Group Blog
 
<<
เมษายน 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
22 เมษายน 2566
 
All Blogs
 
164_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัขเปรี้ยว หนีเที่ยว "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" จ.สุโขทัย



กลับมาปิดทริปขึ้นเหนือของผักชี
ด้วยการพาสุนัขใหญ่ไป อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
จังหวัดสุโขทัย นั่นเอง
^ ^



ที่นี่ใกล้ กทม. ค่ะ
ผักชีมาจากทางเหนือ แวะก่อนกลับกรุงเทพฯ นะคะ

แต่ใครจะทำแพลนไปเที่ยว 
แบบไปเช้า-เย็นกลับ ก็แล้วแต่เน้อ

พลอยใช้เวลาเที่ยวชมไม่นานค่ะ ราวๆ 1 ชม.
เพราะแดดแรงด้วยล่ะ อยู่นานเดี๋ยวหมาจะร้อนเกินไป


มีลานจอดรถที่ทางเข้าด้านหน้า
แต่ต้องเดินจากรถลงไปติดต่อซื้อบัตรเข้าชมต่างๆด้วยนะคะ
ที่จอดรถไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากเป็นโซนกลางเมือง

โปรดระมัดระวังน้องหมาเจ้าถิ่น
วันที่เราไปคนค่อนข้างน้อย

ไปถึงช่วง 9 โมงเช้า
น้องหมาเจ้าถิ่นทั้งหลายพากันไปงีบหลับใต้ร่มไม้ด้านใน
ที่เลยทางเข้าตรวจบัตรไปเล็กน้อย

ก็หลายตัวอยู่นะ ไม่ทราบว่าดุไหม
เพราะเราผ่านแถวนั้นไปอย่างว่องไวมาก

เรียกว่าเจ้าถิ่นไม่ทันเห็นว่าบนรถไฟฟ้ามีผักชี
และผักชีก็จะโดนปิดตาจนพ้นระยะ เลยไม่เห็นหมาอื่นเช่นกัน
555+

*** ***
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ผักชีไปเที่ยวมาเมื่อ ก.พ.2566
ยังให้สุนัขเข้าได้นะคะ แต่ต้องเช่ารถไฟฟ้า (ขับกันเอง)

** ***

ราคาต่างๆยังไม่เบ็ดเสร็จเน้อ
เดี๋ยวพลอยมาสรุปตอนซื้อบัตรทั้งปึกแล้วกัน

ดูป้ายเหล่านี้ไปก่อน ราคาจะแยกย่อยจิปาถะ



วิธีท่องเที่ยวด้านในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทันย
ซึ่งมีพื้นที่อลังการหลายไร่ กว้างสุดลูกหูลูกตา

ถ้าขยันอยากออกแรงก็เดินค่ะ แต่ก็ร้อนนิดๆนะ
ไม่ถึงกับร้อนจัดเพระามีบึงใหญ่มาก กระจายทั่วพื้นที่
มีลมพัดโกรก เย็นอยู่นะคะ
โซนร่มไม้ใหญ่จะมีเป็นช่วงๆค่ะ พอได้หลบแดดกันเป็นระยะ

หรืออีกทางก็คือ เช่าจักรยาน คิดรายวัน
พลอยไม่ได้ถามราคาเช่าจักรยานมาแต่ไม่น่าจะแพงนะ
มีค่าเอารถจักรยานเข้าอีก 10 บาท

ค่าคนไทยเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
คนไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท

มีรถรางนำชมพร้อมเจ้าหน้าที่คอยบรรยายด้วย

เรื่องบัตรยังจัดการไม่ค่อยดีค่ะ
จะจุกจิกหยุมหยิมเอาการ
ต้องเดินไปเช่ารถ
แล้วก็ต้องวนกลับมาจ่ายค่านำรถเข้า
แล้วก็ต้องซื้อบัตรค่าคนเข้า กี่คนบนรถก็ว่าไปอีก

ระบบยังวุ่นวาย พอบอกกันไม่ครบ
ลืมบอกบ้างอะไรบ้างเพราะวนไปวนมาคนละจุดจ่าย
ก็ต้องเดินกลับไปมาเพื่อจ่ายใหม่
ร้อนกันตรงนี้ล่ะกว่าจะได้เข้าไปข้างในน่ะ
-"-



ผักชีทำตามเงื่อนไขนำสุนัขเข้าไปภายใน
นั่งรถไฟฟ้า วันนี้ผักชีได้แว๊นซ์โต้ลมตลอด
เด็กหญิงมีหางนี่คือชอบยื่นหน้าออกไปตอนรถวิ่ง
ให้ลมตีใส่หน้าค่ะ (555+)

เราก็มัดหมากับเสารถกันตก
แล้วก็คอยดึงสายจูงให้แน่นๆ
รถขับเองเลยไม่เร็วมากมายหรอก



หน้าตารถก็จะย้อนยุค เท่ๆหน่อยนึง
จุดไหนเหมาะถ่ายรูปก็จอดแวะได้ถ้าคนไม่เยอะ
ถนนกว้างมากค่ะ ขับง่ายสบายๆดี
มีร่มเงาเป็นบางช่วงให้แอบอาศัพหลบแดด

