ทั้งเขียนหนังสือ ทำภาพประกอบ สอนศิลปะและสร้างงานศิลปะ
ช่างเป็นความบังเอิญที่ลงตัวถึงสิ่งที่เราทำ
การเดินทางที่เจอกันตั้งแต่หลวงพระบาง แยกกันที่เดียนเบียนฟู
และมาเจอกันโดยบังเอิญที่นี่อีกรอบ จนกลายเป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืม



5.29 pm  ผมเปิดประตูห้องมาเจอ Yeonju พอดี
เราอยู่ห้องใกล้ๆกัน เธอรีบเรียกผมให้ไปดูหมอกที่กำลังเริ่มลอยหายไป
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นภูเขาที่อยู่ด้านหน้าของที่นี่
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้านอกจากสีเทา


เมื่อยืนมองความสดใสไปด้วยกัน ผมก็เอางานผลงานบางส่วนที่ทำให้เธอดู
เราชวนกันลงไปที่ล็อบบี้ด้านล่างพร้อมข้าวโพดต้มที่ Taeheon เตรียมมาแบ่งกันกิน
เรานั่งคุยกันเกี่ยวกับผลงานของแต่ละคนใน Blog ที่ตนเองมีอยู่
Wifi ที่ติดๆดับของที่พัก ทำให้การสรทนาของเราต้องชะงักเป็นช่วง
ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ไฟฟ้าที่ดับบ่อยๆในบางส่วนของเมืองทำให้ Wifi ใช้งานได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก

เราคุยกันต่อถึงแผนของวันต่อไปว่าจะทำอะไรกันต่อ
Ben แนะนำทริปพิเศษสำหรับพวกเราในวันรุ่งขึ้น
ซึ่งตอนนี้เรายังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้มากนัก เนื่องจากลมที่พัดแรงพร้อมละอองน้ำเล็กๆที่โปรยลงมา
หมอกที่จางไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา กลับถูกพัดให้ปกคลุมทั่วพื้นที่ซาปาให้มืดทึบลงไปอีก
สถานะการณ์แบบนี้ทำให้เราต้องรีบเก็บของก่อนที่จะไม่ทันอาหารเย็น เพราะไฟฟ้าอาจดับนานก็เป็นได้
เราจึงขบทริปของวันนี้ด้วยกันเยกย้ายกันหาอาหารเย็นตามความชอบของแต่ละคน




คืนนี้ลมพัดแรงมาก เสียงด้านนอกห้องที่ผมพักดังโครมครามตลอดคืน
ความคิดของผมเริ่มฉายถึงภาพของบ้าน Memi อีกครั้ง
พวกเธอจะอยู่อย่างไรภายใต้สภาวะลมแรงและหนาวแบบนี้ในบ้านแบบนั้น

ความจริงคือ พวกเขาอยู่กันแบบนี้มานานจนเป็นปกติแล้ว

จบทริปอีกวันสำหรับวันดีๆแบบนี้
กล่องของขวัญใบใหม่ถูกเปิดขึ้นในทุกวัน
เป็นความตื่นเต้นที่ได้ลุ้นกับมุมมองและเรื่องราวใหม่ๆตลอดเวลา


ในความเป็นจริงอีกอย่างที่เราหลงลืม
คือเรามีกล่องของขวัญใบใหม่ทุกวันไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
แม้กระทั่งชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนน่าเบื่อหน่ายก็มีของขวัญในวันใหม่ 
ที่ของภายในกล่องนั้นมักทำให้เราได้รอลุ้นกับผลการกระทำของเราในวันนี้เสมอ

นั่นซิ! ของขวัญในกล่องของผมในวันพรุ่งนี้จะเป็นอะไร?

ภายใต้กองผ้าห่มบนเตียงอันอบอุ่น แต่อารมณ์ความตื่นเต้นของผมตอนนี้
ความรู้สึกเหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่
จนเกิดอาการทนรอไม่ไหวท่ามกลางเสียงลมที่พัดแรงด้านนอกอาคาร
อยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆจัง....


ตอนที่ผ่านมาและต่อไป "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ; ไทย ลาว เวียดนาม" 
ตอนที่ 7 : ซาปา2 เวียดนาม <<<< Now! here
ตอนที่ 9 : ฮานอย 1 เวียดนาม
ตอนที่ 10: ฮานอย 2 เวียดนาม
ตอนที่ 11 : เหว้ เวียดนาม
ตอนที่ 12 : เหว้-สวรรณเขตสู่ไทย






Create Date : 14 มกราคม 2558
Last Update : 6 ธันวาคม 2559 7:31:47 น. 0 comments
Counter : 2797 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.