ศิลป์(ป่ะ)
"เสี่ยวป้อ"
ต้องเป็นตัวของตัวเองดิ๊
.เอ่อ
..?แล้วไงต่อ....... คิดเองดิ๊ อ้าว!.... คิ๊ไม่ออกง่ะ ก็อย่าคิดดิ๊ แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ ........ เอ่อ?....แล้วตัวผ๊มเองน่ะ มันเป็นยังไงล่ะเพ่? กับหลากหลายคำแนะนำที่ให้เราเป็นตัวของตัวเอง คิดเอง จินตนาการเอง วาดเอง ศึกษาเอง เรียนเอง ดี ที่ไม่บอกให้เราคิดประดิษฐ์ตัวอักษรและภาษาที่ใช้เป็นของตัวเองไปด้วย ถ้างั้นก็เอาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กคลอดออกมา ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเดินแบบเขา มันเลียนแบบเขา คิดเองดีกว่า.... ฮืม........ดีป่ะ แล้วคนที่บอกทำไมไม่คิดเองบ้างละ คร้าบบบบ...... ก็ก่อนหน้าที่เราจะมีลายมือฉวัดเฉวียน จนเวียนหัว พร้อมมียาดมสมทบไว้กันอ้วก เวลาให้คนอื่นอ่านบทตวามจากลายมือเรา เราทุกคนก็เริ่มฝึกเขียนกันจากเส้นประ ที่ตรงๆ เฉียงๆ หรือวงกลมมาก่อนกว่าจะเป็นเส้นประรูป ก.เอ๋ย ก.ไก่ จนถึง ฮ.นกฮูกตาโต กันมาแล้วทั้งนั้น กว่าจะพูดได้ เราต้องฟังมาเป็นปี ก่อนที่จะเรียก พ่อ แม่ ป๊า ม๊า สักคำ แล้วถึงมาฝึกอ่านและเขียน เห็นมั้ยครับว่า ทุกคนต้องมีจุดเริ่มต้น ทุกอย่างมันต้องมีการเริ่มต้น ต้องหัดฟัง หัดพูด อ่าน เขียน ฝึกฝนเก็บข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงจะกลายเป็นลายมือของตัวเอง หรือลักษณะการพูดและเสียงของตัวเองที่ไม่ซ้ำแบบใคร อย่าลอกเด็กๆ อย่าลอก มันไม่อาร์ต มันไม่ติสส์ มันไม่มีความคิดสร้างสรรค์ คือว่า..มันไม่ใช่อ่ะ...มันไม่ใช่น่ะเด็กๆ
พูดกันอยู่นั่นแหละ กับการที่เด็กๆอยากลอกรูป อยากหาต้นแบบไอ้มดเอกซ์ที่จะเอามาวาดบ้าง คำว่า สร้างสรรค์ มันก็บอกอยู่แล้วว่าต้องไปคิดต่อ ซึ่งก่อนที่จะคิดต่อ เราเองก็ต้องเรียนรู้ก่อนว่า ชาวบ้านเขาคิด เขาทำอะไรมาแล้วบ้าง ไม่ใช่หลับหูหลับตาจินตนาการคิดไปแบบไร้ข้อมูล ให้คิดเอง ฝึกใช่จินตนาการเองก่อน ส่วนฝีมือหรือทักษะ ค่อยฝึกเมื่อไหร่ก็ได้
เหรอจ๊ะ ผมถามตรงๆว่า อยู่ๆเราเองไม่มีความรู้อะไรเลยน่ะ จะคิดอะไรออก ยังไม่รู้เลยว่าพื้นฐานการเขียนตัวการ์ตูน เขาวาดอะไร ระบายอะไรบ้าง วาดอย่างไร เราจะสามารถออกแบบตัวการ์ตูนสักตัวมาได้อย่างเลิศเลอ เฟอร์เฟกซ์เหรอ คิดได้ แต่ทำไม่ได้ ก็ไร้ความหมาย ความมั่นใจ ความกล้าและความซุกซนของเด็กน้อยของเราก็หายไป กลายเป็นความไม่กล้า สุดท้ายก็บ๊ายบาย ลาจากการวาดรูปหรือการทำงานศิลปะไป
เปล่าครับ เปล่า
ผมไม่ได้ริอาจจะมาสั่งสอนท่านผู้แกร่งกล้าในวิชาทั้งหลาย เรื่องสอนคงไม่ต้อง เพราะมีคนที่เก่งกว่าผมตั้งเยอะแยะ ตาแป๊ะขายขวด ผมกำลังจะมาเล่า กึ่งๆบอกกล่าวถึงชีวิตที่ไม่ขาดสีสัน ชีวิตที่มีศิลปะสิงสถิตอยู่ในตัวและหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเวลาที่เห็นภาพที่หวาบหวิว หวี๊ดวิ๊ว ผมเชื่อว่าเราทุกคนต้องเคยวาดบ้าน ดวงอาทิตย์ ภูเขา ต้นไม้ เรือใบหรือทะเล พร้อมกับคนที่รูปร่างเหมือนกับมะนาวต่างดุ๊ดหรือมนุษย์ต่างดาวกันมาบ้าง และแล้วความกล้าเหล่านั้น ภาพเขียนเหล่านี้ก็หายไปพร้อมกับกาลเวลาและความทรงจำอันเลือนลาง จนกระทั่งมีคนเอาอดีตในวัยเรียนมาสร้างเป็นหนังเพื่อให้ย้อนรำลึกถึงกันอีกครั้งหนึ่ง