ส่วนมากผักชีไม่ได้ลงนะคะ
พลอยไม่อยากพาเข้าไปในโบราณสถาน
น้องหมาตัวโตค่ะ เดี๋ยววุ่นวายกับสิ่งของต่างๆที่ต้องอนุรักษ์ไว้

มีพาลงไปเดินเล่นบ้างแถวสนามหญ้าไกลๆ
คนก็ผลัดกันลงไปถ่ายรูปได้
จุดจอดรถใกล้ที่เที่ยวแต่ละจุดแล้วค่ะ

ผักชีไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกค่ะ
เดินมากไปก็เจ็บข้อเข่าเอาอีกแหละ
แล้วเดินตากแดด กลัวจะเป็นลมแดด
รอที่รถก็สะดวกดี พกน้ำไปให้เธอกินเป็นระยะๆ
^o^



ด้านบนเป็นบัตรเช่ารถไฟฟ้า
ผักชีมีสัมภาระเยอะ หมาก็ตัวใหญ่
เลยเลือกเป็นรถไฟฟ้าแบบ 4 ที่นั่ง

บัตรเช่ารถราคา 200 บาท/*2 ใบ
รวมรถคันนี้เช่าราคา 400 บาทนะคะ



จากจุดเช่ารถไฟฟ้า
ยังเข้าไม่ได้ค่ะ

ต้องเดินกลับไปจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชม
แล้วจ่ายค่า นำรถไฟฟ้าเข้าข้างใน
อีก 50 บาท

(จักรยานก็เช่นกันมีค่าเช่ารถ+ค่านำรถเข้าภายในพื้นที่)
ซับซ้อนเนาะ...
เขาน่าจะมีจุดเดียวคิดราคาเบ็ดเสรน็จจ่ายเงินรวดเดียวไปเลย
นี่เดินกลับไปกลับมา โน่นขาดนี่ขาด ต้องวนไปถามใหม่
เพราะจุดผ่านเข้าภายใน ที่ตรวจบัตร
ก็แจ้งว่าบัตรไม่ครบ ต้องไปซื้อเพิ่ม

สาเหตุของเราคือตอนไปเช่ารถเขาลืมบอก
แล้มันก็จุกจิกหยุมหยิม
แต่เดินวนจนร้อนระอุเลยทีเดียว

คือผักชีรอเงก ร้อนตั้งแต่ก่อนเข้าเที่ยวแล้วค่ะ
T^T



นี่บัตรสำหรับคนเข้าเที่ยว
จะเป็นคนขับหรือคนนั่ง ก็นับรายคนเลยนะคะ
จ่ายทุกคน
คนไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติคนละ 100 บาท
เอาไว้บำรุงพื้นที่ให้คงสภาพดีค่ะ

ข้างในสวยงามนะคะ คุ้มอยู่แหละ
มีจุดเที่ยวเยอะเลย
^o^

** ***

สรุป หากมีสุนัขไปด้วย
เราต้องเช่ารถไฟฟ้าขับเที่ยวชม เท่านั้น!!!

1.ค่าเช่ารถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง 400 บาท
(หรือสุนัขเล็กนั่งตักอุ้ม ก้เช่า 2 ที่นั่งได้
มีรถไฟฟ้าถึง 6 ที่นั่งเหมาะกับครอบครัวพากันไปเที่ยวค่ะ)

2.ค่านำรถไฟฟ้าเข้าอุทยาน 50 บาท

3.ค่าคนเข้าเที่ยวชม 
คนไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท

บัตรต่างๆต้องครบ 3 อย่างตามนี้นะคะ



รถไฟฟ้าที่เช่ามา ต้องขับกันเองค่ะ
แต่ขับง่ายมาก

จุดที่ 1 ไขกุญแจ สตาร์ทรถค้างเอาไว้ระหว่างใช้งาน

จุดที่ 2 ดันสวิตช์ ไปที่ สตาร์ท เพื่อให้รถเดินหน้า

จุดที่ 3 คันเร่ง+เบรก

ส่วนพวก การถอยหลังต่างๆก็ไม่ยาก
เขาจะแนะนำก่อนขับรถออกมาค่ะ
มีไม่กี่ที่หรอกที่ต้องจำๆไว้น่ะ



ผักชีผู้หยีตาสู้แดด
ระหว่างรออ้วนอ๋องเดินไปมาหาบัตรต่างๆมาให้ครบๆ
เข้าข้างในไม่ได้สักที 
555+


ตอนผ่านฝูงพี่หมาที่นอนแผ่ใต้ร่มไม้เลยด้านตรวจบัตรเข้ามานิดนึง
ก็ปิดตา จะได้เงียบกริบ เร่งรถไวๆพ้นไปก็พอค่ะ

จุดอื่นเป็นที่เที่ยวชม กลางวันคงร้อน
เลยไม่ค่อยเห็นสุนัขเจ้าถิ่น

ด้านในมีโซนที่เป็นอาคารเตี้ยๆเรียงราย
เป็นจุดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
รวมถึงบริการห้องน้ำด้วย

พลอยมิได้แวะเก็บภาพมานะคะ เราไม่เลี้ยวไปใกล้
กลัวมีสุนัขเจ้าถิ่น จะมีปัญหากับผักชีที่ตัวโตสะดุดตา
^ ^"

อีกอย่างเที่ยวชมแบบขับรถไปแต่ละจุดนี่
สัก 1 ชั่วโมง ก็แทบจะครบแล้วกลับได้ค่ะ
นี่คือลงจากรถแวะเข้าไปถ่ายรูปมาแล้วด้วยนะ
ถึงจะไม่ลงทุกที่ก้ตาม




พลอยพาผักชีลงแถวถนนที่จอดรถไว้ค่ะ
ก็พอเห็นวัดวาอารามเก่าสวยงาม
ได้ถ่ายรูปเก็บไว้บ้าง

แถวริมถนนต้นไม้เยอะกว่า ร่มกว่าด้วยนะ





บริเวณภายในที่นั่งรถไฟฟ้าหรือปั่นจักรยานสบายกว่า
ก็เนื่องจากพื้นที่กว้างมาก
มีบึงน้ำใหญ่หลายแห่ง ลมพัดผ่านน้ำมา
ทำให้ไม่ร้อนจัดเกินไปนักค่ะ

ถ้าไม่เร่งรีบ ก็อยู่นานได้

แต่เรามีเวลาจำกัดตามเวลาเช่ารถไฟฟ้าระบุไว้เน้อ
เลยไม่ได้อยู่นานเกินไป


สวยดีนะคะ
ทริปนี้ไม่มีอะไรบอกเล่ามาก
เน้นรายละเอียดค่าเข้าต่างๆไปละักัน
ที่เหลือก็ลงรูปให้ดู



วิวช่วงเย็นน่าจะสวยเลยค่ะ
เรามาตอนสายๆยังว่าสวยนะ


จุดท่องเที่ยวจะร้อนไปสำหรับผักชีค่ะ
ดูไกลๆก็พอล่ะ

ระหว่างทางที่เราจอดรออ้วนอ๋องลงไปถ่ายรูป
ก็ไม่ได้เหงานะคะ
มีพี่ๆไกด์คนนั้นคนนี้ แวะมาทักทายผักชี
ถามไถ่พูดคุยฆ่าเวลาเป็นระยะ

มีนักท่องเที่ยวขับรถผ่าน โบกมือบ๊ายบายกันร่าเริง
สนุกสนานดีค่ะ
^___^


เราออกจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
แล้วขับรถไปชม วัดศรีชุม ต่อค่ะ
ใกล้มากมาย บรรยากาศดี 

ค่าเข้าชมเท่าเดิม
คนละ 20 บาท แต่สุนัขเข้ามิได้เน้อ
พลอยกับผักชีก็นั่งรอในรถ เปิดแอร์กันไป




ชีชีของเราเริ่มง่วงล่ะ
เธอรู้ค่ะว่าเที่ยวเสร็จหมดแล้ว
คือถ้าได้ลงไหนนานๆ เธอนับว่าคือการไปเที่ยวนะ
จากนั้นน่าจะเป็นกลับบ้าน ก็เตรียมตัวนอนหลับ

แล้วเที่ยวต่อเนื่องกันมา 3-4 วัน ผักชีก็หมดแรงอยู่แหละ
ได้เวลางีบกลางวัน จากนั้นเราก็ตีรถยาวกลับเข้า กทม.
แวะลงปล่อยหมาขับถ่ายตามข้างทางเป็นช่วงๆ

ส่วนมากผักชีจะได้ลงข้างทางค่ะ
บริเวณริมทางที่เป็นหญ้าเตียนๆโล่งๆดูปลอดภัย
ไม่ใกล้บ้านคน
หรือลงริมคันนา

เราไม่ค่อยให้หมาลงตามปั๊ม เพราะมีสุนัขเจ้าถิ่น
และพื้นที่ปั๊มก็อาจไม่ได้จัดไว้เผื่อสุนัขแวะด้วย
แต่ถ้าคนรจอกเข้าห้องน้ำตามปั๊มน้ำมัน
ก็จะเป็นจุดที่ให้ข้าวให้น้ำหมากันไปค่ะ



ปิดทริปขึ้นเหนือของ กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566
ไปเพียงเท่านี้ละกัน

ก็เที่ยวทริปเดียวนี่ล่ะ
แต่มาทำแยกๆเพราะรูปเยอะ
ตามจำนวนจุดที่แวะเที่ยวกันไป
^ ^

รักนะ
ผักชี.

 

 



Create Date : 22 เมษายน 2566
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 23:06:39 น. 0 comments
Counter : 818 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.