อยากวาดอะไรก็วาดเลย อยากลงสีแบบไหนก็ทำ จ๊ะ แล้ว....เราก็ทำตาม ทำเพราะไม่เคยได้เรียนรู้หรือเห็นรูปแบบที่หลากหลาย จนขาดต้นแบบที่ดีหรือรูปที่เป็นฮ๊โร่ในดวงใจแบบสไปเดอร์แมน หรือซุปเปอร์แมนก็สุดแล้วแต่ เราจึงมีต้นแบบเหมือนๆกัน คือ บ้าน 1 หลัง ดวงอาทิตย์ 1 ดวง ภูเขานูนๆ 2 ลูก พร้อมกับพ่อ แม่ ลูก จูงแขนกัน บวกกับต้นไม้ข้างๆอีก 2 ต้น ที่ดูคล้ายๆต้นไม้พิการ และที่ขาดไม่ได้คือ ต้นหญ้าแหลมๆ 3 แง่งที่คล้ายๆมงกุฎพระราชาเสียบเข้าหว่างขาอยู่ ถ้าคนไหนทำท้องฟ้าเป็นสีเหลืองภายในห้อง จะกลายเป็นเด็กประหลาดของเพื่อนๆไปทันที
ลอกต่อๆกันมา จนปัจจุบันยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนวาดต้นแบบภาพนี้ขึ้นเป็นคนแรกในประเทศไทย
งานชิ้นอมตะนิรันด์กาล เราจะเปิดโลกแห่งจินตนาการไปได้อย่างไร หากเราไม่รู้จักเรียนรู้งานผู้อื่นโดยการฝึกลอกและเรียนรู้ไปในตัว เหมือนกับการเขียน ก.เอ๋ย ก.ไก่ บนเส้นประพร้อมคำแนะนำจากผู้รู้หรือครูผู้สอนตั้งแต่ต้น ศิลปินดังๆในปัจจุบัน เริ่มแรกก่อนวาดรูปก็ต้องมีศิลปินต้นแบบในดวงใจของทุกคนอยู่แล้ว จากนั้นก็ฝึกลอกหลายๆรูปแบบพร้อมกับเรียนรู้ควบคู่กันไปแล้วพัฒนารูปแบบ ความชอบจนกลายมาเป็นลักษณะงานของตัวเอง
เฮ้ย! ศิลปะคือการผ่อนคลายซิ เหมือนการฟังเพลงน่ะ ฟังเพลงก็ผ่อนคลาย เราไม่ได้ฝึกเป็นนักร้องนะ เราเป็นแค่ผู้ฟัง จะเอาอะไรนักหนา
ครับผม ถึงแม้เราเป็นผู้ฟังเพลงและไม่ได้แต่งเอง แต่ผมเชื่อว่า เราทุกคนร้องเพลงเป็น เพลงเป็นงานดนตรีและก็เป็นงานศิลปะอีกแขนงหนึ่ง เราทุกคนส่วนใหญ่จึงมีความสุขและวางไมค์ลงยากทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง (ยกเว้นคนที่ฟังเรา) จริงป่ะ แต่ถามจริงๆเหอะ คุณรู้สึกอึดอัดบ้างหรือเปล่า ที่คุณไม่สามารถเล่าหรืออธิบายเรื่องได้ดั่งใจ ทั้งๆที่คุณสามารถคิดได้ คุณรู้ เห็น แต่ไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ ความรู้สึกอารมณ์มันตันๆ อึมๆ มันหงุดหงิดเหมือนกับไม่ได้ปลดกระชาก ระบายกากอาหารออกจากลำไส้ใหญ่มาสักอาทิตย์ งานศิลปะจึงเป็นเครื่องมือสื่อสารทางใจอีกชิ้นหนึ่ง ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง เป็นงานอีกแขนงหนึ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ ฝึกฝน เพื่อปลดปล่อยบางอย่างในตัวเราออกมา ความรู้ สิ่งที่เราท่องจำมาตั้งแต่ ป.1 จะไร้ค่าทันที ถ้าขาดจินตนาการหรือการนำไปประยุกต์ใช้อย่างมีศิลปะ จนกลายเป็น ตูเรียนมาทำไมฟะเนี่ยะ
แค่วาดรูปขีดๆ เขียนๆ มันมีความหมายมากขนาดนี้เลยเหรอ ศิลปะมีมากกว่านั้น ศิลปะเป็นมากกว่าที่คุณคิด ART NEVER DIE แล้วคุณจะเข้าใจถึงความเป็นศิลปินภายในซอกลืบ ก้นบึ้งลึกลงไปในจิตใจของคุณ
Create Date : 03 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 15:47:25 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1697 Pageviews. |
|
|
พี่พิมแวะมาอ่านค่ะ เขียนได้สนุกมากเลยค่ะ
แบบนี้ไปเป็นคอลัมภ์นิสต์ได้สบายเลยนะ
เขียนเกี่ยวกับพวกศิลปะ ก็ได้
หรือว่าเก่งชอบท่องเที่ยว ก็เขียนภาพไปด้วย
นำท่องเที่ยวไปด้วย น่าสนใจดีนะคะ
อ้อ พี่พิมมีกระทู้นี้มาฝาก เก่งสนใจร่วมกิจกรรมด้วยไหมคะ
//www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8061331/C8061331.html
ถ้าสนใจก็โทรหาคุณอาตัสที่เบอร์โทรใน กระทู้นั้นเลยนะคะ พี่ว่า เก่งวาดได้สบายมากเลยนะ งานนี้ โกอินเตอร์เชียวนะ ^^"